เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 528 ที่มแทง



บทที่ 528 ที่มแทง

ประตูรถได้ถูกไว้แล้ว ทำให้หานมู่จื่อหมดหนทางที่จะ หนีไปได้

อาจจะเป็นเพราะความโกรธที่พุ่งทะยานขึ้นมา ดังนั้นสายตาของเย่ โม่เซินนั้นปกคลุมไปด้วยความโกรธ มันลุกโซนจนดวงตาของหานมู่จื่อ แทบจะแสบร้อนไปด้วย ริมฝีปากของเธอขยับแล้ว แต่เธอพูดไม่ออกเลยแม้แต่ประโยคเดียว

เป็นครั้งแรกที่หานมู่จื่อเห็นท่าทางอย่างนี้ของเยโม่เซิน

ตั้งแต่ที่พบหน้ากันจนถึงตอนนี้เขาก็อยู่ในสถานการณ์แบบที่ไร้ เหตุผลเสมอ ตามรังควานตัวเอง แม้จะไม่รู้ว่าในช่วงห้าปีนี้ให้แรง บันดาลใจอะไรถึงทำให้จู่ๆ เขาเปลี่ยนตัวเองไป

แต่ว่าดูท่าทางของเขาตอนนี้แล้วก็กลัวว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม “ผมคิดว่าจะให้เวลาคุณอยู่แล้ว” เย่โม่เซินหรี่ตาจ้องมองเธออย่าง

อันตราย: “ขอเพียงกลับมาอยู่ ข้างกายผม แต่ไม่เชื่อง จริงๆ

ภายในใจก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเยโม่เซิน เอ่ย อย่างหวาดๆ ว่า: “คุณ คุณจะทำอะไร? ” “ทำอะไรหรอ? ” เย่โม่เซินแสยะยิ้มเย็น เอื้อมมือมาบีบคางของเธอ

ไว้”ผู้หญิงที่ใจด้านชาอย่างคุณยังมาสนใจว่าผมคิดจะทำอะไรด้วย

หรอ? ”

หานมู่จื่อกัดริมฝีปากล่างแล้วมองเขาอย่างดื้อดึง

แววตานี้ทำให้เยโม่วูบไปชั่วขณะ มันนานมากแล้ว….

เขาไม่เคยได้เห็นแววตาของเมื่อห้าปีกอนเหมือนอย่างตอนนี้ของ เธออีกเลย แต่หลังจากห้าปีต่อมา…แววตาที่เธอมองตัวเองนั้นช่าง เยือกเย็นและเย็นชาเสียมากกว่า ราวกับว่าไม่มีใครสามารถกระตุ้นความรู้สึกในหัวใจของเธอได้

ดังนั้นเยโม่เซินจึงเปลี่ยนวิธีโดยคิดว่าตัวเขานั้นสามารถตามตื้อเธอ ได้ก็โอเคแล้ว

แล้วตอนนี้ล่ะ?

ไม่นึกเลยว่าเธอจะไปนัดดูตัวกับชายอื่นจนกระทั่งเปลี่ยนที่กับเขา?

เปลี่ยนที่ไหน?

ยิ่งเยโม่เซินคิดก็ยิ่งโมโห สีหน้าก็ยิ่งเย็นยะเยือกมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมีเมฆดำทะมึนจากกายเขาแผ่มาปกคลุมกดทับหานมู่จื่อไว้

ในขณะที่ประตูรถถูกล็อกอยู่ สองมือของเย่โมเซินก็กักขังเธอไว้ แล้วจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ

สายตาของเขานั้นเหมือนจะกินคนอย่างไรอย่างนั้น

“ฉันไม่สนใจอยู่แล้วว่าคุณจะทำอะไร แต่มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉัน ด้วย ฉันก็ต้องถามเป็นปกติ แต่ถ้าคุณให้ฉันลงจากรถ ไม่ว่าคุณอยาก จะทำอะไร ฉันก็จะไม่ก้าวก่ายเลยอื้อ”

ทันทีที่พูดจบ เยโม่เซินก็ออกแรงบีบคางของเธอ จากนั้นก็กดจูบลง มาอีกครั้ง

หานมู่จื่อตาเบิกกว้าง เธอถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้นเพื่อรับจูบของเขา

ได้แต่ยื่นมือไปผลักหน้าอกของเขาออก

แต่แรงของของเยโม่เซินก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนที่หานมู่จื่อคิด ว่าตัวเธอแทบทนไม่ไหวแล้วกลับมีเสียงเคาะกระจกรถดังมาจากด้าน

นอก

จูบยังดำเนินต่อไป–

ก๊อก ก๊อก ก๊อก–

คนที่อยู่ด้านนอกยังคงเคาะกระจกรถอยู่ หานมู่จื่อได้ยินเสียงใคร บางคนที่ตะโกนลั่นอยู่ไม่ชัดเจนนัก: “คุณจอดรถที่นี่ไม่ได้นะ”

เสียงเคาะกระจกรถไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง สุดท้ายเยโม่เซินก็จำใจ ปล่อยหานมู่จื่อแล้วลดกระจกรถลงอย่างหงุดหงิด “นั่น…จอดรถตรงนี้ไม่ได้..

ตำรวจจราจรเพียงจะบอกว่าไม่สามารถจอดรถตรงนี้ได้แล้วขอให้ เยโม่เซินขับรถออกไป แต่หลังจากได้สบเข้ากับสายตาที่เย็นยะเยือก นั้น เขาก็รู้สึกได้ว่าปลายเท้าเย็นเฉียบ ตัวสั่นเทาขึ้นมาแบบไม่มี เหตุผล ค่าพูดที่จ่ออยู่ริมฝีปากก็ได้หุบกลับเข้าไปคืน

“อยากตายหรอ? ” เย่โม่เซินจ้องอีกฝ่ายแล้วพูดอย่างเย็นชา

ตำรวจจราจรส่ายหัว”ไม่ครับ”

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้สติกลับมาแล้วคิดว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ผดุง คุณธรรมแล้วจะมาถูกผู้ชายตรงหน้านี้ทำให้เสียขวัญได้อย่างไร? ดัง นั้นเขาจึงยึดอกขึ้นแล้วกระแอมไอเบาๆ : “คุณผู้ชายครับ ที่นี่ไม่ อนุญาตให้จอดรถส่วนบุคคลได้ ถ้าคุณยังไม่ขยับรถออกไปอีก อย่าง นั้นผมคงต้องออกใบสั่งนะครับ”

วันนี้เป็นการทำงานวันแรกของเขาดังนั้นเขาต้องทำหน้าที่ของตัว

เองให้ดี

สายตาคมสีดำสนิทของเย่โม่เซินจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็น เหยียบ

สายตาดุดันราวกับสายฟ้าฟาดทำให้คนขนลุกขนพอง ตำรวจ จราจรที่ยืดอกอยู่นานก็หดคอลง : “คุณครับ ตรงนี้จอดรถไม่ได้จริงๆ ถ้าคุณขับรถออกไปตอนนี้ ผมจะไม่ออกใบสั่งให้คุณแน่นอนครับ”

ทางด้านหานมู่จื่อก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ถึงอย่างไรก็รู้สึกว่าการปรากฏตัวของตำรวจจราจรคนนี้นั้นช่วยแก้ ปัญหาของเธอได้ ถ้าไม่ใช่เขาแล้วละก็ กลัวว่าเธอตอนนี้อาจจะยังถูก เย่โม่เซินกักตัวไว้อยู่

เมื่อเห็นว่าพวกเขายังถกเถียงกันอยู่ หานมู่จื่อจึงยื่นมือออกไปปลด ล็อคประตูรถอย่างเงียบๆ และในตอนที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถเพื่อ เตรียมตัวหนีนั้น เยโม่เซินก็เงื้อมืออันชั่วร้ายมาจับที่ข้อมือเธอไว้ “จะ ไปไหน? ”

สีหน้าหานมู่จื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย คนคนนี้

“ปล่อยฉัน”

เยโมเซินล็อกประตูรถอีกครั้ง “ในเมื่อคุณอยากจะหนี งั้นผมจะ ทำให้คุณหนีไม่ได้อีก”

เมื่อสิ้นคำพูด เขาก็ปรับกระจกรถขึ้นแล้วขับรถออกมาจากตรงนั้น ตำรวจจราจรยืนอยู่ที่เดิมด้วยความตกตะลึงอยู่นานก่อนจะรู้สึกตัว

ขึ้นมา

เมื่อกี้ …. มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? คือการลักพาตัวหรอ?

ไม่อย่างนั้นจะพูดทำไมว่า ถ้าอยากจะหนีก็ไม่ให้หนี? แต่ดูสีหน้าท่าทางของพวกเขาแล้วดูเหมือนเป็นคู่รักที่กำลังทะเลาะ

กัน?

หลังจากที่รถยนต์ขับออกไปไกลแล้ว หานมู่จื่อจึงโต้ตอบมาว่า: “คุณจะพาฉันไปไหน? ”

เยโมเซินทำหน้านิ่งและไม่ตอบคำถามเธอ รถยนต์เคลื่อนตัวอย่าง รวดเร็วทำให้หานมู่จื่อรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ได้แค่เพียงพูดกับเขาว่า “เยโมเซิน คุณจะเอายังไง? ”

“หี” เขาแสยะยิ้ม “ไม่ได้ต้องการอะไร แต่แค่คุณไม่เชื่อฟังเอาซะ เลย คุณเอาออร์เดอร์ของผมโยนให้พนักงานที่อยู่ในปกครองของคุณ แล้วยังแอบผมไปนัดดูตัวอีก? ”

หานมู่จื่อกัดฟันกรอด : “ฉันไม่มีเวลามาจัดการเรื่องของคุณ ดังนั้น เลยให้พนักงานรับออร์เดอร์ของคุณ”

“แล้วนัดดูตัวล่ะ? ”

หานมู่จื่อเงียบไปพักหนึ่ง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า: “ฉัน อยากแต่งงานแล้ว”

“อยากแต่งงาน? คุณคิดว่าผมตายไปแล้วหรอ? ” น้ำเสียงของเย่โม่ เซ็นนั้นแย่มากๆ

“เปล่านะ” หานมู่จื่อเอ่ยปฏิเสธเมื่อนึกถึงเรื่องก่อนหน้านั้นที่หานชิง “ บอกกับตัวเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองไปทางเยโม่เซิน: “ฉันไม่ได้คิดว่า คุณเป็นคนตาย แต่คุณกล้าเอาทะเบียนสมรสมาให้ฉันดูไหมล่ะ? ”

เยโมเซินเหยียบเบรกทันทีแล้วหันหน้าไปจ้องหานมู่จื่ออย่างน่ากลัว

สายตาดำสนิทราวกับสัตว์ป่าที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด

แต่ในขณะเดียวกันหานมู่จื่อกลับมีความกล้าสบสายตาของเขา

ตรงๆ

“คุณกล้าไหม? ”

เยโม่เซินไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าที่แสดงออกมากลับยิ่งเคร่งขรึม

มากขึ้นเรื่อยๆ

“หี” หานมู่จื่อมองท่าทางนี้ของเขาก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “คุณไม่กล้าใช่ไหมล่ะ? เพราะว่ามันไม่ใช่ทะเบียนสมรสของเราสอง คนไง”

เยโมเซินรู้สึกถึงลมหายใจที่ถี่ขึ้น คิ้วของเขาขมวดกันแน่น

“ตอนนั้นไม่ใช่ชื่อจริงของฉันแต่งงานเข้าตระกูลเย่อยู่แล้ว ดังนั้นใน ทะเบียนสมรสจึงไม่ใช่คุณกับฉัน ชื่อบนนั้นคือชื่อเสิ่นโย่ว ถึงรูปถ่าย จะเป็นฉัน แต่ว่า…ถ้าเรื่องนี้ขึ้นในชั้นศาล ความรู้สึกบาดหมางกัน แยก กันอยู่มาห้าปี คุณคิดว่าคุณมีโอกาสชนะเท่าไหร่หรอ? ”

หลังจากวิเคราะห์เรื่องนี้แล้ว หานมู่จือไม่คิดว่าในสถานการณ์นี้ สมองของเธอจะเงียบสงบมากขนาดนี้

เยโมเซินก็คงคิดไม่ถึงว่าเธอจะเยือกเย็นขนาดนี้ และเขาก็คงไม่คิด ว่าเธอจะรู้เรื่องนี้ด้วย

เรื่องทั้งหมดนี้อยู่เหนือการควบคุมของเขา

เดิมทีก็คิดว่าขอเพียงแต่บอกเธอว่าไม่หย่าก็สามารถรั้งเธอไว้ได้ แต่..ไม่คิดเลยว่าจะทำให้เธอเจอช่องโจมตี ดวงตาของเปโม่เซินหม่นลงเล็กน้อย: “หานชิงบอกคุณหรอ?”

หานมู่จื่อ: “คุณไม่ต้องสนใจหรอกว่าใครเป็นคนบอกฉัน เรื่องนี้เป็น

เรื่องจริงใช่ไหม? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ