เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 870 เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน



บทที่ 870 เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน

หาหมู่จื่อเดินทางด้านหน้า เฉียวจื้อประคองเย่ ไม่เซ็นเข้าไป

ทางไปห้องน้ำไม่ไกลนัก แต่สติของเย่ไม่เป็นถูกฤทธิ์ของยา เล่นงานเยอะพอสมควรแล้ว ตอนที่อยู่บนรถเขาไม่พูดอะไร ปิด ตาและเม้มปาก นั่งทนความทรมานที่แทบจะทำให้ตัวเขาแหลก สลายมาตลอดทาง

เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคย เย่ไม่เป็นก็ลืมตาขึ้นมา มองดูหา นมู่จื่อที่เดินด้วยความรีบร้อนอยู่ตรงหน้า ที่สำคัญคือหล่อนใส่ เพียงชุดนอนตัวเดียว

เย่ไม่เป็นเลิกคิ้วขึ้น

ไม่นานนักก็เดินถึงห้องน้ำ เย่ โม่เซินเดินเข้าไป เฉียวจื้อถาม ขึ้น: “พี่สะใภ้ พี่ออกไปก่อนเถอะ”

หานคู่จื่อไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่หล่อนเชื่อว่าเฉียว จื้อไม่มีทางทําร้ายเย่ไม่เป็นแน่นอน จากนั้นหล่อนจึงเดินออกมา และยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ

สุดท้ายหล่อนเห็นเฉียวจื้อเปิดฝักบัว และฉีดใส่ตัวของเย่ไม่

เซิน

ภาพที่เห็นทำให้หาน จื่ออดไม่ได้ที่จะเบิกตาโตกว้าง ตะโกน

เรียกเฉียวจื้อ
” นายจะทําอะไร?”

เดียวจื้อหยุดชะงัก มองดูหาน จื่อที่ยืนอยู่หน้าประตู เมื่อเห็น ว่าสีหน้าของหล่อนไม่สู้ดีนัก เฉียวจื้อจึงเผยอปากจะพูด แต่ก็ไม่รู้ ว่าจะอธิบายกับหล่อนยังไง

“พี่สะใภ้ ผม..”

เย่ไม่เป็นที่เงียบมาโดยตลอด ตอนนี้กลับเงยหน้าขึ้นมามอง สบสายตาไปที่ร่างอันบอบบางของหาน จื่อ พูดด้วยเสียงทุ้ม “เสื้อคลุมของเธอล่ะ?”

“ห้ะ?” หานมอไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเขาถึงถามแบบนี้ จากนั้น จึงก้มหน้าดูชุดนอนของตัวเอง

“ไปใส่เสื้อคลุม เดี๋ยวเป็นหวัด

เมื่อพูดเช่นนี้ขึ้นมา เหงื่อบนหน้าผากของเยโมเซินก็ไหลออก

มามากขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะทนกับความเจ็บปวดที่ทรมานมาก

หานมู่จื่อรู้สึกสงสารจนแสบจมูกขึ้นมาทันที แต่ก็ยังเชื่อฟังเขา หันหลังไปใส่เสื้อคลุม

เฉียวจื้อที่อยู่ด้านข้างพูดเสียดสีขึ้น “ให้มันได้อย่างนี้คือ นายเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ยังตำหนิว่าสาวน้อยใส่เสื้อน้อยชิ้นอีกเห รอ?”

ยอมใจเขามาก ทั้งๆที่โดนวางยา ทนทรมานมาตลอดทาง เฉียว อคิดว่าเขาจะไม่รอดแล้ว แต่ใครจะไปคิดว่าเขายังมีกะจิต กะใจบอกให้หาน จื่อ ใส่เสื้อเพิ่ม จะได้ไม่เป็นหวัด
หลังจากเฉียว อพูดจบ กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบรับเลย เมื่อหันไปดูอีกครั้ง เย่ โม่เซินกลับปิดตาลงอีกครั้ง เม้มปากแน่น อาการยังคงไม่ดีเหมือนเดิม

ดูจากสภาพเขา ในตอนนี้ เฉียวจื้อรู้สึกสงสัยขึ้นมาว่าคนที่คุย กับพี่สะใภ้เมื่อครู่ใช่ฉือจริงหรือไม่

“นายล่าเอียงมากไปรึเปล่าเนี่ย ฉันขับรถมาส่งนายนะ สุดท้าย ไม่มองฉันเลยสักนิด ฉันเสียใจมาก”

เฉียว ออดไม่ได้ที่จะบ่นอวดครวญ

คงเป็นเพราะเสียงดังเกินไป เยโมเซ็นจึงเผยอปากขึ้น พูด อย่างไม่สบอารมณ์: “พูดพอแล้วยัง?”

เฉียวจื้อ: “หืม?”

“พูดจบแล้วก็ออกไป

เฉียวจื้อ: “พี่ชาย ฉันอยากจะเปิดกะโหลกของนายออกมาดู จริงๆ มีผู้หญิงแล้วจะไม่สนใจเพื่อนแล้วใช่ไหม เมื่อครู่ฉันไปคน มาส่งนายนะ ฉันช่วยนายมาอย่างหวุดหวิดขนาดนี้ สุดท้ายก็ไม่ ฉันไปซะงั้น??”

เมื่อพูดจบ หานมู่จื่อก็ใส่เสื้อคลุมเดินกลับมา มือของหล่อนกำ มือถือไว้ และกลับมายืนที่หน้าประตูห้องน้ำอีกครั้ง

“เฉียวจื้อ สรุปว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? นี่เขาเป็นอะไร? บาดเจ็บเหรอ? ให้ฉันเรียกรถพยาบาลไหม?”
แต่เขาจะอธิบายยังไงดีล่ะ? ครุ่นคิดไปมา เฉียว รู้สึกว่า ใน เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดบังอีก ต่อไป

พูดตรงๆ ให้ชัดเจนไปเลยดีกว่า

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เฉียวจื้อหันไปมองหาน จื่อ เอ่ยปากพูดขึ้น “พี่สะใภ้ อันที่จริงฉือเขา…

ทันใดนั้น เสียงพูดอันเย็นชาพูดแทรกขึ้น

“ไม่ต้องเรียกรถพยาบาล ฉันไม่เป็นอะไร

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสองหันไปมองเย็ไม่เป็นทันที

เห็นเพียงแค่สายตาอันทรมานของเขา ปรากฏขึ้นมาใน สายตาของหานมู่จื่อที่เต็มไปด้วยความกังวลและกระวนกระวาย

“ฉันไม่เป็นอะไร”

เฉียวจื้อ: ”

เหอะๆ ไม่เป็นอะไรแปลก

เมื่อเห็นสภาพของเขา ฤทธิ์ของยาแรงขนาดนั้น แม้แต่คน อย่างฉือที่มีความสามารถในการควบคุมตัวเองได้ดีก็ยังไม่ ขาดสติจนถึงตอนนี้

ถ้าเป็นคนอื่น เกรงว่าตอนนี้คง

แต่ดูจากสภาพของเขาแล้ว คงไม่อยากบอกความจริงกับพี่ สะใภ้ เพราะอะไรกันล่ะ? กลัวว่าหล่อนจะตกใจ?
หาน จื่อก็คิดเหมือนๆกับเฉียวจื้อ สภาพตอนนี้อาการเขาดู หนักมาก แต่เขายังบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร

นี่คือกำลังแกล้งเธอที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร?

หานมู่จื่อเริ่มสังเกตมองเย็ไม่เป็นอย่างละเอียด

ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาจนถึงตอนนี้ หล่อนยังไม่เห็นว่าตัวของเขามี บาดแผล อีกอย่างถ้าเขาได้รับบาดเจ็บก็ต้องได้กลิ่นคาวเลือด แต่หล่อนกลับไม่ได้กลิ่นอะไรเลย เยโมเงินก็ไม่อยากให้เรียกรถ พยาบาล จากการคาดเดาเบื้องต้นไม่น่าจะเป็นบาดแผล ภายนอก

ถ้าไม่ใช่บาดแผลภายนอก งั้น…

ผนวกกับปฏิกิริยาของเฮโมเซ็นและท่าทีที่กำลังจะพูดแต่กลับ หยุดชะงักของเฉียวซื้อเมื่อครู่หาน จื่อไหวพริบไว รู้สึกว่าตัวเอง คิดเอาบางอย่างขึ้นมาได้

เพื่อเป็นการพิสูจน์สมมติฐานของตัวเอง หาน จื่อวางมือถือลง มองเย่โม่เซินพูดขึ้น: “แค่ได้แช่น้ำเย็นก็โอเคแล้วใช่ไหม?

เสียงอันเล็กแหลมของหล่อนดังขึ้นในหูของเยโม่เซิน ราวกับมี มดกำลังเดินอยู่ ทำให้เขาเกือบจะทนไม่ไหว

ดูไปแล้ว เป็นเหมือนที่หล่อนคิดไว้จริงๆ

เย่โม่เซินถูกวางยา

“พี่สะใภ้…” เฉียวจื้อที่ยังถือฝักบัวที่พ่นออกมาอยู่ ตอนที่เขาเข้ามาก็คิดจะใช้วิธีนี้กับเฮโมเซิน แต่เป็นเพราะหาน จื่อ หยุดเอาไว้ จึงไม่ได้ทำแบบนั้น

หาน จื่อเงยหน้าขึ้น สายตามองไปที่ใบหน้าของเฉียวจื้อ พูด ด้วยเสียงอ่อนหวาน: “เฉียวจื้อ คืนนี้ขอบคุณนายมากนะ นายก ลับไปก่อนเถอะ”

เฉียวจื้อ: “.….”

เมื่อได้ยินหาน จื่อพูดเช่นนั้น เขาหันไปเหลือบมองเย่ ไม่เซ็น เขายังคงปิดตาอยู่ ดูเหมือนสติของเขาจะถูกกัดกร่อนไปหมด แล้ว หลงเหลือเพียงแค่ความคิดที่ให้ฝันอดทนไว้

“พี่สะใภ้ ผม…

หานอยิ้ม “มีอะไรเหรอ?”

เฉียวจื้อตั้งสติกลับมา ฝักบัวถูกนำกลับไปวางไว้ในที่เดิม จาก นั้นส่ายหน้า: “เปล่าครับ ในเมื่อพี่สะใภ้พูดแบบนี้แล้ว งั้น…ผม ขอตัวกลับก่อนนะครับ

อันที่จริงเขาก็ตั้งสติกลับมาได้แล้วเช่นกัน

ตวนมเสว่วางยาเย่ไม่เป็น ก็เพียงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือหลอก ล่อเขาเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ

จากความสัมพันธ์ระหว่างถือกับหานคู่จื่อ เขาไม่มีความ จําเป็นที่ต้องทําเรื่องแบบนั้นต่อไป เฉียวจื้อทอดถอนหายใจว่าพี่ สะใภ้ช่างฉลาดจริงๆ ไม่ต้องให้เขาอธิบายอะไรก็สามารถเข้าใจได้เอง

“งั้น…ผมกลับก่อนนะครับ มีเรื่องอะไรค่อยโทรหาผม

หาหมอพยักหน้า เดินไปส่งเฉียวซื้อที่หน้าประตู ขณะที่กำลัง จะปิดประตู เฉียวจื้อทำสีหน้าลังเลและผลักประตูไว้ มองหล่อน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“พี่สะไภ้ แม้ว่าผมจะรู้ดีว่าคุณกับฉือไปมาหาสู่กัน แต่…ฤทธิ์ ของยานี้ร้ายแรงมาก คุณต้องระวังความปลอดภัยให้มากนะ ครับ”

หานมู่จื่อ:

แม้ว่าก่อนหน้านี้หล่อนจะแสดงท่าที่นิ่งเงียบมากเท่าไหร่ แต่ ตอนนี้เฉียวจอมากำชับหล่อนด้วยท่าทีที่จริงจังเช่นนี้ สีหน้าของ หานออดไม่ได้ที่จะแดงขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ