เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 545 เศร้าใจ



บทที่ 545 เศร้าใจ

วันรุ่งขึ้นไป

หานมู่จื่อเหมือนจะได้กลิ่นของอาหารในฝัน เธอลูบคลำ ท้องของตัวเอง แล้วพลิกตัว

เมื่อคืนเพราะไปงานเลี้ยง เลยไม่ได้ทานอะไร

ตอนที่กลับมา กินแค่ก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม ก็พักพักผ่อน พร้อมกับเสี่ยวหมี่โต้วแล้ว ตอนนี้รู้สึกหิวนิดหน่อยจริงๆ จึง ได้กลิ่นหอมของอาหารสินะ

หาน จื่อครุ่นคิดสักพัก เหลือบมองแสงแดดนอกหน้าต่าง หลังจากหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา ถึงพบว่าเสี่ยวหมี่โต้วที่หลับ อยู่ข้างๆเธอเมื่อคืน หายไปแล้ว

หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หานมอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเดิน ลงไปชั้นล่าง ไม่คาดคิดว่าจะเห็นอาหารอยู่บนโต๊ะ

ความคิดแรกของเธอก็คือ เสี่ยวเหยียนกลับมาแล้ว?

แต่เมื่อเดินไปที่ประตูห้องครัว ก็ได้เห็นเจ้าตัวเล็กคนหนึ่ง ยืนอยู่บนเก้าอี้ ยื่นมือเล็กๆออกไป พยายามไปหยิบของบน

เมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของหาน จื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้ส่งเสียงอะไร ตั้งใจดูเสี่ยวหมี่โต้วหยิบของลงมาเสร็จ ถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเดินเข้าไป

“เมื่อกี้หนูทําอะไร?”

ได้ยินเสียงของหานคู่จื่อ หานมู่จื่อตกใจสะดุ้ง ใบหน้า เล็กๆ มืดมน ดวงตากะพริบถี่ๆ พูดด้วยท่าทีไร้เดียงสา “หม่าม เมื่อกี้หนูกำลังทำอาหารอยู่

“ทำอาหาร? ” หานมู่จื่อขมวดคิ้ว “หนูเรียนรู้การทําอาหาร ตั้งแต่เมื่อไหร่? หนูรู้ไหมว่าเมื่อกี้อันตรายมากแค่ไหน? ยืน สูงขนาดนี้ ถ้าล้มลงมาจะทำยังไง?

มีเพียงพระเจ้าที่รู้ว่า ตอนที่เธอเห็นเขายืนอยู่บนเก้าอี้ ยื่น มือออกไปหยิบของ หัวใจของหาน จื่อแทบจะพุ่งออกมาถึง คอหอย กลัวว่าเขาจะไม่ระวัง ถึงเวลานั้นตกลงมาจะทำยัง ไง?

แต่ต่อให้ตกใจหวาดกลัวมากขนาดไหน ก็ไม่กล้าเขาใน เวลาแรก กลัวว่าตัวเองส่งเสียงดังกะทันหัน เขาจะตกใจ เพราะตัวเอง

“หม่ามี ไม่ต้องเป็นห่วง เสี่ยวหมี่โต้วจะระมัดระวังที่สุด จะไม่ล้มลงมาหรอก!

เขาเน้นย้ำกับหานคู่จื่ออย่างจริงจัง จากนั้นก็ก้าวเดินไป ข้างหน้า เขย่ากันเล็กๆขึ้น แล้ววางชามและตะเกียบลงบนโต๊ะ หันกลับมาเรียกหานคู่จื่อ “หม่าม รีบเข้ามาทาน อาหารเข้าได้แล้ว”

หานผู่จื่อ โกรธกับพฤติกรรมของเขาจนปวดหัว ยืนนิ่งอยู่ กับที่ไม่อยากขยับ

เสี่ยวหมี่โต้วเห็นว่าเธอยังยืนอยู่ที่นั่น เลยต้องเดินเข้าไป จับมือของเธอเอง แต่ก็ไม่สามารถดึงหาน จื่อได้ จึงต้องพูด ด้วยเสียงอ่อนนุ่ม “หม่ามี้ เสี่ยวหมี่โต้ว รู้ตัวว่าผิดไปแล้ว คราวหน้าจะไม่ยืนสูงขนาดนี้แล้ว

“คราวหน้า?” หานมู่จื่อหรี่ตาลง

ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วจึงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที “จะไม่มีครั้ง ต่อไปอีกแล้ว หม่า อาหารเช้าที่หนูตั้งใจทำ หม่ามีจะไม่กิน จริงๆเหรอ? เดี๋ยวจะเย็นหมดแล้ว”

หานมู่จื่อ “..

เมื่อพูดถึงตอนนี้ หานมู่จื่อก็รู้สึกใจอ่อนเล็กน้อย

ใช่สิ นี่คืออาหารเช้าที่ลูกชายสุดที่รักของเธอ ตื่นขึ้นมา ทำให้เธอตั้งแต่เช้า เธอจะไม่กินได้อย่างไร? นั่นจะทำให้ เขาเสียความตั้งใจโดยเปล่าประโยชน์ไม่ใช่หรือ?

เมื่อเห็นสีหน้าของหาน จื่ออ่อนลงเล็กน้อย เสี่ยวหมี่โต้ว จึงรีบพาเธอไปนั่งที่โต๊ะอาหาร

ทั้งสองนั่งอยู่ในที่เดียวกัน หานมู่จื่อมองดูอาหารเช้าตรงหน้า

อันที่จริงเรียบง่ายมาก คือไข่ดาวที่เสี่ยวหมี่โวเดียวเอง และขนมปังที่เพิ่งปิ้งเสร็จ กับน้ำเต้าหู้

เพราะเสี่ยวเหยียนเชี่ยวชาญด้านการ ดังนั้นที่บ้านสิ่งที่ควรจะมี ก็ไม่ขาดเลย ทำอาหารเป็นพิเศษ

หานจื่อเม้มริมฝีปาก คีบไข่ดาวขึ้นมากัดคำหนึ่ง พบว่า ไข่นั้นทอดได้พอดีเลย และยังอร่อยมากด้วย

ค่อนข้างคาดไม่ถึง เธอมองไปที่เสี่ยวหมี่โต้ว เสี่ยวหมี่โต้ กำลังมองมาที่เธออย่างตั้งตารอคอย

“หม่ามี้ อร่อยไหม?”

แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง เหมือนกำลังรอคำชม

ของเธอ

เธอไม่ตระหนี่กับคำชมของเธอที่มีต่อลูกชายอยู่แล้ว หา นอพยักหน้า ยิ้มเบาๆ “อร่อยกว่าที่หม่ามีคิดไว้มาก

“ขอบคุณหม่า! งั้นหมาทานเยอะๆเลย ถ้าหม่ามีชอบ ต่อไปเสี่ยวหมี่โต้วสามารถทำให้หมากินได้ทุกวัน

ทานจื่อ …..

ทันใดนั้นก็รู้สึกว่า ไข่ที่กลืนเข้าไป ไม่ได้หอมนุ่มขนาดนั้น แล้ว เธอครุ่นคิดครู่หนึ่ง ถามด้วยเสียงเบา “เสี่ยวหมี่ โต้เรียนรู้ทำเหล่านี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เพิ่งเรียนรู้ในช่วงนี้เอง”

ทานมู่จื่อนิ่งชั่วคราว “เสี่ยวหมี่โต้ว โกหก?”

“หม่ามี้?”

“เพิ่งเรียนรู้ ทำไมถึงทำได้ดีขนาดนี้? หนูบอกกับหม่ามี หนูเรียนรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่? อีกอย่าง ทำไมหนูต้องเรียน สิ่งนี้ด้วย?”

“ฮิฮิ” เสี่ยวหมี่โต้วแสดงรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา ที่มีในเฉพาะ เด็ก พูดอย่างจริงจัง “นี่หม่ามีกำลังชมเสี่ยวหมี่โต้วอยู่เหรอ? หนูก็ไม่ได้เรียนรู้เป็นพิเศษ แต่เพราะมักจะติดตามน้าเสียว เหยียน ดังนั้นค่อยๆก็ทำเป็นเลย

ติดตามเสี่ยวเหยียนเหรอ?

อาหารเช้าของพวกเธอทั้งสามคน คือเสี่ยวเหยียนที่รับผิด ชอบมาโดยตลอด บางครั้งหาน จื่อมีเวลาว่าง ก็จะทำ อาหารเอง บางครั้ง เสี่ยวหมี่โต้ว ก็จะคอยดูอยู่ข้างๆ

แต่ว่า……เวลาส่วนใหญ่ เธอก็ไม่ได้ทำอาหารมากนัก

“บางทีหม่ามีเหนื่อยเกินไป เสี่ยวหมี่โต้วอยากแบ่งเบา

ภาระกับหม่ามีบ้าง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานมู่จื่อรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก เธอไม่เคยคิดเลย ที่จะให้ลูกของตัวเอง รู้เรื่องรู้ราวมากกว่าลูกของคน

อื่น

เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ ก็หมายความว่า สภาพแวดล้อมที่ลูก ของเธอเติบโตมา ไม่มีความรักความเอาใจเอาใจใส่มากนัก ถึงทำให้เขาค่อยๆเติบโตเป็นผู้ใหญ่ตัวเล็ก

แต่ตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้ว ก็ยังได้กลายเป็นเข้าอกเข้าใจคน อื่นขนาดนี้ นั้นก็แสดงว่า ความห่วงใยที่เธอให้กับเขาใน ปกติยังไม่พอแน่นอน

เมื่อคิดถึงเช่นนี้ หานมู่จื่อก็ไม่พูดอะไรอีก กินไข่ดาวให้ หมดอย่างเงียบๆ แล้วก็ไปดื่มน้ำเต้าหู้

ในระหว่างกระบวนการทั้งหมด เธอไม่ได้ยิ้มเลย เสี่ยวหมี่ โต้ว เห็นท่าทางกลัดกลุ้มไม่มีความสุขของเธอ จึงถามด้วย ความกลุ้มใจเล็กน้อย “คือเสี่ยวหมี่โต้วทำได้ไม่อร่อยเหรอ? หม่ามีเลยไม่ดีใจ?”

หานมู่จื่อตั้งตัวได้ รีบแสดงรอยยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว ปฏิเสธ “ไม่ใช่ เสี่ยวหมี่โต้วทำได้ดีมาก

เธอยื่นมือไปลูบหัวของเสี่ยวหมี่โต้วเบาๆ พูดด้วยเสียง เบา แต่คราวหน้าห้ามตื่นเช้าแบบนี้ มาทำอาหารเช้าให้ หม่ามแล้วนะ หนูยังเป็นแค่เด็กเท่านั้น หนูแค่รอให้หม่ามีมา ทำก็พอ หรือว่าถ้าหนูอยากกิน ก็บอกกับหม่ามี หม่ามี้จะต้อง ตื่นแน่นอน ได้ไหม?เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตาถี่ๆ สุดท้ายก็พยักหน้า “หนูเข้าใจ แล้ว หม่ามี้!”

“อย่าแสร้งทำเป็นตกลง แต่จำไว้ในใจ ! หานคู่จื่อเน้นย้ำ

อีกครั้ง

“อืม!!!”

ตระกูลหาน

” เสี่ยวเหยียนหลับลึกมาก พลิกตัวครั้ง ทันใดนั้นก็ตกกระแทกลงจากเตียง

ตูม!

หนึ่ง

ร่างกายตกลงบนพื้นแข็งโดยตรง เดิมทีเสี่ยวเหยียนที่ยัง คงหลับลึก ในเวลานี้ ตื่นเพราะความเจ็บทันที เธอจับแขนที่ กระแทกจนปวดไว้ แล้วค่อยๆลุกขึ้นนั่ง สีหน้าสับสนมึนงง

เกิดอะไรขึ้น……

เธอจําได้ว่าเตียงของตัวเองติดกับกำแพง และมีราวกั้น

ด้วย

เนื่องจากนิสัยการนอนของเธอ ดังนั้นเตียงของเธอ จึงซื้อ

เตียงที่สั่งทำพิเศษ โดยเฉพาะ ทำไมยังตกลงมาได้?” เสี่ยวเหยียนขยี้ผมของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง แต่วินาทีต่อมา ก็ได้เห็นร่างที่เธอไม่คาดคิด

บนระเบียงที่เชื่อมระหว่างห้อง มีร่างสูงเพรียวนั่งอยู่ที่นั่น เพราะกำลังอ่านหนังสือ จึงเผยให้เห็นเพียงใบหน้าด้านข้าง เท่านั้น

ตัวเขาเหมือนกำลังอาบแดดทั้งร่าง แสงแดดยามเช้าอ่อน โยนเป็นพิเศษ ทำให้ร่างของเขาทั้งหมด ก็อ่อนโยนตามด้วย

เสี่ยวเหยียนเฝ้าดูเรื่อยๆ ก็เผลอหลงใหล โดยไม่รู้ตัว สอง มือกุมหน้าไว้ จ้องมองหานซึ่งอย่างล่องลอย

ช่างดีมากจริงๆ!

“ถ้าได้เจอเทพบุตรในความฝันทุกวัน ก็คงจะดี

ในตอนท้าย เสี่ยวเหยียนก็พูดถอนหายใจ

และในเวลานี้ หานซึ่งก็ได้ขยับตัวโดยไม่คาดคิด สายตา เย็นชา จ้องมองที่หน้าเธอ ริมฝีปากบางเปิดออกเบาๆ

“ตื่นแล้ว?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ