เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1006 ฉันตกลง



บทที่1006 ฉันตกลง

หาน จื่ออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เบ้าตาก็ได้แดงขึ้นมาเหมือนกัน ต่อมาก็มีน้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตา เป็นประกายใสกระจ่างอยู่ ตรงหน้าของเสี่ยวเหยียน

เธอเอื้อมมือออกไป หยิกแก้มเสี่ยวเหยียน ลงแรงไปเล็กน้อย ก็ได้ยินเสียงเสี่ยวเหยียนขมวดคิ้วร้องอย่างเจ็บปวดออกมา แต่ก็ ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“เจ็บใช่มั้ย?” หาน จื่อถาม

เสี่ยวเหยียนปากออกมา มองเธอมาด้วยแววตาไม่พอใจ เอ่ยเบาๆออกมา “ก็ต้องเจ็บอยู่แล้ว ทำไมจู่ๆถึงได้มาหยิกหน้า ฉันล่ะ?”

“เจ็บ แล้วทำไมเธอไม่พูดล่ะ?” หานมู่จื่อถามออกมาอีกครั้ง

เสี่ยวเหยียนนิ่งอึ้งไปแป๊บนึง สุดท้ายก็รู้ว่าความหมายของ การกระทำของหาน จื่อก็รู้ตัวขึ้นมาทันที เธอโกรธจนปัดมือ ของหาน จื่อออกไป จากนั้นก็หันหน้าออกไปทันที

“มู่จื่อนิสัยไม่ดี เธอก็รู้อยู่แล้วว่าฉันไม่ได้ฉลาดเหมือนเธอ แต่ ก็ยังพาฉันเข้าไปในกับดักของเธออยู่เรื่อย!”

“ฉันไปถึงเธอเข้ากับดักยังไงกัน? ก็แค่หยิกหน้าของเธอ เท่านั้นเอง ใครใช้ให้เธอเจ็บแล้วไม่ร้องออกมาล่ะ?”
หาน จื่อพูดไป น้ำตาที่อยู่ในดวงตาก็มากขึ้นมาอีก หลังจาก ที่เสี่ยวเหยียนหันร่างออกไป เธอก็รู้สึกว่าพูดแบบนี้มันสบายกว่า เยอะ จึงไม่ได้บังคับให้เธอต้องหันกลับมา เอ่ยออกไปด้วยน้ำ เสียงนิ่งเรียบ “คำพูดที่พูดกับฉันเมื่อกี้นี้ เธอเข้าใจหรือเปล่า? เจ็บก็ต้องพูดออกมา ถ้าเธอไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าเธอเจ็บ ก็ เหมือนกับเรื่อง ในครั้งนี้ เธอบอกฉันว่าเธออยากลาออก แต่กลับ ไม่บอกเหตุผล หลังจากที่รู้สภาพร่างกายของฉันก็เลยอยากอยู่ ต่อ เสี่ยวเหยียน พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพื่อนสนิทกัน ก็ควร จะช่วยเหลือกัน ไม่ใช่ให้เธอมายอมรับฉัน ช่วยฉันอยู่ฝ่ายเดียว อย่างนี้แล้วเธอจะเหนื่อยแย่นะ”

ไหล่ของเสี่ยวเหยียนสั่นออกมาเบาๆ ไม่ได้ตอบเธอออกมา หานมู่จื่อพูดต่อออกมา “ผลการประพฤติในบริษัทช่วงนี้ของ เธอ ฉันรู้หมดแล้ว”

“มู่จื่อ ฉัน…”

เสี่ยวเหยียนรีบกลับมาอย่างรวดเร็ว หาน จื่อจึงได้พบว่า เบ้าตาของเธอก็ได้แดงออกมาแล้วเช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้วเมื่อกี้ นี้เธอก็เลยหันร่างออกไป ก็คือกลัวว่าเธอจะเห็นเข้าสินะ?

“เธอนี่มันเด็กโง่เสียจริง” ถึงแม้ว่าในดวงตาจะอาบไปด้วย น้ำตา แต่หาน จื่อก็ยังพยายามที่จะให้ตัวเองยิ้มออกมา “เธอไม่ ต้องอธิบาย ฉันรู้ว่าช่วงนี้สภาพจิตใจของเธอไม่ดีนัก ถึงแม้ว่า เธอมักจะพูดกับฉันอยู่เสมอว่าจะต้องควบคุมตัวเองให้ดี แต่ หลายเรื่องมันก็ฝืนไม่ไหวหรอก ต้องใช้เวลาในการเยียวยา ในเมื่อเธออยากลาออก งั้นฉันก็จะตอบรับเธอ”

นึกไม่ถึงว่าเธอจะตอบรับออกมาเร็วขนาดนี้ เสี่ยวเหยียนตก อยู่ในความสับสนไปสักพักนึง “มู่จื่อฉันขอโทษ ฉันผิดไป แล้ว…ฉันไม่ได้อยากลาออกจริงๆเสียหน่อย ฉันก็แค่…

“ฉันรู้” หาน จื่อเอ่ยขัดออกมาด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยนเบาๆ ออกมา “ฉันรู้ เธอไม่ต้องอธิบาย ไปทำสิ่งที่เธออยากทำ และ ชอบที่จะทําเถอะ เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ทางนี้ฉันจะหาทาง จัดการเอง”

“มู่จื่อ…” เสี่ยวเหยียนรู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมาทันที ก่อน หน้านี้เธอไม่อยากอยู่ต่อ ก็เพราะกังวลว่าสภาพจิตใจตอนนี้ของ ตัวเองจะสร้างความเสียหายอันใหญ่หลวงให้กับบริษัท ก็เลย อยากจะลาออกไป หวังว่าทานจื่อจะสามารถหาคนที่มีความ สามารถมากกว่ามาดูแลเรื่องพวกนี้แทนเธอได้

แต่ตอนนี้หานคู่จื่อตอบตกลงแล้วจริงๆ เสี่ยวเหยียนจึงรู้สึกใจ หวิวๆขึ้นมาเป็นอย่างมาก เธออยากพูดอะไรสักหน่อยมาเหนี่ยว รั้งหานคู่จื่อ แต่ใครจะรู้ว่าหานคู่จื่อจะพูดประโยคนี้ออกมา “วันนี้ เธอก็เก็บของเสียเถอะ”

เสี่ยวเหยียนหยุดการกระทำลง มองเธอมาอย่างเหม่อลอย ผ่านไปได้สักพักนึง น้ำตาก็ค่อยๆไหลลงมาจากขอบตาเธอ เสี่ยวเหยียนเข้าไปกอดหานคู่จื่อเบาๆ “มู่จื่อ ขอบคุณเธอนะ”

หาน จื่อเองก็มีสีหน้าของความซึ้งใจออกมา พยายามฝืนไม่ ให้น้ำตาไหลลงมา เธอตบบ่าของเสี่ยวเหยียนเบาๆ “พอแล้ว มาทำไขสืออะไรอีก? รีบไปเก็บของสิ แล้วกลับไปพักผ่อนชะ

“ฉันไปแล้ว เธอจะทำยังไงล่ะ?” เสียงของเสี่ยวเหยียนฟังดู หดหูขึ้นมา เหมือนกับว่าจะร้องไห้ออกมาไม่มีผิด

“เด็กโง่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องเป็นห่วงหรอกนะ ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไปเธอก็ได้ลาออกไปแล้ว ต่อไปเรื่องในบริษัทนี้ก็ไม่เกี่ยว อะไรกับเธอแล้ว เธอไม่ต้องคิดเรื่องพวกนี้อีก เธอปล่อยตัวให้ สบายๆไปเถอะ”

“ฉันไม่ได้เป็นห่วงบริษัท ฉันเป็นห่วงแค่เธอ” เสี่ยวเหยียนผละ ร่างออกไปจากเธอ มองหาน จื่อที่อยู่ตรงหน้าไปด้วยดวงตาที่ อาบไปด้วยน้ำตา “เธอคิดดูสิว่าตอนนี้เธอกำลังท้อง เดิมทีเรื่อง มันก็เยอะอยู่แล้ว ให้เธอมาดูแลเรื่องที่บริษัทอีก เธอ…

คำพูดยังไม่ทันได้พูดออกมาจนจบ หานมอก็ได้ดันไหล่ของ เธอเดินไปทางโซฟา “เร็ว รีบไปเก็บของ เรื่องอื่นเธอก็ไม่ต้องไป คิดมากหรอก ครั้งนี้ก็ไปเที่ยวให้สนุก ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้ เกี่ยวข้องกับบริษัทแล้ว แต่ถ้าจากนี้ไปเธออยากจะกลับมา ประตู บริษัทเปิดรับเธอเสมอ แต่ฉันก็ยังคงหวังอย่างมากว่าเธอจะไป ทําสิ่งที่ชอบ ไม่ต้องมาเสียสละเวลาอันมีค่าและความคิดของตัว เองเพื่อฉันอีก”

เสี่ยวเหยียนถูกเธอผลักออกไปจากห้องทำงาน ได้ยินคำพูด ของเธอแล้ว น้ำตาก็ไหลออกมาเสียยิ่งกว่าเดิม

ฮือๆ เพื่อนสนิทที่ดีขนาดนี้ เธอจะหาได้จากไหนกัน? เสี่ยวเหยียนแทบจะร้องโฮออกมาอย่างควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ พอได้คิดดูแล้ว นี่อยู่ที่บริษัท ถ้าร้องออกมาจริงๆ แล้ววัน ต่อมาคนก็จากไป ไม่รู้ว่าหานคู่จื่อจะถูกคนอื่นคิดยังไง

ดังนั้นแล้วอย่างน้อยเสี่ยวเหยียนก็ยังต้องฝืนกลั้นมันเอาไว้ไม่ ให้ร้องไห้โฮออกมา

วันนั้นเสี่ยวเหยียนก็ได้เก็บของออกไปจากบริษัท หานมู่จื่อ ไม่ได้ให้เธอทําการส่งมอบงานต่อ หลังจากที่จ่ายเงินเดือนให้

เธอแล้วยังให้โบนัสกับเธอแล้วนั้นก็ได้ให้เธอกลับบ้านไปก่อน

เธอไม่อยากให้ก่อนที่เสี่ยวเหยียนจะจากไปนั้น ยังต้องมายุ่ง อยู่กับเรื่องอนาคตของบริษัทอีก

ดังนั้นแล้วพอเสี่ยวเหยียนออกไปแล้วนั้น หานมอก็ได้กลับ กลายเป็นฝ่ายยิ่งขึ้นมาทันที

เนื่องจากไม่ได้มีการส่งมอบงานให้กัน ดังนั้นแล้วมีงาน

มากมายที่หานจื่อไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย ทำได้เพียงไปค้น

ไปหาด้วยตัวเอง บางอย่างที่ไม่รู้ก็เรียกให้เลิงเขาเข้ามาช่วย

เลิงเยาเยาเป็นแฟนคลับตัวน้อยของเธอ พอได้ยินเธอเรียกหา ก็รีบวิ่งแจ้นเข้ามาทันที

“เสี่ยวเหยียนนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอได้ลาออกไปแล้ว จากนี้ไปเธอไม่ใช่พนักงานของบริษัทนี้อีก ถ้าเธอมาถามข้อมูล อะไรเรื่องบริษัท ห้ามบอกเธอแม้แต่คำเดียว”

เลิงเยาเยาหลุดเสียงหาออกมา ไม่มีการตอบอะไรกลับออกมา ลาออก มันจะรวดเร็วขนาดนี้เลยหรอ?
ทำไมถึงบอกเธอไม่ได้หรอคะถ้าเกิดเธอ…

ถ้าหล่อนโทรมาหาเธอ เธอก็บอกไปว่าเรื่องบริษัทอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว ให้เธอต้องกังวล ถ้าเธอยังถามออก มาอีกต้องบอก

ฟังมาถึงตรงแล้ว เพิ่งเขาเขาเข้าใจความหมายหา นมู่จื่อต้องการสื่อมา ฉันแล้วค่ะว่าคุณไม่อยากให้เสียวยียนเป็นกังวลเพราะเรื่องบริษัท การลาออกในนี้ล้วนเป็นคุณได้เตรียมเอาไว้แล้วใช่คะ

อืมหานจื่อพยักหน้า ช่วงฉันก็เลยปล่อยให้เธอผ่อนคลาย มาก อีกยังกระตือรือร้นต่องานพวกอย่างมาก งานของเสียว เหยียน…

เลิงเยาเยาเบิกตากว้างออกมา คุณคงได้คิดจะเอางานตรง ส่วนนั้นมอบหมายให้ฉันหรอกใช่มั้ย”

ปฏิกิริยาตอบกลับออกที่รุนแรงเกินไปนี้ได้ทำหา นมู่จื่อนิ่งตะลึงไปทันที เอ่ยถา มอ้อมมา เธอ

“ตกลงฉันตกค่ะเลิงเยาพยักหน้าออกมาอย่างแรง ร้องออกด้วยความตื่นเต้นดีใจ “นึกถึงว่า

หานมู่จื่อ “.….
คำพูดที่ตอบกลับออกมาคำนั้นของเธอเมื่อสักครู่นี้ หานคู่จื่อ ยังนึกอยู่เลยว่าเธอจะไม่ยอม แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะหันกลับ มาด้วยความตื่นเต้นออกมางั้นหรอ? ผ่านไปได้สักพัก หาน จื่อ ได้กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ “งั้นก็ดี เสี่ยวเหยียนเพิ่งจะออกไป อะไรๆก็ไม่ทันได้จัดการสะสางให้เรียบร้อย ช่วงหลายวันนี้ก็ต้อง รบกวนเธอช่วยจัดการกับฉันหน่อยแล้วกัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ