เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1025 คุณมีปัญหาอะไรกับผมฉันมากนักเหรอ



บทที่1025 คุณมีปัญหาอะไรกับผมฉันมากนักเหรอ

เย่โม่เซ็นจับคางของหล่อนไว้และบรรจงจูบลง

ริมฝีปากที่ซีดขาวปกคลุมไปด้วยไอเย็น ราวกับเกล็ดหิมะที่ โบยบิน แต่เมื่อประกบลงบนปากของหล่อนกลับค่อยๆเร่าร้อน ขึ้น

หานคู่จื่อเห็นว่าเขาหลับตาลงอย่างตั้งใจ ท่าทางจากเดิมที่จับ คางของหล่อนไว้ค่อยๆเลื่อนมาจับมือแทน บรรจงจูบอย่างดูดดื่ม ถ้าไม่ได้เป็นเพราะเหงื่อที่ยังคงไหลออกมาบนหน้าผากไม่หยุด หาหมู่จื่อคงคิดว่าเย่ ไม่เซ็นในตอนนี้ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน

น่าเสียดายที่หล่อนเห็นภาพทั้งหมดนี้แล้วรู้สึกสงสารเข้าเหลือ เกิน

จูบสามารถทำให้คนมีความสุข และอาจจะทำให้เขาลืมความ ทุกข์ทรมานก็ได้

เมื่อคิดถึงตอนนี้ หานมู่จื่อจึงกระพริบตา เดิมทีหล่อนกับเขา เคยสัญญากันไว้ว่าหากหล่อนไม่อนุญาต ห้ามจูบหล่อนเด็ดขาด แต่ตอนนี้สถานการณ์คับขัน หรือว่า…หล่อนควรจะตอบโต้เขาไป บ้าง?

กำลังคิดจะเคลิบเคลิ้ม สัมผัสที่ริมฝีปากนั้นก็หายไปแล้ว

หานคู่จื่อตั้งสติขึ้นมาได้ เห็นว่าเยโม่เซินมองมาด้วยสายตา ลึกซึ้ง
แค่กๆ…หรือเป็นเพราะตัวเองกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ ไม่มี สมาธิ ทำให้เขารู้ทันอีกแล้ว?

หานมู่จื่อทําอะไรไม่ถูก กัดริมฝีปากตัวเองไว้ อยากเป็นฝ่าย เข้าไปจูบเขาก่อน

เย่ ไม่เซินเบิกตาโตกว้าง จากนั้นหรี่สายตาอันมีเลศนัยลง จับ

ท้ายทอยของหล่อนไว้

จูบที่หอมหวานค่อยๆกำจัดความไม่สบายตัวและความเจ็บ ปวดของเย่ ไม่เซินออกไป…

ทั้งสองจูบกันอย่างเร่าร้อนอยู่ภายในบ้าน

ส่วนอีกด้านหนึ่ง ห้องหนึ่งในชุมชนซันไชน์

เซียวซูนั่งว่างอยู่บนโซฟา พลางดื่มกาแฟที่ชงเสร็จแล้วใน ห้อง จากนั้นเงยหน้ามองไปที่นักเขียนสาวน้อยที่นั่งทำงานอยู่ ตรงหน้าจอโน๊ตบุ๊คและหันหลังให้เขา

หล่อนนั่งอยู่ตรงนั้นเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว จนเซียวซูดื่มกาแฟ จนหมดและเติมใหม่ด้วยตัวเอง

ในขณะที่ที่เติมกาแฟอยู่ ยังสังเกตเห็นว่าห้องของนักเขียน สาวน้อยไม่ใหญ่นัก แต่กลับใช้ชีวิตได้อย่างสนุก น่าสนใจ ไม่ว่า จะเป็นเครื่องทํากาแฟ เครื่องทำขนมปัง เครื่องทำเค้ก ไม่ว่าอะไร ก็มีครบครัน

อีกอย่างห้องครัวของหล่อนมีขนาดใหญ่มาก ด้านในมี อุปกรณ์ต่างๆตั้งเรียงรายอยู่มากมาย
เปิดตู้เย็นออกมาก็เต็มไปด้วยวัตถุดิบต่างๆ

เมื่อก่อนเชียว เคยได้ยินว่านักเขียนเป็นพวกอยู่บ้านเฉยๆไม่ ทําอะไร หากไม่ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็สั่งเดลิเวอรี่ แต่เมื่อเห็น ของในตู้เย็นหล่อนเต็มไปด้วยของสด คิดว่าหล่อนคงทำอาหาร เอง

เขียวยกกาแฟนมาดื่มอีกครั้ง ทันใดนั้นคิดบางอย่างขึ้นมา ได้ มองไปที่ด้านหลังของนักเขียนสาวน้อย

รู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ

หล่อนนั่งอยู่ตรงนั้นครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมไม่พูดอะไรเลย อีก อย่างก็ไม่ลุกขึ้นยืนบ้าง และเขาก็ให้หล่อนแก้เล็กน้อยเท่านั้น ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเชียวเหรอ? เมื่อคิดถึงตอนนี้ เซียวซูเลิกคิ้วขึ้น วางแก้วกาแฟในมือลง เอ่ย

ปากเรียกหล่อน

“เธอ”

ไม่มีการตอบรับ

เมื่อเซียวซูเห็นเช่นนั้น จึงยักคิ้วขึ้น หรือหล่อนตั้งใจทำงาน

มาก?

แต่ทำไมรู้สึกผิดปกติแปลกๆ?

สุดท้ายเซียวซูรออีกสักพัก แต่หล่อนยังไม่มีท่าทีขยับแม้แต่ น้อย เขาจึงรู้สึกว่าผิดปกติมาก
เซียวซูจึงลุกขึ้นเดินตรงไปหาหล่อน จากนั้นพูดขึ้น: “ทำเสร็จ แล้วยัง? แก้บทความแค่นี้ต้องใช้เวลานานขนาดนี้เชียวเหรอ? เธอยังเป็นนักเขียนมืออาชีพอยู่รึเปล่า?”

ในขณะที่พูด เซียวเดินอ้อมไปหยุดอยู่ตรงหน้าหล่อนแล้ว จากนั้นเหลือบมองดูใบหน้าของหล่อนที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์

สาวน้อยนั่งหลังตรงอยู่ตรงนั้น แต่กลับหลับตาลง อ้าปากค้าง หลับกําลังสบาย

เซียวซู่ “???

ใครก็ได้ช่วยบอกเขาหน่อยว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? หล่อนไม่ได้แก้งานอยู่เหรอ? ทำไมนั่งหลับอยู่หน้าคอมแบบนี้

ล่ะ?

อีกอย่าง หล่อนทั้งหลับและนั่งหลังตรงแบบนี้ได้อย่างไรกัน? เมื่อหลับได้ที่แล้ว นักเขียนสาวน้อยยังเบะปากอีกด้วย จากนั้นเอียงหัวไปด้านข้าง และนอนต่อ

เซียวซู: “ ”

ดีมาก เก่งมาก

เซียวซอดกลั้นความโกรธภายในใจไว้ ยื่นมือออกไปเคาะบน

โต๊ะหล่อน

ก๊อกๆๆ
สาวนักเขียนท่าเหมือนไม่ได้ยิน ยังคงนอนหลับอย่างสบายใจ เขียว หมดคําพูด ออกแรงเคาะโต๊ะมากขึ้น

ก๊อกๆๆๆ!

ครั้งนี้ถือว่าตัวเองออกแรงเยอะมาก ถ้าหล่อนยังไม่ตื่น…ค น…คงจะ เขาทายไม่ผิด สาวนักเขียนยังคงไม่มีท่าทีตอบโต้อะไร ยังคง นอนเหมือนเซียนที่กำลังฝึกวิชานั่งสมาธิอยู่ ไม่ได้ยินเสียง รบกวนหรือเสียงใดๆจากโลกภายนอก

สุดท้ายขณะที่เซียวซูอดสงสัยต่อไปไม่ไหวแล้ว เขากลับเห็นว่า หล่อนอุดสลีก้อนหนาไว้ในห

เขาหัวเราะเยาะ และหยิบสำลีสองก้อนนั้นออกมา แต่เขาเพียง

แค่ตั้งใจจะเอาสำลีออกมาและปลุกหล่อนให้ตื่นเพื่อมาทำงาน

ต่อเท่านั้น

แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะหยิบสำลีออกมา แล้วนิ้วมือไปพันกับผม ของหล่อน จนทำให้ผมของหล่อนหลุดออกมาหนึ่งกำมือ

“ข้าก!!!”

วินาทีถัดมา มีเสียงร้องที่เลวร้ายกว่าการฆ่าหมูดังขึ้นภายใน

ห้อง

เซียวซูมองดูก้อนผมในมือ กลืนน้ำลายลงด้วยความตกตะลึง เขา…ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย

“บ้าไปแล้วๆๆ!” หลังจากที่สาวนักเขียนตื่นขึ้นมา ก็เหลือบไปเห็นก้อนผมสีดำในมือของเขา จากนั้นระเบิดอารมณ์ขึ้นมาทันที “คุณเฑียว นี่คุณหมายความว่ายังไงกัน? ฉันแค่แอบหลับไม่ใช่ หรือไง? ทั้งยังแก้ให้คุณแล้วไม่ใช่เหรอ? คุณจะเอายังไงกับฉัน ถึงทําฉันแบบนี้!”

เขียว : “???”

“ทําไมคุณต้องดึงผมฉัน??? คุณรู้บ้างรึเปล่าว่าผมสำคัญกับ คนที่มีอาชีพนักเขียนมากขนาดไหน? ทุกวันนี้ฉันคิดงานจนผมจะ ร่วงหมดหัวแล้ว แต่คุณกลับมาถึงผมฉันอีก…ฮือๆๆ

ผมร่วง คือความเจ็บปวดของผู้หญิงทุกคน

โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีหน้าผากสูง และเจียงเสี่ยวไปก็เป็นผู้ หญิงที่มีหน้าผากสูง และยังเป็นคนที่ผมร่วงอีกด้วย

ที่สำคัญกว่านั้น ตั้งแต่หล่อนมีอาชีพเป็นนักเขียน ผมของ

หล่อนก็ร่วงหนักมาก

ทุกวันนี้เจียงเสี่ยวไปคอยหาวิธีปลูกผมดีๆจากอินเตอร์เน็ต แต่ผมของหล่อนช่างดื้อรั้นนัก ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมเชื่อฟัง ยังคง ร่วงโรยทุกวัน เดิมทีผมของหล่อนมีไม่เยอะอยู่แล้ว จนรู้สึกว่าตัว เองแทบจะหัวล้านแล้วด้วยซ้ำ

ตอนนี้ เซียวซูยังดึงผมของหล่อนอีก

เจียงเสี่ยวไปใช้นิ้วที่สั่นเทาลูบไปบนบริเวณที่เจ็บบนหัว หล่อน สัมผัสโดนชิ้นเนื้อเล็กๆได้อย่างชัดเจน

ตรงนั้น ไม่มีผมแล้ว
เจียงเดี่ยวไปร้องไห้หนักมาก

หล่อนเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อเขา พูดด้วยความโมโห นายพูดมา นายโกรธแค้นอะไรผมของฉัน? ทำไมต้องทำกับผม ฉันแบบนี้?”

เดิมทีเซียวซูเป็นคนมีเหตุมีผล แต่ตอนนี้เขากลับดึงผมของ หญิงสาวออกมา เป็นเรื่องที่เขาเองก็คิดไม่ถึง ดังนั้นตอนนี้เขาจึง กลายเป็นคนไร้เหตุผล ถูกเฉียงเสี่ยวไปกระชากคอเสื้อถามเช่นนี้ เซียวซูก็พูดอะไรไม่ออก

“ฉันจะบอกให้ ถ้าวันนี้คุณให้คำตอบที่ทำให้ฉันพอใจไม่ได้ ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และไม่ต้องคิดให้ฉันแก้งานชิ้นนี้ให้อีก วันนี้คุณไม่ต้องคิดจะออกไปจากประตูนี้!”

เซียวซู: “…”

มองหล่อนอย่างจนปัญญา

นี่หล่อนยังเป็นสาวน้อยคนนั้นอีกรึเปล่า? ทำไมชั่วพริบตา เดียวก็กลายเป็นนางร้ายแบบนี้ล่ะ? เพราะเรื่องผมที่ถูกดึง

แต่ทว่า…เซียวซูมองดูจำนวนผมของหล่อน พูดด้วยความ ลำบากใจ: “ขอโทษนะครับ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันแค่อยาก ช่วยเธอหยิบสําลีออกมา คิดไม่ถึงว่า…”

“คุณฉวยโอกาสแก้แค้น แค่หยิบสำลีจะมาโดนผมได้ยังไง กัน?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ