เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่269 แท้จริงแล้วเราอยู่กันคนละโลก



บทที่269 แท้จริงแล้วเราอยู่กันคนละโลก
เมื่อเห็นภาพเยโม่เซินที่ยิ่งอยู่ห่างไกลจากตัวเองออกไปทุกทีจนลับตา เมื่อเขาเลี้ยวไปที่มุมนั้น
เส้นเฉียวจึงได้ถอนสายตา เธอก้มหน้าและมองดูเสื้อผ้าที่ตนเองสวมใส่ และมองดูทะเลที่สงบนิ่ง
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? ทําไมเธอจึงได้รู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริง? ผ่านไปยี่สิบนาที มีคนรับใช้นําอาหารเช้ามาส่งให้ เป็นอาหารเช้าที่หลากหลาย มีแซนด์วิชขนมปังปิ้ง และมีผลไม้มากมาย
ให้เธอเลือก
คนรับใช้ปฏิบัติต่อเธอด้วยความเกรงใจเป็นพิเศษ ด้วยมารยาทและ ความเคารพ แต่ก็เป็นที่สงสัยเป็นอย่างมากและสังเกตเธอตลอดเวลาที่เสิร์ฟ อาหาร
ทั้งสองคนถอยห่างออกไปแล้วจึงเริ่มส่งเสียงถกเถียงกัน
“เธอว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับคุณชายเย? ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งหลายปีไม่ เคยเห็นคุณชายเย่พาผู้หญิงกลับมาสักครั้ง”
“ผู้หญิงคนแรกที่คุณชายเย่พากลับมา วิลล่าไห่เจียง จะต้องไม่ใช่ ธรรมดาแน่ พวกเราต้องดูแลให้ดีอย่าทําให้เธอไม่พอใจ”
“คงจะไม่หรอกมั้ง? เธอดูว่าง่ายออก ไม่น่าจะเป็นคนประเภทที่ทําให้เรา ลําบากใจ”
“ดูแล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ นั่นแหละ แต่ใครจะรู้ว่าตัวจริงเป็นยังไง? ยัง ไงครั้งหน้าเข้าไปก็อย่าไปมองมั่วซั่ว อะไรไม่ควรถามก็อย่าไปถาม”
หนึ่งในนั้นกล่าวเตือนขึ้น เมื่อครู่เธอเองก็รู้สึกได้ว่าเส้นเฉียวมองพวกเธอ ด้วยความสงสัย เป็นไปได้ว่าอาจจะรู้สึกไม่ดีที่พวกเธอใช้สายตามองเธออย่าง พินิจพิเคราะห์
“ฉันรู้แล้วนะ งั้นพวกเรารีบไปกันเถอะ มื้อเที่ยงก็ตั้งใจหน่อย”
เส้นเฉียวไม่มีความอยากอาหารเท่าใดนัก ดังนั้นจึงเลือกผลไม้ไม่กี่ชิ้น เท่านั้น
เมื่อทานไปแล้ว เธอก็เอนกายอยู่บนเก้าอี้พักหนึ่งแต่ผ่านไปอีกพักหนึ่งก็แจ้งรายงาน เบื่อ เธอจึงลุกขึ้นและวางแผนจะเดินดูรอบ ๆ
ทันทีที่เธอลุกขึ้นก็มีสาวใช้คนหนึ่งรีบเข้ามาถาม: “คุณมีคําสั่งอะไรไหม คะ?”
เสิ่นเฉียวตกตะลึงไปพักหนึ่ง มีคนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหน ทําไมเธอถึง ไม่รู้
เธออึ้งอยู่นานแล้วจึงส่ายหน้าแล้ว: “ฉันไม่มีคําสั่งอะไรค่ะ ฉันแค่อยาก จะเดินดูรอบ ๆ”
“อย่างนั้นให้ฉันนําทางไหมคะ? ฉันคุ้นเคยกับที่นี่ดีและสามารถแนะนํา คุณได้ด้วย” สาวใช้ยิ้มหวานให้และมองดูเธอจนตาทั้งสองข้างหยีเป็นรูป พระจันทร์เสี้ยว
เดิมที่เสิ่นเฉียวคิดอยากปฏิเสธเพราะเธออารมณ์ไม่ค่อยดีนัก อาการเมา ค้างทําให้คิ้วของเธอคงเจ็บ แต่เมื่อเห็นความจริงใจและกระตือรือร้นของอีก ฝ่าย ในใจของเธอจึงไม่กล้าคิดปฏิเสธทําได้เพียงพยักหน้า: “ได้ งั้นต้อง รบกวนคุณด้วยค่ะ”
“ไม่รบกวนค่ะ ๆ” สาวใช้รีบโบกมือ จากนั้นจึงเดินนําหน้าไป: “คุณตาม ฉันมาค่ะ” เส้นเฉียวเดินตามเธอไป
ข้ามโถงทางเดินไปจะมองเห็นสวนขนาดใหญ่มาก ในสวนนั้นมีดอกไม้ นานาพันธุ์ กลิ่นหอมลอยเตะจมูก ทําให้เส้นเฉียวอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง
สาวใช้แนะนําเธอไปด้วยระหว่างเดินไป เส้นเฉียวเดินตามอยู่นานจนเธอ เริ่มเวียนหัวเพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่ใหญ่โตมาก การสร้างอาณาจักรใหญ่ขนาด นี้ ต้องใช้เงินเท่าไหร่กันนะ? เส้นเฉียวยืนอึ้งมองดูสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้น “ทําไมคะ?”
เส้นเฉียวได้สติและยิ้ม “ฉันกําลังคิด…ว่าพักที่นี่คืนหนึ่งต้องใช้เงินเท่า ไหร่”
ได้ยินดังนั้น สาวใช้นิ่งอึ้งไปในทีแรก นาทีต่อมาเธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบ หัวเราะออกมา
“คุณหัวเราะอะไรเหรอคะ?” เส้นเฉียวไม่เข้าใจและถามด้วยความสงสัย
สาวใช้จึงได้อธิบาย “คุณไม่รู้เหรอคะ? ที่นี่คือวิลล่าจุดชมวิวส่วนตัวของ คุณชายเย่ พักที่นี่ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ”
เมื่อพูดจบสีหน้าของเสิ่นเฉียวก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว เธออ้าปากค้างและ พูดไม่ออกอยู่นาน
ที่แท้…สถานที่ที่ใหญ่ขนาดนี้ ก็คือวิลล่าส่วนตัวของเยโม่เซินหรอกเห รอ?
แล้วเธอยังจะคิดอีกว่า พักที่นี่ต้องใช้เงินเท่าไหร่
คิดไม่ถึง…
สุดท้าย….สิ่งนี้คือความต่างระหว่างเธอกับเขารึเปล่า? เขามีเงินมากเสีย จนอยู่ในจุดที่ตัวเองคิดไม่ถึง เธอยังคงต้องเป็นกังวลกับการหาเช้ากินค่ําอยู่ ทุกวันเวลาที่โดนหักเงินเดือนที่บริษัท แต่เขากลับมีเงินมากขนาดนี้ เธอที่เป็นแบบนี้ จะเข้าตาเปโม่เซินได้อย่างไร? แต่ไม่เหมือนกับหานเส่โยว เธอมีพื้นฐานครอบครัวที่ดีมาก ถึงแม้ว่าตระกูลหานจะเทียบไม่ได้กับ ตระกูลเย่ แต่เมื่อเทียบฐานะของหานเส่โยวกับเยโม่เซินแล้วก็ถือว่าเป็นคู่ที่ เหมาะสม
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเสิ่นเฉียวก็ไม่สู้ดีนัก
“คุณเป็นอะไรคะ?” สาวใช้สังเกตเห็นสีหน้าของเธอที่จู่ ๆ ก็ซีดขาว จึง ถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ไม่สบายตรงไหนรึเปล่าคะ? ให้ฉันตามคุณชายเย่ มาไหมคะ?”
เส้นเฉียวไม่มีอารมณ์จะตอบเธอได้แต่ส่ายหน้า แต่สาวใช้กลับหันหลัง และวิ่งไปอย่างไวเพื่อไปหาเยโม่เซินทันที
เส้นเฉียวมองหลังเธอแล้วยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ สุดท้ายเธอจึงหันหลังและ เดินไปช้า ๆ อย่างไร้จุดหมาย
สถานที่ใหญ่ขนาดนี้ ทั้งหมดเป็นของเปโม่เซินสินะ วิลล่าริมทะเล
คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าการแต่งงานแทนนี้จะทําให้เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่มี อํานาจเช่นนี้
น่าเสียดายก็เพียงแค่ไม่ว่ามันจะเรืองรองเพียงใดมันก็เป็นเพียงความฝัน เท่านั้น
เยโม่เซินได้ยินที่สาวใช้มารายงานว่าเส้นเฉียวมีสีหน้าไม่ค่อยดี เหมือน จะไม่สบาย จึงรีบตามเธอไปด้วยความตื่นเต้น แต่เมื่อเขาและสาวใช้ไปถึงกลับ ไม่เห็นเส้นเฉียวแล้ว
“ตายแล้ว เมื่อครู่ยังอยู่ตรงนี้ ทําไมจู่ ๆ ก็หายไปแล้วล่ะคะ?” เยโม่เซินขมวดคิ้ว: “เกิดอะไรขึ้น?”
สาวใช้ส่ายหน้า: “คุณชายเย่ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันเพียงแค่พาเธอเดินเล่นใน วิลล่า จู่ ๆ สีหน้าเธอก็ไม่สู้ดี ไม่รู้ว่าไม่สบายรึเปล่า? ฉันเห็นเธอ…ทานผลไม้ไม่ กี่ชิ้นเป็นมื้อเช้า”
ได้ยินอย่างนั้น เปโม่เซ็นยิ่งขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม: “ให้คนไปตามหา ละแวกนี้ พบแล้วให้รีบรายงานฉันด้วย”
“ค่ะ! จะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” จนเธอออกไป เยโม่เซินหมุนล้อวีลแชร์ไปหาเธอใกล้ ๆ อยู่คนเดียว
ที่จริงแล้วเสิ่นเฉียวไม่ได้ไปไหนไกล เธอเพียงแค่นั่งอยู่บนพื้นและแช่ เท้าอยู่ใกล้ ๆ เอามือไพล่หลังไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
นี่คือภาพตอนที่เยโม่เซินหาเธอเจอ ใจที่ระทึกสุดท้ายก็ผ่อนคลายลง เยโม่เซินหมุนวีลแชร์เข้าไปใกล้เธอ
“ได้ยินคนงานบอกว่าเธอสีหน้าไม่ดี เป็นเพราะเมื่อวานดื่มหนักไปรึเปล่า จะให้ตามหมอมาดูหน่อยไหม?”
เส้นเฉียวไม่พูดอะไรเพียงแต่ตัวแข็งที่อไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็ยิ้มและ จ้องมองไปที่มหาสมุทรที่สงบนิ่ง: “เยโม่เซิน คุณพาฉันมาที่นี่ทําไมคะ?” ทําไมถึงพาเธอมาที่นี่?
เยโม่เซินไม่เคยคิดถึงปัญหาข้อนี้ คิดแต่ในตอนนั้นอยากพาเธอมาที่นี่ก็ ทําตามนั้น ที่เหลือเขาไม่เคยคิดให้มากความ
“ทําไม?” “ที่นี่เป็นสถานที่ที่สวยมาก ฉันชอบมากค่ะ” เส้นเฉียวพูดจากใจ
“ชอบเหรอ?” เปโม่เซินยกคิ้ว เมื่อวานเขาทําอะไรไปตั้งหลายอย่างแต่ไม่ ได้มีคําว่าชอบออกมาจากปากเธอแม้แต่น้อย ตอนนี้เธอบอกว่าเธอชอบที่นี่ เย่ โม่เซินเกิดอารมณ์ดีขึ้นมาทันใด มุมปากของเขายกยิ้ม
สุดท้ายรอยยิ้มของเขาอยู่ไม่ถึงสองวินาทีก็ได้ยินเสียงของเส้นเฉียวพูด ขึ้น “ใช่ค่ะ ชอบมาก และทําให้ฉันเข้าใจได้ชัดเจนด้วยความระหว่างฉันกับคุณ เราห่างไกลกันแค่ไหน”
พูดถึงตรงนี้เสิ่นเฉียวก็ลุกขึ้นยืนและหันมาสบตากับเยโม่เซินด้วยน้ํา เสียงที่อ่อนเบาเหมือนสายลม
“เยโม่เซิน วันนี้ฉันได้ค้นพบอย่างชัดเจน แท้จริงแล้วพวกเราอยู่กันคนละ โลก”
“เธอต้องการจะพูดอะไร?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ