เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่992 ช่วยดูแลแทน



บทที่992 ช่วยดูแลแทน

ลมหนาวเริ่มพัดเข้ามา

พอผู้จัดการในห้องโถงของโรงแรมเห็นทานชิงที่หน้าประตู รีบเดินออกมาต้อนรับทันที

“คุณหานครับ ในที่สุดคุณก็มา พอผมได้รับข่าวแล้วก็รอคุณ มาตลอดเลย”

ผู้จัดการในห้องโถงเป็นคนจีน แต่อาจเป็นเพราะอยู่ที่นี่มาเป็น เวลานาน ตอนที่เขาพูดภาษาจีนเลยรู้สึกแปลกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ ได้เป็นอุปสรรคต่อการสนทนา

หานซึ่งพยักหน้าให้เขาเป็นการตอบรับ จากนั้นก็หันไปพูดกับ

เซียวซู “ผมคงต้องขอตัวก่อน

เซียวซูไม่มีเหตุผลที่จะรั้งเขาไว้ จึงทำได้แค่มองดูผู้จัดการ โรงแรมลากกระเป๋าสัมภาระของหานซิง แล้วเดินนำเขาเข้าไป

จากนั้น เซียวซูก็ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวครู่หนึ่ง ก่อนจะหัน หลังจากไป

เพราะฉือจินรับปากให้เธอกลับประเทศแล้ว แถมยังมอบ สร้อยที่แสนล้ำค่าเส้นนั้นให้หานมู่จื่อ

ดังนั้นหานมู่จื่อก็เลยเริ่มเตรียมดำเนินเรื่องเพื่อจะกลับประเทศแล้ว

แต่เธอไม่ได้รับร้อนเท่านานจื่อ อีกอย่างทางนี้ก็จำเป็นต้อง จัดการให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้นหลังจากที่เธอกับเย่ไม่เป็นปรึกษา กันแล้ว ก็เลยจัดการจองตั๋วเครื่องบินเป็นอีกหน้าวันหลังจากนี้

เมื่อกลับถึงประเทศ ก็ยังทันเทศกาลโคมไฟในประเทศอีกด้วย

ส่วนเรื่องที่ยฉือจินมอบสร้อยเส้นนั้นให้เธอ หาน จื่อรู้สึกว่า มันล้ำค่าเกินไป เลยอยากจะเอาไปคืน แต่เย่ ไม่เซินกลับบอกว่า “ในเมื่อคุณตาให้เธอแล้ว เธอก็เก็บไว้เถอะ

หานมู่จื่อเม้มปาก “แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง ของสิ่งล้ำค่ามาก อีก อย่างวันนั้นพอฉันได้ฟังพวกคุณคุยกันแล้วก็กลับมาหาข้อมูล ของสร้อยเส้นนี้……

หัวใจจักรวาล

ตอนแรกเธอไม่รู้ แต่วันนั้นหานชิงกับเยโมเงินกลับรู้ดี

นั่นก็บ่งบอกได้ว่ามูลค่าของสร้อยเส้นนี้จะต้องไม่ธรรมดา ดัง นั้นพอกลับมาแล้วเธอก็เลยถือโอกาสหาข้อมูล แล้วก็พบว่าหัวใจ จักรวาลเมื่อก่อนเป็นเพชรเม็ดหนึ่ง ที่นักธุรกิจร่ำรวยคนหนึ่งที่ใช้ เงินจํานวนมหาศาล ในการประมูลมา จากนั้นก็หาช่างเจียระไน ให้เป็นหัวใจจักรวาล เพื่อมอบให้กับภรรยาของตัวเอง

ตอนนั้นเรื่องนี้ นอกจากคนภายในแวดวงธุรกิจแล้ว ก็ยังมีคน อีกมากมายที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลาย จากนั้นหลังจากคนที่เป็นเจ้าของหัวใจจักรวาลเสียชีวิตไปสร้อยเพชรเส้นนี้ก็ไม่เคยออกสู่โลกภายนอกอีก ค่อยๆหายไป จากสายตาของสาธารณชน

จากนั้น ทุกคนก็ค่อยๆลืมเลือนมันไป

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าของมันจะลดลงไปตามกาล เวลา

หลังจากที่หาน จื่อได้เข้าใจแล้ว แล้วก็รู้สึกว่าถึงแม้ตอนนั้น จะประมูลมาด้วยราคาที่สูงมาก แต่พอเจียระไนสำเร็จ แล้วมอบ ให้กับผู้เป็นที่รัก สร้อยเส้นนี้ก็ได้กลายเป็นสมบัติที่ล้ำค่าหาสิ่ง ใดเปรียบได้

เป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในโลก หายากที่สุด และสำคัญที่สุด “วันนั้นเธอก็ได้ยินคุณป้าพูดแล้ว เดิมทีสร้อยเส้นนี้เป็นของ คุณแม่ ถ้าคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ สร้อยเส้นนี้ก็ต้องตกเป็นของเธอ อยู่ดี”

ตอนที่พูดถึงคุณแม่ น้ำเสียงของเย่โม่เช่นนั้นเรียบเฉย เพราะ ไม่มีความทรงจำ ดังนั้นเขาก็เลยจำเรื่องเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้น ตอนนั้นไม่ได้

หานมู่จื่อจำครั้งแรกที่เขาพูดถึงคุณแม่ของเขาให้ตัวเองฟังได้ สีหน้าและแววตาในตอนนั้นดูเจ็บปวดมาก

คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้……..

เห็นได้ชัดว่า การสูญเสียความทรงจำก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เสมอไป
ถึงแม้จะทำให้หลงลืมสิ่งสำคัญบางอย่างไป แต่ในขณะ เดียวกันก็ทำให้ลืมความเจ็บปวดมากมายก่อนหน้านี้ไปด้วย

ก็เหมือนกับ……..การได้เกิดใหม่ แล้วมันไม่ดีตรงไหน ขอแค่คนไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว

“ถ้าเธอยังรู้สึกไม่สบายใจ ถึงแม้จะเอากลับไปคืน คิดว่าคุณ ตาก็คงไม่รับหรอก”

“ทำไมล่ะ ?”

เยโม่เซินมองเธอทีหนึ่ง แล้วยื่นมือไปจับคางเธอ “ตอนที่ เข้าหาฉันเจ้าแผนการขนาดนั้น ทำไมตอนนี้ถึงได้โง่แบบนี้ล่ะ เรื่องง่ายๆแบบนี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?”

คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะถูกอีกฝ่ายเยาะเย้ยได้

“คุณพูดอะไรน่ะ ว่าใครเจ้าแผนการ ถ้าไม่ใช่เพราะตอนที่เจอ กันครั้งแรกคุณพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงเย็นชาขนาดนั้น ฉันจะต้อง ลงทุนลงแรงขนาดนั้นหรือ

เมื่อคิดถึงตอนแรกที่เจอกัน เขาเย็นชาขนาดนั้น ถึงแม้ว่าจะจำ เธอไม่ได้ แต่เขากลับไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย หานมอก็เริ่ม โมโหขึ้นมา แล้วก็หันไปถลึงตาใส่เย่ไม่เป็นที่หนึ่ง

เย่โม่เซินรู้ว่าตัวเองเหยียบหางแมวเข้าแล้ว ก็คิดอยากจะลอง เหยียบต่ออีกสักพักเพื่อหยอกล้อเธอ เพื่อรอดูท่าทางตอนเธอโมโห แต่จู่ๆก็คิดได้ว่าตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องอยู่ ดังนั้นความคิดไม่ดีนั้นก็เลยถูกลบออกไป

“เอาเถอะ ก่อนหน้านี้ฉันผิดเอง ต่อไปจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้น ขึ้นอีกแล้ว ส่วนสร้อยที่คุณตาให้เธอมา เธอก็ทำใจให้สบายแล้ว เก็บมันไว้เถอะ หรือไม่ก็สวมไว้เลยก็ได้”

“จะไม่คืนจริงๆ หรือ…….

“คืนทำไม ? ในเมื่อเขามอบให้เธอเป็นของขวัญแล้ว ก็เหมือน เป็นเครื่องยืนยันว่าเขายอมรับเธอเป็นหลานสะใภ้แล้ว หรือเธอ จะปฏิเสธ ?”

“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น…….

“ถึงจะคืนคุณตาไป เขาก็ไม่รู้จะให้ใครอยู่ดี เขาอายุปูนนั้น แล้ว เธอคิดว่าเขาจะมีใครให้มอบให้อีก ?”

หาน จื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ลองแอบถามออกไป หรือ ไม่ ฉันเอาไปให้คุณป้าดีไหม

“เห็นสีหน้าคุณป้าวันนั้นตอนที่เห็นสร้อยเส้นนี้ไหม ?”

หาน จื่อลองย้อนคิดอีกครั้ง ตอนนั้นที่สูงอานเห็นสร้อยเส้นนี้ แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย เสียใจ โกรธเคือง ผิด หวัง อารมณ์มากมายรวมกันอยู่ในนั้น

ถ้าเกิดเอาสร้อยเส้นนี้ไปมอบให้เธอ เป็นไปได้ว่าสั่งอ่านอาจ จะมองมันแล้วระลึกถึงคนที่จากไปทุกวี่วันแน่ๆ
มอบให้ใครก็ไม่ได้ หรือว่าเธอจะต้องเก็บมันไว้เองจริงๆ เก็บไว้เถอะ” เยโมเงินพูดขึ้นอีกครั้ง

จากนั้น หานมู่จื่อก็ทำได้แค่พยักหน้าอย่างไร้ทางเลือก “ถ้า อย่างนั้นฉันจะช่วยดูแลแทนชั่วคราวก่อนแล้วกัน”

เพราะว่าต้องเตรียมตัวกลับประเทศ ดังนั้นหาน จื่อก็เลยนำ เรื่องนี้ไปแจ้งเฉียวจื้อ

ในหลายๆความหมาย เฉียวอช่วยเหลือเธอไว้หลายอย่าง ในตอนที่เธอไร้ที่พึ่งเฉียวซื้อก็พูดได้ว่าเป็นคนที่มอบถ่านให้ท่า มกลางหิมะ ดังนั้นเมื่อพวกเธอจะกลับประเทศ ก็เลยต้องแจ้งให้ เขารู้ด้วย

อีกอย่างหลายวันที่ผ่านมาเฉียวซื้อก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลย แม้แต่ข้อความในวีแชทก็ไม่มี บัญชีนั้นแฝงตัวอยู่ในรายชื่อ เพื่อนในวีแชทของเธออย่างเงียบๆ เมื่อเทียบกับเฉียวจื้อเมื่อ ก่อนหน้านี้ นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติเลย

ก่อนหน้านี้เธอจมปลักอยู่กับเรื่องของตัวเอง เลยไม่ได้สังเกต เห็นปัญหานี้

ตอนนี้พอส่งข้อความให้เขาแล้ว ถึงได้พบว่ามีปัญหานี้อยู่

หาน จื่อเปิดเข้าไปดูไทม์ไลน์เพื่อน แล้วก็พบว่าความ เคลื่อนไหวล่าสุดนั้นคือช่วงก่อนห้าปีใหม่แล้ว ช่วงที่ผ่านมาเขา ไม่ได้โพสต์อะไรลงในไทม์ไลน์เพื่อนเลย

นี่……..มันไม่ค่อยปกติ
แต่หาน จื่อก็ตัดสินใจว่าจะรออีกหน่อย รอให้เขาตอบ ข้อความกลับมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน

เพราะอย่างไรพวกเขาก็จะกลับไปในอีกห้าวันนี้แล้ว

ส่วนเสี่ยวเหยียน ก็เหมือนอย่างที่เย่ไม่เป็นพูดไว้ไม่มีผิด วันที่ สองหลังตื่นมาแล้วเธอก็ไม่ได้ร้องไห้โวยวายอีก ทำตัวเหมือน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดคุยหัวเราะ กลับไปเป็นตัวเองเหมือนก่อน หน้านี้ที่ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร

เธอที่อยู่ในสภาพนั้น ถึงแม้ภายนอกจะดูไม่มีปัญหาอะไร

แต่หานเอกลับมองทะลุว่าภายใต้รอยยิ้มของเธอนั้นภายใน

ใจกำลังร้องไห้อยู่

เธอรู้สึกอึดอัดใจ แต่กลับไม่รู้จะเตือนอย่างไรดี

“มู่จื่อ เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ตอนแรกฉันอาจจะเสียใจ อยู่บ้าง แต่เธอดูฉันในตอนนี้กำลังพยายามจัดระเบียบตัวเอง อยู่ ฉันไม่ใช่คนอ่อนแอแบบนั้น ฉันดูแลตัวเองให้ดีได้ ต่อไปฉัน จะต้องดีกว่าเดิม ต้องมีสักวันหนึ่งที่ฉันจะลืมคนๆนั้น จากนั้นก็ กลับสู่อ้อมกอดของใครบางคนได้”

ถึงแม้เธอจะพูดอย่างมั่นอกมั่นใจยังไง แต่หานจื่อกลับไม่ เชื่อเลยสักคํา เพียงแค่กอดเธอไว้เท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ