เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 530 เรื่องตอนนั้น



บทที่ 530 เรื่องตอนนั้น

บทที่ 530 เรื่องตอนนั้น

กลางคืน

ภายในห้องเปิดเพียงโคมไฟเล็กๆ ไว้ หานมู่จื่อแปรงฟันล้างหน้า เปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้วนั่งลงบนเตียง

ในเวลานี้ เธอควรจะเข้านอนได้แล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ง่วงเลย

แม้แต่น้อย

ภายใต้แสงไฟในยามค่ำคืน กระดุมสีทองเปล่งแสงน้อยๆ ในมือของ

เธอ

อาจเป็นเพราะแสงกลางคืนเป็นโทนสีอบอุ่นสีของกระดุมจึงดูอบอุ่น ไปด้วย

เธอจ้องมองไปที่กระดุมในมืออย่างใจลอย

กระดุมเม็ดนี้เป็นของชายลึกลับที่ทำร่วงในเสื้อผ้าของเธอในคืนฝน ตกวันนั้นเมื่อห้าปีก่อน

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หานมู่จื่อก็ลูบกระดุมนั้นไปมาแล้วปล่อยความคิด ให้ลอยล่องไปอีกครั้ง

ในตอนนั้นเธอได้ไหว้วานขอให้หานเส่โยวหาเบาะแสของเจ้าของ กระดุมที่ทำตกไว้ สืบไปสืบมากี่ร้อยกี่พันครั้งผลสุดท้ายก็สืบได้ว่าเป็น เย่ หลินหาน

ข่าวนี้ทำให้เธอตกใจอยู่พักหนึ่ง จนทำให้เธอรู้สึกผิดต่อเยโม่เซินอ

ย่างมาก

แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอก็มั่นใจว่าเด็กคนนั้นน่าจะเป็นเย่

หลิ่นหาน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงเย่หลิ่นหานเหมือนคนใจดำอำมหิต

จนกว่าเสี่ยวหมี่โต้วจะเกิดแล้วค่อยๆ เติบโตขึ้นมา เค้าโครงอวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าก็ยิ่งเหมือนใครคนหนึ่งมากขึ้น เรื่อยๆ

ในใจที่เริ่มมาจากความสงสัยไปสู่ความไม่น่าเหลือเชื่อจนตกตะลึง อีกครั้ง

เหลวไหลเกินไปแล้ว

แม้ว่าลูกของเย่หลิ่นหานจะมียีนของครอบครัวตระกูลเย่ แต่มันเป็น ไปไม่ได้ที่จะเหมือนกับเยโม่เซิน

ดังนั้นหานมู่จื่อถึงได้คิดว่าชายลึกลับในคืนนั้นคือเยโม่เซ็นนั่นเอง เธอที่แต่งงานเข้าตระกูลเย่กลับถูกพูดถึงไม่ขาดปากว่าเธอท้องลูก นอกคอก

หลังจากที่ได้รับรู้ในตอนนั้น ความคิดแรกของหานมู่จื่อคือการ ปฏิเสธความคิดที่น่ากลัวของคนเหล่านี้

เป็นไปได้อย่างไร? มันจะเป็นไปได้อย่างไร???

ถ้าเป็นเขาจริงๆ อย่างนั้นไม่ใช่ว่าเธอกับโม่เซินถูกพระเจ้ากำหนด ทางไว้หรอ?

เธอรับไม่ได้

บวกกับท่าทางของเย่โม่เซินที่มีต่อตัวเองแล้ว ยังมีคำพูดของหานเส่ โยวที่พูดกับเธอในตอนนั้นอีก มันทำให้เธอรู้สึก สิ้นหวังในชีวิตนี้

ถ้าไม่ใช่ว่ามีเสี่ยวหมี่โต้วในตอนนั้น เธอก็คงอยู่ไม่ได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว หานมู่จื่อก็กำกระดุมในมือไว้แน่นจนนิ้วสีขาว เปลี่ยนเป็นสีแดง

แกรัก–

ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออก ปรากฏเงาของร่างเล็กๆ ที่วิ่งเข้ามา รีบถอดรองเท้าออกแล้วปีนขึ้นไปบนเตียงอย่างรวดเร็ว

หานมู่จื่อตกใจกลัว ในจิตสำนึกให้เอากระดุมนั้นซ่อนไว้ในผ้านวม เพื่อไม่ให้ใครเห็น นี่จะเป็นความลับของเธอเพียงคนเดียว

เก็บซ่อนมาได้หลายปีแล้ว

เด็กผู้ชายตัวเล็กที่เข้ามากอดก่ายเธอด้วยมือและเท้าแล้วว่า “หม่าม เสี่ยวหมี่โต้วไม่อยากนอนคนเดียว เสี่ยวหมี่โต้วอยากนอนกับ ”

หัวใจที่หวาดกลัวของหานมู่จื่อค่อยๆ สงบลงแล้วพูดเสียงนุ่มนวล ท่ามกลางแสงสลัวยามค่ำคืนว่า: เสี่ยวหมี่โต้วโตแล้วนะครับ จะมา นอนกับหม่ามไม่ได้แล้ว ลูกเป็นผู้ชาย กับหม่ามคือมีความแตกต่าง ระหว่างชายและหญิง เข้าใจไหมครับ? ”

เสี่ยวหมี่โต้วเอาหน้าที่ต้นแขนของเธอไปมาอย่างไม่พอใจ: “ไม่ ครับ เสี่ยวหมีโต้วยังไม่ใช่ผู้ใหญ่ แล้วของเป็นแม่ของเสี่ยวหมีโต้ ว ไม่มีความแตกต่างของชายหญิงหรอก”

“แล้วหลายวันมานี้หม่ามีให้เสี่ยวหมี่โต้วนอนคนเดียว เสี่ยวหมีโต้ว คิดถึงหม่าม คืนนี้ให้เสี่ยวหมี่โต้วนอนด้วยนะครับ”

หานมู่จื่อ : เสี่ยวหมี่โต้ว”

“หม่ามบอกตลอดว่าเสี่ยวหมี่โต้วโตแล้วงั้นหมี่โต้วก็ไปหาแด็ดดี้ได้ แล้วใช่หรือเปล่าครับ? ”

ในตอนแรกนั้นหานมู่จื่อต้องการเกลี้ยกล่อมให้เขากลับไปนอนที่ ห้องของตัวเอง แต่ทันใดนั้นเขาก็ทำให้หานมู่จื่อตกตะลึงกับคำพูดนี้ และในใจของเธอก็สั่นไหวอย่างน่ารุนแรง

นี่เป็นการเคลื่อนไหวของโชคชะตาหรอ?

ก่อนหน้านี้ตอนที่เธออยู่ต่างประเทศนั้นเสี่ยวหมี่โต้วไม่เคยถามถึง พ่อมาก่อนเลย เขาน่ารักและเป็นเด็กดีมาก

แต่เมื่อกลับประเทศมา จำนวนครั้งที่เขายกเรื่องนี้ขึ้นมาก็ยิ่งเพิ่มมาก ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันนี้ที่เธอห้ามเยโม่เซินตรวจสอบเรื่องของเธออีก เสี่ยวหมี่โต้วมุดเข้ามาในผ้านวมแล้วมาพูดเรื่องนี้กับเธอ

มันเป็นเรื่องบังเอิญหรอ? หานมู่จื่อออกแรงบีบกระดุมสีทองแรงๆ จากนั้นก็เก็บไว้ในฝ่ามือ “ทำไมจู่ๆ ถึงถามล่ะ? ” หานมู่จื่อมองเสี่ยวหมี่โต้วที่อยู่ในอ้อมกอด พยายามทำเสียงตัวเองให้นุ่มนวลมากที่สุด “เมื่อก่อนตอนที่หนูอยู่ ต่างประเทศ หนูไม่เคยพูดถึงเลยนะ? ”

เสี่ยวหมี่โต้วเม้มริมฝีปากของเขา: “เมื่อก่อนหม่ามี้ลำบากมากเสี่ยว หมีโต้วก็เข้าใจหม่าม้ แต่ว่าตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วโตแล้ว ไม่ต้องให้หม่ามี ไปหาแล้ว ให้เสี่ยวหมีโต้วหาด้วยตัวเองก็พอแล้ว”

หานมู่จื่อ : “..*

“ได้ไหมครับหม่าม? ว ” เสี่ยวหมี่โต้วเขย่าแขนของเธอ : “เสี่ยวหมี่โต้ว เก่งมาก จะต้องหาแด็ดดี้เจอแน่นอน! ”

เมื่อได้ถึงอย่างนี้ หานมู่จื่อเหมือนหายใจไม่ออก ในที่สุดเธอก็รู้แล้ว

ว่าหลายต่อหลายครั้งที่เสี่ยวหมี่โต้วเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมานั้นไม่ใช่ว่าล้อเธอ

เล่น แต่ว่าเขานั้นอยากเจอพ่อจริงๆ

แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่เสี่ยวหมี่โต้วจะหาเยโม่เซ็นพบด้ว ยอายุน้อยขนาดนี้ แต่เธอกลับยังรู้สึกอยู่ในใจ จึงตวาดขึ้นทันที: “ห้าม ไป! ”

เสียงของเธอเด็ดขาดมากจนทำให้เขาตกใจอย่างมาก

“มะ หม่า ”

“ได้ยินไหม? ” หานมู่จื่อถามแล้วมองไปที่เสี่ยวหมี่โต้ว

เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตาถี่ๆ ดวงตากลมแดงก่ำเอ่อคลอด้วยน้ำตา “หม่าม แต่เสี่ยวหมี่โต… แค่อยากตามหาแด๊ดดี้”

“ไม่ใช่ว่าแม่บอกว่าห้ามไปหรอ? ” หานมู่จื่อไม่คิดว่าเขาจะไม่ฟังคำ พูดของเธอแล้ว หลังจากที่เธอพูดห้ามก็ยังดึงดันว่าจะตามหาแด็ดดี้ พูดหนักข้อมากขึ้นเรื่อยๆ จึงหลุดปากพูดไปอย่างไม่คิดว่า: “พ่อแท้ๆ ของลูกตายไปแล้ว ลูกไม่ต้องออกไปหาเพราะหายังไงก็ไม่เจอหรอก”

เสี่ยวหมี่โต้ว : เมื่อพูดประโยคนี้จบ บริเวณรอบดวงตาของหานมู่จื่อก็ค่อยๆ แดง ขึ้นมา

ดวงตาของคนสองคนที่ดูคล้ายกัน หานมู่จื่อหลับตาแล้วสูดลม หายใจเอ่ยขึ้นว่า: “ขอโทษนะเสี่ยวหมี่โต้ว … ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้ตกใจหม่าม แล้วนะ? ”

ทันทีที่หานมู่จื่อพูดกับเขาด้วยเสียงอ่อนโยน ทำนบน้ำตาของเสี่ยว หมีโต้วก็พังทลายลงมาทันที เขาร้องไห้โฮออกมาเสียงดังลั่น

เสียงนี้เหมือนเข็มที่มาที่มแทงหัวใจของเธอ ความเจ็บปวดนี้ทำให้ เธอแทบหายใจไม่ออก คำพูดที่เธอเพิ่งจะพูดออกไปเมื่อกี้ไม่สามารถ เปลี่ยนคืนกลับมาได้ และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายกับเสี่ยวหมี่โต้ วอย่างไร ได้แค่เพียงยื่นมือไปกอดเขาไว้เท่านั้น

“หม่ามขอโทษ หมามไม่ดีเอง… หม่ามไม่ควรโมโหใส่หนู”

ขณะที่พูดนั้น น้ำตาของหานมู่จื่อก็ไหลลงมาเป็นสาย น้ำตาทุกหยด ไหลมากระทบที่คอของเสี่ยวหมี่โต้ว

เสี่ยวหมี่โต้วตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำตานี้ เขายังคงร้องไห้อยู่อย่าง

นั้น และดูเหมือนว่านี่เป็นครั้งแรกที่หม่ามี้ร้องไห้ต่อหน้าเขาแบบนี้ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาสวยอย่างไม่ลดละและไม่สามารถหยุด มันลงได้

“ขอโทษ…หม่ามขอโทษเสี่ยวหมี่โต้ว ขอโทษจริงๆ ” หานมู่จื่อได้แต่ พูดประโยคเดิมซ้ำๆ วนไปมาจนเหมือนถูกปีศาจร้ายเข้าสิง เสี่ยวหมี่โต้วมองท่าทางหานมู่จื่อแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองนั้น

ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

เขายื่นมือน้อยๆ ออกไปโอบรอบคอของหานมู่จื่อไว้แล้วแนบใบหน้า อุ่นของตัวเองลงไป: “หม่ามไม่ร้องไห้นะครับ ต่อไปนี้เสี่ยวหมี่โต้ว..จะ ไม่พูดเรื่องตามหาแด็ดดี้อีกแล้ว”

หานมู่จื่อไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้อีก น้ำตาไหลพรั่งพรูได้แต่กอด เสี่ยวหมี่โต้วไว้ในอ้อมแขนแล้วร้องไห้ออกมา ขึ้นมา

ดวงตาของคนสองคนที่ดูคล้ายกัน หานมู่จื่อหลับตาแล้วสูดลม หายใจเอ่ยขึ้นว่า: “ขอโทษนะเสี่ยวหมี่โต้ว … ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้ตกใจหม่าม แล้วนะ?”

ทันทีที่หานมู่จื่อพูดกับเขาด้วยเสียงอ่อนโยน ทำนบน้ำตาของเสี่ยว หมี่โต้วก็พังทลายลงมาทันที เขาร้องไห้โฮออกมาเสียงดังลั่น

เสียงนี้เหมือนเข็มที่มาทิ่มแทงหัวใจของเธอ ความเจ็บปวดนี้ทำให้ เธอแทบหายใจไม่ออก คำพูดที่เธอเพิ่งจะพูดออกไปเมื่อกี้ไม่สามารถ เปลี่ยนคืนกลับมาได้ และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายกับเสี่ยวหมี่โต้

วอย่างไร ได้แค่เพียงยื่นมือไปกอดเขาไว้เท่านั้น “หม่าขอโทษ หม่ามีไม่ดีเอง… หม่ามีไม่ควรโมโหใส่หนู”

ขณะที่พูดนั้น น้ำตาของหานมู่จื่อก็ไหลลงมาเป็นสาย น้ำตาทุกหยด ไหลมากระทบที่คอของเสี่ยวหมี่โต้ว

เสี่ยวหมี่โต้วตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำตานี้ เขายังคงร้องไห้อยู่อย่าง

นั้น และดูเหมือนว่านี่เป็นครั้งแรกที่หม่ามื้ร้องไห้ต่อหน้าเขาแบบนี้ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาสวยอย่างไม่ลดละและไม่สามารถหยุด มันลงได้

“ขอโทษ…หม่ามีขอโทษเสี่ยวหมี่โต้ว ขอโทษจริงๆ ” หานมู่จื่อได้แต่ พูดประโยคเดิมซ้ำๆ วนไปมาจนเหมือนถูกปีศาจร้ายเข้าสิง เสี่ยวหมี่โต้วมองท่าทางหานมู่จื่อแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองนั้น

ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

เขายื่นมือน้อยๆ ออกไปโอบรอบคอของหานมู่จื่อไว้แล้วแนบใบหน้า อุ่นของตัวเองลงไป: “หม่ามไม่ร้องไห้นะครับ ต่อไปนี้เสี่ยวหมี่โต…จะ ไม่พูดเรื่องตามหาแด๊ดดี้อีกแล้ว”

หานมู่จื่อไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้อีก น้ำตาไหลพรั่งพรูได้แต่กอด เสี่ยวหมี่โต้วไว้ในอ้อมแขนแล้วร้องไห้ออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ