เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1437 แม่ลูกปลอดภัย



บทที่ 1437 แม่ลูกปลอดภัย

เพราะบทที่ออกมา เขาเห็นด้วยตาตัวเองว่าหานซึ่งดูแลลูกสาว ของตัวเองได้ดีมาก เอาผ้าห่มห่อตัวของเสี่ยวเหยียนไว้ แต่บนตัว ของหานซึ่งมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กหนึ่งผืน เสื้อที่ใส่อยู่ก็ขาดหลุด ลุ่ยและโดนไฟไหม้

แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเขาดูแลเสี่ยวเหยียนได้ดีมาก

แต่เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ผู้ชายสองคนนี้ยังมาทะเลาะกันอีก เห็นได้ชัดว่าสภาพจิตใจและร่างกายคงแข็งแรงสมบูรณ์มาก แต่ ลูกสาวของตัวเองล่ะ?

ไม่เห็นแม้กระทั่งเงา ไฟในห้องฉุกเฉินยังคงสว่างอยู่ เมื่อเขาถามขึ้นมาเช่นนี้ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัดลงทันที

ผ่านไปครู่หนึ่ง หลัวหุยเหม่ยจึงพูดปลอบขึ้น “ไม่เป็นไรอะไร หรอก เหยียนเหยียนของพวกเราเป็นคนดี สวรรค์ต้องปกป้อง หล่อนไว้ ต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน คุณอย่าคิดมากไปเลย

พ่อจางเบ้ปาก ในใจยังคงรู้สึกเป็นกังวลมาก เพราะลูกของตน ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน ถ้าทำได้ เขาอยากจะบุกเข้าไปดูลูกสักครั้ง ก็ยังดี

เป็นเพราะหลวยเหม่ยและพ่อจางมาถึงแล้ว เซียวซูจึงไม่ได้ ลงไม้ลงมืออะไรอีก เขานั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้างด้วยความทุกข์ใจ แผ่รังสีอันน่ากลัวบ่งบอกเป็นสัญญาณไม่ให้ใครเข้าใกล้
หาน จื่อฉวยโอกาสบทที่ทุกคนใจเย็นลงแล้ว วิ่งไปทางด้าน ข้างของหานชิง กระซิบถามว่า

“พี่ พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?

เมื่อเห็นน้องสาวของตัวเอง สายตาอันเย็นชาของเขาค่อยๆ อ่อนโยนขึ้นมาทันที เข้าเม้มริมฝีปากและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อน ละมุน “ไม่เป็นอะไร”

แต่หานมู่จื่อกลับยังรู้สึกไม่สบายใจ “ไม่เจ็บเหรอ? ให้หมอ ตรวจหน่อยไหม?”

เมื่อพูดจบ หล่อนกลับรู้สึกว่าพูดแบบนี้ไม่ถูกอีก ตอนนี้เสี่ยวเห ยียนยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน หานซึ่งจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร? เรื่องยิ่งเยอะยิ่งคิดมากจริงๆ

ทันใดนั้นเย่โม่เชินเข้ามาถึงหล่อนไปพอดี ให้หล่อนออกมา จากตรงหน้าของหานซิง จากนั้นสามคนพ่อแม่ลูกก็เดินไปนั่งที่ เก้าอี้ด้านข้าง

เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออก บทที่คุณหมอบอกทุกคนว่าเสี่ยวเหยียนกับเด็กในท้องไม่มี อันตรายอะไรแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าดูอาการต่อ ทุกคนจึงต่างพากัน ถอนหายใจโล่งอก

หลังจากโล่งอกกันแล้ว พ่อจางกลับลุกขึ้นมาด้วยความแปลก ใจ กระซิบถามหลัวหุ้ยเหม่ย

“เหยียนเหยียนท้องแล้วเหรอ? ท้องเมื่อไหร่? นี่เพิ่งแต่งงานกันไม่ใช่หรือไง?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลัวหุ้ยเหม่ยอดไม่ได้ที่จะหันไปกลอกตาม องบนใส่เขา “คุณหัวโบราณจริงๆเลย คุณคิดว่าวัยรุ่นสมัยนี้ จะเหมือนกับพวกเราเมื่อก่อนเหรอ อย่าตกใจทำตัวเป็นกระต่าย ตื่นตูมไปเลย”

หลัวหุ้ยเหม่ยกุมหัวใจของตัวเองไว้ “โชคดีที่แม่ลูกปลอดภัย

ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้คง….

สุดท้ายตอนนี้ทุกคนปลอดภัยกันแล้ว จึงโล่งอกสบายใจกัน ได้ เสี่ยวเหยียนถูกย้ายไปที่ห้องผู้ป่วยทั่วไป คนที่บ้านของหาน ชิงและเสี่ยวเหยียนต่างพากันไปเฝ้าทันที

แต่เซียวซูที่เป็นคนนอก ไม่มีฐานะความสัมพันธ์อะไร หลังจาก ที่เขารู้ว่าเสี่ยวเหยียนไม่เป็นอะไรแล้ว จึงคิดจะกลับออกไป

หานคู่จื่อเห็นเซียวซูยืนอยู่เพียงลำพัง จึงรู้สึกสงสารและ

เห็นใจขึ้นมา

แต่ไม่นานนักหล่อนก็ไม่เอาเรื่องพวกนี้มาคิดใส่ใจอีก เพราะ ครั้งนี้มีเรื่องให้พวกหล่อนต้องคิดเยอะมากพอสมควรแล้ว

อย่างเช่น ทำไมถึงไฟไหม้? หลังจากเกิดไฟไหม้ขึ้นแล้ว ทำไม เสี่ยวเหยียนถึงไม่รู้เรื่องอะไร ไฟไหม้เยอะขนาดนั้น โดยปกติ แล้วห้องที่หล่อนอยู่ ถ้าเกิดไฟไหม้ขึ้น หล่อนควรเป็นคนแรกที่ เห็นเหตุการณ์ แต่ทำไมเสี่ยวเหยียนกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย

เรื่องพวกนี้ต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน
จากนั้นหานมู่จื่อที่ไม่เป็นฟังเงียบไปนานครูใหญ่ จากนั้นพูดขึ้น “เรื่องพวกนี้คุณไม่ต้องกังวล ให้เป็นหน้าที่ของเอง

เสี่ยวหมี่โต้วอยู่ด้านข้าง น้อยที่เห็นด้วยกับความเห็น ของพ่อ นั่นสิจะไปตรวจสอบอย่างละเอียดเลยครับ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่ มองด้วยความดูถูกอย่างเห็นได้ชัด เสี่ยวหมี่พูดอย่างเต็มใจแสดงความอ่อนแอให้เห็นพ่อมองแบบนี้ หมายความยังไงกัน พ่อไม่เชื่อเสี่ยวหมี่

เย่เป็นไม่ตอบอะไร แต่คำตอบนั้นอยู่แล้ว เสี่ยวหมี่ โต้วได้แต่โมโหอยู่ภายในตัดสินใจที่จะตรวจสอบเรื่อง

ในขณะเดียวกัน อีกกลุ่มหนึ่ง

เมื่อสวีเย็นหวั่นได้รับการ์ดเชิญ หล่อนไปดื่มเหล้าบาร์ตั้งคืนก่อนจะได้รับเมาที่ตัวเองไปมากขนาดนี้ และถือเป็นครั้งหล่อนหนักโดยไม่สนใจอะไร

บทที่ดื่มจนเมา สวี่เย็นหวั่นคิดอยู่ตลอดว่า แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เกิดแค่ครั้งเดียว ต่อไปหล่อนไม่เจ็บช้ำใจเพราะผู้ชาย นี้แล้ว
สุดท้ายสวี่เย็นหวั่นไม่รู้ว่าตัวเองดื่มไปมากเท่าไหร่ แต่เมื่อ หล่อนตื่นขึ้นมา ก็อยู่ในห้องของตัวเองแล้ว บรรยากาศโดยรอบ เงียบสงบ นอกจากอาการปวดหัวจนแทบระเบิดแล้ว ดูเหมือนว่า เมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

หล่อนกุมขมับพลางลุกขึ้นนั่ง หันไปมองที่นอกหน้าต่าง ตอนนี้ แสงอาทิตย์เจิดจ้า และไม่รู้ว่าเป็นเวลากี่โมงแล้ว

เดิมทีหล่อนไม่คิดที่จะไปร่วมงานแต่งงานของหานชิง หล่อน ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีเมตตาใจดี ทนเห็นผู้ชายที่ตัวเองรักเข้าประตู วิวาห์ไปกับผู้หญิงคนอื่นได้ ดังนั้นวันนี้หล่อนไม่มีทางไปแน่นอน

แต่ตอนนี้ หล่อนกลับรู้สึกขึ้นมาอีกว่า ตัวเองควรไปสักหน่อยดี ไหม

เพราะหานซึ่งก็ช่วยหล่อนมาเยอะมาก ถ้าไม่มีเขา ตระกูลสวี่ก็

คงไม่มีทางพลิกฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง

เมื่อคิดถึงตอนนี้ สวีเย็นหวั่นจึงค่อยๆลงจากเตียงและไปอาบ น้ำ แต่งตัว ลังเลอยู่นานสักพักใหญ่จึงจะหยิบการ์ดและออกจาก บ้าน

ยังไงก็ไปดีกว่า ถ้าไปตอนนี้ งานแต่งงานของพวกเขาคง ดำเนินไปครึ่งหนึ่งแล้ว จากนั้นหล่อนก็ไปดื่มฉลองสักแก้วแล้ว ค่อยกลับ

สวีเย็นหวั่นคิดเพียงเช่นนี้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเมื่อไปถึงหน้า งานแล้ว ด้านนอกมีกลุ่มคนรายล้อมอยู่เป็นจำนวนมาก และงาน ก็ถูกปิดล้อมไว้ไม่สามารถเข้าไปได้
หล่อนรู้สึกประหลาดใจ ตอนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

หรือหล่อนมาผิด ? สวี่เย็นหวั่นถือการ์ดออกมาดูที่อยู่อีกครั้ง

พบว่าเป็นที่นี่ไม่มีผิด แต่ทำไมถึงยังรู้สึกแปลกๆ จึงต้องถามคน ข้างๆ “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ? วันนี้ที่นี่มีงานแต่งงานไม่ใช่เหรอ

คะ?”

คนที่ถูกเรียกมองหล่อนด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเห็นการ์ด ในมือถือจึงเข้าใจขึ้นมาทันที และพูดอธิบาย: “คุณมาร่วมงาน แต่งงานใช่ไหม? ทำไมถึงเพิ่งมาตอนนี้ล่ะ?”

“ฉันติดธุระนิดหน่อย งานเลิกแล้วเหรอคะ?”

เร็วขนาดนี้เลย? สวี่เย็นหวั่นรู้สึกสบายใจขึ้นมา จึงถอน หายใจโล่งอก

ถ้างานเลิกเร็วขนาดนี้ก็ดี หล่อนจะได้ไม่ต้องเข้าไปดื่มฉลอง

“งานยังไม่เลิก ข้างในเกิดไฟไหม้ขึ้นมา ดังนั้นงานแต่งจึงถูก ยกเลิกชั่วคราว”

เมื่อได้ยินว่าไฟไหม้ สวี่เย็นหวั่นขมวดคิ้วขึ้นมาทันที และใจก เต้นแรงตาม “ไฟ…ไหม?”

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อหล่อนได้ยินคำว่าไฟไหม้ รู้สึกเหมือนมีลาง สังหรณ์ที่ไม่ดีแพร่กระจายไปทั่วทั้งใจ
“นั่นสิ ฉันก็เป็นแขกในงานเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้ยัง ไง ฉันแค่ได้ยินมาว่าเจ้าสาวในวันนี้ถูกไฟไหม้ จากนั้นเจ้าบ่าวก็ วิ่งเข้าไปช่วย ในเพลิงไฟโดยไม่คิดชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และรถพยาบาลมาถึง เจ้าสาวและเจ้าบ่าวจึงถูกหามขึ้นรถ พยาบาลไปพร้อมกัน

“คุณพูดว่าอะไรนะ??”

สวี่เย็นหวั่นตกใจมาก เลือดบนใบหน้าหายไปในทันที กระชากคอเสื้อคนนั้นและถามด้วยความเหลือเชื่อ “ใครถูกส่งตัว ไปที่โรงพยาบาล???”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ