เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1178 ทางที่ดีก็ไม่ต้องรับรู้ไปชั่วชีวิต



บทที่1178 ทางที่ดีก็ไม่ต้องรับรู้ไปชั่วชีวิต

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว แต่หานจึงกลับนิ่งเงียบอยู่เหมือนเคย พร้อม ทั้งเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยความเย็นชา “นายมัน ว่างมาก ก็เลยตั้งใจวิ่งแจ้นมาที่นี่?”

“เฮ้ จะว่าไปก็ใช่อยู่นะ ว่างเกินไปจริงๆนั่นแหละ ก็เลยมา เยี่ยมเยือนน้องสาวด้วยสักหน่อย

“น้องสาว?” หาเชิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจความ หมายของคำเรียกนี้เท่าไหร่นัก “ใช่แล้ว น้องเสี่ยวเหยียนเรียกฉันว่าพี่ใหญ่แล้วนะ หลังจากนี้

ตอนที่นายเจอฉันไม่งั้นก็ช่วยเปลี่ยนคำเรียกด้วยแล้วกันดีมั้ย?”

พูดมาจนถึงตรงนี้แล้ว รอยยิ้ม ในแววตาของหลินสวี่เวิ้งก็เก็บ

กลั้นเอาไว้ไม่อยู่ไปโดยสมบูรณ์ “เป็นไง น้องเขย?”

หานชิง ” ”

เสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างๆจึงได้รู้ว่าหลินสวี่เพิ่งกำลังเอาเปรียบ หานซึ่งอยู่เห็นๆ เดิมทีเธอคิดว่าตัวเองเรียกหลินสวีเจิ้งว่าพี่ใหญ่ ก็ไม่ได้อะไร นึกไม่ถึงว่าเขาจะหยิบยกเรื่องนี้มาพูดเล่นกับหานซิง

การหยอกล้อจําพวกนี้ ตัวเธอก็คิดว่าไม่อะไรอยู่แล้ว ถึงยังไง มันก็แค่คำเรียกคำนึง เพียงแต่ไม่รู้ว่าหานซึ่งจะคิดยังไง

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนจึงเอ่ยพูดแทนหานซึ่งออกมา อย่างรีบร้อน
“เอ่อ…พี่หลินคะ ฉัน…”

คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมาจนจบ มือก็ถูกหานซึ่ง คว้าเอาไว้ จากนั้นก็พูดขัดเธอออกมา “รีบร้อนอะไรกัน?”

เสี่ยวเหยียนตะลึงงัน เงยหน้ามองเขา

“ก็ปล่อยให้เขาพูดไปเถอะ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”

สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือหญิงสาวอยู่เคียงข้างกายเขาก็ดีแล้ว อีกอย่างหญิงสาวปกป้องเขาอย่างนี้ ก็เป็นสิ่งที่เขามีความสุข ที่สุดแล้ว

“จุ๊ๆ” หลินสวี่เจิ้งมองภาพฉากนั้น อิจฉาเสียจนไม่หวั่นไม่ไหว “เมื่อก่อนคิดว่าถึงแม้ว่าวันนึงนายจะมีความรักขึ้นมา ก็คงไม่ใช่ คนที่จะมารักหยกถนอมบุปผาจะพวกนั้นแน่ๆ นึกไม่ถึงเลยนะ เนี่ย…ว่านายจะสามารถพะเน้าพะนอได้มากกว่าที่ฉันคิดเสียอีก นะ น้องเสี่ยวเหยียน ผู้ชายคนนี้หลังจากนี้ไปน้องก็หาที่ไหนไม่ได้ หรอกนะ จะต้องรักษาเอาไว้ให้ดีๆล่ะ”

เสี่ยวเหยียนถูกคำพูดของผู้ชายทั้งสองคนทำเอาหน้าแดงขึ้น มา รู้สึกว่าที่นี่อยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ทำได้เพียงดึงมือตัวเองกลับ มา จากนั้นก็เอ่ยออกมา “ข้างล่างก็คงค่อนข้างยุ่งกันอยู่ล่ะมั้ง ฉันลงไปช่วยหน่อยดีกว่า พวกคุณทั้งสองคนคุยกันไปตามสบาย เลยนะคะ”

พูดจบ ไม่รอให้หานชิงได้รั้งเธอเอาไว้อีกครั้ง เสี่ยวเหยียนก็ได้ ลุกขึ้นออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เธอออกไปแล้ว บนใบหน้าของหลินสวี่เจิ้งยังคง ประดับไปด้วยรอยยิ้มเย้าแหยออกมา

“สาวน้อยก็เป็นสาวน้อยอยู่วันยังค่ำ พูดเล่นไม่กี่คำก็ทนไม่ ไหวซะแล้ว”

ได้ยินอย่างนั้น หานซึ่งชำเลืองมองเขาไปนิ่งๆ “ในเมื่อรู้แล้ว ทําไมถึงยังอยากจะพูดอยู่อีก?”

“ชีวิตที่จืดชืด ก็จะต้องหาความสุขให้กับตัวเองหน่อย ไม่

อย่างนั้นมันก็น่าเบื่อแย่ ใช่มั้ยล่ะน้องเขย?”

หานซิง “……”

นึกได้ว่าอีกไม่กี่วันก็ใกล้จะถึงวันครบรอบวันตายของภรรยา เขาแล้ว หานซึ่งก็ทําได้เพียงระงับเก็บกลั้นอารมณ์เอาไว้ แค่พูด พล่อยๆไม่กี่ค่าเองมั้ยล่ะ อยากเอาเปรียบเขาก็ปล่อยให้เขาเอา เปรียบไป

“ทำไม เอาจริงแล้ว? ชัดเจนอย่างนี้แล้ว?”

หลังจากพูดที่เล่นออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินสวี่เจ๋งถึง แม้ว่าจะไม่ได้เลือนหายไป แต่ในตอนที่ถามคำถามพวกนี้ ใน แววตาเขียนเต็มไปด้วยความจริงจังออกมาอย่างเห็นได้ชัด “ใน ฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทของนายมาตั้งหลายปีอยากจะขอเตือนนาย สักหน่อยแล้วกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่จะเล่นกันได้ง่ายๆ ถ้า นายไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะดีกับเธอไปชั่วชีวิต ทางที่ดีก็ อย่าเล่นตลกกับเธอเลย”
“หานชิงซ่าเลืองมองเขาไปอย่างทำอะไรไม่ถูก “นายรู้ได้ ยังไงว่าฉันจะไม่?”

“ใครจะรู้ว่านายจะทำได้หรือเปล่า? ถึงยังไงเมื่อก่อนนี้นายมัน ก็ไร้หัวใจมานาน จู่ๆก็มีสาวน้อยเพิ่มเข้ามาในชีวิต ใครจะรู้ล่ะ ว่าหลังจากนี้นายจะจู่ๆก็เป็นบ้าอะไรขึ้นมา แล้วทิ้งเธอไปหรือ เปล่า? ถึงแม้ว่าฉันจะเจอผู้หญิงมาไม่เยอะ แต่จากคำพูดการก ระทำต่างๆของเธอก็สามารถมองออกได้ว่าเธอเป็นดื้อรั้นมาก เลยคนนึง คนที่ยืนกรานที่จะเดินหน้าต่อไปโดยที่ไม่สนใจว่า ผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง ถ้าวันไหนนายทำให้เธอเสียใจ หรือว่า ทําร้ายหัวใจของเธอ เกรงว่าชั่วชีวิตนี้เธอคงจะเดินออกมาไม่ได้

คำพูดพวกนี้เป็นความจริง เสี่ยวเหยียนเป็นคนแบบนี้จริงๆ

ถึงแม้ว่าหานซึ่งจะเพิ่งคบกับเธอ แต่เขาก็รู้ว่าเสี่ยวเหยียนเป็น คนดื้อรั้นมากคนนึง ไม่อย่างนั้นแล้วก็คงไม่ชอบเขานานขนาดนี้

แต่ในเมื่อเขาคบกับเธอแล้ว ก็ได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ไม่มี ทางเกิดเรื่องไม่คาดฝันหรือเรื่องอื่นๆ อะไรก็ตามขึ้นมาได้หรอก

เห็นเพื่อนไม่พูดอะไรออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินสวีเ งก็ได้เลือนหายไป

“แต่เรื่องนั้น นายไม่คิดจะให้พวกเธอรู้หรอ?”

พูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา…แววตาของหานซึ่งเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงไม่พูดตอบออกไป หลินสวีเจิ้งที่อยู่ตรงหน้าพูดต่อออกมา
“ถึงแม้ว่าฉันไม่คิดว่าพวกเธอจําเป็นจะต้องรู้เรื่องนี้ แต่นาย

เอาแต่ปิดบังมาตลอดหลายปี ไม่คิดจะพูดออกไปจริงๆ?” พูด? ไม่มีอะไรน่าพูดสักหน่อย หานซิงเอ่ยพูดเสียงเรียบออก

มา “บางเรื่อง ทางที่ดีก็ไม่ต้องรับรู้มันไปตลอดทั้งชั่วชีวิต”

ได้ยินความหมายในคำพูดนี้ของหานชิงแล้ว หลินสวีเจิ้งก็พอ จะเข้าใจแล้ว เขาคิดจะปิดมันไปตลอดชีวิต จะไม่พูดมันออกมา ตลอดไป

“ฉันผิดคำสัญญาที่สัญญากับตัวเองเมื่อตอนนั้น” ในตอนที่พูด คำนี้ออกมา ภายในแววตาของท่านซึ่งก็มีแววตาของความเจ็บ ปวดเผยออกมาจางๆ

หลินสวี่เจิ้ง “ความจริงแล้วจะว่ายังไงดี ขอเพียงแค่ผลลัพธ์ มันไม่เปลี่ยนไป ใครมันจะไปสนใจว่ากระบวนการมันจะเป็นยัง ไง? ผลออกมาดี ก็ถือว่านายไม่ผิดสัญญาของตัวเองแล้ว

ได้ยินอย่างนั้น หานซึ่งทำได้เพียงฝืนยิ้มออกมา “หวังว่านะ” ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ที่ชั้นบน หลังจากที่เสี่ยวเหยียนลงไปก็ เข้าไปในครัว หลัวหุ้ยเหม่ยก็เดินเข้ามาหา

“ทำไมแกถึงลงมาล่ะ?”

เสี่ยวเหยียนพูดออกมาด้วยสีหน้าทำอะไรไม่ถูกออกมา “พวก เขาจะคุยกัน หนูอยู่ที่ตรงนั้นมันไม่เหมาะ

ได้ยินอย่างนั้น หลัวหุยเหม่ยก็ฟังออกว่ามีความนัยแฝงอยู่ “หมายความว่านายหลินกับคุณน้าของเสี่ยวหมี่โต้วรู้จักกัน?
เสียวเหยียนพยักหน้าออกมาเล็กน้อย

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง” มิน่าตอนที่หลัวหุ้ยเหม่ยบอกว่า เสี่ยวเหยียนกําลังกินอาหารเป็นเพื่อนนายหลินอยู่ที่ชั้นบน หาน ซึ่งถึงได้ไม่มีอาการสงสัยออกมาเลยสักนิด “นึกไม่ถึงว่าพวกเขา จะรู้จักกัน งั้นร้านนี้ก็

สมองของหลวยเหม่ยประมวลผลอย่างรวดเร็ว นึกไปถึงค่า เช่าที่ลดลงอย่างฉับพลันกับกรณีพิเศษ ในตอนนั้นขึ้นมาทันที

เสี่ยวเหยียน “…”

“แม่คะ เรื่องนี้ความจริงแล้วเขาเอ่ยปากบอกว่าอยากช่วยหนู แต่ภายหลังนายหลินก็เป็นคนพูดออกมาเอง ให้หนูเชื่อมั่นใน ความสามารถของตัวเอง อันที่จริงตอนที่พวกเราไปวันนั้นหนูเป็น คนที่ผ่านการประเมินส่วนบุคคลของเขา และเขาก็คิดว่าหนูจะ ตั้งใจดูแลจัดการร้านนี้ได้อย่างดี ตอนนี้เขาเองก็พึงพอใจมาก เหมือนกัน”

หลัวหุ้ยเหม่ยเอื้อมมือออกไปลูบหัวลูกสาวตัวเองด้วยความรัก ใคร่ เอ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไม่ต้องรีบร้อนอธิบาย ไปหรอก แม่รู้อยู่แล้วว่าลูกของแม่เก่งมาก แต่หลักๆเลยก็คือแม่ ก็แค่อยากรู้ว่าเขาดีกับแกหรือเปล่า ก็เท่านั้นเอง”

ไม่ว่าสิ่งที่หานซึ่งทำมันจะสร้างผลกระทบอะไรหรือเปล่า แต่ สำคัญที่สุดเลยก็คือเขาทำอย่างนั้นไปก็เพื่อลูกสาวของเธอ อย่าง นั้นแล้วก็ก็ถือว่าเริ่มต้นด้วยดี

เสี่ยวเหยียนสำลัก หน้าเริ่มแดงออกมา
“เขา เขาดีกับหนูมากอยู่แล้ว ไอ้หยาแม่ก็…อย่าพูดเรื่องนี้กันเลย”

“พูดไม่กี่ว่าก็เขินแล้ว? ตอนแกไปบ้านเขาทำไมถึงไม่เห็นจะ เขินอายอะไร?”

เสี่ยวเหยียน “แม่”

หลัวหุยเหม่ยหัวเราะออกมา “ไม่พูดแล้วๆ แกเลือกแล้วก็ พอ”

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หลินสวี่เจ๋งกับหานซึ่งก็ลงมาบอกลากัน เสี่ยวเหยียนเห็นหานซิงแล้วก็รู้สึกอยากตามไปอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเพิ่งจะแยกกับเขามาได้ไม่นานเอง ก็เลยจำใจ ต้องควบคุมการพุ่งออกไป

แต่หลัวหุ้ยเหม่ยที่อยู่ข้างๆ ก็เหมือนจะมองอะไรบางอย่างออก

ดันไหล่ของเธอออกไป “ถ้าอยากไป ก็ไปเถอะ”

เสี่ยวเหยียนหน้าแดง ส่ายหน้าออกมา “หนูไม่ไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ