เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1182 นายมันหน้าด้านจริงเลย



บทที่1182 นายมันหน้าด้านจริงเลย

พอโดนเขาทัก คนทั้งลิฟต์ก็เหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบแย่งกันออก มาจากลิฟต์ ทันใดนั้นประตูลิฟต์ก็ปิดลงพอดี หนึ่งในพวกเขา กระแทกเข้าประตู เขาร้องโอ้ยก่อนจะเดินถอยหลังกลับไป แล้วไปเหยียบใส่เท้าของคนหลัง จึงทำให้คนอื่นเจ็บตัวไปด้วย ต่างผลักกันแล้วออกจากลิฟต์

ส่วนซูจิ๋วนั้นโดนหลีกทางให้เดินออกมานานแล้ว พอตัวเอง เดินออกมาแล้ว ก็มองกลุ่มผู้ชายที่เบียดกันไปมาอยู่ข้างๆ ได้แต่ ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

โชคดีที่เธอเดินเร็ว ไม่งั้นเธอคงโดนเบียดเป็นแฮมเบอร์เกอร์ แล้ว

หลังจากผู้คนมากมายออกมาจากลิฟต์แล้ว สีหน้าหานซึ่งที่ได้ อารมณ์หันไปจับมือของหญิงสาวที่อยู่ด้านหลัง แล้วลากเธอ เข้าไปในลิฟต์

เสี่ยวเหยียนโดนเขาเดินลากเข้าไป ประหม่าจนไม่กล้ามองค นกลุ่มนั้น

จนกระทั่งประตูลิฟต์ปิดลง เธอถึงจะกล้าหายใจ

ส่วนกลุ่มผู้บริหารระดับสูงนั้นต่างเริ่มซุบซิบกัน

“ผู้หญิงคนนั้นคือใคร? หรือว่าจะเป็นแฟนของประธานหาน ของพวกเรา?”
“คงไม่หรอกมั้ง? ดูแล้วยังอายุน้อยอยู่เลย แล้วอย่างประธาน หานของพวกเราไม่เคยคบใครที่ไหนไม่ใช่เลยหรือไง? ทำไมจู่ๆ ถึงมีแฟน? แล้วยังไม่เปิดเผยด้วย

“ถ้ารู้ว่าประธานหานมีความคิดที่อยากมีแฟนนะ ทำไมต้อง ปล่อยของดีไปให้คนนอกด้วย? ฉันจะได้แนะนำลูกสาวฉันให้เขา ไง เห้อ คราวนี้ก็ดีละสิ โดนคนอื่นแย่งไปแล้วไง

ก็จริง ถ้ารู้ว่าประธานทานชอบแบบเด็กๆ ฉันคงจะเอา ลูกสาวที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะให้เขาแล้ว”

คนที่เหลือมองไปยังคนที่พูดด้วยสายตาดูถูก

“ตาหลิว นายมันหน้าด้านจริงเลย ลูกสาวเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ ก็อยากจะแนะนำให้ประธานหานละ เคยนึกถึงจิตใจลูกตัวเอง ไหม??”

“ใช่ตาหลิว นายยังมีความเป็นพ่ออยู่ไหม?”

“ทำไม? ไม่ใช่ยังไม่บรรลุนิติภาวะสักหน่อย ฉันหน้าด้านยังไง จะว่าไปเรื่องความหน้าด้านพวกนายไม่ด้านหรือไง? ทุกคนก็ อยากจะยัดเยียดลูกสาวตัวเองให้ประธานหานหนิ ทุกคนก็รู้ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ ยังรวยขนาดนี้อีก ใครไม่อยาก ให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับเขาบ้าง?

“น่าเสียดาย…….ผู้หญิงเมื่อกี้เป็นใครกัน? พวกนายรู้จักไหม ซูจิ๋วที่ยืนฟังเรื่องซุบซิบอยู่ข้างๆอยู่นาน ทนฟังต่อไปไม่ไหว จึง พูดแทรกพวกเขาขึ้นมา
“ฉันคิดว่า ถ้าพวกคุณสนใจเรื่องชีวิตของประธานานมาก ถ้า

อย่างนั้นพวกเราขึ้นลิฟต์ไปถามประธานทานต่อหน้าเลยไหม คะ?” คนส่วนมาก ……..แบบนั้นพวกเราคงไม่กล้า เลขาซู ปกติคุณ อยู่ใกล้ชิดประธานทานมากที่สุด ผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน?

ลูกสาวบ้านไหน? ทำไมพวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน

“ใช่ๆ เลขาซู ผู้หญิงคนนั้นคบกับประธานหานได้ยังไง? “ช่วยแบ่งปันเคล็ดลับหน่อยก็ได้ เมื่อวันหลังอาจจะมีโอกาสห ล่ะ?”

ซูจิ๋วพูดไม่ออก หรี่ตามองคนพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้า “คิดไม่ถึง จริงๆนะคะ ปกติก็เห็นว่าพวกคุณต่างก็ค่อนข้างเงียบ ที่จริงก็มี ความคิดแบบนี้นี่เอง? อยากให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับ ประธานหาน แต่พวกคุณเคยคิดหรือเปล่า ว่าคนที่ขึ้นลิฟต์ไปเมื่อ ก็จะเป็นว่าที่ภรรยาของประธาน?”

ทุกคนนิ่งไป แล้วไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับมา

“ดังนั้นตอนนี้ที่พวกคุณทำแบบนี้ เท่ากับว่าอยากจะไปแทนที่ ภรรยาของท่านประธานอย่างเปิดเผย แบบนี้จะดีหรอคะ?”

พอคนพวกนั้นโดนตราหน้าว่าแย่งเป็นภรรยา ก็ประหม่ากัน ขึ้นมาทันที มีคนเอ่ยพูดแก้ตัวขึ้นว่า “เลขาซู จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ ตอนนี้ยังเป็นแค่แฟน ไม่มีใครรู้เหมือนกันว่าในอนาคตจะเป็น ภรรยาท่านประธานหรือเปล่า”
“ใช่ๆ อีกอย่างฉันดูๆแล้วผู้หญิงคนนั้นก็ยังเด็ก จะเป็นภรรยา ของท่านประธานของพวกเราได้ยังไง? เธอรู้เรื่องการจัดการ บริษัทไหม?”

“ใช่ใช่ใช่”

ค่าพูดเหล่านี้ซูจิ๋วฟังแล้วรู้สึกไม่พอใจสักเท่าไหร่ รอยยิ้มใต้ ตาของเธอเย็นชามากขึ้น เธอพูดพร้อมยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าอย่าง นั้นพวกคุณหมายความว่า จะแต่งงานทั้งทีก็ต้องแต่งกับคนที่มี ประโยชน์ด้านงานหรอคะ?”

“ถ้าไม่อย่างนั้นหล่ะ? แต่งงานกับคนที่ไม่มีประโยชน์ต่อตัวเอง จะแต่งทำไม? หรือว่า ให้แต่งงานกับคนที่ไม่มีประโยชน์แล้วเอา มาบูชาไว้บนหิ้ง? ฉันว่าเลขาซูก็ไม่แย่ ดูก็รู้ว่าเป็นหญิงแกร่ง ถ้า ประธานทานได้แต่งงานกับคนแบบคุณก็ไม่เลว”

ซูจิ๋วกระตุกริมฝีปาก : “ขอโทษด้วยนะคะฉันแต่งงานแล้ว แล้ว ฉันขออธิบายหน่อยค่ะ ฉันเองก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อการทำงาน ของสามีฉัน เขาทำงานของเขา ฉันทำงานของฉัน แต่ฉันขอขัด พวกคุณหน่อยค่ะ ถ้าจะแต่งงานเพื่อประโยชน์ทางการงาน ก็อย่า ไปเสียเวลาชีวิตคนอื่นดีกว่านะคะ?”

ประโยคนี้ทำให้ทุกคนหน้าเสียกันไปทีเดียว

“ทำไมคะ? ฉันพูดไม่ถูกหรอคะ? งั้นฉันจะอธิบายให้อีกแบบ นะคะ สมมติถ้าวันหนึ่งลูกสาวพวกคุณแต่งงาน แต่อีกฝ่ายหวัง แค่ประโยชน์จากตัวลูกสาวพวกคุณ พอแต่งงานไปก็ไม่ดูแลดีๆ คนที่เป็นพ่ออย่างพวกคุณยอมหรอคะ?”
คนทั้งหมด: “……”

“ถึงกับพูดไม่ออกเลยใช่ไหมคะ? ดูสิคะ คนเรามันสอง มาตรฐานแล้วก็เห็นแก่ตัว คราวหน้าจะพูดอะไรก็ลองเปลี่ยนมุม มองบ้างนะคะ แล้วก็ขอเตือนนะคะ หลายปีมานี้ประธานทานไม่ ได้สนใจผู้หญิงคนไหน แต่วันนี้มีผู้หญิงที่สนใจแล้ว แปลว่าทุก คนก็น่าจะรู้นะคะว่า ไม่ต้องไปทำเรื่องไร้สาระพวกนั้น

“เลขา คุณ……

“ฉันพูดมากพอสมควรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ

เลขาซูไม่สนใจพวกเขา เดินจากไปกับเสียงรองเท้าส้นสูง พอรอเธอเดินจากไป กลุ่มคนพวกนั้นต่างมองหน้ากันไป มอง หน้ากันมา สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะพูดแขวะกันออกมา

“เลขานี้มันอะไรกัน? ทำไมจู่ๆถึงได้โมโหขนาดนี้? เรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับเธอหรือไง? ทั้งๆที่เมื่อกี้พวกเรายังชมเธออยู่เลย

“เห้อ ผู้หญิงหน่ะเข้าใจยาก ลูกสาวฉันก็เหมือนกันพูดอะไรก็ ไม่เคยได้ดั่งใจหน่อย ก็โมโหใส่ ไม่คิดว่าหญิงแกร่งอย่างเลขา ก็นิสัยผู้หญิงเด็กๆเหมือนกัน”

“เห้อ ยังไงก็เป็นผู้หญิง ช่วยเข้าใจหน่อย”

“แต่เมื่อกี้เธอก็พูดถูกนะ ประธานหานพวกเราเป็นคนยังไง? คนที่อยากถวายผู้หญิงให้น้อยสักที่ไหน? มีครั้งไหนที่สำเร็จ บ้าง? ฉันว่าว่าที่ภรรยาของท่านประธาน คงโดนล็อคตำแหน่งไว้ แล้ว”
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนและหานซึ่งเข้ามาในลิฟต์ ก็ไม่ได้รับรู้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นด้านนอก ลิฟต์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ นานก็ถึงห้องทํางานของประธาน

เพราะเมื่อกี้โดนเขาอุ้มไว้ในอ้อมแขน แล้วดันบังเอิญเจอกับ พวกผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ดังนั้นหลังจากที่เสี่ยวเหยียน โดดออกจากอ้อมแขนแล้วยืนมั่นคงแล้ว ใบหน้ายังคงแดง ตอนที่เดินออกจากลิฟต์กับหานซึ่งก็ค่อยๆเดินเหมือนหอยทาก

จนกระทั่งหานซิงพูดว่า “เดินช้าขนาดนี้ อยากให้ฉันอุ้ม เธอ?”

เสี่ยวเหยียนที่เหมือนโดนปลุกจากความฝันส่ายหน้าอย่างแรง

พูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงว่า : “ไม่ต้อง!”

จากนั้นก็รีบก้าวเท้าเดินให้ตามเขาทัน แล้วเดินเข้าห้องทำงาน ไปพร้อมกัน

เพราะสถานการณ์แบบเมื่อกี้ เธอคงไม่อยากจะประสบมันรอบ ที่สอง เพราะหานชิงต้องทำงาน ดังนั้นเสี่ยวเหยียนจึงรอเขาอยู่ ในห้องทํางาน

พอถึงเวลาก็เลิกงานพร้อมกับเขา ทั้งสองไปทานข้าวกันต่อ หลังจากทานเสร็จหานซึ่งก็ส่งเธอกลับบ้าน

วันหนึ่งวันผ่านไปไวราวกับพริบตาเดียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ