เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 194 ไปรับเธอมา



บทที่ 194 ไปรับเธอมา

“พี่ พี่ใหญ่..”

เสิ่นเฉียวถูกทำให้ตกใจจนถอยหลังไปสองสาม ก้าว หลีกเลี่ยงสองมือที่สัมผัสของเย่หลิ่นหาน “พี..กำลังพูดอะไรอยู่?”

เย่หลิ่นหานไม่มีท่าทีที่จะหลบสายตาเธอ จ้อง มองเธออย่างไม่กะพริบตา ยิ้มอย่างขมขื่น: “เธอฉลาด เพียงนี้ ทำไมถึงจะไม่เข้าใจความหมายของพี่ล่ะ?”

เสิ่นเฉียวตกใจจนหน้าซีด

เขาทำแบบนี้ ..คือกำลังตีท้ายครัวของน้อง

ชายตัวเองอย่างเปิดเผยงั้นเหรอ? ในใจของเส้นเฉียว สับสนมาก สายหัวแล้วถอยไปข้างหลัง เย่หลิ่นหานกลับ ล็อกไหล่เธอจากด้านบน เมื่อคืนเธอก็เห็นแล้ว: “เขาไม่ ได้สนใจว่าเธอจะเป็นหรือตาย พี่สงสารเธอ ไม่อยากให้

เธอต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้อีก”

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” เสิ่นเฉียวริมฝีปากสั่น ใช้แรง ดิ้นรน “ถึงแม้เยโม่เซินจะไม่สงสารฉัน ก็ไม่ถึงคราวของ พี่ที่ต้องมาสงสารฉัน พี่เป็นพี่ใหญ่ของเขานะ”

“ก็เพราะว่าพี่คือพี่ใหญ่ดังนั้นจึงอดทนมานาน ขนาดนี้” คำพูดของเย่หลิ่นหานรุนแรงเล็กน้อย เขาหรี่ ตาลง จู่ลมหายใจบนร่างกายก็เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ในห้องใต้ดิน “หากไม่เห็นแก่ความเป็นญาติ เรื่องที่เขา กับเธอทั้งหมด พี่คงจะจัดการไปตั้งนานแล้ว”
เสิ่นเฉียวปากแข็งที่อ มองดูเขาด้วยสายตาที่ไม่ อยากจะเชื่อ

ทำไมเป็นแบบนี้? เย่หลิ่นหาน. .เย่หลิ่นหาน ชอบเธอเหรอ? หรือว่า…ดูเธอน่าสังเวชเกินไป ก็เลย สงสารเธอ?

“พี่ไม่อยากเห็นเธอได้รับบาดเจ็บอันใดอีก รู้ ไหม?”

“ไม่!” เสิ่นเฉียวเหมือนนึกเรื่องสำคัญบางอย่าง ได้ ทันใดนั้นก็ผลักเย่หลิ่นหานอย่างแรง มันจะเป็นแบบ นี้ไม่ได้ พี่เป็นพี่ชายของเย่โม่เซิน และก็เป็นพี่ชายฉัน ด้วย ระหว่างเรามันก็เป็นไปไม่ได้ วันนี้ที่ฉันมา จะมาบอก พี่ว่าฉันอยู่แผนกเดิมก็ดีอยู่แล้ว ฉันไม่ยอมรับการย้าย ตำแหน่งนี้”

พูดจบ เส้นเฉียวก็หันหลังเดินออกไปจากห้อง ทำงานโดยตรง

เย่จื่อที่รอยู่ด้านนอก ไม่รู้ว่าเสิ่นเฉียวจะ พรวดพราดออกมา อีกนิดก็จะชนเธอจนล้ม เสิ่นเฉียวทั้ง คำขอโทษไว้ก็จากไป แยจื่อสงสัยจนต้องมองเข้าไปใน ห้องทำงานของเยู่หลิ่นหาน

“รองประธานเย่ เออ. .เธอเป็นอะไรคะ?”

เย่หลิ่นหานมองดูหลังของเสิ่นเฉียวที่ค่อยๆไกล ออกไป ก้มหน้ายิ้มอย่างขมขื่น เธอเป็นอะไรเหรอ?

“อาจเป็นเพราะผมทำให้เธอตกใจมั้ง?”
“รองประธานเย่ทำอะไรเธอ…

“คุณไปทำงานก่อน สายๆหากเธอยังไม่มา รายงานตัว คุณก็ไปรับเธอที่แผนกได้เลย”

แยจ่อ: “.

ชิ

ถึงกับต้องไปรับ ดูท่ารองประธานเย่จะดีกับยัย เด็กนั่นไม่น้อย? ในใจแยจื่อพอจะประเมินได้แล้ว

เสิ่นเฉียวที่ไปแล้วกลับมาใหม่ คนในแผนกต่าง พากันประหลาดใจ

“เอ๊ะ เธอทำไมถึงกลับมาล่ะ? เธอไปเป็นเลขา แล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่จ้า เธอกลับมาทำไมอีกเหรอ?”

เสิ่นเฉียวไม่ได้รู้จักพวกเขาอย่างลึกซึ้ง และไม่ ได้อยากเป็นเพื่อนกับพวกเขา ตั้งแต่กาวหยุนชุยหมิ่นลี่ ตอนนั้นที่รังแกเธอ พวกเขาก็ดูเป็นเรื่องสนุก

ดังนั้นเธอส่ายหัวไปมา ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แล้ว นั่งลงโดยตรง

“เอ๊ะ ได้ยินว่าหัวหน้าถูกไล่ออกแล้ว กาวหยุน และชุยหมิ่นลี่ก็ถูกไล่ออกเช่นกัน มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น กันแน่? เสี่ยวเสิ่น ปกติพวกเขาสองคนชอบรังแกเธอ พวกเขาโดนไล่ออก แต่เธอได้ย้ายตำแหน่ง เรื่องนี้มัน เกี่ยวกับเธอด้วยหรือเปล่า?”

“ถูกแล้วเสี่ยวเสิ่น หากเธอรู้อะไรก็บอกพวกเราหน่อยเถอะ พวกเราสงสัยมากเลย”

“พูดหน่อยสิ”

ทุกคนต่างพากันถามเสิ่นเฉียว เสิ่นเฉียวอารมณ์ ไม่ดีอยู่แล้ว ถูกพวกเขาถามตลอดเวลา ยิ่งทำให้ หงุดหงิดจนลุกขึ้นตอบไปหนึ่งประโยค

ไล่ออกพวกเขา ย้ายตำแหน่งให้ฉันก็ไม่ใช่ฉัน สักหน่อย ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าเกิดอะไรขึ้น? แม้กระทั่งฉัน ถูกย้ายตำแหน่งยังรู้จากปากของพวกคุณเลย พวกคุณ อยากรู้อะไรก็ไปถามข้างบนละกันนะ?”

เขาระเบิดอารมณ์ทันที ทุกคนต่างพากันสะดุ้ง คิดไม่ออกว่าทำไมอยู่ดีๆเธอถึงโมโหเพียงนี้ จากนั้นมี คนส่งมีได้พูดขึ้นหนึ่งคน

“อะไรน่ะ? ดอะไรกัน เราแค่ถามเธอคำเดียวเอง

ไม่อยากตอบก็ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย?”

“เธอ เธอนึกว่าตัวเองเป็นใครกัน? เพิ่งได้ขึ้น ตำแหน่งก็เริ่มกวนคนอื่นแล้วเหรอ ท่าทางที่โมโหแบบนี้ หรือว่าจะถูกลดตำแหน่งแล้ว อีกหน่อยอาจจะโดนไล่ ออกก็ได้!”

“ใช่ๆ ก่อนหน้านี้เป็นผู้ช่วยของคุณชายเย่ ตอนนี้ ถึงแม้จะได้เลื่อนตำแหน่งก็เป็นแค่เลขาของรองประธาน เย่ เธอนึกว่าเธอเป็นใครเหรอ?”

ได้ยินคำนินทาเหล่านี้ เสิ่นเฉียวทำได้เพียงยิ้ม อย่างเย็นชา จากนั้นนั่งลงทำงานของตัวเองต่อ
กาวหยุนและชุยหมิ่นลี่ยังมีสวี่เลี่ยว ต่างถูกไล่ ออกไปแล้ว

เรื่องนี้…..ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของเย่หลิ่นหาน หรือ เยโม่เซิน

คิดถึงสองคนนี้ เสิ่นเฉียวรู้สึกปวดหัว

เธอไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเย่หลิ่นหานจะพูดแบบนี้ กับเธอ ความสัมพันธ์เธอกับเย่หลิ่นหานเดิมทีก็ซับซ้อน เกินพอแล้ว พูดก็ไม่ชัดเจนอธิบายไม่ได้ ตอนนี้เขา ก็…

ต่อไปนี้เสิ่นเฉียวคงต้องใช้ชีวิตอย่างวุ่นวาย และ

ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

รอจนถึงเวลาพักเที่ยง เสิ่นเฉียวเดินออกจาก แผนกก็เจอกับเสี่ยวเหยียน ทันทีที่เสี่ยวเหยียนเจอเธอก็ รีบวิ่งเข้ามาคล้องแขนของเธอ

“ดีจังนะเธอ ฉันนึกว่าวันนี้เธอจะไม่มาทำงาน

แล้ว” พูดจบ เสี่ยวเหยียนจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ตอนนี้เธอยืนมั่งคงหรือยัง?”

เสิ่นเฉียว: “..”ทำไมถึงจะไม่ได้ละ?”

“เมื่อคืน…เธอกับคุณชายเย่น่าจะร้อนแรงกัน ไม่ใช่เหรอ?”

เส้นเฉียวไม่มีคำพูด “เธอจินตนาการอะไรอยู่?”

“จินตนาการมั่วอะไรล่ะ เมื่อคืนเธอโดนวางยาไง–มองเธอที่เป็นแบบนั้น ทำไมถึงหรือว่า…” พูด ถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนเพิ่งตากว้างแล้วพูดอย่างตกใจ ทำให้เป็นจุดสนใจขึ้นมา

“คุณชายเยไร้สมรรถภาพจริงเหรอ?”

เสิ่นเฉียวสีหน้าเปลี่ยนทันที รีบยื่นมือออกไป

ปิดปากของเธอไว้

“เธออย่าพูดมั่วนะ!”

เสี่ยวเหยียนใช้แรงในการกะพริบตา ส่ายหัวไปมา เสิ่นเฉียวถึงได้ปล่อยมือ “เรื่องนี้เธออย่าถามอีกเลย และ ไม่ต้องไปสนใจว่าเย่โม่เซินจะเป็นยังไง พวกเราไปกิน ข้าวกันเถอะ”

พูดจบเสิ่นเฉียวก็เดินไปข้างหน้าโดยตรง เสี่ยว เหยียนเลยเร่งฝีเท้าตามเธอจนทัน

“ฉันไม่ยุ่งไม่ได้นะ ฉันต้องถามเธอแน่นอน เธอ

ตอบฉันมาตามตรงเลย ทำไมเธอถึงเป็นภรรยาของคุณ ชายเย่ เรื่องนี้ทำไมฉันถึงไม่รู้ละ?”

เสี่ยวเหยียนใช้เวลาไปตั้งหนึ่งคืนถึงจะสามารถ ย่อยข้อมูลนี้

พูดถึงเรื่องนี้ เสิ่นเฉียวรู้สึกปวดหัว ยังไงเสี่ยวเห ยียนก็มีวิธีในการบีบถามเธอ เธอตอบอย่างเอือมระอา “ตัวฉันเองก็ยังสับสนอยู่เลย เรื่องนี้พูดแล้วมันยาว ฉัน..

“งั้นก็สรุปย่อๆละกัน! เสี่ยวเหยียนตบโต๊ะไปสองสามที “เธอรออยู่ตรงนี้ คิดดูว่าจะต้องพูดยังไง อาหาร เที่ยงเดี๋ยวฉันไปตักให้เธอเอง เดี๋ยวฉันกลับมาเธอต้อง บอกฉันนะ”

เสิ่นเฉียวยังไม่ทันได้ปฏิเสธเธอ เสี่ยวเหยียนก็ ได้ลุกขึ้นหนีไปแล้ว มองดูหลังที่เร่งรีบของเธอ เสิ่น เฉียวเอื้อมระอามาก ยัยคนนี้มันช่าง..บ้าๆบอๆเสียง จริง

แต่เมื่อคืนต้องขอบคุณเธอ เขาไปพาเย่โม่เซินมา ถึงด้านหน้าตัวเธอ อาจจะเป็นเพราะว่าเขาสังเกตเห็นว่า เธอหายไป ดังนั้นจึงไปขอความช่วยเหลือจากเย่โม่เซิน

หากเมื่อคืนเย่โม่เซินมาไม่ทันเวลา เป็นไปได้ ว่า…เธอก็คงถูกเย่หลิ่นหานช่วยไปแล้ว

ถึงเวลานั้นอธิบายยังไงก็คงไม่เคลียร์


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ