เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1479พวกเราแต่งงานกันเถอะค่ะ



บทที่1479พวกเราแต่งงานกันเถอะค่ะ

เจียงเสี่ยวไปได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เซียวซูฟังหมดอย่างไม่ ตกหล่นแม้แต่คำเดียว

ก่อนหน้านี้เธอนึกว่าพูดออกมาจะยากมาก แต่พอถึงที่เปิด ปากพูดจริงๆ กลับพบว่าในใจของตัวเองไม่ได้เจ็บปวดขนาดนั้น

ก้อนหินใหญ่ทับอยู่ในอกในที่สุดก็ได้กำจัดทิ้งไปแล้ว

พอพูดจบ เจียงเสี่ยวไปก็โล่งอกไปที จากนั้นได้หลุบตาลง

“เรื่องราวความเป็นมาก็ประมาณนี้ค่ะ ฉันพูดจบแล้ว”

สายตาของเซียวซูมองตามไปที่ขนตาของเธอ “ดังนั้นเพราะ เรื่องนี้ คุณก็เลยอารมณ์ไม่ดี?”

เสียไปฟังแล้วอึ้งไปครู่นึง เงยหน้าขึ้นมาอย่างตะลึงงันแล้ว

เผชิญกับดวงตาดำเข้มของเขา

“แม่ผมให้คุณตัดสินใจ คุณตัดสินใจได้หรือยัง?”

เจียงเสี่ยวไปขยับริมฝีปาก ไม่ได้ตอบเขา

“คือยังคิดไม่เสร็จ หรือว่าคิดเสร็จแล้วไม่กล้าบอกผลกับผม?

“หมายความว่ายังไงคะ?”เจียงเสี่ยวไปกัดริมฝีปากล่างไว้แล้ว มองเขา คำพูดของเขาหมายความว่ายังไง เธอไม่เข้าใจ

“ผมพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว ยังไม่เข้าใจอีก?” เสียงของเซียวซู อ่อนโยนมาก ยื่นมือกดหลังศีรษะเธอไว้และดึงเธอมาที่บนตัว“ก่อนหน้านั้นผมก็บอกแล้วว่าผมจะรับผิดชอบ ตอนนั้นคุณเป็น คนบอกว่าจะดูใจไปก่อน ตอนนี้มีโอกาสที่สามารถโดดข้ามช่วง ดูใจได้ ผมย่อมหวังเป็นอย่างยิ่งอยู่แล้ว”

หวังเป็นอย่างยิ่งอยู่แล้ว?

นั่นก็หมายความว่า หลังจากเขาฟังผลแล้ว ยังอยากอยู่กับ เธอ?

ใบหน้าของเจียงเสี่ยวไปซบอยู่ที่ไหล่ของเซียวซู่ จู่ๆหัวใจอ่อน ยวบยาบ เพราะฉะนั้นความหมายของคุณคือ คุณไม่แคร์ผลของ ดวงที่ดูออกมาเลย?”

“จะแคร์ทำไม?”เซียวซูก้มไปมองสายตาของเธอ และกุมมือ ของเธอไว้: “ตอนนี้ไม่สำคัญเท่าอนาคต? อีกอย่างชีวิตกุมอยู่ใน มือของตัวเอง ตอนนั้นผมเกือบตาย ต่อมาก็รอดชีวิตไม่ใช่เหรอ? คุณรู้มั้ย? ถ้าตอนที่เครื่องบินตกผมไม่ดิ้นรน ก็อาจจะไม่มีชีวิตอยู่ แล้วจริงๆ แต่เพราะผมดิ้นรน ดังนั้นผมจึงได้รับบาดเจ็บที่หน้า แต่ไม่ใช่ที่สมอง”

เจียงเสี่ยวไปฟังถึงตรงนี้แล้วในใจสะเทือนไปครู่นึง นี่เป็นครั้ง แรกที่เซียวซูพูดเรื่องที่ผ่านมากับตัวเอง ตอนที่เธอเพิ่งรู้จักเซียวซู ก็แปลกใจว่าแผลเป็นบนใบหน้าเขาได้มาจากไหน ถึงแม้เธอไม่ ได้รู้สึกขี้เหร่เลย แถมยังรู้สึกมีความเป็นผู้ชายมาก

แต่ว่าเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนบางคนรู้สึกแผลเป็นที่น่ากลัวมาก

“คุณไม่เคยถามมาก่อน ครั้งแรกตอนที่ไปบ้านคุณ ตอนที่อยู่ ในลิฟท์คุณน้ายังได้พูดถึงแผลเป็นบนใบหน้าผม คุณเป็นคนปกป้องผม”

พูดถึงเรื่องนี้ เจียงเสี้ยวไปก็จำได้ ตอนนั้นเธอปกป้องเซียว จริงๆ

แต่ตอนนั้นที่เธอคิดเหมือนจะเป็น เซียวซูเป็นคนที่ตัวเองเชิญ มาช่วยเหลือเชียวนะ แต่คนๆนั้นกลับพูดมากขนาดนั้น ไม่นึกเลย ว่าจะไปขุดคุ้ยแผลเก่าของคนอื่น

พฤติกรรมแบบนี้ เป็นพฤติกรรมที่เจียงเสี่ยวไปอับอายที่สุด ดังนั้นเธอจึงปกป้องเซียวซูด้วยจิตใต้สำนึก คิดไม่ถึงว่าเขาจะ เอาเรื่องเก่ามาพูดอีกครั้ง

“คุณคงไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น แล้วรู้สึกซึ้งมากมั้งคะ?”

เซียวซูยิ้มอ่อนๆ และตอบคำถามเธอเสียงเบา: “รู้สึกซึ้งนิด หน่อยจริงๆ เพราะยังไงซะตอนนั้นพวกเราแค่เล่นละคร ใครจะไป คิดได้ว่าต่อมาจะมีพวกนี้? และตอนนั้นคุณก็ยอมปกป้องผม แล้ว”

เรื่องนี้เจียงเสี่ยวไปแค่ปกป้องไปงั้นๆแหละ แต่คิดไม่ถึงว่า เซียวจะจดจํามานานขนาดนี้

“เพราะฉะนั้นตอนนั้นถ้าผมยอมจำนนต่อชีวิต ต่อมาคุณก็ไม่มี ทางผมเจอแล้ว”เซียวซูกุมมือของเธอไว้แน่น “คุณคิดว่าผมพูด เรื่องพวกนี้กับคุณหมายความว่าอะไร?”

เจียงเสี่ยวไปไม่ได้ตอบ เป็นไปได้ยังไงที่เธอจะไม่รู้ว่า หมายความว่าอะไร?
“คุณฉลาดขนาดนี้ ช่วยผมไขคําตอบหน่อย

เจียงเสี่ยวไปฟังแล้วหน้าแดง: “ทำไมจู่ๆคุณถึงกะล่อน ปลิ้นปล้อนขนาดนี้? ทั้งๆที่เมื่อกี้บรรยากาศยังเศร้าโศกเสียใจ อยู่ ปรากฏถูกคุณพูดแบบนี้ปุ๊บ”

บรรยากาศที่เสียใจหนักหน่วงพริบตาเดียวก็หนีหายไปอย่าง ไร้ร่องรอยแล้ว

“คุณไม่พูด งั้นผมมาพูด” เซียวซูเหมือนจากท่อนไม้ท่อนนึง กลายเป็นปรมาจารย์ด้านความรัก พูดคำนึงต่อจากคำนึง คงจะ เพราะถึงเวลาแสดงความจริงใจของตัวเอง คำพูดก็มาอย่างไม่ ขาดสายเลยมั้ง

“ผมไม่เชื่อชะตา และไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ไม่ว่าที่หมอดู พูดเป็นความจริงหรือเปล่า มันก็ไม่เกี่ยวกับผม เพราะผมไม่ไป ดำเนินการอยู่แล้ว ชีวิตของผมมีการวางแผนของตัวเอง มีความ ยึดมั่นของตัวเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกคำพูดเหล่านั้นควบคุม

“เหรอคะ?” เจียงเสี่ยวไปพูดขัดเขาอย่างไม่ไว้หน้า: “แล้วตอน นั้นคุณไม่ใช่ยึดมั่นกับคนรักของคุณเหรอคะ? ทำไมถึงถูกฉัน ควบคุมได้ซะงั้นล่ะ?”

เซียวซูฟังแล้วคำพูดติดคอ คงจะเพราะคิดไม่ถึงว่าเจียงเสียว ไป๋จะเถียงเก่งขนาดนี้ แถมยังเชื่อมมาถึงด้านนี้อีก

“หืม? ทำไมคุณไม่พูดแล้วล่ะ?” เจียงเสี่ยวไปยื่นมือออกมา หยิกแก้มของเซียวซู “คุณพูดสิ”
เซียวซูก้มหน้า จับมือเธอไว้จู่ๆ กัดเข้าคำนึง

“อ๊า!” เจียงเสี่ยวไปคาดการณ์ไม่ได้ อุทานไปคำนึง สีหน้าได้ เปลี่ยนมาแดงกะทันหัน “นี่คุณทำอะไรน่ะ?”

“พูดขัดจังหวะครั้งนึง ผมก็จะกัดคุณครั้งนึง

เจียงเสี่ยวไปได้ยินแล้วยกมุมปากขึ้น แต่กลับโต้แย้งไม่ได้ โมโหจังเลย ทำไมจู่ๆเขาถึงได้แข็งกร้าวขนาดนี้?

อีกอย่างเธอรู้สึกเซียวที่เป็นแบบนี้ หล่อจังเลย เธอไม่ได้พูด มองเซียวซูไว้อย่างเชื่อฟัง “ไม่พูดขัดจังหวะก็ไม่ พูดขัดจังหวะ คุณพูดต่อเลย!”

หลังจากถูกเธอขัดจังหวะ ความรักใคร่ที่เซียวเพิ่งบ่มเพาะ ออกมา ทีนี้จางหายไปหมดเลย คำพูดเหล่านั้นก็ไม่มีกะจิตกะใจ พูดต่อจริงๆ ได้แต่เพ่งมองเธอแล้วพูด: “สรุปก็คือสิทธิ์ตัดสินใจ อยู่ที่คุณ ถ้าคุณต้องการ เซียวซูจะอยู่ที่นี่ตลอดไป

เจียงเสียวไปเอ๋อค้างไว้ คิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดนี้จะออกมาจาก ปากของเซียวซู

“ยังไงซะก็ยังไม่ผ่านช่วงดูใจ คุณทิ้งผมได้ทุกเมื่อ

เจียงเสี่ยวไปฟังถึงตรงนี้ ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างค่อนข้างไม่สบ อารมณ์: “นี่คุณกำลังพูดอะไรนะ? ทำไมพูดเหมือนกับว่าฉันได้ แล้วทิ้งเลย และคุณก็น่าสงสารมากอย่างงั้นแหละ? ยังมีอีก ทำไมคุณต้องผลักสิทธิ์ตัดสินใจให้ฉันด้วย ฉันพูดเรื่องนี้กับคุณ เป็นเพราะฉันคิดว่าคุณก็มีสิทธิ์ที่จะเลือก!”
“ผมรู้” เซียวพยักหน้า ตอบคำถามเธอด้วยเสียงต่ำ: “แต่ตั้ง แรกวินาทีที่เราเริ่มคบกัน ผมก็ได้มอบสิทธิ์ตัดสินใจให้ถึงมือคุณ แล้ว คุณต้องการผมก็จะอยู่ ถ้าคุณไม่เอาผม……….

“ถ้าฉันไม่เอาคุณ คุณก็จะทําไม?”

เจียงเสี่ยวไปลืมตาคู่ที่เฉลียวฉลาด ไปสืบค้นแววตาของเขา อย่างจริงจัง เหมือนอยากดูหัวใจเขาให้ชัดเจนผ่านแววตาของ เขา

เขาไม่พูดจา แค่มองเจียงเสี่ยวไปไว้

เจียงเสี่ยวไปรู้สึกตัวเองเดาคำตอบได้แล้ว “ถ้าฉันบอกไม่เอา คุณ คุณก็จะไปจากฉันใช่มั้ย?”

เพิ่งพูดจบ เจียงเสี่ยวไปเห็นแววตาของเซียวซูมีความกระวน กระวายแว๊บผ่านอย่างชัดเจน

เพราะฉะนั้น เขาน่าจะเริ่มแคร์ตัวเองแล้ว ไม่งั้นแววตาของเขา

ก็ไม่กระวนกระวาย หลังจากได้ยินคำนี้หรอก

ความพยายามช่วงนี้ของเธอน่าจะมีประโยชน์อยู่

ขอแค่ให้เวลาเธอหน่อย เธอก็สามารถทำให้เซียวซูชอบ แม้ กระทั่งรักตัวเองอย่างสุดหัวใจแล้วมั้ง?

คิดถึงตรงนี้ จู่ๆเจียงเสี่ยวไปใช้แรงชนหน้าผากของเขา ใช้ แรงเยอะมาก เซียวซูถูกชนจนตาลาย ยังไม่ทันดึงสติกลับมาว่า อาการกิริยาของเธอหมายความว่ายังไงก็ได้ยินเสียงไพเราะของ ผู้หญิงดังขึ้นที่ข้างหูเขา: “เซียวซู เราแต่งงานกันเถอะค่ะ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ