เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่38 ในที่สุดก็มีเบาะแส



บทที่38 ในที่สุดก็มีเบาะแส

หานเส่โยวเสียงดังจนทะลุโทรศัพท์มือถือออกมา ซึ่งถือว่าดังมากในห้องที่เงียบสงบแบบนี้

ด้วยความเกรงใจ ดังนั้นเสิ่นเฉียวรีบเอามือปิด ลำโพงโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงหันไปมองทาง

ห้องน้ำแวบหนึ่ง พบว่าไม่มีใคร มีเพียงเสียงซ่าของน้ำ

เท่านั้น

เธอคุยโทรศัพท์อยู่ตรงนี้ พวกเขาคงไม่ได้ยิน หรอก?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เสิ่นเฉียว กระแอมเบาหนึ่งที่และ แนบโทรศัพท์ไว้ที่ข้างหูอีกครั้ง จากนั้นจึงพยักหน้า: “อืม เมื่อกี้ที่ฉันส่งข้อความให้เธอเห็นรึเปล่า?”

“เห็นแล้ว เธอบอกว่าเจอกระดุมเม็ดหนึ่ง น่าจะเป็น ของผู้ชายคนนั้น ใช่ไหม?”

“อืม เธอเจอเบาะแสอะไรบ้างไหม?”

“ไม่เลย เธอไม่ให้ข้อมูลอะไรฉันเลยนี่ ให้ฉันหาคน ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เฉียวเฉียวในเมื่อเธอมีของ ของผู้ชายคนนั้นงั้นกระดุมนั่นเป็นยังไง เดี๋ยวเธอถ่ายรูป แล้วส่งมาให้ฉันนะ”

ได้”

หานเส่โยวถอนหายใจ: “เธอเป็นยังไงบ้าง? นายเย่ โม่เซินนั้นไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจแล้วใช่ไหม?”

ไม่มี พวกเราทำข้อตกลงกันแล้ว ฉันมีเวลาหกเดือนอยู่ในตระกูลเย่ หลังจากครึ่งปีฉันจะไป”

“ผู้ชายคนนี้เข้าใจยาก ครึ่งปีท้องเธอก็คงใหญ่จน เห็นชัดแล้วล่ะ แต่ยังดีที่เป็นฤดูหนาวพอดี เธอเป็นคนตัว ผอม ถึงเวลานั้นสวมเสื้อตัวหลวม ๆ ก็คงคลุมไปได้”

“อืม”

“เอาล่ะ เธอส่งรูปมาให้ฉันก่อนเถอะ”

หลังจากวางสาย เสิ่นเฉียวเปิดกล้องโทรศัพท์จาก นั้นจึงวางกระดุมเม็ดสีทองวางไว้บนฝ่ามือจากนั้นถึงถ่าย รูปไว้จำนวนหนึ่ง เมื่อส่งรูปไปก็ได้ยินเสียงจากด้านหลัง พอดี

เสิ่นเฉียว ตกใจมือสั่นจนกระดุมหล่นลงพื้น จากนั้น จึงกลิ้งไปหยุดอยู่ใต้เดียงของเย่โม่เซิน

เสิ่นเฉียวทำได้เพียงตกตะลึงและเบิกตาโพลง มอง ดูกระดุมนั้นกลิ้งไปต่อหน้าเธอ แต่กลับไม่กล้าลุกขึ้นไป เก็บมัน

เธอหันกลับมา เห็นเซียวซูเข็นเย่โม่เซินออกมาจาก ห้องน้ำพอดี

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่างแน่นและหน้าซีดเผือด

หลังจากเย่โม่เซินออกมาและหันไปมองเธอโดย ไม่ตั้งใจ เจอเธอสีหน้าซีดขาว อีกทั้งยังกำโทรศัพท์แน่น เหมือนโจรขโมยของที่ร้อนตัว จากนั้นจึงหรี่ตาเรียวยาว และมองเธอย่างเป็นภัย

เมื่อโดนมองโดยดวงตาดำคู่นั้น เสิ่นเฉียว กระวนกระวายใจจนเหงื่อออกบนหน้าผาก
เธอไม่สามารถปิดบังความคิดของตนเอง ดังนั้นมัน จึงโชว์อยู่บนใบหน้า เชาวน์ปัญญาของเย่โม่เซินก็ช่าง แม่นยำ ดูแป๊บเดียวก็รู้ว่ามีเงื่อนงำ

เพียงแค่ ขี้เกียจจะไปสนใจเธอ

“คุณชายเย่ งั้นผมขอตัว”

“อือ”

หลังจากที่เซียวซูไปแล้ว เย่โม่เซินบังคับวีลแชร์ไป ที่ข้างหน้าต่าง และมีนิตยสารการเงินในมือ

เสิ่นเฉียวได้เห็นภาพนี้แล้วจิตใจล่องลอย

เย่โม่เซินที่อาบน้ำแล้วและสวมชุดลำลองสีน้ำเงิน เข้ม สีเข้มยิ่งทำให้เขาดูเงียบสงบ ขณะเดียวกันก็ทำให้เขา ดูเยือกเย็นไม่น่าเข้าใกล้ เวลาก้มหน้าด้านข้างเห็นกราม เป็นสัน อีกทั้งริมฝีปากบางกระจับ เหมือนภาพร่างที่ตั้งใจ ของจิตรกร อีกทั้งดวงตาดำขลับคู่นั้น

“น่าดูไหม?”

มองดูดวงตาล่องลอยและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เสิ่นเฉียวได้สติกลับมา เห็นเยโม่เซินค่อย ๆ เงย หน้ามา ดวงตาดำขลับคู่นั้นประสานสายตากับเธอกลาง

อากาศ

มองดูคนอื่นใจลอยแล้วถูกจับได้ ก็ถือว่าน่าอายไม่

น้อย

เสิ่นเฉียวกระแอมเบา ๆ หนึ่งที่ หน้าแดงและหลบ

สายตา

หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้สติกลับคืนมา แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาคิดถึงเรื่องแบบนี้ เธอควรจะ คิดถึงเรื่องกระดุมนั่นที่กลิ้งเข้าไปอยู่ใต้เตียงแล้ว แล้วเธอ จะเอามันกลับมาอย่างไร?

เสิ่นเฉียวไม่กล้าไปอาบน้ำ กลัวว่าเย่โม่เซินจะเจอ

เข้า

อันที่จริงต่อให้เจอ ก็ไม่กลัวเขา

เสิ่นเฉียวเพียงแค่เกรงใจ!

ดังนั้นเมื่อเยโม่เซินยังไม่นอน เธอจึงคอยนั่งอยู่ ข้าง ๆ นั่งไปนั่งมากลายเป็นการนั่งจ้องเขา

เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง เย่โม่เซินโดนเธอจ้องจนทนไม่ ได้ พับปิดนิตยสารที่อยู่ในมือ ทำให้เส้นเฉียวตกใจ

เธอรีบหันไปมองทางอื่น

เย่โม่เซินขยับวีลแชร์ เข้ามาใกล้เธอ

หลังจากเสิ่นเฉียวได้ยินเสียงดังเธอจึงยืนขึ้น

“ฉัน ๆ ๆ ไปอาบน้ำก่อน”

เมื่อพูดจบ เสิ่นเฉียวรีบเดินผ่านเขาเดินตรงไป ห้องน้ำ

ในเวลาเช่นนี้เธอไม่มีแก่ใจจะสนใจกระดุมเม็ดนั้น เพียงแค่สบตาและพบสายตาอันล้ำลึกและน่ากลัวเช่นนั้น ของ เย่โม่เซิน เส้นเฉียวต้องรีบหลบเข้ามาในห้องน้ำ

เธอเปิดฝักบัวอย่างกลัดกลุ่มใจ เส้นเฉียวหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็น หานเส่โยวส่งข้อความภาพทำมือ OK มาให้ เพื่อให้เธอทำใจให้สบายและรอฟังข่าว เธอจึง ได้นำโทรศัพท์วางไว้สูง ๆ แล้วจึงไปอาบน้ำ
เสิ่นเฉียวคิดว่าเธอจะอาบน้ำช้าหน่อย เพื่อให้ได้ ออกไปตอนเย่โม่เซินหลับพอดี จากนั้นเธอจึงค่อยหยิบ กระดุมออกมาจากใต้เตียง

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว เสิ่นเฉียวจึงตั้งใจอาบน้ำ แต่เมื่อเธออาบเสร็จแล้ว เสิ่นเฉียวพบว่าสิ่งที่น่า เสียใจมากกว่าเรื่องกระดุมกลิ้งไปใต้เตียงคือ

นั่นก็คือ…เธอลืมหยิบเสื้อผ้าเข้ามา!!!

เมื่อครู่รีบเกินไป ดังนั้นแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่หยิบมา เสื้อชุดเดิมก็เปียกหมดแล้ว ไม่สามารถใส่ได้แล้ว เสิ่น เฉียวยืมมองอย่างสิ้นหวังอยู่ตรงนั้นอยู่นาน จึงพบว่ายังมี ผ้าเช็ดตัวที่ใช้ได้อยู่อีกหนึ่งผืน

เธอจึงหยิบมาพันตัวเองไว้ แต่เธอก็ยังไม่กล้าออก

ไป

ความประทับใจของเย่โม่เซินต่อเธอนั้นแย่มาก

ถ้าหากว่าเธอพันผ้าเช็ดตัวออกไปแบบนี้ เขาคงจะ คิดว่าเธอกำลังยั่วยวนเขาอยู่แน่

เสิ่นเฉียว ทำได้เพียงรออยู่ในห้องน้ำประมาณครึ่ง ชั่วโมง รอจนเธอเกือบจะหลับไป เลือกเวลาที่เยโม่เซินน่า จะพักผ่อนไปแล้ว เธอจึงแอบย่องออกมาจากห้องน้ำ

ข้างนอกเงียบสนิท ไม่มีใครอยู่สักคน

เยโม่เซินคงจะไปนอนแล้ว?

เส้นเฉียวเดินย่องเท้าเปล่าไปข้างหน้า

“ยายวันทองหญิงแต่งครั้งที่สอง”
เสียงอันเย็นชาลอยมาจากด้านข้าง เสิ่นเฉียวหยุด เดินในทันที เธอไม่อยากจะเชื่อสายตา…

เย่โม่เซิน..

“คุณ คุณยังไม่ไปนอนเหรอคะ?”

“เหอะ” เย่โม่เซินยกมุมปากหัวเราะเย้ยหยัน: “เธอ สมองเสื่อมเหรอ? เธอไม่ช่วยฉัน ฉันจะนอนยังไง?”

เสิ่นเฉียว: “..”

มองดูเขาอย่างเก้อเขินพักหนึ่ง เสิ่นเฉียวชี้ไปที่ตัว เอง: “ช่วยคุณ? ไปที่เตียง?”

“เธอว่าไง?” เย่โม่เซินเลิกคิ้ว มองไปที่เธอด้วยแวว ตาร้ายกาจ

เธอที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จผิวขาวใสเนียน หยดน้ำไหล กลิ้งราวกับจะแตกออก คงเพราะอบตัวอยู่ในห้องน้ำนาน แล้ว ดังนั้นหน้าเธอจึงแดงก่ำ ตาสวยคู่นั้นยังดูเปียกชุ่มน้ำ ไปด้วย

ผ้าเช็ดตัวรัดแน่นในส่วนที่ควรรัด แต่ยิ่งกลับดูวับ ๆ แวม ๆ กระตุ้นจิตใจยิ่งนัก ขาเรียวสวยคู่นั้นที่ไม่รู้จะทำอย่างไรยืนอยู่ตรงหน้า

เขา เธอที่คาดไม่ถึงว่าออกมาแล้วจะเจอเขา หรืออีกทีคือ คำนวณมาอย่างดีแล้ว

“มานี่” เย่โม่เซิน พูด

เสิ่นเฉียวกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว

แต่เธอยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า แล้วเขาให้เธอเดินไป

หา?
“คุณรอเดี๋ยว!” เสื่นเฉียวก้าวไปและคิดว่าจะสวม เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน ไม่คิดว่าเย่โม่เซินจะยังยืนยันคำ พูดของตนเอง

“ให้เธอมานี่ หูตึงรึไง?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ