เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 961 กฎ



บทที่ 961 กฎ

สายไปแล้วใช่ไหมที่จะชอบเธอ

เขาไม่เคยคิดว่ามันจะสายไป

เวลาจึงผ่านเลยมาหลายปี เขาไม่เคยสารภาพรักกับเธอแม้แต่

ประโยคเดียว

เขาคิดว่าตัวเองมีโอกาส คิดไม่ถึงว่าเธอจะตกหลุมรักคนอื่น

ก่อนที่เขาจะเผยความในใจออกไป แถมยังรักแบบหยั่งรากลึก

ตอนนี้ที่เธอพูดแทะ กลัว ถึงแม้เซียวซูจะไม่ค่อยเข้าใจผู้หญิงดีนัก แต่ถ้าเป็นเรื่องพื้น

เทะโลมเขา เธอไม่มีแม้แต่ความเป็นหรือความ

ฐานเขาก็พอรู้

เขารู้ว่าเมื่อผู้หญิงเผชิญหน้ากับคนที่ชอบ จะต้องเขิน แต่เมื่อ เธออยู่ต่อหน้าเขากลับไม่มีความรู้สึกพวกนั้นเลย

ตอนนี้….

แววตาของเซียวหม่นหมองลง เขาเม้มปากไม่พูดอะไร เพียง ชั่วครู่ลมหายใจของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ก่อนหน้านี้เสียวเหยี ยนคิดว่าเธอเป็นผู้ชายประเภทที่ไร้เดียงสา พูดอะไรไม่กี่คำก็ หน้าแดง

ตอนนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกว่านั่นไม่ใช่เพราะคน แต่เป็นสิ่งที่ไร้ความรู้สึก

ไม่โกรธแถมยังให้ความรู้สึกเย็นชาอีกด้วย

นี่มันเกิดอะไรขึ้น

เสี่ยวเหยียนเหมือนจะรู้ว่าเขาผิดปกติ เธอขับริมฝีปากล่าง โดยไม่รู้ตัว หรือว่าที่เธอพูดไปจะทำให้เขาโกรธ

“นี่ ที่ฉันพูดไปไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ ฉันไม่ได้เห็นว่านายตลก แต่เมื่อจู่ๆ นายก็เข้ามาใกล้ฉัน ไม่ว่าใครก็เข้าใจผิดทั้งนั้น แหละ”

เซียวซูเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มบางๆ ให้เธอ

“ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันผิดเอง ในเมื่อไข้เธอลดลงแล้ว ฉันก็ไม่ รบกวนเธอแล้ว”

พูดจบเขาจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องครัว เสี่ยวเหยียนสังเกต

เห็นการกระทําของเขา ราวกับว่า…

เขากำลังหนี?

ไม่ใช่หรอก

ทำไมเขาถึงต้องหนีล่ะ เหมือนมีอะไรไล่ตามหลังเขาอยู่ อย่างไรอย่างนั้น เธอพูดแทะโลมเขาไปไม่กี่คำ กลัวถึงขนาดนั้น เลยเหรอ แต่เธอไม่ได้ตั้งใจจะพูดแทะโลมเขานะ ก็เห็นกันอยู่ว่า เขาเข้ามาใกล้เธอก่อน

เมื่อคิดถึงภาพที่เธอกับเขาอยู่ใกล้กันเมื่อครู่ เสี่ยวเหยียนรู้สึกใจเต้นตึกตัก เธอส่ายหัวไปมาอย่างรุนแรงจนตัวสั่นไปด้วย

ไอ้เซียวซู่ จู่ๆ ก็เข้ามาใกล้เธอ ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน ตอนนี้เขา มาทำแบบนี้ แล้วจากนี้เวลาเจอหน้ากันเธอจะไม่รู้สึก กระอักกระอ่วนเหรอ

คิดไปคิดมา เสี่ยวเหยียนคิดว่าคงไม่มีอะไร ไหนๆ เขาก็ทำลง

ไปแล้ว ถ้าเขาไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนแล้วเธอจะรู้สึกไปทำไม

หลังจากที่เซียวซูเดินออกมาจากห้องครัว เขาเตรียมจะกลับ โรงแรม เพราะแน่ใจแล้วว่าเสี่ยวเหยียนไม่เป็นอะไร จิตใจที่เป็น กังวลก็ปล่อยวางลงได้

ตอนที่กำลังจะออกไป ก็เจอกับทานชิงที่เดินออกมาจากห้อง คิดถึงเสี่ยวเหยียนแล้ว เซียวซูจึงอดมองหานซึ่งไม่ได้

เขาเป็นคนชั้นสูง ราศีบนตัวของเขาคนทั่วไปไม่สามารถเทียบ ด้วยได้ หน้าตาหล่อเหลา มีความสามารถซ่อนเอาไว้ แววตา มั่นคงแน่วแน่เพราะผ่านอะไรมามากมาย ธุรกิจตระกูลหาน ทั้งหมดอยู่ด้านหลังของเขา

ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่เซียวซูคิดว่าหานชิงยอดเยี่ยม

มาก

แล้วถ้าเป็นผู้หญิงล่ะ?

เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่เสี่ยวเหยียนจะชอบเขา แล้วตัวเขาเองล่ะ แค่ผู้ช่วยตัวเล็กๆ ไม่มีอะไรสักอย่างบนหน้ามีแผลเป็นที่น่ากลัว คนที่มีอะไรดีอย่างเขาจะเอาอะไรไปสู้กับ หาน ง

เขาไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะไปยืนเผชิญหน้ากับหานซึ่ง

เมื่อคิดได้ดังนั้น เซียวซูก็หัวเราะเยาะตัวเองอยู่ในใจ จากนั้น จึงละสายตาจากหาเชิง

ส่วนคนที่กำลังจะเดินไปยังห้องครัวอย่างหานซึ่ง เหมือนว่าจะ สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ตอนที่เซียวละสายตาจากเขา เขา ชะงักฝีเท้าลงแล้วหันมามองคนที่ซูบผอม แต่กลับดูเหมือนมีพละ กําลังมาก

เมื่อกี้เขาออกมาจากห้องครัวงั้นเหรอ

ห้องครัว…

หานซึ่งเม้มปาก เขาเลิกคิดเรื่องอื่นแล้วเดินไปยังห้องครัว

เสี่ยวเหยียนล้างข้าวและตั้งหม้อข้าวแล้ว เธอหันไปเห็นหาน ซึ่งเดินเข้ามา คนที่เพิ่งตั้งสติได้อย่างเธอ คนที่ใบหน้าดูมีชีวิต ชีวาเมื่อครู่หันไปด้วยความตกใจ เธอไม่กล้าหันไปมองหานชิง จากนั้นเธอเห็นโต๊ะข้างๆ มีมะเขือเทศวางอยู่ จึงรีบไปหยิบมะเขือ เทศมาล้างและเตรียมจะนั่น

เสี่ยวเหยียนคิดในใจว่า อย่าไปคิดถึงหานซึ่ง

เธอหยิบมีดขึ้นมาแล้วหั่นครึ่งมะเขือเทศ จากนั้นจึงหั่นมะเขือ เทศเป็นแผ่นๆ ได้ยินเสียงหานชิงเทน้ำ
สติของเธอหลุดลอยออกไปโดยไม่รู้ตัว ที่จริงแล้วเรื่องเมื่อวาน เธอเองก็เอาแต่ใจ

หานซึ่งปฏิเสธเธอออกจะชัดเจนขนาดนั้น เขาคงไม่อยากให้ น้องสาวของตัวเองเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของเรา ดังนั้น การที่ให้เธอถอดเสื้อโค้ตแล้วไปซื้อใหม่นั่นก็เป็นเรื่องปกติ

เสี่ยวเหยียนรู้สึกน้อยใจ เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ทำไมเขา ถึงทำกับเธอแบบนี้

ด้วยความหงุดหงิด เธอจึงให้พนักงานเอาเสื้อโค้ตไปคืนหาน ชิง โดยไม่ไปเจอหน้าเขาและให้เขากลับไปก่อน

ในตอนนั้นเธอคิดว่าการที่ทำแบบนี้จะทำให้หานซึ่งเห็นใจ แล้วมาง้อเธอ เพราะตอนที่เขาถอดเสื้อโค้ตมาให้เธอใส่ เหมือน กับว่าเขาจะใส่ใจเธอจริงๆ

แต่ทว่าเธอประเมินความคิดของหานซึ่งต่ำไป

หานซึ่งก็คือหานชิง ทำไมเขาจะต้องมาง้อเธอด้วยล่ะ

การที่เธอเอาแต่คิดและทำลงไปแบบนั้น เป็นเรื่องที่โง่เขลา จริงๆ

ตอนนี้เสี่ยวเหยียนรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้เมื่อ วานเธอคงจะไม่ทำแบบนั้น คงจะซื้อเสื้อผ้าอย่างว่าง่าย หลังจาก ออกมาก็จะถือถุงเสื้อผ้าแทนเขาแล้วประจบประแจงเขา การที่ พวกเขากลับบ้านด้วยกันก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน
เธอต้องเปลี่ยนแผนแล้ว การออดอ้อน ใช้ไม่ได้ผลกับทานซึ่ง แต่ว่าถ้าเธอทุกข์ใจ หานซึ่งน่าจะขมวดคิ้วแล้วหันมามองเธอ สักนิด

เหมือนเมื่อวานเธอแต่งตัวน้อยชิ้น หานซึ่งก็มาใส่ใจเธอ

ถ้าเธอเปลี่ยนแผนเป็นการทำท่าทางน่าสงสาร ความสัมพันธ์ ของเราทั้งคู่จะสามารถพัฒนาได้อย่างราบรื่นขึ้นสักนิดไหม

ตอนที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อย เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกเจ็บที่นิ้ว สมอง ของเธอยังไม่ทันสั่งการอะไร ร่างกายของเธอก็ส่งเสียงร้องออก มาด้วยความตกใจ

หานชิงที่กำลังดื่มน้ำด้วยความเชื่องช้า จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียง ร้องดังขึ้นมา สายตาของเขามองไปหาเธอ

มองไปจึงเห็นว่าเสี่ยวเหยียนไม่ทันระวังทำมีดบาดมือตัวเอง เข้าให้แล้ว เลือดไหลออกมาจากบาดแผล เลือดสีแดงไหลไป รวมกับมะเขือเทศ

หานชิงวางแก้วลงแล้วรีบก้าวไปหาจับมือเธอโดยเร็ว เขาพา เธอไปตรงอ่างล้างมือ จากนั้นจึงเปิดน้ำล้างแผลให้เธอ “มีพลาส เตอร์ยาไหม”

เมื่อเผชิญกับน้ำเสียงเย็นชาที่เขาถามออกมา เสี่ยวเหยียนพ ยักหน้าอย่างซื่อๆ “น่าจะมี

น่าจะ
หานชิงขมวดคิ้ว “รออยู่นี่

หานซิงเดินออกไป เสี่ยวเหยียนยืนอึ้งแล้วมองแผลของตัวเอง อยู่ที่เดิม เมื่อเธอได้ใกล้ชิดกับหานซิง หัวใจของเธอค่อยๆ เติม เต็มด้วยความหวานทีละนิด

เธอกำลังคิดจะเปลี่ยนแผนไปเป็นทำตัวน่าสงสาร

คิดไม่ถึงว่าพระเจ้าจะช่วยเธอแล้ว

เธอทำมีดบาดตัวเอง ขณะที่หานซึ่งอยู่ที่นี่พอดี

เป็นไปตามคาด คนที่เมื่อเห็นคนอื่นต้องการความช่วยเหลือ หรือคนได้รับบาดเจ็บถึงจะเข้ามาช่วยแบบเขา

ถึงแม้ว่าจะเจ็บแผลมาก แต่เธอไม่ได้ทุกข์ใจเลย แถมยัง หัวเราะออกมาจนตาหยี

เหมือนว่าเธอจะรู้กฎที่ถูกต้องในการจีบหานชิงแล้วล่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ