เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่648 จะจัดงานแต่งเดือนหน้า



บทที่648 จะจัดงานแต่งเดือนหน้า

“ไฮ” จู่ๆตวนมเจ๋อก็ยกมือขึ้นมา ทักทาย หานมู่จื่อ

หานมู่จื่อชะงักไปครู่หนึ่ง สายตาของ คนๆนี้ก็เป็นมิตรอยู่หรอก แต่คนที่อยู่ข้างๆ

หานมู่จื่อสบตากับอวนปูเสว เห็นความ เป็นปรปักษ์ในสายตาเธอได้อย่างชัดเจน

ไม่รู้ว่าทําไม จู่ๆหานมู่จื่อก็มีลางสังหรณ์ ว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือคนที่รับสายในคืนนั้น แล้ว บอกว่าเย่ไม่เป็นกำลังอาบน้ำอยู่

เธอแต่งตัวงดงามมีระดับ ส่วนตัวเธอ……. แววตาของหาน จื่อชะงักไป จากนั้นมุม

ปากก็ยก น

“ไม่ต้องรีบไล่พวกเขาไปหรอก ในเมื่อ มาแล้ว งั้นคุณก็ต้อนรับพวกเขาดีๆแล้วกัน”

เย่โม่เซน “มู่จื่อ ?”

เขาขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าหานมู่จื่อกำลัง คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงให้เขาต้อนรับสองพี่น้อง ตระกูลตวนมู่ดีๆด้วย

“ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน” หานมูจื่อดึง เสื้อนอกที่อยู่บนตัวไว้แน่น จากนั้นก็ส่งยิ้มให้ เย่ไม่เซ็น ก่อนจะหนุนตัวกลับเข้าไปในห้อง นอน

หลังจากหาน จื่อเข้ามาในห้อง ก็รีบ โยนเสื้อนอกของเย่โม่เซ็นทิ้ง จากนั้นก็เข้าไป แปรงฟันล้างหน้าในห้องน้ำ จากนั้นก็ใช้เวลา เปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าอย่างรวดเร็วที่สุด

เมื่อยืนยันแล้วว่าเครื่องสําอางบนหน้า ไม่ได้มากหรือน้อยเกินไป หานมู่จื่อก็เก็บผม ยาวไปไว้ข้างหลัง จากนั้นก็เดินตรงไปด้าน นอก เมื่อต้นประตูออกอีกครั้ง ก็เห็นสองพี่น้อง ตระกูลตวน นั่งอยู่บนโซฟาแล้ว ความเจ๋อท่าทางสบายๆ ในถ้วยยังมีน้ำ ชาอยู่ สีหน้าดูเหมือนจะไม่แยแสอะไรเลย เมื่อได้ยินเสียงดังขึ้น เขาก็หันไปมองทางหา นมู่จื่อทันที

เพียงแค่มองครั้งเดียว ในแววตาของต วนมู่เจ๋อก็ปรากฏสีสันอันงดงาม จากนั้นก็พูด ขึ้นว่า “น้องสาว พี่ว่าเธอยอมแพ้เถอะ

พอตวนมู่เสว่ได้ยินเข้า ก็ยืดเอวตัวเอง

ให้ตรง “ทําไมฉันต้องยอมแพ้ด้วย เย่โม่เซินก็ ยังไม่ได้แต่งงานสักหน่อย ฉันยังสามารถต่อสู้ เพื่อความสุขของตัวเองได้”

ตอนที่เย่โม่เป็นเห็นหานมู่จื่อเดินออกมา ก็พบว่าเธอเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรง แถมยัง แต่งหน้าด้วย การแต่งกายสามารถมองออกได้ ว่าตั้งใจแต่งขนาดไหน

เยโม่เซินรู้สึกว่า………เองเข้าใจความ

หมายของเธอแล้ว

รอยยิ้มจางๆ ฉายผ่านดวงตาสีเข้ม เย่ไม่ เชินนั่งอยู่ที่เดิม มองดูหาน จื่อเดินมาข้างเขา เขายกมือขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และเว้นที่ว่าง ข้างตัวไว้ให้เธอ

ความเสบู่จ้องมองหานมู่จื่ออยู่ตลอด เวลา เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าไปล้างหน้าและแต่ง หน้าแล้ว ถึงแม้จะใช้เวลาเพียงน้อยนิด แต่ เธอก็ทำทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบแล้ว

คิดไปคิดมา ตวนมเสวก็ยืดเอวให้ตรงอีก ครั้ง ก่อนจะมองไปทางหานมูจื่อด้วยรอยยิ้ม

“คุณผู้หญิงคนนี้รีบร้อนกลับไปล้างหน้า แต่งตัว เพราะกลัวจะแพ้ให้ฉันเหรอคะ ?”

หานมูจื่อเพิ่งจะนั่งลงข้างๆเย่ไม่เป็น พอได้ยินคํานี้เข้า

เธอชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปทางตวน เสวีทันที

สวนมู่เสาสวมชุดกระโปรงเข้าชุด ทา ลิปสติกสีแดง ผมลอนทำให้เธอดูออร่าแผ่พุ่ง ส่วนหาน จื่อวันนี้เปลี่ยนเป็นชุด กระโปรงสีฟ้าอ่อน สีสดใสท่าให้ผมขาวนวล ของเธอผุดผ่องแวววาวมากยิ่งขึ้น บวกกับผ้า ไหมนุ่มลื่นกับการแต่งหน้าแบบธรรมชาติและ ลิปสติกสีอ่อน

หานมู่จื่อที่นั่งอยู่ข้างเย่โม่เซ็น แทบจะ หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับเขา

ออร่าอันแข็งแกร่งบนตัวของเยโม่เซ็น หลอมรวมเข้ากับความอ่อนนุ่มของหานจื่อ ได้อย่างลงตัว

ตัวของหานมู่จื่อพิงอยู่กับเย่โม่เชิ้นเล็ก น้อย ริมฝีปากก็โค้งขึ้น เป็นองศาที่พอดี

“ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคุณค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันเพิ่งตื่น เลยไม่เหมาะที่จะ ต้อนรับแขก คุณผู้หญิงคนนี้คิดว่าที่ฉันเข้าไป แต่งตัวก็เพราะต้องการเทียบขั้นกับคุณอย่าง นั้นเหรอคะ ? หรือว่าปกติตอนคุณอยู่บ้านคุณ สวมชุดนอนรับแขกคะ”

วน เสาชะงักไป สายตาที่มองหานมู่ อก็จริงจังขึ้น

ดูแล้วผู้หญิงคนนี้คงไม่ใช่คนที่จะรับมือ ได้ง่ายๆ เธอหันไปมองตวนเจ๋อทีหนึ่ง พบว่า เขาทำหน้าเหมือนกำลังรอดูเรื่องสนุก สวน เสวอยากจะเตะเขาแรงๆสักที

แต่อยู่ต่อหน้าเย่ไม่เซิน ตวนเสวต้องอด กลั้นต่อความต้องการนั้น ก่อนจะพูดด้วยน้ำ เสียงอ่อนโยนว่า “ก็ต้องไม่เป็นอย่างนั้นอยู่ แล้วค่ะ ตระกูลตวนมู่ของพวกเรายังคงให้ ความสําคัญกับมารยาทและรูปลักษณ์ ภายนอกอยู่แล้ว”

“แต่ว่า……. ความเสมองเธอทีหนึ่ง ก่อนจะเบนสายตาไปมองที่เย่ไม่เป็น

“ถึงแม้คุณจะใส่เสื้อนอนกางเกงนอน ออกมา ฉันก็ไม่ถือสาหรอกค่ะ เพราะยังไงฉัน ก็มาหาโมเงิน”

ได้ยินแบบนั้น หานมู่จื่อก็ไม่ได้หัวเสีย อะไร แต่กลับยิ้มแล้วคล้องแขนของเยไม่เช่น “ยิ่งเป็นแบบนั้น ฉันก็ยิ่งต้องแต่งตัวให้ เป็นทางการเข้าไปใหญ่ เพราะคงจะปล่อยให้ เขาเสียหน้าไม่ได้

เย่โม่เงินรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของมือ เธอ พอหันไปก็สบเข้ากับตาคู่สวยของเธอเข้า พอดี หลังจากมองความหมายของเธอออก แล้ว เย่ไม่เซินก็พยักพเยิดตาม

“ตอนที่เธอไม่แต่งหน้า ต้องให้ฉันดูคน เดียวเท่านั้น”

พูดจบ นิ้วของเขาก็สัมผัสเข้าที่มุมปาก ของเธอ เช็ดมันเบาๆ ปลายนิ้วติดสีมาเล็กน้อย จากนั้นก็ขยับไปที่ริมฝีปากและซิมมัน ริมฝีปาก บางขยับขึ้นเล็กน้อย

“วันนี้ลิปสติกของเธอดูเหมือนจะรสพีช

นะ”

รอยยิ้มที่มุมปากของหานมู่จื่อแข็งที่อไป

บนใบหน้าของสวนเสวก็ไร้รอยยิ้มเช่น กัน พอได้เห็นท่าทีของเย่ไม่เซินเธอเองก็ทน ต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว มือที่วางอยู่บนตักแทบจะ บิดรวมกัน

ผู้ชายท่าทางอ่อนโยนที่อยู่ตรงหน้า คือ คนที่ห่อตัวเธอด้วยผ้านวมแล้วโยนเธอออก จากห้องอย่างหยาบคาย เพราะกลัวว่าจะ สัมผัสโดนเธอแม้น้อยนิดคนนั้นจริงๆ หรือ ?

ทําไมถึงได้แตกต่างกันขนาดนี้ ทั้งๆที่ ตอนอยู่ต่อหน้าเธอ เย็นซาราวกับภูเขาน้ำแข็ง แต่พออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้……..

ตวนมเสว่แอบกัดริมฝีปากล่าง แล้วก็ได้ ยินตวนมู่เจ่อที่อยู่ข้างๆส่งเสียงเตือนมาคำ หนึ่ง

“ฉันขอเตือนเธอคำหนึ่งนะ รีบยอมแพ้ ตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า หน้าของคุณหนูตวน อย่างเธอจะได้ไม่เสียหายอย่างสมบูรณ์ไง”

“หุบปาก” ตวนมเสคํารามเสียงต่ำ ใน ที่สุดฉันก็ได้เจอคนที่ถูกใจ พี่เคยบอกว่าจะ ช่วยฉันไง แล้วตอนนี้มาตีกลองล่าถอยให้ฉัน ทําไม”

ดวนมเจ๋อทําเสียงทอดถอนใจ “ถูกแล้ว ฉันเคยบอกว่าจะช่วยเธอ แต่เธอก็เห็นแล้วใช่ ไหม ว่าในสายตาของเยโม่เซินมีแค่ผู้หญิงคน นั้น เธอหมดหนทางแล้ว”

“พวกเขาไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย ใคร บอกว่าฉันหมดหนทาง” หวนเสวพูดออกมา อย่างขุ่นเคือง ในใจเธอรู้สึกอิจฉาจนแทบทน ไม่ไหวอยู่แล้ว

ถ้าเย่โม่เซินเย็นชากับเธอบ้างสักนิดก็ว่า ไปอย่าง แต่เย่โม่เซินดีกับเธอขนาดนั้น แตก ต่างกับตัวเองราวกับฟ้ากับเหว ช่องว่างในใจ ของเธอช่างเลวร้ายจริงๆ ไม่พอใจอย่างที่สุด

พูดยังไม่ทันขาดคำ เย่โม่เซ็นก็โอบไหล่ ของหานมู่จื่อ แล้วก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ว่า “ใช่แล้ว เดือนหน้าพวกเราก็จะจัดงาน แต่งงานแล้ว” รอยยิ้มในแววตาของหาน จื่อแข็งทื่อ ไปทันที คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆเย่ไม่เป็นจะพูดคำนี้ ออกมา

เธอรับปากว่าจะคืนดีกับเย่โม่เซิน แต่ เหมือนว่าทั้งสองคนจะยังไม่เคยคุยกันเกี่ยว กับเรื่องแต่งงานเลย

ทําไมเขาถึง………

“คุณว่าอะไรนะ ?” ตวนมู่เสวนั่งต่อไปไม่ ไหวแล้ว ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

“พวกคุณจะแต่งงานกันเดือนหน้า? ? ?”

ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่เธอจะได้ไล่ตามเย่ โม่เซิน ก็เหลืออีกแค่เดือนเดียวเท่านั้นหรือ ?

ตวนมู่เสว่ยังคิดว่าจะรอให้พวกเขาเลิก

กันอยู่เลย

“อย่างนี้นี่เอง ถ้านั้นก็ขอแสดงความ ยินดีด้วยนะ อย่าลืมชวนพวกเราไปดื่มเหล้า มงคลด้วยล่ะ” การตอบสนองของควนปู่เจ๋อแตกต่าง จากดวนมู่เสน่โดยสิ้นเชิง เขายังคงนั่งพิงอยู่ที่ เดิม ท่าทางเอ้อระเหย แม้แต่รอยยิ้มบนริม ฝีปากก็ดูสบายๆ

เมื่อได้ยินแบบนั้น เยโม่เซินก็หัวเราะ เสียงเย็น “ชนชั้นสูงของตระกูลดวนคงจะยุ่ง มาก ฉันว่าคำเชิญคงไม่จำเป็นหรอก”

“โถ ไม่ยุ่งหรอกไม่ยุ่ง ผมเป็นประธาน ของตระกูลตวนมู่ มีเวลามากอยู่แล้ว”

หานมู่จื่อ “

คนๆนี้ช่างหน้าหนาจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ