เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 547 ความรู้สึกนั้นบ้าอำนาจ



บทที่ 547 ความรู้สึกนั้นบ้าอำนาจ

หานซึ่งจ้องมองเธออยู่สักพัก แล้วเอ่ยปากพูดว่า “ฉันไม่ได้ รู้สึกว่าตนเองทำร้ายโดนเธอยังไง

“มี! คำพูดของนายเมื่อครู่นี้ทำร้ายจิตใจสาวน้อยอัน เปราะบางของฉัน

หานซิง ”

“เอามา!” เสี่ยวเหยียนยื่นมือไปขอทานซึ่งด้วยความเชิด หยิ่ง หานซิงโดนเธอว่าจนไม่รู้จะตอบยังไง แต่ว่าพอเห็นแวว ตาที่มั่นคงของเธอ สุดท้ายจึงยื่นมือไปปลดกระดุมชุดสูท ออก แล้วถอดเสื้อออก

เสี่ยวเหยียนรีบเสื้อมาแล้วสวมใส่ จากนั้นก็ขยี้ตาตนเอง แล้วเดินออกไปทางประตูเลย

“ให้ลุงหนานไปส่งเธอนะ

“ไม่จําเป็น!”

เสี่ยวเหยียนเดินออกไปด้วยความเร็ว หานซึ่งยืนคิดอยู่ที่ เดิม เมื่อครู่นี้เขาพูดอะไรผิดหรือ?

เขาก็แค่……..ในสิ่งที่ตนเองคิดเท่านั้น

ณ บริษัท
หาน จ่อชงกาแฟให้ตนเอง หลังจากที่ผมไปไม่กี่คำ ก็หัน ไปมองที่นั่งที่ว่างเปล่านั้น

เมื่อคืนเธอได้ฝากฝังเสี่ยวเหยียนไว้กับพี่ชายของตนเอง แล้ว แต่ไม่คิดว่าป่านี้แล้วกลับยังไม่มาบริษัท

พอนึกถึงตรงนี้ หานมอก็ยิ้มที่มุมปาก โดยไม่รู้ตัว

ปัง!

ประตูของบริษัทถูกเปิดออกกะทันหัน หานคู่จื่อเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่ไม่มีอารมณ์ใดๆ นั้นหลังจากที่เห็นเสี่ยวเหยียน รอยยิ้มบนหน้าของเธอก็สูญหายไปเลย

เสี่ยวเหยียนเข้ามาแล้วพุ่งเข้าไปที่นั่งของตนเอง จากนั้นก็ นอนซุกอยู่ในแขนทั้งสองของตนเอง

พอเห็นฉากนี้ หาหมอก็ขยับปากเล็กน้อย วางกาแฟใน มือลง แล้วเดินไปข้างๆ เสี่ยวเหยียน “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

ในตอนแรกนั้นหล่อนอยากจะแซวเสี่ยวเหยียนสักหน่อย เรื่องเมื่อคืน แต่พอเห็นเธอเดินเข้ามา แล้วเห็นว่าตาของเธอ นั้นแดงก่า ราวกับว่าเป็นกระต่าย

เสี่ยวเหยียนทําตัวเฉยๆ ไม่ได้ตอบคำถามของหล่อน

หานคู่จื่อเองก็ไม่ได้ใจร้อนอะไร ดึงเก้าอี้มาหนึ่งตัวนั่งลง ข้างๆ เธอ แล้วรอด้วยความอดทน
ประมาณ3-5นาที เสี่ยวเหยียนเงยหน้าขึ้น แล้วมองหล่อน ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

หานมู่จื่อรู้สึกกระตุกที่หัวใจ หยิบกระดาษมาเช็ดน้ำตาให้ เธอ “อย่าร้องสิ มีอะไรก็พูด ถ้าพูดไม่ออก ฉันให้เธอหยุด หนึ่งวัน เธอกลับไปพักผ่อนเถอะ”

เสี่ยวเหยียนหันมากะทันหัน แล้วถามด้วยความน่าสงสาร

“มู่จื่อ ฉันหน้าตาทุเรศมากเลยใช่ไหม?”

หานจื่ออึ้งเล็กน้อย มีเรื่องบางอย่างก่อตัวขึ้นในความ คิด แต่หล่อนกลับส่ายหน้า “ไม่หรอก”

“ไม่ทุเรศ? งั้นก็แสดงว่าหน้าตาฉันไม่ดึงดูดคนใช่ไหม? หรือว่า เป็นเพราะว่าฉันจนเกินไป?”

เธอถามพลางน้ำตาไหลพลาง ดูแล้วแย่มาก

“จริงๆ แล้วเมื่อก่อนฉันไม่ชอบทานชิง แต่ว่าในอดีตตอน อยู่ต่างประเทศ เขามาหาเธอบ่อยมาก ฉันเห็นหน้าเขาทุกวัน จะไม่หวั่นไหวได้ยังไง? ถ้าเขาไม่โสดก็ค่อยยังชั่ว แต่เขา กลับโสด ฉันเลยคิดเกินเลย แต่จนถึงตอนนี้ฉันถึงรู้ว่าความ คิดนี้มันช่างเกินตัวและตลกสิ้น……

หานมู่จื่อ

เธอขยับปากเล็กน้อย อยากปลอบใจเสี่ยวเหยียน แต่กลับ

ไม่รู้จะปลอบยังไงดี
“จ๋อ ฉันเป็นคนที่ไม่รู้จักตนเองเลยใช่ไหม? รู้ทั้งรู้ว่าเป็น ไปไม่ได้ แต่ฉันกลับไปชอบเขา

มองเธอที่ร้องไห้ไม่หยุด หานมอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหาย ใจเบาๆ จากนั้นก็ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่หางตาของเธอ แล้ว พูดอย่างอ่อนโยน “ไม่หรอก ความรู้สึกนั้นบ้าอำนาจ หากคน เราสามารถควบคุมความรู้สึกได้ตลอดเวลา ก็คงไม่ใช่คน แล้วล่ะ ก็เพราะว่าเป็นคน ถึงได้มีความรู้สึก เธอชอบเขาก็ เป็นเรื่องธรรมดา เขาไม่ชอบเธอก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ไม่ เกี่ยวอะไรกับการที่ไม่รู้จักตนเองเลย เธออย่ารู้สึกต่ำต้อย เพราะเรื่องนี้เลยนะ”

เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันรู้สึกต่ำต้อย?”

หานคู่จื่ออึ้งเล็กน้อย แววตาที่สวยงามของหล่อนหลบเล็ก

น้อย

เธอรู้ได้ยังไง?

หาน จื่อเองก็ไม่อยากรู้ว่าตนเองรู้ได้ยังไง แต่เพื่อที่จะ ปลอบใจเสี่ยวเหยียน หล่อนจึงยิ้มอ่อน

“ตอนนั้นตอนที่ฉันชอบเขา ฉันก็รู้สึกเหมือนเธอเลย

เสี่ยวเหยียนอึ้ง วินาทีต่อมาเธอถึงรู้ตัว สูดน้ำมูกด้วย ความซาบซึ้งแล้วพูด “มู่จื่อ ฉันซาบซึ้งมาก ไม่คิดว่าเธอจะ ปลอบใจฉันด้วยการพูดเรื่องที่ทำให้เธอเสียใจ

เสียวเหยียนพยักหน้า “นิดหน่อย แต่ว่า ฉันเข้าใจแล้วว่า ตอนนั้นเธอรู้สึกยังไง ตอนนี้ข้าขอบเขาฝ่ายเดียว แล้วโดน เขาปฏิเสธ ฉันยังเสียใจขนาดนี้ เธอในตอนนั้น…….

เธอเริ่มพูดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่หานจื่อสีหน้ากลับเปลี่ยน เล็กน้อย รีบพูดขัดจังหวะเธอ “เอาเถอะ อย่าพูดเรื่องในอดีต แล้ว พูดเรื่องเมื่อคืนดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น? เธอไปเจอลูกค้า เป็นเพื่อนพี่ชายฉันไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงมาถึงขั้นโดน ปฏิเสธล่ะ”

“เชอะ!” เสี่ยวเหยียนพูดด้วยความโกรธ “พี่ชายของเธอ มาเสยคางฉันแล้วถามว่าฉันชอบเขาใช่ไหม?”

ได้ยินแบบนี้ หานมู่จื่อเองก็ตกใจเล็กน้อย แค่นึกถึงภาพ นั้นก็รู้สึกว่าแปลกใจมาก

หานซิง…..เป็นคนที่จะไปเสยคางของผู้หญิง? ในความ ทรงจําของหาน จื่อ หานซึ่งเป็นพี่ชายที่สุขุมมาโดยตลอด ถึงจะเป็นเมื่อก่อนที่ยังไม่เคยรู้ว่าเป็นพี่น้องกัน หานซึ่งเป็น คนที่ควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้เป็นอย่างดี จะไปเลย คางของผู้หญิงได้ยังไง?

พอนึกถึงเรื่อง แววตาที่หานจื่อมองเสี่ยวเหยียนก็เปลี่ยน

ไป
เธอเม้มปากเล็กน้อย “แล้ว? เธอพูดยังไง?”

“ฉันจะพูดอะไรได้ล่ะ? ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย พี่ชายของ เธอก็บอกให้ฉันว่าอย่าชอบเขา เชอะ ใครจะยอม ฉันยังไม่ ได้บอกชอบเลย เขาก็มาปฏิเสธฉันแล้ว เธอว่าคนนี้ตลก ไหม? จ๋อ ฉันว่าพี่ชายเธอแบบนี้เธอจะโกรธฉันไหม”

เห็นสีหน้าของเธอโกรธมาก หาน จื่อจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม แล้วส่ายหน้า “ไม่หรอก”

หลายปีมานี้ เสี่ยวเหยียนชอบทานชิงมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็น เพียงแค่พฤติกรรมของหญิงสาวที่โดนปฏิเสธและรับไม่ได้ กับศักดิ์ศรีที่โดนเหยียดหยามก็เท่านั้นเอง รอให้พรุ่งนี้ผ่าน ไป เธอก็อาจจะดีขึ้น

และเสี่ยวเหยียนนั้นเป็นประเภทที่ไม่เจอบาดแผลไม่ยอม

กลับตัว

“เอาเถอะ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว ถ้าเธอไม่กลับบ้านไปพัก ผ่อน ก็รีบจัดการตัวเองแล้ว ทำงานต่อเลย

พูดจบ หานมู่จื่อมองเสื้อสูทบนตัวของเธอด้วยแววตาที่ลึก ซึ่ง จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินไปที่โต๊ะของตนเอง

ก๊อกก๊อก—

“เข้ามา”

ประตูออฟฟิศถูกเปิดออก เลิงเยาเยาชะโงกศีรษะเข้ามา
เธอลังเลเล็กน้อย แต่ไม่นานก็คิดได้เลยเปิดประตูแล้วเดิน

เข้ามา

หาน จื่อเงยหน้าขึ้นมามองเธอ “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?

เลิงเยาเยาวางแฟ้มไว้ตรงหน้าเธอ “นี่เป็นภาพวาดที่ฉัน วาดออกมาสองสามวันนี้ เธอลองดูสิว่าเป็นยังไงบ้าง

หานมู่จื่อยื่นมือไปรับแฟ้มมา หลังจากที่เปิดดูถึงพบว่าข้าง ในนั้นเป็นเสื้อแฟชั่นผู้ชาย และตอนนี้ก็นึกออกว่าก่อนหน้านี้ เธอให้เลิงเยาเขาทํางานของเซ่ไม่เป็น

ระหว่างที่ดู หานมู่จื่อได้ยินเลิงเขาเขาถามตนเอง “เธอคิด ว่างานออกแบบพวกนี้เป็นยังไงบ้าง

“ไม่เลว วาดได้ดีเลยทีเดียว ฝีมือของเธอยิ่งอยู่ก็ยิ่งพัฒนา มากขึ้นแล้วนะ ” หาน จื่อชื่นชม

แต่ว่า……พวกนี้ต่างก็ไม่ผ่านด่านประธานเย่เลย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ