เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่301 ที่เธอกำลังคิดไปเองฝ่ายเดียวอยู่เหรอ



บทที่301 ที่เธอกำลังคิดไปเองฝ่ายเดียวอยู่เหรอ

กลับมาถึงห้องเลขา แต่ทั้งหูทั้งใบหน้าของหาน จื่อยังคงแดง แปรตอยู่เลย

พี่หลินมองเธอทันทีที่เธอเดินเข้ามา

“เมื่อกี้เธอไปไหนมา? ”

เหมือนกับเสียงของพี่หลินดังขึ้นในหูของเธอ ทานจื่อแค่ เหลือบมองเธอแวบเดียวแล้วก็ละสายตามองไปที่อื่น หลังจากนั้น ก็พูดอย่างใจเย็น “ก็ไปเสิร์ฟกาแฟที่ห้องท่านประธานน่ะสิ พี่หลิน คุณลืมไปแล้วเหรอคะ? ”

“ฉันไม่ได้ลืม” พี่หลินส่ายหน้า แล้วก็หรี่ตาลง “เธอไปเสิร์ฟ กาแฟที่ห้องท่านประธาน แต่ว่าเมื่อตอนที่ฉันไปรายงานที่ห้อง ทํางานท่าน ทําไมถึงไม่เห็นเธอล่ะ? เธอไปไหน? ”

หานอกะพริบตา “ฉันไม่ได้ไปไหนซะหน่อยนะคะพี่หลิน หลังจากเอากาแฟไปเสิร์ฟให้ท่านประธานแล้ว ฉันก็รู้สึกไม่ สบายท้องนิดหน่อย ก็เลยไปห้องน้ำ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า คะ?”

พอได้ยินดังนั้น พี่หลินก็วิเคราะห์เธออยู่พักหนึ่ง ก็พบว่าทั้ง ใบหน้าและหูของเธอก็ต่างแดงไปหมด ดูยังไงก็รู้สึกว่ามีบาง อย่างที่ผิดปกติ แต่ว่า…นที่เธอพูดกับเธออยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้มี ท่าที่เหมือนใจเต้นแรงอะไรเลย แล้วเมื่อตอนที่อยู่ในห้องทํางาน ไม่เห็นจริงๆ

หรือว่า เธอเข้าใจผิดไป? หรือว่าคิดมากเกินไป?

“ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอก แต่รู้สึกว่าวันนี้เธอแปลกๆ ไป เมื่อคืน

นอนไม่ค่อยหลับเหรอ? ลาพักผ่อนหน่อยไหม? ”

หาหมอยิ้มให้เธออย่างซาบซึ้งใจ หลังจากนั้นก็ส่ายหัว “ขอบคุณพี่หลินนะคะที่หวังดี แต่ว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรค่ะ

“โอเค งั้นก็ทํางานต่อเถอะ”

พอหาน จื่อไปทำงานต่อ พี่หลินก็ลูบคางของตัวเอง นึกถึง เหตุการณ์ในห้องทํางานเมื่อกี้นี้ วันนี้ท่าทางของทั้งสองคนแปล กมากๆ แล้วอีกอย่าง……..เธอยังได้ยินว่าเฉียวจอมาถึงห้องเลขา เพื่อตามหาทานมู่จื่อ

วัยรุ่นพวกนี้ ทำอะไรกันแน่?

เพราะว่าตอนที่อยู่ในห้องทำงานเมื่อกี้นี้ หานมอก็เลยเหมือ ลอยทั้งวัน เอาแต่นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่จู่ๆ เขาก็ดึงตัวเองเข้าไป ในอ้อมแขน หลังจากนั้นก็ก้มลงเพื่อตามหาริมฝีปากของเธอ

ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนเคยจูบกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาจูบเธออย่างไม่รู้ตัวหลังจากความจำ เสื่อม ที่จริงแล้วหาน จื่อก็รู้สึกได้ว่าทุกอย่างที่เขาทำกับเธอนั้น มันมาจากจิตใต้สำนึก

ความทรงจําในหัวหายไป แต่ว่าแขนขาไม่
ร่างกายของเขา ยังคงคุ้นเคยกับเธออยู่

แต่แค่ว่า ซูจิ๋วไม่ใช่บอกว่าถ้าคนที่คุ้นเคยคอยกระตุ้นเยอะๆ ก็จะสามารถฟื้นความทรงจำขึ้นมาได้ไม่ใช่เหรอ? แล้วทําไมช่วง นี่ที่คับกัน รวมถึงลักษณะท่าทางที่สนิทชิดเชื้ออย่างวันนี้ เขายัง ไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรเป็นพิเศษเลยล่ะ?

ยิ่งคิด หาน จื่อยิ่งปวดหัว

เธอวางแผนว่าเลิกงานไปแล้วจะโทรไปหาจิ๋วเพื่อถามเกี่ยว กับเรื่อง นี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ดูว่าควรจะจัดการอย่างไรดี

ดังนั้นหลังจากเลิกงานแล้ว หาหมอก็เก็บข้าวเก็บของ เตรียม กลับไปแล้วโทรหาซูจิ๋ว

หลังจากออกมาจากบริษัทแล้ว หานมอก็เดินไปสถานีรถไฟ

ใต้ดิน

เดินไปได้แค่ครึ่งทาง จู่ๆ ก็มีรถคันหนึ่งจอดลงตรงหน้าเธอ พร้อมกับลดกระจกลง เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลา

สายตาที่เย็นชาของเย่ ไม่เซ็นมองมาที่หานอ

พอเห็นเขา หานซื้อก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขามาอยู่ที่นี่ ได้ยังไงกัน??

ทั้งๆ ที่เธอก็ค่อนข้างห่างจากบริษัทแล้วนะ ตอนที่เขาออกมา แล้วเห็นเธอยังงั้นเหรอ?

“ท่านประธาน? ” หาน จื่อเรียกเขาอย่างลองเชิง
ผลก็คือเยโมเป็นพ่นออกมาแต่ประโยคเดียว ขึ้นรถ

พานมู่จื่อ :

เธอยังคงลังเลอยู่ แต่ว่าความไม่พอใจก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า ของเย่ไม่เป็น เร็วๆ ที่มีจอดไม่ได้นะ

หาหมอก็เลยเดินอ้อมมา เปิดประตูรถอย่างว่องไว แล้วก็ขึ้น

ไปนั่ง

ลักษณะท่าทางของเย่ไม่เป็นในวันนี้…ผิดปกติมากจริงๆ หลังจากขึ้นรถมาแล้วหาหมอก็คิด “ม่วงงอะไรอยู่? คาดเข็มขัดสี

ตอนที่เธอกำลังคิดถึงเรื่องที่ว่าวันนี้ท่าทางของเย่ไม่เป็น

แปลกๆ ไปนั้น เขาก็ออกปากเตือนขึ้นมา หานมอก็เลยต้องรีบ ก้มหน้าคาดเข็มขัด หลังจากคาดเสร็จแล้ว หานซื้อก็เห็นรถเขาเลี้ยวออกไป ขับ

ไปด้านหน้า

เธอไม่รู้ว่าเย่ ไม่เห็นคิดจะทําอะไร ดังนั้นก็เลยเอาแต่เงียบ ยัง ไงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน ก็ทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วน อยู่แล้ว อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ไม่กล้ามองหน้าแย่ไม่เป็นเลย

ผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆ หานคู่จื่อก็พบว่าทิศทางของรถเหมือนจะมุ่ง หน้าไปยังบ้านของเธอเอง เธอรู้สึกประหลาดใจ หรือว่าแย่ไม่เป็น จะไปส่งเธอกลับบ้านงั้นเหรอ?
แต่พอกลับมาคิดอีกครั้ง ก็รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ค่อยได้เท่าไหร่ จากนิสัยของเขาตอนนี้ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะยอมขับรถอ้อม เพื่อไปส่งเธอที่บ้าน? นี่มันไม่เหมือนเรื่องที่เขาจะทํา

บ้านของหาน ไม่ค่อยไกลจากบริษัทเท่าไหร่นัก ยิ่งขับไป ยิ่งรู้สึกคุ้นทาง ในที่สุดหานคู่จื่อก็มั่นใจแล้ว แต่ก็ว่าก็ยังเอ่ยปาก ถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณ คุณจะไปส่งฉันที่บ้านเหรอ? ” เย่ ไม่เช่น: …….

แล้วก็ไฟแดงพอดี รถก็เลยหยุดลง

เย่ไม่เงินหันหน้ากลับมามองเธอด้วยสายตาเย็นชา “นี่เธอ กําลังคิดไปเองอยู่งั้นเหรอ? ”

“หืม? ” หานมู่จื่ออึ้งไป “ไม่ไปส่งฉันกลับบ้าน แล้วพวกเราจะ

ไปที่ไหนกัน? ”

เย่โม่เซ็นเม้มริมฝีปากบางของตัวเอง สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ไปเอาเสื้อผ้าที่ทิ้งไว้เมื่อวาน

ทานมู่จื่อ :

ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง

พอหาน จื่อรู้ว่าเขาจะไปส่งเธอกลับบ้านก็เพื่อที่จะไปเอา เสื้อผ้า ก็รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ แล้วก็วิจารณ์เขาว่า “คุณนรักสูท ชุดนั้นจริงๆ เลยนะคะ”
เห็นสีหน้าของเธอไม่พอใจ เย่ไม่เป็นก็หัวเราะเยาะ เมื่อคืน เธอได้ทําอะไรสูทกับเสื้อผ้าที่ฉันทิ้ง…….

พอได้ยินแบบนี้ หาน งอกตัดบทเขาด้วยเสียงสูงทันที เธอ กัดฟันแน่นพร้อมกับพูดว่า “คุณพูดจามั่วซั่วอะไร? ฉันไม่ใช่คน แบบนั้นสักหน่อย!!

“งั้นเหรอ? ”

พอดีกับที่ไฟแดงผ่านไปแล้ว มือของเย่ไม่เป็นก็กลับมาจับที่ พวงมาลัย สายตาก็กลับไปอยู่ที่เดิม ไม่สนใจเธออีก

หาน เอกลับรู้สึกว่า เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นคนบ้าไปแล้ว จริงๆ

ไม่ยังงั้นเขาก็จะไม่เอาแต่เน้นเรื่องนี้หรอก แล้วอีกอย่าง……… หลังจากที่จูบเธอในห้องทำงานวันนี้แล้ว บอกว่าโดนยั่วเย้า

เดิมทีเธอวางแผนจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ใครจะไปรู้ว่า…….. จะเจ๊งแบบนี้ไปได้

หานคู่จื่อท้อถอย

ความเร็วรถของเย่ไม่เป็นคงที่มาก มาถึงหน้าบ้านของหาน ออย่างรวดเร็ว หลังจากที่เย่ไม่เป็นจอดรถแล้วก็เตรียมจะขึ้นไป นบนกับเธอ

ตอนที่ทั้งสองคนเข้าไปนั้นก็บังเอิญเจอกับเจ้าของบ้านที่พึ่งจะ กินข้าวเย็นเสร็จและเตรียมจะออกไปเดินเล่นพอดี วันนี้เธอจูง หมามาตัวหนึ่ง พอเห็นหาน จอกับเย่ไม่เห็นเดินเข้ามาด้วยกัน ก็มองหน้าเธอพร้อมกับตลี่ยิ้มออกมา

“จ๋อ พาแฟนกลับมาอีกแล้วงั้นเหรอ? “

ทานมู่จื่อ : ..……….

เธอไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้ว จะบอกว่าไม่ใช่แฟน แต่ว่าเขามา ทีนี่สองวันติดแล้ว ต่อให้เธอบอกว่าไม่ใช่ เจ้าของบ้านก็ไม่น่าจะ เชื่อ

สุดท้ายหาน จื่อก็ขี้เกียจจะอธิบายแล้ว เธอทักทายเจ้าของ บ้านแล้วก็เดินขึ้นไปชั้นบน

เมื่อเธอหยิบกุญแจเพื่อจะเปิดประตูนั้น แต่ไม่เป็นที่อยู่ด้านหลัง ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “เธอบอกว่าฉันเป็นแฟนเธอยัง งั้นเหรอ? ”

มือของหานมู่จื่อที่กำลังเปิดประตูอยู่นั้นก็สั่น กุญแจก็ตกลงบน พื้น เธอคุกเข่าลงด้วยความตื่นตระหนกเพื่อเก็บมันแล้วก็เปิด ประตูอีกครั้ง หลังจากนั้นก็พูดอย่างเกรี้ยวกราด “จะเป็นไปได้ยัง ไง? ฉันไม่ใช่คนที่ชอบปล่อยข่าวลือ ก็แค่เจ้าของบ้านฉัน จินตนาการลําเลิศเกินไปหน่อย

“งั้นเหรอ? ” เย่ ไม่เซินมองเธอนิ่งๆ แล้วก็ก้าวเข้าไปด้านใน

ในตู้รองเท้าของเธอยังคงมีแค่รองเท้าแตะที่ไว้สำหรับใส่ใน บ้านของเธอเอง เย่ไม่เป็นก็ทำได้แค่เหยียบพื้นด้วยเท้าเปล่า สัมผัสที่เย็นเฉียบทำให้เขาขมวดคิ้ว

ดูเหมือนว่า เขาต้องเตือนให้เธอเตรียมรองเท้าใส่ในบ้านของผู้ขายไว้คู่หนึ่งแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ