เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่447 พวกเราแจ้งตำรวจกันเถอะ



บทที่447 พวกเราแจ้งตำรวจกันเถอะ

“อย่างหล่อนจะหาเรื่องอะไรมาให้ฉันได้งั้นเหรอ?” หานมู่จื่อม องไปที่เธออย่างช้าๆ จากนั้นกวักเสี่ยวเหยียนเดินเข้า มาหยุดอยู่ใกล้ๆ “เป็นอะไรไป?”

“ลองดูรูปพวกนี้สิ”

หานมู่จื่อชี้ไปที่หน้าจอที่อยู่ข้างหน้า

เสี่ยวเหยียนก็หันไปดูตาม สายตาไปหยุดอยู่ที่รูปนั้น “รวมไว้ แบบนี้ ใครจะดูออกล่ะ?”

“อันนี้ คือคืนก่อนที่เข้ามาบริษัทพวกเรา

เสี่ยวเหยียนเบิกตาโต “นี่เธอ เธอค้นจนเจอแล้วงั้นเหรอ?”

“อื้อ ฉันเจอเขาในกล้องสองตัว แม้ว่าเขาจะฝีมือดีในการหลบ ซ่อนบริเวณจุดบอดของกล้องได้ แต่ว่ายังคงทิ้งร่องรอยเอา ไว้

ดูจากรอยเท้าของฝ่ายนั้นแล้ว เขาคงเป็นคนที่คุ้นชินและรู้รัก ที่นี่เป็นอย่างดี วางแผนมารอบคอบ และรอเวลานี้มานานแล้ว” ฟังมาถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็มีปฏิกิริยาตอบสนองจากคำ

พูดของเธอ

“ถ้าหากว่ารอเวลานี้มานานแล้ว แน่นอนว่าคนคนนี้ต้องมีบุญ คุณความแค้นอะไรติดค้างกับพวกเรา

หานมู่จื่อได้ยินดังนั้น กลับอดไม่ได้เธอยิ้มออกมาเบาๆ “ถ้า หากไม่มีบุญคุณความแค้นอะไรก็คงจะต้องเข้าห้องมาเพื่อหยิบ ของอะไรติดมือออกไปบ้าง แต่นี่เขากลับเข้ามาเพียงเพื่อทำลาย ข้าวของ ตอนนี้ขอบเขตการสืบหาของเราก็แคบลงมาเยอะมาก แล้ว”

“อิ้ม งั้นพวกเราแจ้งตำรวจกันเถอะ รีบจับตัวคนร้ายให้ได้ ที่ ตรงนั้นฉันเป็นคนจัดเตรียมทุกอย่างใส่ใจเป็นอย่างดี สุดท้าย ตอนนี้กลับมีคนเข้ามาทำพัง ฉันอยากจะโมโหจริงๆ”

หานมู่จื่อไม่ได้สนใจที่เธอบอกให้แจ้งความเท่าไหร่ แต่กลับ ถามหน้านิ่งว่า “เธอคิดว่า คนแบบไหนกันที่จะเข้ามาทำลายชุด พวกนี้?”

เสี่ยวเหยียนไม่แม้แต่จะหยุดคิดก่อนก็พูดขึ้นมาว่า “จะยังมีอีก ล่ะ? ก็คงจะเป็นคนที่มีความแค้นต่อคนที่กำลังจะได้สวมใส่ชุด พวกนี้ล่ะมั้ง ไม่งั้นก็คงเป็นคนที่มีความแค้นต่อคนที่ออกแบบชุด พวกนี้”

“งั้นเธอคิดว่าเป็นอย่างแรกหรืออย่างหลังกันล่ะ?” หานมู่จื๋อม องไปทางเสี่ยวเหยียน รอคำตอบจากเธอ

เสี่ยวเหยียนซะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กระพริบตาถี่เอื้อมมือ ขึ้นมาปัดขนตา “เธอล้อฉันเล่นหรือเปล่า? นี่มันก็มีความเป็นไป ได้ทั้งคู่นั้นแหละน่า ถ้าให้ฉันเดาล่ะก็มีความเป็นไปได้มากที่สุด ก็ฉันว่าก็น่าจะทั้งคู่พอๆกัน”

“พวกเราต้องวิเคราะห์ตามหัวข้อก่อน คนออกแบบคือเลิงเยา เยา ถ้าดูตามคะแนนผลงานที่ผ่านมาของเธอ คนที่มีความแค้น กับหล่อนนั้นพวกเราไม่รู้ว่ามีใครมั่ง แต่ว่าคนนี้เป็นคนวาง เค้าโครงได้รอบคอบ ถ้าจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าล่ะก็แน่นอนว่าต้อง ใช้เวลา ดังนั้นหากว่ามีความแค้นต่อคนออกแบบชุดนี้ล่ะก็ มันคง เริ่มมาตั้งแต่ตอนที่เลิงเยาเยา ได้รับมอบหมายในโครงการนี้ แล้วทีนี้เราก็ดึงขอบเขตให้แคบลงมาถึงคนในสวนของพวกเรา รวมไปถึงตัวฉันเองด้วย”

เพิ่งพูดจบ นิ้วเรียวของเสี่ยวเหยียนก็ลูบไปที่หน้าผากของหา นมู่จื่อ

“เธอโอเคหรือเปล่า?”

“เป็นอะไรไป?”

“นี่เธอกำลังสงสัยคนในบริษัทของพวกเรางั้นเหรอ?”

หานมู่จื่อ: “ฉันกำลังวิเคราะห์กับเธออย่างจริงจังอยู่นี่ไง

ล่ะ?”

“โอเค เชิญเธอวิเคราะห์ต่อไปย่อลงมาถึงคนในบริษัทแล้ว หลังจากนั้นไงต่อ?”

“เธอรู้ไหมว่าเมื่อกี้จางยู่เข้ามาทำไม?”

“เข้ามาทำอะไร?”

“หล่อนบอกกับฉันว่า ทุกคนใส่ร้ายหล่อนว่า หล่อนเป็นคน ทำลายผลงานของเลิ่งเยาเยา เธอคิดว่าไง?”

“ถ้ามองกันตามจริงแล้ว ก็ดูเหมือนมีความเป็นไปได้ เพราะว่า ปกติแล้วจางยู่ก็แสดงความอิจฉาออกมาอย่างชัดเจน”

“ใช่” หานมู่จื่อพยักหน้า พลางลุกขึ้นยืน พลางวิเคราะห์ต่อ “ก็ เพราะว่าเธอได้แสดงความอิจฉาออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นที่เกิดเรื่องกับเลิงเยาเยาในครั้งนี้ จางยู่ถึงได้ตกเป็นเป้า หมาย ”

ฟังมาถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนเองก็เริ่มเข้าใจความหมายของเธอ

แล้ว

“ที่เธอพูดมาทั้งหมดนั้น เธอกำลังจะบอกว่าไม่ใช่จางยู่ที่เป็น คนทำลายอย่างนั้นใช่หรือเปล่า?”

“ยิ่งแสดงตัวออกมามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ทุกคนหันกระบอก ปืนไปที่หล่อนง่ายขึ้นเท่านั้น หากว่าหล่อนได้ทำเรื่องนั้นลงไป จริงๆ ก็คงรู้สึกผิดเลยเข้ามาเผชิญหน้ากับฉันและบ่น? ทั้งก่อน หน้านี้ฉันไม่ได้สงสัยหล่อนด้วยซ้ำ”

“งั้นเธอสงสัยใคร?”

เสี่ยวเหยียนเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเธอ ยื่นมือออกไปจับที่ ไหล่ของหานมู่จื่อ “ฉันไม่อยากฟังเธอวิเคราะห์เรื่องราวยาว เหยียดนี้แล้ว บอกฉันมาตรงๆเลยเถอะว่าคนร้ายคือใคร”

เห็นเสี่ยวเหยียนที่ร้อนรนตรงหน้าแล้ว หานมู่จื่อก็อดไม่ได้ยื่น มือไปจิ้มหัวหล่อนด้วยนิ้วชี้ “ทำไมเธอไม่ใช่สมองคิดพิจารณา สักหน่อยล่ะ?”

“ฉัน..เธอก็วกกลับมาว่าฉันโง่อีกแล้วสินะ!” เสี่ยวเหยียนถอน หายใจเฮือกหนึ่ง หันหลังให้ซึ่งๆหน้า

“เธอยังจำตอนที่เราไปที่เมืองซูได้ไหม ไปเจอใครมาบ้าง?” เจอใครบ้าง? เสี่ยวเหยี่ยนแทรกซึมตัวเองเข้าสู่ความคิด คิด อยู่นานจู่ๆหล่อนก็จำอะไรบางอย่างได้ หล่อนเบิกตาโต “ฉันรู้ แล้วจ้าวยี่หรู!”

ตอนที่จ้าวยี่หรูชื่อนี้ออกมาจากปากของเสี่ยวเหยียน หานมู่จี่ อมีนงงเล็กน้อย เพราะเธอจำคนนี้ได้ แต่กลับลืมว่าเธอคนนั้นชื่อ ว่าอะไร

“เธอยังจำได้”

“เป็นหล่อนใช่ไหม? ฉันคิดออกแล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้หล่อน เป็นคนนัดพวกเราให้ไปออกแบบชุดให้ แต่ว่าหล่อนเย่อหยิ่งเกิน ไป และนิสัยแย่อีกทั้งไม่มีมารยาท ดังนั้นพวกเราเลยยกเลิก สัญญากับเธอ”

หานมู่จื่อพยักหน้า “อื้ม แต่ว่าหลังจากนั้นฉันได้ยินพี่ชายฉัน บอกมาว่า ฝ่ายนั้นฟ้องร้องเรา แต่ว่า …ถูกพี่ชายของฉันตัดสิน แล้ว”

“ดังนั้นหล่อนก็คงไม่พอใจ”

“เพราะว่าไม่พอใจพวกเรา และรวมไปถึงเรื่องที่ หลินซิงหั่วได้ เข้าร่วมงานแถลงข่าวเดียวกับเธอ ดูเหมือนพวกเขาจะเล่นใน เวลาเดียวกันนี่เป็นแผนสอง ซึ่งได้วางแผนไว้ก่อนแล้ว ”

ฟังมาถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็สูดลมหายใจลึก “แน่นอน นี่เป็น เพียงแค่การคาดการณ์ของพวกเราเท่านั้น ใช่เรื่องจริงไหมนั่น ก็ยังคงต้องสืบหาความจริง”

“ฉันว่า80% เป็นหล่อน ไม่เพียงแค่มีความแค้นต่อเรายังคิดที่ จะทำร้ายหลินซิงหัวด้วย และฉันรู้ว่าหล่อนและหลินซิ่งหั่วกำลัง แข่งขันกันเพื่อแย่งชิงวัสดุกันเมื่อเร็ว ๆ นี้และเธอต้องการที่จะ บดบังแสงไฟเจิดจรัสของหลินซิงหัว”

ได้ฟังมาถึงตรงนี้ ในใจของหานมู่จื่อก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเล็ก น้อย เธอค่อยๆเดินกลับไปตำแหน่งเดิมของเธอและนั่งลงอย่าง เงียบๆ

“งั้นตอนนี้ทำไงดี? ชุดก็โดนทำลายกลายเป็นอย่างนั้นแล้ว พวกเราแจ้งจับหล่อนเลยดีไหม?”

หานมู่จื่อสายหน้า “ฝั่งนั้นเขามีการเตรียมการมาอย่างดีแล้ว พวกเราไปแจ้งความเอาตอนนี้ฉันว่ามันคงสายไปแล้ว และเรารู้ แล้วว่าใครเป็นคนร้ายเราสามารถ.. ตอบโต้ได้”

“โต้ตอบ?”

เสียวเหยียนเบิกตาโต “หรือว่าเธออยากที่จะ?”

“แต่ว่า ก่อนที่จะโต้ตอบนั้น พวกเราต้องยืนยันให้ได้ก่อน เรื่อง นี้ต้องส่งต่อให้เธอจัดการแล้วแหละ” “ฉัน?” เสี่ยวเหยียนชี้มาที่ตัวเองอย่างประหลาดใจเล็กน้อย “ไม่หรอกมั้ง?”

“อื้อ เธอนั่นแหละ” หานมู่จื่อตบลงที่ไหล่ของหล่อนอย่างหนัก แน่น “สู้ๆนะเสี่ยวเหยียน รวบรวมหลักฐานมาที หลังจากนั้นพวก เราจะได้ลงมือ”

“ฉันรวบรวมหลักฐาน แล้วงั้นเธอทำอะไรล่ะ?”

“ไปอยู่กับหลินซิงหั่ว ไม่งั้นเธออยากลงมือเองไหม?”

พูดถึงความซวยความซวยก็มาเยือน พูดเพิ่งจบไป ประตูห้อง ทำงานก็ถูกเปิดขึ้น แต่ไม่เห็นว่ามีใครเดินเข้ามา แต่เห็นแต่หัว โผล่เข้ามาแล้วมองไปในห้องทำงาน

“มีใครอยู่ไหม?”

หลินซิงหั่วพลางหันซ้ายขวาพลางร้องถาม

เสี่ยวเหยียนและหานมู่จื่อ”

ผู้จัดการกำลังกดหัวของหลินซิงหัวลง และหัวเราะอย่างเจ้า

เล่ห์

“ยิ้มจนได้

“ปล่อยฉันได้แล้ว!” หลินซิงทั่วถอยตัวออกมาจากมือของผู้ จัดการของเธอ จากนั้นผลักประตูเดินเข้าไปหาหานมู่จื่อ

“อ่า นางฟ้าคะฉันมาแล้ว!”

หานมู่จื่อ : “นั่งลงเถอะ!”

จากนั้นการเคลื่อนไหวของหลินซิงหั่วก็หยุดลง และเธอก็มอง ไปที่หานมู่จื่อ จากนั้นก็มองไปที่ เสี่ยวเหยียน

“คือฉันมีขอดูชุดค่ะ” หานมู่จื่อรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย “เธอไม่ได้ถ่ายละครอยู่เหรอ? ทำไมไวขนาดนี้?”

“เพราะว่าฉันคิดถึงนางฟ้าของฉันที่ออกแบบเองกับมือ ดังนั้น ฉันจึงมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ไม่รู้ใช่ไหมว่าตอนฉันมาถูกปาปารัสซี่ ตามมาด้วย แต่พวกนั้นโดนฉันเขี่ยกระเด็นไปแล้วแหละ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ