เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1364 คู่หมั้นอะไรกัน



บทที่1364 คู่หมั้นอะไรกัน

“นี่คุณตื่นอยู่เหรอ?! ”

เสี่ยวเหยียนถามเขาอย่างประหลาดใจ และผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็

คือ

“ตื่นอยู่ตลอดนั่นแหละ”

เสี่ยวเหยียน: 49 ? ? ”

“ถ้ายังงั้นฉันหาอยู่ตั้งนาน ทำไมคุณถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ล่ะ? ”

ทานชิงพูดเสียงทุ้มๆ น่าจะเพราะว่าพึ่งตื่น เสียงของเขาก็เลย แหบแห้งเล็กน้อย “ก็เห็นว่าเธอพยายามหาอย่างเต็มที่ ก็เลยทน ไม่ได้ที่จะรบกวนเธอ

ฟังเขาพูดประโยคนี้ เสี่ยวเหยียนก็รู้ว่ามันเป็นการประชด

ประชัน ทันใดนั้นเธอก็โกรธมาจนพุ่งข้างหน้าแล้วเขา

“นี่คุณจงใจชัดๆ ทั้งๆ ที่ตื่นแล้ว แต่ก็ไม่เตือนฉัน เอาแต่มองดู ฉันพลิกกล่องเทอยู่ทั้งห้อง ลับๆ ล่อๆ เหมือนกับโจร คงภูมิใจ มากเลยสินะ? ทั้งๆ ที่เป็นของของฉันแท้ๆ แต่ว่าคุณกลับเอาไป เป็นของของ ตัวเอง ไม่ให้ฉันก็ช่างเถอะ แต่ยังมามองฉันเป็น เรื่องตลกขบขันแบบนี้ สนุกมาไหม? ”

ก่อนหน้านี้สีหน้าของหานซึ่งยังดูสบายใจเล็กน้อย แต่หลังจากที่เสี่ยวเหยียนโมโห น รอยยิ้มในดวงตาของเขาก็ค่อยๆ จางลงไป

“ไม่สนุกเลย ถ้าเกิดว่าทำได้ล่ะก็ ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะเก็บ กระเป๋าตังค์กับบัตรประชาชนของเธอไว้หรอก แต่ว่าถ้าเกิดว่า ฉันไม่เก็บพวกนี้ไว้ วินาทีต่อมากเธอก็จะหนีไป แล้วถ้าเธอหนีไป แล้ว ฉันจะทำยังไง? ”

ถ้าเธอหนีไปแล้ว ฉันจะทำยังไงงั้นเหรอ?

ชั่วพริบตาหนึ่ง เสี่ยวเหยียนรู้สึกหวั่นไหวกับประโยคนี้ ถ้าเกิด ว่าเธอหนีไปแล้วเขาจะทำยังไงน่ะเหรอ? หรือว่าเขาไม่รู้ว่าตัวเอง ควรจะทํายังไง?

เขาต้องการเธอขนาดนั้นเลยเหรอ?

แต่ว่า….ต่อให้เขาต้องการเธอ แต่ว่าเธอก็ยังไม่มีทางที่จะขัด กับหลักศีลธรรมของตัวเองหรอก ถ้าเกิดว่าเป็นตอนที่เธอยังไม่รู้ ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าตอนนี้เธอก็รู้แล้วอย่างชัดเจน ถ้าเกิดว่า เธอยังจะคบกับเขาต่อไปล่ะก็ เธอจะกลายเป็นคนแบบไหนกัน?

พอคิดได้แบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็กัดฟันแน่นและโต้กลับ

“คุณควรจะทำยังไงก็ทำแบบนั้นแหละ ฉันหนีไปแล้ว คุณก็ไป หาอีกคน”

พอได้ยินดังนี้ สายตาของหานซึ่งก็จมดิ่ง มือที่จับข้อมือเธออยู่ นั้นก็กระชับขึ้นเล็กน้อย “หาอีกคนงั้นเหรอ? ”

“ใช่! “เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอย่างแรง “ฉันไม่ต้องการคุณแล้วดังนั้นคุณก็ไปหาคนใหม่?

“เรื่องความรู้สึกเธอบอกว่าไม่ต้องการก็คือไม่ต้องการยังงั้นเห รอ? ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนแรกทำไมต้องมายั่วฉัน ด้วย? ”

“อ้อ”เสี่ยวเหยียนพูดอย่างไม่เห็นด้วย “ตอนแรกฉันชอบ

ความหล่อเหลาของคุณไง ตอนนี้ผ่านมานานแล้วก็ดูจนเบื่อแล้ว

ฉันก็เลยไม่ต้องการคูณแล้ว แล้วอีกอย่างฉันก็พบว่าคุณเนี่ยนะ

ไม่สนใจแฟนเลยแม้แต่นิดเดียว วันๆ ก็เอาแต่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่อง

ของตัวเอง วันๆ มีแต่ฉันที่วิ่งโร่เอาของไปให้คุณที่บริษัท แล้วคุณ

ล่ะ? คุณเคยเอาอะไรมาให้ฉันบ้าง? เมื่อพนักงานของคุณพูดถึง

แฟนของคุณลับหลังนั้น คุณกำลังทำอะไรอยู่? คู่หมั้นของ

พอพูดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็หยุดกะทันหัน

เธอนี่สมควรตายจริงๆ ทำไมถึงพูดถึงคู่หมั้นของเขาอีกแล้ว? พูดออกไปมันเป็นการตบหน้าตัวเองไม่ใช่เหรอ?

และหานซิงเองก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติในคำพูด

ของเธอ เขาหรี่ตาลง “คู่หมั้นอะไรกัน? ”

เสี่ยวเหยียนหันหน้าไปทางอื่น ไม่สนใจเขา

ทั้งๆ ที่ในใจก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่กลับเสแสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วมา ถามเธออีก เห็นว่าเธอเป็นคนถูกรังแกง่ายยังงั้นเลยเหรอ?

“ในใจคุณก็รู้ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องมาถามฉัน
พอได้ยินดังนั้น สุดท้ายหานซึ่งก็ขมวดคิ้วขึ้น ตอนแรก เขานึก ว่าเสี่ยวเหยียนเตรียมจัดงานวันเกิดให้เขา แต่เขากลับออกไป เลยทําให้เธอทุกข์ใจแล้วก็โกรธเขา

แถมยังพูดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจคนอย่างมาก ตอนนั้นหานซิง นึกว่าเธอโกรธและอยากเลิกกับเขาเพราะเรื่องนี้ แต่มันก็เป็น เรื่องจริงที่เขาทําร้ายเธอก่อน

แต่ว่าตอนนี้ เขาพบว่าเหมือนกับว่าเสี่ยวเหยียนไม่ได้โกรธ เรื่องวันเกิดงั้นเหรอ?

พอนึกถึงเรื่องนี้ หานซึ่งก็ถามในสิ่งที่ตัวเองคาดเดาออกมา “ที่จู่ๆ เธอบอกว่าจะเลิกกับฉัน ไม่ใช่เพราะว่าเรื่องฉลองวันเกิด ของฉันงั้นเหรอ? ”

เรื่องฉลองวันเกิด?

ถึงแม้ว่าเธอจะเตรียมการมานาน แล้วจู่ๆ เขาก็จากไป แต่พอ ตอนนั้นได้ยินสวี่เย็นหวั่นบอกว่าเขาไม่เคยฉลองวันเกิดมาก่อน ตอนนั้นเธอยังรู้สึกด้วยซ้ำว่าเธออาจจะไปสัมผัสบาดแผลอะไร บางอย่างของเขา ยังตำหนิตัวเองอยู่เลย

เธอเสียใจจริงๆ แต่ว่าเธอเองก็อยากรู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึง ไม่อยากฉลองวันเกิด

แต่ว่านึกไม่ถึงว่า ข่าวที่ตามมา ก็คือเธอได้รู้อย่างไม่คาดคิด ว่าสวี่เย็นหวั่นคือคู่หมั้นของเขา

เรียกได้ว่าเป็นการโจมตีคู่เลยดีกว่า
ถ้าเกิดว่าสวีเย็นหวั่นไม่ใช่คู่หมั้นของเขา ถ้ายังงั้นคำพูดพวก นั้นที่เธอพูดเสี่ยวเหยียนคงไม่ได้เก็บมาใส่ใจหรอก

แต่ว่าตอนนี้ เธอกลับสนใจประโยคนั้นมาก ที่ว่า ฉันนึกว่าเธอ จะสามารถรักษาจุดอ่อนของเขาที่ไม่อยากฉลองวันเกิดได้แล้ว พวกเธอเป็นแฟนกัน เขาควรจะบอกเรื่องพวกนี้กับเธอไม่ใช่เหรอ

พอเห็นว่าเสี่ยวเหยียนไม่ตอบ หานซึ่งก็จับไหล่ของเธอ

“หม? ”

เสี่ยวเหยียนเงยหน้าขึ้นมา สบตากับเขา “เรื่องที่คุณรู้ดีอยู่ แล้ว ทำไมต้องมาถามฉันด้วยล่ะ? เพราะว่ารู้สึกว่ามันสนุก หรือ ว่าอยากทำให้ฉันรู้สึกอัปยศอดสูมากกว่านี้? ”

ประโยคนี้ ราวกับว่าทำให้หานชิงมั่นใจได้ว่า เธอไม่ได้อยาก จะเลิกกับเขาเพราะเรื่องวันเกิด

“เรื่องคู่หมั้นที่เธอพูดเมื่อกี้นี้ คือเรื่องอะไรกัน? ”

เสี่ยวเหยียนเบิกตากว้างด้วยความงงงัน อยากจะพูดแต่ก็ทน ไว้ สุดท้ายก็หัวเราะออกมาเพราะความโกรธ

“เรื่องอะไรยังงั้นเหรอ? นั่นคือคู่หมั้นของคุณ แล้วคุณมาถาม ฉันเนี่ยนะ? ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่ามันคือเรื่องอะไรกัน! ”

พอพูดจบ เธอก็ออกแรงสะบัดมือของเขาออก เสียงของเธอสั่น สะท้านเล็กน้อย “ทั้งๆ ที่คุณมีคู่หมั้นของตัวเองอยู่แล้ว แต่กลับ มาพูดต่อหน้าฉันว่าจะชอบฉันตลอดชีวิตอะไรนั่น หานซิง คุณ จะจอมปลอมเกินไปแล้ว! ”
หลังจากเงียบไปนาน น้ำเสียงของทานซึ่งก็ดูไม่มีทางเลี่ยง

“ใครบอกเธอว่าฉันมีคู่หมั้นแล้ว? ”

เสี่ยวเหยียนที่หัวใจเต้นแรง ลมหายใจไม่คงที่เพราะว่าโกรธ พอเธอได้ยินประโยคนี้นั้น ก็อึ้งไปในทันที เธอมองหานซึ่งที่อยู่ ตรงหน้าเธอ “หมายความว่ายังไง? ”

“ดังนั้น เธออยากเลิกกับฉันเพราะว่าเรื่องนี้ยังงั้นเหรอ? ” หาน ซึ่งไม่ได้ตอบคําถามของเธอ แถมยังถามต่อ แล้วก็เผลอหัวเราะ ออกมา “ยัยเด็กน้อย…

เสี่ยวเหยียน : ? ? ? ”

สรุปแล้วมันเรื่องอะไรกันแน่? ประโยคเมื่อกี้ของเขานั้นมัน หมายความว่ายังไงกัน? เขาไม่ยอมรับว่าตัวเองมีคู่หมั้นยังงั้นเห รอ?

ไม่ใช่สิ ถ้าเกิดว่าคนอื่นพูดก็ช่างเถอะ แต่ว่านี่สวีเย็นหวั่นเป็น คนพูดเอง แถมยังส่งข้อความมาหาเธออีก

พอคิดได้แบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็กัดริมฝีปากตัวเองแน่น “คุณ โกหกให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ นี่จะกล้าบอกฉันว่าไม่มีคู่หมั้นยัง งั้นเหรอ! ”

สีหน้าของหานชิงดูไม่มีทางเลี่ยง “ฉันอยู่คนเดียวมาโดย ตลอด แล้วคู่หมั้นจะมาจากไหนกัน? ”
“แล้วสวี่เย็นหวั่นล่ะ เธอไม่ใช่คู่หมั้นของคุณหรอกเหรอ?

พอพูดชื่อนี้ขึ้นมา สายตาของท่านซึ่งก็มีประกายความงงงวย “เย็นหวั่น? เธอเป็นลูกสาวของลุงสวี่ไม่ใช่เหรอ? ฉันก็เคยบอก เธอแล้วนิ แล้วเธอกลายมาเป็นคู่หมั้นฉันได้ยังไง? ”

เย็นหวั่น?

“คุณยังเรียกเธออย่างสนิทสนมเลย! ” เสี่ยวเหยียนโมโหมาก กัดฟันตัวเองกรอด

“สนิทสนมเท่าเหยียนเหยียนเหรอ? ” หานซึ่งโน้มตัวลงมา เอาหน้าผากของตัวเองชนกับหน้าผากขาวๆ ของเธอ น้ำเสียง แหบแห้งขึ้นเยอะ “ถ้าเกิดว่าเธอโกรธและต้องการจะเลิกกับฉัน เพราะเรื่องนี้จริงๆ ก็แสดงว่าเธอใส่ร้ายฉันอย่างไม่เป็นธรรม แล้ว”

“ใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม? ”

“อืม” หานชิงพยักหน้า “เธอไม่ใช่คู่หมั้นของฉัน อย่างมากก็ แค่โตขึ้นมาด้วยกันเท่านั้น ความสัมพันธ์ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไป หน่อย แต่ว่าระหว่างฉันกับเธอไม่มีอะไรกันทั้งนั้น ฉันไม่ได้เห็น เธอเป็นแม้แต่น้องสาวด้วยซ้ำ”

ตอนแรกเสี่ยวเหยียนยังนึกว่าเขาจะพูดประมาณว่า เขาแค่ เห็นสวีเย็นหวั่นเป็นน้องสาวเท่านั้น ใครจะไปนึกว่าเขากลับพูด ว่าเขาไม่ได้เห็นเธอเป็นแม้แต่น้องสาวด้วยซ้ำ
“ฉันเอาแต่ตามหาน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง ไม่มีอารมณ์ไป สนใจเรื่องอื่นหรอก ลูกสาวของตระกูลสสำหรับฉันแล้วนั้น อย่างมากก็เป็นแค่เพื่อนเล่นในวัยเด็กเท่านั้นเอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ