เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่888 ไม่มีอะไรให้คุย



บทที่888 ไม่มีอะไรให้คุย

หลังจากถูกพาเข้ามาในห้องแล้ว แต่ไม่เป็นก็พาทานจื่อไปล้าง มือตรงอ่างล้างมือ ถึงได้พบว่ามือของตัวเองเป็นแผล

เธอเผลอโดนบาดเข้าตอนที่เธอนั่งยองๆ จะเก็บเศษพวกนั้น

ตอนนั้นเธอตะลึงและลุกขึ้นยืน คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไม เรื่องราวถึงได้เปลี่ยนไปกลายเป็นแบบนี้ได้

หานมู่จื่อมองไปที่แผลนั่น “แผลเล็กนิดเดียวเอง ทำไมนายถึง เห็นล่ะ? ”

เย่ โม่เซิน: “.………….

เขาเม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจ หลังจากนั้นก็ดูดแผลที่มือเธอ

เบาๆ

“นาย! ” หานมู่จื่อร้อนรน หน้าแดงและอยากจะดึงมือกลับมา

แต่ว่าเย่ไม่เซินแข็งแรงมาก เอาแต่กุมมือเธอไว้แบบนั้น ผ่าน ไปอยู่นานกว่าจะยอมปล่อย และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ต่อไป ไม่ต้องทำอะไรพวกนี้แล้ว เรียกแม่บ้านกลับมา

หาน จื่อทำปากมัย “นี่มันเป็นแค่อุบัติเหตุเอง ก่อนหน้านี้ฉันก็ ทําได้ดี แต่แค่..………

เธอลังเลนิดหน่อย เธอรู้สึกสงสัยมากว่าเมื่อกี้ที่ห้องรับแขกส งอานพูดอะไรกับเย่โม่เซินบ้าง เธอซ่อนมือของตัวเองไว้ด้านหลังหลังจากนั้นก็เอ่ยปากถาม “เมื่อกี้คุณน้าพูดอะไรกับนายบ้าง?

เย่ ไม่เซินมองเธอ ไม่ได้ตอบ

ท่าทางของเขาทำให้เย่ ไม่เซ็นร้อนรนขึ้นมา เธอยื่นมือไปถึง ชายเสื้อของเขา “นายพูดมาส

“กังวลอะไร? ”

เขาพูดนิ่งๆ เสียงที่ทุ้มต่ำช่างไพเราะ มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นใน ดวงตาสีหมึกของเขา “หรือว่านี่คืออุบัติเหตุที่เธอพูดถึง? ”

.………ไม่ใช่! ” หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง หานมอก็ส่ายหน้า

“วางใจเถอะ”

เมื่อเห็นว่าบรรยากาศจากตัวเธอเริ่มหดหูลง เย่โม่เซินก็ยื่นมือ ทั้งสองข้างไปกุมมือเธอ บีบฝ่ามือขาวๆ ของเธอไว้ในมือของเขา

“เรื่องของตา ฉันจะจัดการเอง ถ้าเกิดว่าไม่ได้จริงๆ ก็ยังมีตัว เลือกที่จะหนีไปกับเธออยู่ไม่ใช่เหรอ? ”

พอได้ยินประโยคสุดท้าย หานมอก็รู้สึกหายใจไม่ออก เธอ เบิกตากว้าง นาย นายพูดจริงเหรอ? ถ้าเกิดว่าตาของนายไม่ เห็นด้วยล่ะก็ นาย……..จะกลับประเทศกลับฉันใช่ไหม? ”

“ถ้าเกิดว่าไม่มีทางเลือกจริงๆ ก็คงทำได้แค่นั้น” ฝ่ามือที่ตอน แรกกุมมือของเธออยู่ ตอนนั้นย้ายมาอยู่ตรงริมฝีปากของเธอ เขาโน้มตัวลงมาแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “จนถึงตอนนั้นเธอต้อง เลี้ยงฉันนะ”
หานมู่จื่อไม่แม้แต่คิดด้วยซ้ำ เธอบีบมือเขาแน่นทันที หลังจาก นั้นก็พยักหน้า “เลี้ยงก็เลี้ยงสิ! ”

เธอไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว

ส่วนแบ่งที่เขามอบให้พี่ชายเธอก่อนงานแต่งงาน ก็คือให้ ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นชื่อของเธอ สำหรับเขาแล้ว เธอสำคัญ มากกว่าอะไรทั้งหมด

สำหรับเธอแล้ว เขาเองก็สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดเหมือนกัน เลี้ยงก็เลี้ยงเขาแล้วกัน ยังไงก็เอาเงินเข้ามาอยู่ดี หานคู่จื่อ แอบคิดอยู่ในใจ

และพอเยโมเซินเห็นท่าทีที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของเธอแล้วก็อึ้ง ไป อึ้งจนมองหน้าเธออยู่นาน ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา

“ทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้? ”

“หืม? ”

“ผู้หญิงเวลาที่ได้ยินประโยคแบบนี้ ปฏิกิริยาแรกก็คือต้อง กลัวไม่ใช่เหรอ? ”

หานมู่จื่อกะพริบตา “แล้วทำไมต้องกลัวด้วยล่ะ? ”

“ผู้ชายที่เกาะเธอกิน เธอไม่รังเกียจงั้นเหรอ? ”

เกาะกิน?

หานมู่จื่อย่นจมูกโดยไม่ได้ตั้งใจ “แน่นอนว่าฉันต้องรังเกียจ

ผู้ชายที่เกาะกินอยู่แล้ว”
ยังไม่ทันจะรอให้เยโมเงินพูดต่อ เธอก็พูดขึ้นมาอีกว่า แต่ว่า ถ้าคนคนนั้นคือนาย ฉันก็ไม่รังเกียจหรอก! ”

เย่โม่เซ็นตะลึงไปโดยสิ้นเชิง

ความรู้สึกที่ผู้หญิงตรงหน้ามีต่อเขานั้นมันช่างใสสะอาดและ บริสุทธิ์ ไร้ร่องรอยของสิ่งสกปรกใดๆ เลย ราวกับว่าไม่ว่าเขาจะ เป็นยังไง เธอก็จะไม่มีวันรังเกียจเขา

พอเขาคิดแบบนี้ เย่ ไม่เป็นก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปถึงเธอ มากอดไว้ในอ้อมอก

ในหัวของเขาปรากฏภาพเมื่อตอนที่เจอเธอครั้งแรก

ตอนนั้นเธอพุ่งเข้ามา สีหน้าดูตื่นเต้นมาก สายตาที่มองเขา ช่างรุ่มร้อนและสดใส มันเหมือนกับความรู้สึกที่หายไปและได้รับ การฟื้นฟูกลับมาอีกครั้ง

หลังจากนั้น ก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาบอกเธอว่า เธอจำผิดคนแล้ว เธอร้องไห้ฟูมฟายบอกว่าเธอไม่ได้จำผิด แล้วก็โดนพาตัวออก

ไป

ตอนนี้ เธอดีกับเขาขนาดนี้ หรือเพราะว่าคนผิดงั้นเหรอ? หรือว่า เห็นเขาเป็นของแทน?

พอคิดแบบนี้ ดวงตาสีดำของเยโม่เป็นก็กลอกไปมาอย่างนั้น ป่วน กอดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม

หาน จื่อรู้สึกว่าเขากอดตัวเองแน่นขึ้นเรื่อยๆ กอดแน่นจนเธอเริ่มหายใจไม่ออก มือของเธอก็ขวางระหว่างทั้งสองคนอย่างไม่รู้ ตัว สร้างระยะห่างนิดหน่อย

ถึงแม้ว่ากอดกันแล้วจะอบอุ่น แต่ว่าเธอก็กังวลว่าลูกรักจะได้ รับบาดเจ็บ

แต่ว่าการกระทำนี้ทำให้เยโม่เป็นขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน เขา

ขยับห่างออกไปแล้วพูดว่า “ทำไมเหรอ? ”

หานมู่จื่อดึงสติกลับมาพร้อมกับยิ้ม “เปล่า”

พอเห็นว่าทั้งจิตใจและสายตาของเธอมีแต่เขา เย่โม่เซินก็รู้สึก ได้ว่าตัวเองคิดมากเกินไปจริงๆ เธอถึงขั้นเรียกน้ามาแล้ว จะเห็น เขาเป็นแค่ตัวแทนคนอื่นได้ยังไงกัน?

“ไม่เป็นไร” เขาดึงเธอมากอดไว้อีกครั้ง ครั้งนี้เขาอ่อนโยนก ว่าเดิมมาก

พอกินอาหารกลางวันเสร็จ เย่โม่เซินก็กลับไป ก่อนจะออกไป ก็โทรเรียกให้แม่บ้านกลับมา หาน จื่ออยากจะพูดอะไรอีก แต่ หลังจากนั้นก็ต้องเงียบลงภายใต้สายตาที่จมดิ่งของเขา

หลังจากนั้นแม่บ้านก็มา พอทักทายหาน จื่อกับสังอานแล้วก็ เข้าไปในห้องรับแขก

หานมู่จื่อรู้สึกทำอะไรไม่ถูก สั่งอานเห็นท่าทางของเธอก็อดไม่ ได้ที่จะหยอกล้อ “ถ้าเกิดว่าเธอไม่ทำงานแตก เขาก็ไม่เรียกแม่ บ้านกลับมาหรอก”

พอได้ยินแบบนี้………นอก็รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย “คุณน้าคะคุณคงไม่ได้คิดว่าหนูจงใจทำงานแตกหรอกใช่ไหม? ”

สั่งอานเลิกคิ้ว “แล้วไม่ใช่เหรอ? ”

หานมู่จื่อ “ไม่ใช่! ”

สั่งอานเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เธอ พูด หานมอก็เน้นอีกที “คุณน้าคะ ไม่ใช่จริงๆ ค่ะ! ”

เธออ้าปาก อยากจะอธิบายอะไรให้ตัวเองอีกหน่อย แต่ว่าพอ เห็นสายตาและสีหน้าของสั่งอานก็ทําให้หาน จื่อรู้สึกว่า เธอควร จะพูดให้น้อยและประหยัดแรงไว้ดีกว่า ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร คาด ว่าสั่งอานก็จะคิดว่าเธอจงใจทำให้จานแตกอยู่ดี

ผู้หญิงสองคนนี้อยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้คุยกันเท่า ไหร่ ผ่านไปแป๊บเดียวสั่งอานก็รู้สึกเบื่อ บอกว่าจะกลับแล้ว

หานมู่จื่อไปส่งเธอที่ประตู ผลก็คือตอนที่เปิดประตูนั้น ก็ปะทะ

กับพ่อบ้านหมูที่กำลังจะเอื้อมมือมากดกริ่งพอดี

พ่อบ้านหมูยื่นมือมาถึงตรงนั้นแล้ว แต่ประตูก็เปิดออกพอดี หลังจากนั้นทั้งสามคนก็มองหน้ากัน

ต่างฝ่ายต่างอึ้งไป

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง หนูโปก็เอามือลงอย่างเก้อเขิน ลูบมือ ตัวเอง แล้วก็ก้มหัวให้ทั้งสองคนนั้น พร้อมกับคลี่ยิ้มที่เก้อเขิน

เขากำลังเตรียมจะพูดอะไร แต่ว่าสั่งอานก็เอามือกอดอก แล้ว ก็มองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา
“สิงหยู แม้แต่โทรศัพท์ฉันยังไม่อยากจะรับ แล้วลุงคิดว่าฉัน จะไปเจอเขางั้นเหรอ? ” สั่งอานขี้เกียจแม้แต่จะพูดแบบสุภาพ เธอเองก็รู้วัตถุประสงค์ที่หยูโปมาที่นี่ ก็เลยพูดตรงๆ ไปเลย

สีหน้าของหยูโปดูกระอักกระอ่วนมาก มองดูหาน จื่อที่ยืนอยู่ ข้างๆ แล้วก็ลูบจมูกของตัวเองอย่างเก้อเขิน “นายท่านคิดถึงคุณ หนูอานมากเลยนะครับ หลายปีมานี้ นายท่านต่างก็เอาแต่รอ คอยการกลับไปของคุณหนูอาน มันไม่ง่ายเลยกว่าจะกลับมาได้ ครั้งหนึ่ง คุณหนูอานจะไม่ไปพูดคุยเรื่องเก่าๆ ในความทรงจำกับ นายท่านจริงๆ เหรอครับ? ”

พอได้ยินดังนั้น สูงอานก็หัวเราะเยาะ “รอให้ฉันกลับไปยังงั้น เหรอ? ฉันว่าเขาคาดหวังให้ฉันตายอยู่ด้านนอกมากกว่า? ฉันจะ ได้ไม่ต้องกลับไปทำให้เขาอับอายไง? พูดคุยเรื่องอดีตนั้นเหรอ? ฉันว่ามันไม่ได้มีความจำเป็นอะไร ตาแก่ที่เอาแต่ดื้อรั้นมาทั้งชีวิต ต มันจะมีอะไรให้น่าคุยกัน”

หานคู่จื่อยืนฟังอยู่เงียบๆ ข้างๆ สั่งอานกับสงซินก็ต่างออกมา จากตระกูลฉือ แถมยังเปลี่ยนนามสกุลอีก ไม่ต้องคิดเธอก็รู้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาคงแย่มาก แต่ว่าหาน จื่อไม่คิด เลยว่าความสัมพันธ์ของสงอานกับฉือจินจะแย่ถึงขนาดนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ