เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่984 คิดไปเองก็ต้องมีขอบเขต



บทที่984 คิดไปเองก็ต้องมีขอบเขต

พอได้ฟัง เสี่ยวหมี่โต้วชะงักงัน

เดิมทีฉือจินมาหาเพราะมีอะไรจะพูดกับเขา บอกว่าอีกไม่กี่ วันหาน จ่อกับเย่ ไม่เซินก็จะ กลับประเทศแล้ว อยากถามว่าเขา จะกลับไปด้วยกัน หรือจะอยู่เป็นเพื่อนตาแก่อย่างเขา

ถ้าจะอยู่เป็นเพื่อน เขาก็จะได้ไม่เหงามากจนเกินไป

เพื่อที่จะให้เสี่ยวหมี่โต้วอยู่ เฉือจีนยังแสร้งทำเป็นน่าสงสาร ต่อหน้าเด็กอีกด้วย

แม้ว่าตอนนี้จะเสแสร้งจบแล้ว แต่จู่ๆเขากลับรู้สึกว่ามันไม่ ยุติธรรมกับเด็กคนหนึ่งเอาเสียเลย

แน่นอนว่าเสี่ยวหมี่โต้วรู้ถึงวัตถุประสงค์ของฉือจิน อย่างไร เสียเขาก็เป็นเด็กที่ฉลาดมากคนหนึ่ง

ดังนั้นตอนนั้นเขาเลยพูดเองว่าเขาจะอยู่เป็นเพื่อนฉือจิน หม่ามีทุกข์มามากพอแล้ว จะให้หม่ามทุกข์อีกไม่ได้แล้ว ตอน นั้นเสี่ยวหมี่โต้วคิดแบบนั้น

“คุณตาทวดครับ ถ้าเสี่ยวหมี่โต้วกลับประเทศไปกับหม่าม แบบนั้นคุณตาทวดจะน่าสงสารมากนะครับ เสี่ยวหมี่โต้วเห็นใจ คุณตาทวดครับ ไม่กลับไปกับหม่ามนะครับ”

พอได้ฟัง ฉือจีนรู้สึกสะเทือนใจ
“เจ้าเห็นใจตาทวด แล้วเจ้าไม่เห็นใจหม่ามีเจ้าเหรอ”

เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตา พูดเสียงค่อย”หม่ามีมีแดดดี้เป็น เพื่อนแล้วครับ แต่ว่าคุณตาทวด……..ไม่มีใครเรย์ เสี่ยวหมี่โต้วก็ เลยจะเป็นเพื่อนคุณตาทวดครับ”

เด็กดี! ”

พอยู่ฉือจินซาบซึ้งใจ จึงยื่นมือออกไปกอดเสี่ยวหมี่โต้วไว้แนบ อก ในใจรู้สึกร้อนระอุ

ความรัก ในครอบครัวที่ขาดหายมาหลายปี คิดไม่ถึงว่าจะหา ได้จากตัวเสี่ยวหมี่โต้วนั้น แหละ

ระหว่างทางที่กลับไป หานมจื่อมองดูเย่ไม่เป็นอย่างกังวลใจ ดูเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่เงียบเอาไว้

เยโม่เซ็นหลุบตาขึ้น มองลงไปที่หน้าของเธอด้วยแววตาที่ราบ เรียบ เป็นห่วงเสี่ยวหมี่โต้วเหรอ”

หานมู่จื่อพยักหน้า

“สบายใจได้ คุณตาชอบเขามาก อีกอย่างนะ…….ถ้าคุณตัดใจ ไม่ลงจริงๆ พวกเราพาเขากลับประเทศด้วยก็ได้”

“แต่ว่า……..ทางคุณตา…….

“ในเมื่อท่านยอมรับคุณแล้ว ต่อไปก็คงไม่สร้างความลำบาก ใจให้คุณอีก แล้วยิ่งท่านรักเสี่ยวหมี่โต้วขนาดนี้ด้วย
“ที่จริง…..คุณตาของคุณก็ดีนะคะ ท่านยังช่วยคุณไว้ไม่ได้ เป็นแค่คนในครอบครัว แต่ยังเป็นผู้มีพระคุณอีกด้วย ให้เสี่ยว หมี่โต้วอยู่เป็นเพื่อนฉันว่าไม่มากเกินไป เพียงแต่……..ตอนนี้เสียว หมี่โต้วยังเด็กขนาดนี้ สำหรับเขาแล้ว ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่

ยังเด็กขนาดนี้เหรอ

เย่โม่เซินนึกถึงตอนที่เสี่ยวหมี่โต้ววางกับดักให้ตัวเอง ฝีมือ ขนาดนั้นยังเรียกว่าเด็กเหรอ

เขาถึงขนาดที่รู้สึกว่า ทุกการตัดสินใจของเสี่ยวหมี่โต้วล้วน ผ่านความคิดของตัวเขาเอง มาแล้วทั้งนั้น และก็ไม่มีใครจะ ตัดสินใจแทนเขาได้ด้วย ต่อให้ตาแกอย่างเขาเถอะ

แต่ว่าต่อหน้าหาน จื่อเขามักจะแสดงออกอย่างว่านอนสอน ง่ายเป็นพิเศษ ไม่มีจุดบกพร่องเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นหานคู่จื่อ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าลูกชายตัวเองแสบขนาดไหน

“คอยดูเถอะ ยังมีเวลา

“อืม”

ก็คงได้แต่แบบนี้แหละ

ถ้าหากว่าได้ หานมอก็ยังคงมีความเห็นแก่ตัวอยู่บ้าง เธอ คาดหวังว่า……เยวหมี่โต้วจะตามกลับประเทศด้วย สำหรับ ฉือจิน ถ้าหากว่าเขาเต็มใจ ทุกคนกลับประเทศพร้อมกัน เธอคง ดีใจ

กลัวแต่เขา……..จะไม่ยอม
เซียวซูลงไปซื้อไฟแช็คกับบุหรี่ จากนั้นจึงยืนพิงสูบบุหรี่อย่าง สบายใจอยู่ที่ระเบียง ลม

เย็นได้พัดพากลิ่นบุหรี่ลอยไป ตอนที่เริ่มต้นเขาแค่ยืนอยู่ จาก นั้นก็รู้สึกว่าสูบบุหรี่นั้นน่า เบื่อเสียแล้ว เลยไม่สูบดีกว่า จากนั้น จึงไปนั่งลงบนเก้าอี้ เขาเงยหน้ามองดวง ดาวกับ ดวงจันทร์บน ท้องฟ้า

ทันใดนั้น ในห้องก็มีเสียงลอดออกมา

“ก๊อกๆๆ—”

เซียวซูแววตากวาดไป ลุกขึ้นยืนแล้วมองออกไป

ก๊อกๆๆ——

เป็นเสียงเคาะประตู เมื่อมองผ่านหน้าต่างจากระเบียง เซียวซู เห็นเงาของหานซึ่งยืนอยู่ เคาะแล้วเคาะอีก

เซียวซูเปิดประตูออกเดินเข้าไป เห็นว่าคนที่เคาะประตูคือ

เสี่ยวเหยียน

จากนั้น เซียวซูจึงยักคิ้ว ยัยหนูนี่เมื่อกี้ยังนอนอยู่ดีๆไม่ใช่เหรอ แล้วมาเคาะประตูได้ไงเนี่ย

“เปิดประตู เปิดประตูสิ~”

ก๊อกๆๆ——

เพราะก๊อกประตูอยู่เป็นนานสองนานไม่มีเสียงตอบรับ เสี่ยวเหยียนก็เลยเริ่มเคาะใหม่เคาะไปตะโกนไปให้เปิดประตู

“เปิดประตูสิ เปิดประตู ฉันรู้ว่านายอยู่ข้างใน รีบมาเปิดเร็ว

เข้าสิ~” ครั้งนี้เสี่ยวเหยียนใช้มือตบ ไม่นานจะตบจนมือพังแล้ว

ยืนอยู่ มีเงาหนึ่งพุ่งเข้ามา แล้วล๊อคมือเธอไว้ ดึงเธอออกไป

ข้างๆ

“เธอกำลังทําอะไร เมาขนาดนี้ กลับไปนอนไป

“เอ๋”เสี่ยวเหยียนเบิ่งตาโต กำลังพยายามเพ่งว่าคนที่ยืนเถียง อยู่ตรงหน้าเธอคือใคร ดูอยู่เป็นนานสองนาน จู่ๆเธอก็ร้องออก มาเชียวนี่นา…….ฉันกำลังเคาะประตูทานชิงนี่นา อย่าเอะอะ สิ! ฉันมีเรื่องต้องพูดกับเขา~”

พูดจบ เสี่ยวเหยียนผลักเซียวซูออก หันตัวแล้วเดินไป

เดินไปไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าเดินต่อไม่ไหว

เสี่ยวเหยียนหันหน้าไป เห็นว่าเซียวซูกำลังดึงข้อมือเธออยู่ เธอพยายามดีดดิ้น แต่ว่าเซียวซูแรงเยอะ แถมยังกดไว้แน่น เธอ ดิ้นไม่หลุดด้วยซ้ำ

ดีดดิ้นอยู่สักพัก เสี่ยวเหยียนจมูกขึ้น “จะดึงฉันไว้ทำไม ฉันมี เรื่องสำคัญที่ต้องทำ ปล่อยฉันนะ”

เรื่องสำคัญ……

เห็นชัดๆว่าคนๆนั้น ไม่ได้เหลียวแลเธอสักน้อย เธอกลับเห็นเขาเป็นเหมือนของล้ำค่า

เธอเมาเพราะเขามาสองรอบแล้ว แต่คนที่คอยอยู่เป็นเพื่อน เธอ กลับเป็นตัวเขาเอง

คิดมาถึงตรงนี้ เซียวซูจึงหลุบตาปาดน้ำตา น้ำหนักในมือ จึงเพิ่มขึ้นไปอีก

“เรื่องสำคัญงั้นเหรอ ผู้ชายที่ไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาเนี่ย นะ มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ เธอดูให้ชัดๆ เขาไม่ได้ชอบเธอ แม้แต่น้อย ลุ่มหลงเข้าไป ได้อะไรไหม

แม้ว่าเสี่ยวเหยียนกำลังเมา แต่ก็ยังคงมีสติ จึงได้ยินคำพูด ของเซียวซู่ซัดเจน

ไม่นานนัก สีหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวขึ้นมา

เธอกัดริมฝีปาก มองเซียวซูอย่างเกลียดชัง

“นายกำลังพูดมั่วอะไรน่ะ เรื่องของฉัน นายไม่ต้องมายุ่ง ปล่อยฉันนะ!

เธอออกแรงสะบัดมือเซียวซู เซียวซูก็ยังคงกุมมือเธอไว้แน่น

ไม่ปล่อย

เสี่ยวเหยียนส่งเสียงดังขึ้น บอกให้ปล่อยไง! ”

เซียวซู่..…..….

เงียบไปชั่วครู่ ในที่สุดเซียวซูจึงปล่อยมือ เสี่ยวเหยียนกระตุกมือกลับ จากนั้นเซียวซูจึงเห็นรอยฟกช้ำบนมือขาวๆของเธอ เมื่อเขาออกแรงมากไปหน่อย

เซียว ขยับริมฝีปาก อยากจะพูดอะไรหน่อย เสี่ยวเหยียนกลับ แค่นเสียง น หันหลังเดินกลับ

สายตาเธอยังคงมองไปที่ห้องของท่านชิง แต่ว่าในห้องนั้น

ไม่มีใคร เซียวทั้งโกรธทั้ง ปวดใจ เดินหน้าเข้าไปขวางเธอไว้

“อย่าไปเลย เขาไม่ได้อยู่ในห้อง

“หลีกไป”

“ไปแล้วได้อะไร ฉันจะหลอกเธอหรือไง อย่าว่าแต่เขาไม่อยู่

ห้องแล้วไม่มีเสียงขานรับเลย ต่อให้เขาอยู่ก็ไม่ออกมาเจอเธอ หรอก คิดเองเออเองก็ต้องมีขอบเขตใช่ไหมล่ะ” เสี่ยวเหยียนชะงัก แต่ก็ตอบเซียวซู่กลับอย่างมั่นใจ เซียวซู

นายคิดว่านายเป็นใคร ดื่มกับฉันแค่สองครั้งแล้วคิดว่ามีสิทธิมา

ยุ่งกับฉันงั้นหรือ จะบอกอะไร……………..

จากนั้นเธอก็พูดไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อ เพราะว่าจู่ๆเซียวซู กดเธอลงบนกำแพงที่เย็น เฉียบ นัยน์ตาวูบมีด ริมฝีปากเกิด ความรู้สึกอบอุ่น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ