เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 48 ทะเลาะ



บทที่ 48 ทะเลาะ

ใช่ เสิ่นเฉียวเข้าใจ

เธอได้แต่งงานออกไปแค่นี้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว จริง ๆก็ไม่มีทางเลือกหรอก

แต่ว่า ….พอเห็นคุณแม่เส้่นไม่เศร้าเลยสักนิด ไม่ กังวลแทนเธอแบบนั้น เสิ่นเฉียวจึงรู้สึกเศร้าเป็นพิเศษ หรือว่า แม่จะไม่แคร์ความรู้สึกของเธอเลย ? คิดถึงจุดนี้ เสิ่นเฉียวมองไปที่อาหารตรงหน้าก็ไม่มี ความอยากแล้ว

เสิ่นเฉียวตักข้าวเข้าปากสองสามคำ จากนั้นก็วาง ตะเกียบ : “พ่อคะ แม่คะ หนูกินข้าวมาจากตระกูลเย่แล้ว กินไม่ไหวแล้วค่ะ หนูขึ้นไปหยิบของข้างบนก่อนนะ”

พูดจบ เส้นเฉียวไม่รอให้ทั้งสองตอบก็รีบลุกขึ้นเดิน ไปบนบ้าน

คุณแม่เสิ่นเห็นดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะเบะ ปาก : “เฉียวเฉียวโทษฉันใช่มั้ย ? ”

ได้ยินแบบนั้น คุณพ่อเสียก็ถอนหายใจออกมา”ไม่ น่าใช่ ลูกคนนี้รู้เรื่องมาก”

“ถ้าไม่ได้โทษฉันงั้นก็แสดงว่าอยู่ตระกูลเย่มีความ เป็นอยู่ดีสินะ อาหารของพวกเราตระกูลเงินเลยไม่ถูกปาก แล้ว ? ”

คุณพ่อเสิ่นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา : “คุณพู ดมัวๆอะไรแบบนั้น ? ”
“คุณว่าฉันพูดมั่วๆเหรอ ? คุณดูท่าทางของลูกก็รู้ แล้ว ! “คุณแม่เสิ่นโกรธจนวางตะเกียบกับถ้วย และก็กิน ไม่ลงแล้ว

เสิ่นเฉียวกลับไปถึงห้องของตัวเอง พอเปิดประตู เข้าไปกลับพบว่าภายในห้องค่อนข้างยุ่งเหยิงไม่เป็น ระเบียบ เธอขมวดคิ้วแล้วเดินเข้าไป มองดูห้องที่ถูกรื้อ

ตอนที่เธอไปมันไม่ใช่แบบนี้ ใครกันที่เข้ามารื้อข้าว ของของเธอ?

พอคิดขึ้นได้ เสิ่นเฉียวก็หน้าซีด รีบเดินไปเปิดลิ้น ชักของตู้ พอเปิดแล้วก็เอากล่องเล็กๆข้างในนั้นหยิบออก มา และพบว่าสมุดบัญชีเงินฝากที่อยู่ข้างในหายไปอย่าง ไร้ร้องรอย

เสิ่นเฉียวหน้าซีดกว่าเดิม กัดริมฝีปากแน่น

ต้องเป็นเสิ่นโย่วแน่ๆที่เข้ามาในห้องของเธอ คิดได้ แบบนั้น เสิ่นเฉียวก็หันหลังเดินไปหาเสิ่นโย่ว

เฉินโย่วตอนนี้ขดตัวอยู่ในห้องนอนแล้วคุย โทรศัพท์กับแฟนของเธออยู่

“ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่อยากอาหาร ไม่อยากกินอะไรทั้ง นั้น ถ้าอย่างนั้น……นายทำเสร็จแล้วเอามาส่งให้ฉัน ? โอเค โอเค งั้นฉันจะรอนะ”

ก๊อกก๊อก–

เสียงเคาะประตูดังเข้ามาใบหน้าของเสิ่นโย่วแสดง สีหน้าออกอย่างเอื้อมระอา : “ที่รัก รอฉันแป็บนะ น่าจะ เป็นแม่มา”
พูดจบ เสิ่นโย่วก็เดินไปเปิดประตู ยังไม่ทันเห็นคน ที่มาก็โวยวายไปก่อนแล้วว่า : “แม่ หนูบอกกี่รอบแล้วว่า หนูไม่อยากกิน แม่ไม่ต้องมา..”

ประโยคข้างหลังยังไม่ทันจะพูดจบเสิ่นโย่วก็อึ้งไป แล้ว เธอยืนมองไปที่คนที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าประตูห้อง เธออย่างมึนงง

สายตาของเสิ่นเฉียวมองไปที่เธออย่างเย็นชา

“พี่ พี่ทำไม ….อยู่ ๆก็กลับมา ? ”

เสิ่นเฉียวมองไปที่ข้างหลังของเธอ ห้องของตัว เธอเองจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแท้ๆ กลับรื้อห้อง

ของเธอซะจนเละเทะ

เป็นเพราะทำเรื่องที่ไร้จิตสำนึก ดังนั้นเสิ่นโย่วกลืน ความรู้สึกที่ผิดนั้นลง จากนั้นเอามือถือวางตรงหูพูด ว่า : “พี่สาวฉันมาตามแล้ว เดี๋ยวดึกๆฉันค่อยโทรไปหา ใหม่นะ”

พูดจบก็รีบตัดสายในทันที

เสิ่นเฉียวใช้จังหวะนี้เดินเข้าไป เสิ่นโย่วหันหน้า กลับมา ก็รีบขึ้นไปขวางหน้าเธอเอาไว้

“พี่ พี่จะทำอะไร ?”

เสิ่นเฉียวหยุดเดิน แล้วเอากล่องที่อยู่ในมือส่งให้

เธอตรงหน้า

“ของข้างในมันหายไปไหนแล้ว ?”

พอเห็นกล่องนี้ เสิ่นโย่วก็หน้าซีด หลบสายตา ทันที : “มันคืออะไร….ฉันไม่เห็นจะรู้จักเลย ?”
ไม่รู้เหรอ ? ”

“ใช่พี่ ของที่พี่ใส่เอาไว้ฉันก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แล้วจะ รู้ได้ยังไงว่าของที่อยู่ข้างในมันหายไปไหน ? “พูดถึงตรงนี้ เสิ่นโย่วก็หัวเราะคิกคักแล้วเดินเข้าไปกอดมือของเสิ่น เฉียว แล้วพูดอย่างสนิทสนม : “พี่ หลังจากที่พี่แต่งงาน ออกไปก็นานมากแล้วนะที่ไม่ได้กลับมาบ้าน แล้ว..คน ของตระกูลเยดีกับพี่รีเปล่า ? พี่ไม่ได้โดนรังแกใช่มั้ย ! ”

“ถ้าฉันบอกว่าโดนรังแก เธอจะยอมแลกมั้ย

ล่ะ ? “เสิ่นเฉียวจ้องไปที่เธอแล้วเอ่ยปากถามด้วยสีหน้า เย็นชา

ในชั่วพริบตา สีหน้าของเส้นโย่วก็บั้งตึงขึ้นมาเล็ก น้อย เธอมองไปที่เสิ่นเฉียวอยู่นานสองนานอย่างอึดอัด จากนั้นก็ปล่อยแล้วกุมมือของเธอเอาไว้ หันตัวมาพูด ว่า : “พี่ พี่ก็รู้นี่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ หนูมีแฟนแล้ว”

“ใช่ เธอมีแฟน ฉะนั้นก็เลยทำอะไรตามอำเภอใจ ก็ได้ใช่มั้ย ? ของที่อยู่ในกล่องเธอกล้าพูดว่าเธอไม่เคย เห็นมันมาก่อน ? ”

เฉินโย่วหันตัวไป”พี่ ฉันก็เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เห รอว่าไม่ใช่ฉันที่หยิบเอาสมุดบัญชีเงินฝากของพี่ไป ทำไม พี่ยังมาถามฉันอีก ? ”

เสิ่นเฉียว : “…แล้วฉันพูดเหรอว่าของข้างในเป็น สมุดบัญชีเงินฝาก ? ” เสิ่นโย่ว : ซวยละ เผลอหลุดปากพูดออกไปแล้ว !

“พี่ ! ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ! คือเมื่อครั้ง ก่อนฉันไม่ระวังแล้วเดินเข้าไปเจอ แต่ฉันสาบาน ฉันไม่ได้เอาสมุดบัญชีเงินฝากของพี่ไปจริงๆ พี่สาวหาเงินมาอย่าง ยากลำบากขนาดนี้ แล้วฉันจะกล้าไปแตะต้องเงินของพี่ได้ ยังไงล่ะ ? “พูดถึงตรงนี้ เสือโย่วก็เริ่มแผนการออดอ้อน เดินเข้าไปจับแขนของเส้นเฉียว แล้วพูดอย่างนุ่มนวล ว่า : “พี่ฉันเป็นน้องสาวพี่นะ ฉันจะทำเรื่องอย่างนั้นลงได้ ยังไง?”

“ก็เพราะเธอเป็นน้องสาวของฉัน ฉันถึงรู้ไงว่าเธอ กล้าทำเรื่องแบบนี้”เสื่นเฉียวผลักเธอออกไปอย่างไม่ไยดี จากนั้นก็หงายฝ่ามืออันขาวผ่องไปทางน้องสาวเธอ

: “เอาสมุดบัญชีเงินฝากของฉันคืนมา”

เฉินโย่วสีหน้าดูแย่มาก

“พี่ หนูไม่ได้เอาไปจริง ๆ”

“เอาคืนมาให้ฉัน”

เงินนั้นเป็นเงินที่เธอแอบเก็บจากการทำงานมา ตลอดหลายปี มีอยู่หลายแสน แต่กลับถูกเสิ่นโย่วเอาไปใช้ แบบนี้แล้ว เธอจะยอมได้ยังไง ? เธอจะต้องขอคืนมาให้ ได้ !

“พวกลูกกำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ ? “ขณะที่ สองพี่น้องยังโต้เถียงกันอยู่นั้น คุณแม่เสิ่นเสียงของแม่ที่ สงสัยก็ลอยเข้ามาจากตรงประตูห้อง

“แม่ ! “พอเห็นคุณแม่เสิ่น เสิ่นโย่วเหมือนเห็น พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอรีบเข้าไปหลบอยู่หลังแม่ของ เธอ : “แม่ในที่สุดก็มาแล้ว พี่มาโทษหนูว่าหนูขโมยสมุด บัญชีเงินฝากของเธอ แต่แม่คะ หนูไม่ได้เอาของของพี่ไป เลยนะ”
ได้ฟังอย่างนั้น คุณแม่เสิ่นก็ถามด้วยสีหน้า เคร่งเครียดทันที : เฉียวเฉียว ลูกไปกล่าวหาน้องได้ยัง ไง ? สมุดบัญชีเงินฝากของลูกเองลูกเอาไปวางไว้ที่ไหน ลูกไม่รู้เหรอ ?

“หนูก็เอาไว้ในห้องของหนู แต่ห้องกลับถูกใครบาง คนรื้อจนเละเทะไปหมด นอกจากเธอแล้วยังจะมีใครกล้า เข้าห้องของหนูตามอำเภอใจอีก ?”

คุณแม่เสิ่นได้ยินแบบนั้น ก็หันกลับไปมองเสิ่นโย่ว

ที่อยู่ข้างหลังเธอ เงินโย่วรีบเถียงข้างๆคูๆ : “หนูจะรู้ได้ยังไง ?อาจ จะเป็นพวกหัวขโมยก็ได้? แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามหนูไม่ได้

เป็นคนเอาไป !”

“เฉียวเฉียว เสี่ยวโย่วบอกว่าไม่ได้หยิบไป ลูกเชื้อ น้องมันเถอะ

เสิ่นเฉียว : “แม่ นั่นเป็นเงินเก็บทั้งหมดของหนูนะ ถ้ามีโจรขึ้นบ้านจะเป็นไปได้เหรอที่ทุกคนจะไม่รู้? ถ้าเกิด โจรขึ้นบ้านจริงๆทำไมถึงเข้ามาแค่ห้องหนู ? ของพ่อกับ แม่กลับไม่โดน แล้วจะมีใครได้อีก ?”

“พอได้แล้ว ! “คุณแม่เส้นอารมณ์เสียจนทนไม่ไหว

พูดขึ้นมาว่า : “แม่เอาไปเองโอเคมั้ย ? บ้านเราไม่มีเงิน เหลือแล้ว เลยต้องเอาเงินของลูกมาโปะค่าใช้จ่ายภายใน บ้านมีปัญหามั้ย ? นี่คือท่าทางที่ลูกใช้คุยกับแม่งั้นเหรอ ? นี่ลูกยังเห็นแม่คนนี้อยู่ในสายตาบ้างมั้ย ? ”

เสิ่นเฉียว : “แม่คะ!

“เรียกทำไม ? แต่งงานไปอยู่บ้านตระกูลเย่แล้วสูงส่งขึ้นเลยงั้นสิ ? กลับบ้านมาแม้แต่กับข้าวที่บ้านยังไม่ อยากจะกิน ? ลูกแต่งงานครั้งที่สองเข้าไปอยู่บ้านเขา ไม่ใช่ครั้งแรก อย่ามาทำเป็นห่วงตัวเองมากไปหน่อยเลย เรื่องเงินแม่รับผิดชอบเอง แม่เอาไปใช้จนหมดเอง ต้องให้ แม่ไปกู้เงินมาคืนให้ลูกมั้ย ?

เสิ่นเฉียว :

เธอมองไปที่คุณแม่เสิ้นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจาก ปากของแม่แท้ๆของตัวเอง

“แม่ ทำไมคะ ? หนูก็เชื่อฟังตามที่แม่บอก แต่งงาน กับตระกูลเย่แล้ว.ไม่ใช่เหรอคะ?”

“แต่ทำไมกัน ? ทำไมแม่ทำกับหนูแบบนี้ ? “เส้่น เฉียวถามออกไปด้วยปากที่สั่นเครือ

คุณแม่เสิ่นทำเสียงเหอะ : “ฉันทำยังไงกับแกละ ? พอแกกับบ้านมาไม่ทันไรก็มาดน้องแล้ว ฉันได้ว่าอะไรแกรี

ยัง?”

“ถ้าแกอยู่แล้วไม่มีความสุข งั้นก็ไสหัวออกไปจาก บ้านนี้ซะ ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ