เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1566 ถูกใจฉันที่สุด



บทที่1566 ถูกใจฉันที่สุด

เด็กสาวทั้งสามคนนั่งอยู่ตรงจุดเดียวกัน

ชายทั้งสี่คนทำได้เพียงรออยู่ข้างๆ สาวน้อยมั้ยล่ะ เลี่ยงไม่ ได้ที่มารยานิดๆหน่อยๆ ทุกคนก็ทำไปด้วยความเต็มใจกันแล้ว

กว่าจะดื่มเสร็จ ก็ได้พักกันไปประมาณนึงแล้ว ทุกคนก็ได้ออก

เดินทางกันอีกครั้ง เดินๆหยุดๆ กันอย่างนี้ พักกันไปสองสามครั้ง ในที่สุดทุกคนก็

มาถึงยอดเขากันเสียที

อากาศบนยอดเขาดีมาก อีกทั้งยืนอยู่สูงจนเมืองดูเล็กลงไป ถนัดตา แม่น้ำภูเขาที่มองลงไปแล้วก็ดูงดงามอย่างมาก

เพิ่งเขือเฟยมาที่แบบนี้เป็นครั้งแรก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปดู

ภูเขาแม่น้ำแสนสวยนั้น ภายในใจก็รู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก

แต่ก่อนเธอจะไปมีโอกาสอย่างนี้ที่ไหน มาตอนนี้กลับสามารถ มองเห็นภาพวิวอย่างนี้ได้ ภายในใจจึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็ก น้อย มีความรู้สึกอะไรก็แทบจะพรั่งพรูกันออกมา

“ตอนกลางคืนเธอจะพบว่าที่นี่มันสวยกว่านี้อีกนะ ดวงดาว ส่องสว่างมาก รอบๆเงียบสงบ ถึงขนาดที่ไม่มีเสียงจิ้งหรีดร้อง เลย”

จงเฟิงเหมือนกับว่าสามารถรับรู้ได้ถึงอาการตื่นตะลึงในใจของเธอได้ก็ไม่ปาน จึงได้เข้ามาพูดกับเธอ

“หลังจากนั้นพอถึงวันพรุ่งนี้ ตอนที่ทุกคนออกไปดูพระอาทิตย์ ขึ้นด้วยกัน เธอก็จะตะลึงขึ้นมาอีกครั้ง

“ดูพระอาทิตย์ขึ้น?”

“ใช่แล้ว พวกเราทุกคนมาเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน พระอาทิตย์ ข็นของที่นี่สวยมากเลยนะ

ตามมาพร้อมกับทุกคน ตอนที่มาครั้งแรกๆกลับไปขากล้าไป หมด คืนนี้ทางที่ดีเธอก็แซ่ตัวนวดตรงช่วงขาให้ผ่อนคลายสัก หน่อย พรุ่งนี้จะได้ไม่ปวดตอนเดิน

พอพูดมาอย่างนี้แล้ว เพิ่งเขือเฟยเองก็เข้าใจดี เพราะถึงยังไง พวกเขาก็เดินขึ้นมา

“ได้ค่ะ ขอบคุณพี่เฟิงที่เตือนนะคะ”

“ขอบคุณฉันก็แสดงความจริงใจออกมา รีบบอกฉันมาว่า ตกลงแล้วที่โรงเรียนหยวนหยวนมีเด็กผู้ชายมามองเธอหรือ เปล่า?”

คำถามนี้อีกแล้ว เพิ่งเขือเฟยอึดอัดใจอย่างมาก

“พี่ฉู่เฟิง นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของหยวนหยวนนะคะ ฉันไม่ค่อย แน่ใจจริงๆ ถ้าอยากรู้มากนักล่ะก็ ไม่ลองไปถามเธอเองดีกว่า ล่ะคะ? พี่ดีกับหยวนหยวนขนาดนี้ เธอจะต้องบอกพี่แน่

“ชิส์ เด็กคนนี้นี่ ช่างเถอะๆ” จงเพิ่งยิ้มออกมาอย่างจนใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก

เพราะว่าเดินกันมานาน เรี่ยวแรงของพวกสาวๆก็ประคับ ประคองกันจนไม่ไหวแล้ว ทุกคนจึงไปยังที่ที่ได้จัดเตรียมกันเอา ไว้

คนงานที่วิลล่าแห่งนี้เห็นถือและคนอื่นๆมากันแล้ว จึงเข้า มาด้วยความเคารพนอบน้อม

“คุณชาย ห้องได้จัดเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ”

ฉือซูเม้มริมฝีปากออกมาเล็กน้อย “ครั้งนี้เพิ่มมาคนนึง ยัง มีห้องว่างอีกมั้ย?”

“มีค่ะ พวกเราจะรีบไปจัดเตรียมเดี๋ยวนี้

เพิ่งเขือเฟยฟังออกว่ากำลังพูดถึงตัวเองอยู่ จึงเอ่ยออกไปทันที “ไม่ต้องหรอก ฉันนอนกับหยวนหยวนก็ได้”

“นอนห้องตัวเองไปสิ โตขนาดนี้แล้วยังต้องนอนด้วยกันอีก? จงเพิ่งเอ่ยเข้าออกไปประโยคนึง “อย่าไปสนใจเธอ รีบไป เตรียมเถอะ”

หลังจากที่ที่พักได้จัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถางหยวน

หยวนกลับไปถึงห้องก็เหนื่อยจนปีนขึ้นไปเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียง จากนั้นก็กอดหมอนไม่ยอมปล่อย เพียงไม่นานก็นอนหลับไป เพิ่งเขือเฟยถูกจัดให้พักในห้องเดี่ยวห้องหนึ่ง โชคดีที่อยู่ห้องติดกับจงฉู่เฟิงพอดี

เธอเห็นห้องเดี๋ยวนี้ที่ใหญ่กว่าห้องที่บ้านของเธอเสียอีก ห้อง นอน ห้องอาบน้ำ โต๊ะวางทีวี ตู้เย็น แอร์ อะไรๆก็มีทั้งนั้น มีแต่สิ่ง ที่เธอคิดไม่ถึงทั้งนั้น

แต่เธอไม่ได้รู้สึกยินดีและตื่นเต้นอะไรเลยแม้แต่น้อย อารมณ์ กลับดิ่งลึกลงไป เมื่อก่อนเธอกับถางหยวนหยวนเล่นกันอย่าง สนุก คิดว่าเธอนิสัยอ่อนโยน ทั้งไร้เดียงสาและทั้งจิตใจดี อีก อย่างทั้งๆ ที่บ้านเธอก็มีเงินแท้ๆ แต่กลับไม่ได้ดูถูกเธอที่บ้าน ยากจนเลย

ตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง ดังนั้นแล้วเมิ่งเขือเฟยกับ ถางหยวนหยวนจึงเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปี ตลอดมาก็คิดว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นดีมาก ช่องว่างระหว่างกันก็ใกล้ กันมาก

แต่ในช่วงสองวันนี้เพิ่งเขือเฟยเพิ่งจะรู้

ช่องว่างระหว่างเธอกับถางหยวนหยวน ความจริงมันก็ห่าง ไกลอยู่ เพียงแค่ภายนอกมันดูใกล้กันเท่านั้นเอง

แต่สถานะของทั้งสองคน แทบจะต่างกันราวฟ้ากับเหว เธอนั้น เป็นแก้วตาดวงใจที่ทุกคนต่างพากันรักใคร่ทะนุถนอมกัน แล้ว เธอล่ะ? ก็เหมือนกับหัวไชเท้าที่ถอนออกมาจากดิน แล้วโยนไป อยู่อีกฝั่งโดยที่ไม่มีใครสนใจ

พักที่นี่คืนนึง เงินที่ต้องจ่ายไป ก็เป็นเงินค่าขนมหลายเดือน ของเธอเลยทีเดียว
เพิ่งเขือเฟย เธอจะพักต่อไปได้อีกจริงๆน่ะหรอ?

มีอารมณ์อย่างนี้ก็ดี ดวงดาวในค่ำคืนนี้งดงามแค่ไหน เพิ่ง เขือเฟยเองก็ไม่ได้มีกะจิตกะใจดูมัน ตอนที่ทุกคนกินข้าวด้วยกัน อารมณ์ของเธอก็ดิ่งลงอย่างมาก ของที่กินไปก็ค่อนข้างที่จะน้อย เช่นกัน

ดังนั้นระหว่างทางกลับ จงเฟิงก็ได้เรียกเพิ่งเขือเฟยออกมา เพียงลำพัง บอกว่าอยากคุยเรื่องในใจกับเธอ

เพิ่งเขือเฟยไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ทำได้เพียงก้าวตาม หลังเขาไปช้าๆ

“พี่เฟิง เป็นอะไรไปหรอคะ?”

สองมือของจงเฟิงสอดเข้ากระเป๋ากางเกง มุมปากประดับไป ด้วยรอยยิ้มจางๆ “เธอคิดใช่มั้ยว่าตัวเองเข้ากับพวกเธอไม่ได้ กลัวว่าพวกเขาจะดูถูกเธอ รู้สึกไม่กลมกลืนกับพวกเขา?

เพิ่งเขือเฟยนึกไม่ถึงว่าความคิดที่อยู่ภายในใจของตัวเองจะ ถูกคาดเดาได้ถูกหมดอย่างนี้ทันที ฝีเท้าจึงชะงักไป มองจงเฟิง ไปอย่างยิ่งๆ

“แปลกใจมาก?” จงฉู่เฟิงหัวเราะออกมาเล็กน้อย “อย่าแปลก ใจไปเลย เมื่อกี้นี้ที่ฉันพูดเรื่องพวกนั้นไป ความจริงแล้วมันเป็น ความคิดเมื่อก่อนหน้านี้ของฉันเองนะ

“เมื่อก่อนของพี่?”

“อืม ตอนที่ฉันเพิ่งรู้จักกับซูตอนนั้น ตอนที่ตามพวกเขามาที่นี่ครั้งแรก ตอนนั้นฉันก็ตื่นตะลึงไปหมด ถึงแม้ว่าบ้านฉันจะมีเงิน มาก นับว่าร่ำรวยเลยก็ได้ล่ะมั้ง แต่บ้านพวกเขาก็รวยจนฉัน ตะลึงไปเลย ตอนนั้นฉันเองก็คิดเหมือนกัน ว่าฉันคู่ควรที่จะเป็น เพื่อนอะไรพวกนั้นกับพวกเขาหรือเปล่า เพราะถึงยังไงมันก็ เหมือนกับคนที่อยู่กันคนละโลก แต่ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไปนานวัน ขึ้น ฉันก็เพิ่งจะได้พบว่าการเป็นเพื่อนกันความจริงแล้วมันต้องพึ่ง โชคชะตาทั้งนั้น หลังจากนั้นแล้วก็ค่อยดูนิสัยว่าจะสามารถ คบหากันได้อย่างยาวนานหรือเปล่า”

พึ่งโชคชะตาก่อน แล้วค่อยดูนิสัย?

คำพูดนี้เพิ่งเขือเฟยได้จดจำมันเอาไว้ เธอกับถางหยวนหยวน รู้จักกันมาหลายปี นับว่ายาวนานหรือเปล่า?

“เธอมาเป็นครั้งแรก ดังนั้นแล้วมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความคิด อย่างนี้ ปัญหาพวกนี้ของเธอน่ะ มันจะต้องมาหลายๆครั้ง หลัง จากนี้ไปมันก็จะดีขึ้นเอง

คำพูดนี้พูดออกมาจนทำเอาเพิ่งเขือเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

“นี่มันวิธีที่แปลกอะไรกันเนี่ย

“นี่มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว สิ่งที่เธอยิ่งรู้สึกกลัวเธอก็ยิ่งต้อง เผชิญหน้ากับมัน เผชิญหน้าหลายครั้งเข้า เธอก็จะเกิดความรู้สึก เคยชินขึ้นมา ในทางตรงกันข้ามกัน ถ้าเธอยิ่งหลบ เธอก็จะยิ่ง กลัว และจะกลัวมันตลอดไป คนเรามีชีวิตอยู่ มีบางอย่างที่ควรจะ ต้องกล้าหาญสักหน่อยมันถึงจะดีมั้ยล่ะ”
ฟังมาจนถึงตรงนี้แล้ว ก็ได้สะกิดใจเมิ่งเขือเฟยขึ้นมา เธอเองก็ ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้ถามออกไป คำนึงอย่างไม่รู้ตัว

“ดังนั้นแล้ว ตอนแรกพี่คิดว่าพี่เข้ากับพวกเขาไม่ได้ ต่อมาหลัง จากที่ชินแล้ว พี่ก็เลยเริ่มมีความรู้สึกดีๆอย่างนี้กับหยวนหยวน ขึ้นมา?”

จงเพิ่งที่จากเดิมลอยหน้าลอยตาออกมา หลังจากที่ได้ยินคำ พูดของเมิ่งเช่อเฟย ก็นิ่งแข็งไปทันที หลังจากที่ผ่านไปได้สักพัก ก็ได้กลับมาเป็นดังเดิม

“มองออกแล้ว?”

เพิ่งเขือเฟยหลุบตาต่ำลง เอ่ยเสียงเรียบออกไป “มันชัดเจน เกินไป อยากจะมองไม่ออกมันก็ยาก

“แต่เธอก็มองไม่ออก” จงเพิ่งถอนหายใจออกมา “ช่างเถอะ เธอยังเด็ก ฉันเองก็ไม่หวังให้เธอเข้าใจในตอนนี้ ฉันก็แค่หวังให้ เธอผ่านไปสักสองปี รอจนตอนที่เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว สามารถ ลองพิจารณาฉันดูก่อนเป็นอันดับแรกๆได้”

“พี่ดีกับเธอขนาดนั้น คงจะมีโอกาสแหละ”

“ชิส์ น้องเขือเฟย วันนี้เธอพูดมาตั้งมากมาย แต่มีเพียงคำพูด นี้ที่ถูกใจฉันที่สุด”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ