เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 692 อยากขอให้เธอ ให้อภัย



บทที่ 692 อยากขอให้เธอ ให้อภัย

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้าหรือไง? ฉันเห็นหล่อนเดินอยู่ดีๆก็ทำงาน ตกลงมาแตก ราวกับว่าจงใจทำอย่างนั้นแหละ

เพิ่งเสีโยวไม่ได้สนใจอะไรอื่น มุ่งกลับเข้าไปหลบในห้องน้ำ ด้านหลังร้านทันที จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าเน็ตหาข้อมูล ข่าวสาร หลังจากที่ได้ทำการยืนยันจนแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ตนเห็น มาเมื่อกี้นี้เป็นเรื่องจริง เธอก็โกรธจนบีบนิ้วมือแน่น จากนั้นก็ปา

โทรศัพท์ออกไป!

เพลง!

โทรศัพท์ถูกโยนไปยังหน้ากระจก จนเกิดเสียงดังสนั่นออกมา จากนั้นก็กลิ้งตกลงมายังอ่างล้างมือ

แต่แบบนี้แล้วก็ยังไม่สามารถคลายความโกรธแค้นของเพิ่งเส โยวไปได้ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อ พอดีกับบนหน้าจอที่ ปรากฏภาพหานมู่จื่อในชุดพิธีการขึ้นมาพอดี

หาหมอในภาพมีผิวขาวผ่อง ลำคอระหง ทั้งร่างไม่มีส่วนไหน ที่ไม่เผยความงดงามออกมา

ทั้งหมดนี้ เดิมทีมันล้วนแล้วแต่จะต้องเป็นของเธอทั้งนั้น!!!

ภายในใจของเมิ่งเสีโยวกระอักกลายเป็นเลือด ยกโทรศัพท์ ขึ้นมาแล้วทุบหน้าจอเข้ากับกระจกไม่หยุด
ปัง!

ปัง!!

ปังปัง!!

เสียงดังสนั่นจากในห้องน้ำดังออกมาไม่หยุด

พนักงานที่อยู่ด้านนอกเมื่อได้ยินเสียงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะย่นคิ้ว สงสัยออกมาอย่างเสียไม่ได้

“เสียงอะไรเนี่ย? ฉันได้ยินเหมือนกับว่าจะดังออกมาจากใน ห้องน้ำ”

“ชูว์ รีบหุบปากไปเลย นอกจากนั่งเด็กตอแหลคนนั้นไงจะยังมี ใครกล้ากราดเกรี้ยวได้ถึงขนาดนี้กัน? กระจกในห้องน้ำไม่รู้ว่า ถูกเธอทุบแตกไปกี่บานแล้ว

“หล่อนจะกลัวอะไร? ถึงจะทุบจนพังไปก็มีคนมาเปลี่ยนให้เธอ อยู่ดี ใครใช้ให้หล่อนเขวี่ยงแรงเองล่ะ?”

“ก็ใช่ เรื่องที่นอนพักสักตื่นก็ดีขึ้นแล้ว แต่หล่อนกลับมาพังร้าน เละเทะ”

เพิ่งเส่โยวเอาแต่ทุบอยู่อย่างบ้าคลั่ง อย่างกับคนโรคจิตไม่มี ผิด นิ้วมือรับรู้ถึงความเจ็บ เธอจึงได้สติกลับมา ทันทีที่มองก็พบ ว่ากระจกแตกละเอียดไปเสียแล้ว ส่วนมือของเธอนั้นถูกกระจก

ที่มาจนมือแตกไปหมด

เลือดสดทําให้เธอคืนสติกลับมา
เพิ่งเส่โยวมองออกไปยังสีแดงบนนิ้วมือนั้นของเธอ อีกทั้งยังมี กระจกและโทรศัพท์ที่ได้ถูกทุบจนแตกพักไม่เหลือเค้าโครงเดิม เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเองด้วยความอาฆาตแค้นที่เหนือคำ

บรรยาย

ทําไม?

ทําไม??

ทำไมนั่งแพศยานั้นถึงได้โชคดีขนาดนั้น? ตอนแรกเธอก็ แสดงออกไปอย่างระมัดระวังอยู่ตั้งนาน หานซึ่งที่ไม่อะไรกับเธอ นัก ต่อมาถึงแม้ว่าเธอจะบอกเย็ไม่เป็นไปว่าเธอท้องลูกของเขา อยู่แต่เขากลับไม่เชื่อเธอเลยสักนิด

แต่กับมัน?

ตั้งแต่แรกเริ่มนั้นก็คือสถานะของการแต่งงานครั้งที่สอง ทั้งยัง แต่งผู้หญิงแพศยาที่ท้องกับใครมาไม่รู้เข้ามาในตระกูลเย นึกไม่ ถึงเลยว่ามันจะสามารถทำให้เย่ ไม่เซ็นรักได้

นี่ตกลงแล้วนี่มันเป็นโลกแบบไหนกันแน่ ทำไมผู้ชายพวกนี้บ้า บอกันไปหมด

เพิ่งเส่โยวโยนโทรศัพท์ทิ้ง คลใบหน้าของตัวเอง เธอยังไม่ดีพอตรงไหน?

ตรงไหนที่ยังหานมู่จื่อไม่ได้? ทั้งๆที่เธอก็ไม่มีตรงไหนที่แพ้ มันเลย
ทำไมพระเจ้าถึงได้ลำเอียงรักแต่หาน จื่อคนเดียวอย่างนี้

หานมู่จื่อนั่งอยู่บนโซฟาเป็นเวลานาน หลับไปอย่างไม่รู้ตัว จน จู่ๆเธอก็ตื่นขึ้นมา ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองนอนหลับไป

มองโทรศัพท์อีกครั้ง ก็พบว่าเพิ่งจะผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงกว่า

เอง

เมื่อก่อนตอนที่เธอยังทำงานอยู่ที่บริษัทตระกูลเย่ ได้รู้ว่าการ ประชุมของที่นี่จะใช้เวลาเปิดประชุมกันหลายชั่วโมง เพราะถึง อย่างไรนี่ก็เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ คนที่ถูกแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก็เยอะมากไปด้วย

คาดว่าเธอก็คงจะต้องอยู่รอเย่ไม่เป็นจนถึงตอนเที่ยงแน่ๆ แต่ พอคิดไปแล้วมันดีเหมือนกัน พอถึงตอนเที่ยงแล้วก็จะได้ไปกิน มื้อเที่ยงด้วย

ดังนั้นแล้วหานคู่จื่อจึงลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ จากนั้นก็หยิบ โทรศัพท์เดินเข้าไปในห้องพัก

ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร พอเห็นโซฟากับเตียงก็รู้สึกง่วงนอนขึ้น มาทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงแล้วจะเป็นเพราะเมื่อคืนนอนไม่ ค่อยหลับด้วยหรือเปล่า

หาน จื่อเห็นเตียงที่อยู่ในห้องพัก ก็รู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก

จึงนอนคว่ำลงไป

เพียงไม่นานก็เข้าสู่โลกแห่งความฝันไปทันที
นอนไปไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว โทรศัพท์ก็สั้นขึ้นมาเล็กน้อย ขนตาของหานมู่จื่อขยับออกมาเบาๆ จากนั้นก็ลืมตาออกมา มอง ไปยังโทรศัพท์ของตน

ดูเหมือนว่ามีคนส่งข้อความมาหาเธอ?

ขยี้ตาด้วยความงัวเงีย หาน จื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

ที่แท้ก็มีคนส่งข้อความมาจริงๆด้วย ส่วนเนื้อหาของข้อความ นั้น

หาน จื่อมองไปเล็กน้อย ยังคิดว่าตัวเองอ่านผิดไป จึงได้ ตั้งใจอ่านอีกครั้งนึง เธอลุกขึ้นมานั่ง และได้ตกอยู่ในความเงียบ ไปทันที

หลังจากนั้นก็มีข้อความเข้ามาอีกครั้ง

เธอง่วงจนแทบไม่ไหวอยู่แล้ว จะไปมีเวลามาสนใจคนผู้นี้อีก ที่ไหนกัน โดยเฉพาะหลังจากที่หล่อนทำเรื่องขู่ขวัญพวกนั้นกับ เธอออกมา

หาน จื่อถือโอกาสวางโทรศัพท์ลงไปข้างๆ จากนั้นก็เอนตัว ลงเตรียมที่จะกลับไปนอนต่อ

คาดว่าจะเป็นเพราะว่าไม่ได้รับการตอบกลับจากเธอไปเลยสัก ครั้ง อีกฝ่ายจึงร้อนรุ่มขึ้นมา แล้วโทรหาเธอทันที

ทานจื่อรู้สึกจนใจขึ้นมา จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
น้ำเสียงของเธอนั้นเย็นชา ไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย

กับเมิ่งเล่โยวนั้น พวกเธอทั้งสองคนได้เลิกเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ เมื่อห้าปีก่อนแล้ว สิ่งที่หล่อนทำกับเธอหลังจากห้าปีมานี้ก็ได้ ตัดความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอทั้งสองคนที่มีเพียงน้อยนิดหมด ไปจนไม่มีเหลือ

*เฉียว เฉียวเฉียว…”

คำว่าเฉียวเฉียวค่นี้ กลับทำเอาหาน จื่อเจ็บปวดใจ สติ เลื่อนลอยไปทันที

เวลาเหมือนราวกับว่าได้ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ในตอน ที่เธอกับเมิ่งเล่โยวยังเป็นพี่น้องคนสนิทกันอยู่ ในตอนนั้นความ สัมพันธ์ของพวกเธอนั้นดีมากจริงๆ ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ทำ ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน จนถึงขนาดที่ยังอาบน้ำด้วย กันก็มี

อีกทั้งในตอนนั้นเพิ่งเสีโยวระลึกถึงบุญคุณการช่วยเหลือของ เธออยู่เสมอ ดังนั้นแล้วเมื่อมีอะไรดีก็ล้วนแล้วแต่จะเอามาแบ่ง ปันให้กับเธอ ใช้จ่ายเงินกับตัวเธอมากกว่าของตัวเองเสียกว่า

ในตอนนั้นเธอคิดว่าตนกับเพิ่งเสีโยวอย่างน้อยๆก็สามารถ เป็นพี่น้องที่ดีกันไปได้ตลอดชีวิต

เพียงแต่ไม่คิดว่า แม้แต่สถานะตัวตนที่แท้จริงของเธอเอง…ก็

ล้วนแล้วจะถูกแย่งไปได้

เหอะ ช่างน่าเสียจริง
“อย่ามาเรียกกันอย่างนั้น ฉันทนรับมันไม่ได้ เมื่อคิดมาถึงตอนนี้ หานมู่จื่อเอ่ยขัดเพิ่งเสียวเสียงเย็นออก

มา

ปลายสายเงียบไปสักพักนึง จากนั้นก็ได้เปลี่ยนกลายเป็น เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา

“เฉียวเฉียว เธอยังโกรธฉันอยู่ใช่มั้ย? เรื่องเมื่อตอนนั้น…ฉัน ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ ฉันรู้สึกผิดไปแล้วจริงๆ ฉันเองก็หลงผิดไป ช่วงนึงจึงได้ทำอย่างนั้นลงไป หลังจากนั้นก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ได้ ทำไปจริงๆ ก็เลยพยายามชดเชยให้เธอไม่หยุดไง เธอเอง ก็รู้นี่

“ใช่แล้ว”

ริมฝีปากแดงของหาน จื่อแสยะยิ้มออกมา รอยยิ้มกับน้ำเสียง เต็มไปด้วยความเยาะหยัน

“เรื่องนี้ฉันรู้แล้วว่าเธอดีกับฉันมาโดยตลอด พวกของดีๆที่เธอ ซื้อให้กับตัวเองก็คงไม่ได้น้อยไปกว่าของพวกนั้นของฉันหรอก แม้แต่พวกของที่ซื้อให้ฉันตัวเธอเองก็ยังไม่มี ในตอนนั้นเธอบอก ว่า พวกเราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่พอหลังจากเรื่องนั้นฉันก็ได้รู้ ว่า ความจริงแล้วนั่นก็แค่เป็นเพราะเธอร้อนตัวกลัวความผิด เท่านั้นเอง เพราะว่ากำลังแอบอ้างสถานะของฉันอยู่ ดังนั้นแล้ว ทุกครั้งที่ใช้สถานะของฉันไปซื้อของในแต่ละครั้ง จึงรู้สึกผิดบาป ขึ้นมา ก็เลยซื้อมาแบบที่เหมือนกันมาอีกชุดนึงเพื่อมาเอาใจฉัน ใช่มั้ยล่ะ?”

“เฉียวเฉียว…ฉันรู้สึกผิดแล้วจริงๆ ตอนนี้เธอได้เป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหานไปแล้ว ส่วนฉัน…ก็ได้ตกต่ำกลายเป็นตัว ตลกที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ตอนนี้ฉันได้รับผลกรรมแล้ว เธอให้ อภัยฉันหน่อยได้มั้ย?

หานมู่จื่อ ”

แววตาของเธอสั่นไหวออกมาเล็กน้อย

คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าหล่อนจะมาร้องขอให้เธอยกโทษให้

ถ้าคิดดูจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน ยังไงเพิ่งเสีโยวก็ไม่ เหมือนคนประเภทที่จะมาร้องขอค่ายกโทษจากเธอจำพวกนั้นแน่ เธอหรี่ตาอย่างขบคิด จากนั้นก็เอ่ยถามออกไปอย่างไม่พอใจ “เธอคิดจะทําอะไรกันแน่?”

“ฉัน ฉันก็แค่อยากขอให้เธอยกโทษให้ฉัน ฉันสำนึกผิดแล้ว จริงๆเฉียวเฉียว เธอมาเจอฉันหน่อยได้มั้ย?”

เจอหน้าหล่อน?

“เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว เธอคิดว่าถึงแม้ว่าฉันจะยอมไปพบเธอ แล้วมันจะมีความหมายอะไรอีกหรือไง? เสี่ยว ฉันจะเห็นแก่ ความสัมพันธ์พี่น้องเมื่อก่อนของเรา เรื่องเลวๆที่เธอทำไว้ รวมถึง เรื่องการสะกดรอยตาม ฉันจะไม่ถือสาหาความกับเธออีก แต่…ถ้ายังมีแผนการอะไรซ่อนอยู่อีกล่ะก็ ฉันจะดำเนินการทาง กฎหมายทันที เมื่อถึงตอนนั้นจะเจอหน้ากันอีก ก็ให้ไปพบกันที่ ศาลแล้วกัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ