เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 637 คำถามสละชีวิต



บทที่ 637 คำถามสละชีวิต

แต่เมมเธอก็สอดแทรกการสืบหาความ จริงด้วยอยู่แล้ว แต่ได้ยินเขายอมรับรวดเร็ว ขนาดนี้ ลมหายใจของหานมู่จื่อก็หยุดลง อย่างกะทันหัน แต่การเต้นของหัวใจกลับเพิ่ม ความเร็วมาก บทันที

“ยังมีอีกคน?” ริมฝีปากของเธอขยับ

ถามออกมา

“เป็นใคร?”

“คุณไม่รู้จัก” เย่ไม่เป็นคิดๆ รู้สึกว่า ตนเองพูดไปแล้ว งั้นก็เปิดเผยอย่างตรงไป ตรงมาเลยแล้วกัน

“ผมก็ไม่รู้จัก”

หาน จื่อ: “คุณไม่รู้จัก? งั้นคุณ

ทําไม…….” เธอพบว่าตนเองหายใจลำบากเล็ก น้อย ก่อนหน้านี้ตอนที่เสี่ยวหมี่โต้วยิ่งโตขึ้น ก็ ยิ่งเหมือนกับเย่ไม่เซ็น เธอสงสัย แต่ในใจ กลับไม่กล้าจะเชื่อ

มักจะรู้สึกว่าความคิดนี้ แล้วยังมีเรื่องที่ เกิด นคืนนั้นช่างไร้สาระเกินไปจริงๆ

อีกทั้งเวลาก็ล่วงเลยมานาน เรื่องค่ำคืน ฝนตกที่เกิดขึ้นเธอไม่มีความทรงจำสักเท่า ไหร่ เรื่องทั้งหมดคืนนั้นที่เกิดขึ้นอย่าง กะทันหันจนเกินไป ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพ ภายใต้ความตกตะลึง แล้วก็หนีไปอย่างลุกลี้ ลุกลน

ตอนนี้ได้ยินเขายอมรับจากปาก หานมู่ลี่ อรู้สึกว่าใจของตนเองเต้นเร็วจนจะออกมาจาก สําคออยู่แล้ว สิ่งที่ตนเองคาดเดาก็เป็นเรื่อง หนึ่ง แต่ได้ยินเยโม่เซินยอมรับก็เป็นอีกเรื่อง หนึ่ง

หานปูจ๋อกัดริมฝีปากล่างของตนเองเอา

ไว้

“คืนวันนั้นผมโดนวางยา” เย่โม่เชินกอด เธอแน่น: “แต่หลังจากเธอ ผมมีคุณเพียงคน เดียว ต่อไปก็ด้วย”

“เดี๋ยวก่อน” หานมู่จื่อตัดบทคำพูดของ เขา “คุณบอกว่าคืนวันนั้นคุณโดนวางยา? ก็จะ บอกว่า คุณแตะต้องผู้หญิงคนนั้นเพราะคุณ ควบคุมตนเองไม่ได้? ดังนั้นตอนนั้นไม่ว่าจะ เป็นใคร คุณก็จะทำเรื่องอย่างนั้นกับเธอ?”

เย่โม่เซินเงียบ คำถามนี้เขาต้องตอบ อย่างไร? ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า ไม่นึก เลยว่าจะรู้สึกว่าคำถามนี้ของหานมู่จื่อจะเป็น คําถามสละชีวิต

ถ้าเขาตอบว่าใช่ หานมู่จื่อต้องรู้สึกว่า เขาเป็นคนไม่น่าไว้ใจแน่ๆ ผู้หญิงคนไหนก็ แตะต้องได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเขาตอบว่าไม่ใช่ เธอก็ ต้องถามแน่ๆ ว่าเขามีความรู้สึกพิเศษกับผู้ หญิงคนนั้นใช่ไหม?

ไม่ว่าจะอันไหน ก็ตอบไม่ได้ทั้งนั้น

“ทําไมคุณไม่พูดล่ะ?” หานมู่จื่อเห็นเขา เงียบ จึงถามด้วยความสงสัย ในใจของเธอคิดเหมือนกับเขาเมื่อครู่ อย่างแน่นอน

ผู้หญิงก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกๆ เขาไม่รู้ ว่าผู้หญิงอื่นเป็นอย่างนี้หรือเปล่า แต่หานมู่ อก็เป็นคนอย่างนี้แหละ

ก็ตอนที่เย่ไม่เชินกำลังคิดว่าจะบอกเธอ อย่างไรถึงจะไม่ผิดใจกับเธอ สนามบินก็ ประกาศออกมา อย่างกะทันหัน เพื่อเตือนผู้ โดยสารให้เตรียมตัวไปขึ้นเครื่องบิน

ตอนนี้เยโมเงินรู้สึกเหมือนกับได้รับการ ปลดปล่อยทันที โอบเอวของเธอลุกขึ้น

“เตรียมตัวไปได้แล้ว”

หานมู่จื่อมองไปรอบๆ เห็นทุกคนลุกขึ้น เตรียมตัวออกไปแล้ว จึงไม่ได้พูดอะไร ทําได้ เพียงเดินออกไปกับเยโม่เซ็น

เย่โม่เซ็นชื่อตั่วชั้นธุรกิจเอาไว้ ไม่แออัด เบียดเสียด คนรอบๆก็ไม่มากมาย หลังจากนั่ง ลงไปแล้ว หานมู่จื่อเห็นคนรอบข้างไม่เยอะ นึกถึงคําถามก่อนหน้านี้ที่เย่ไม่เซ็นยังไม่ได้ให้ คําตอบตนเอง จึงถามขึ้นมาเบาๆ: “เมื่อครูคณ ยังไม่ได้ตอบคําถามฉันเลยนะ”

ช่วงเวลาที่กดดันขนาดนี้ เธอรู้สึกว่า เดี๋ยวก็ได้ฟังคําตอบของเย่โม่เชินแล้ว เธอยัง อยากจะถามต่อไป เพื่อยืนยันให้แน่ใจอีกครั้ง

แต่……ไม่นึกว่าก็จะโดนตัดบท

ในใจของหานมู่จื่อไม่ค่อยปลื้ม เรื่องนี้ ไม่ควรจบลงง่ายๆ อย่างเด็ดขาด

เย่โม่เซ็นก็ปวดหัวจนขมวดคิ้วขึ้นมา คิด ไม่ถึงไม่นึกว่าเธอจะจำได้ เขาเพียงแค่พิงเธอ หลับตาแล้วกล่าวออกมา: “ขึ้นเครื่องแล้ว พัก สักครู่ ตอนดึกๆถึงโรงแรมแล้วจะบอกคุณ อย่างละเอียด?”

แต่เดิมหาน จื่ออยากจะบอกว่าไม่ได้ แต่ก้มหน้าลงไปเห็นดวงตาคล้ำๆของเขา ก็นึก ข็นได้ว่าเขาไม่ได้นอนมาสองวันสองคืนแล้ว แต่เดิมวันนี้หลังจากที่กลับถึงบ้านแล้วก็จะพัก ผ่อน

แต่เพราะคำพูดของเธอ เขาจึงพาเธอ มาสนามบินทั้งๆที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย คงจะเหนื่อยมากน่ะสิถึงจะถูก

คำพูดที่ถึงข้างปากแล้วก็หายไปอย่าง อัตโนมัติ หานมู่จื่อไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วก็ ยอมให้เขาพิงไหล่ของเธอพักผ่อน

ไม่ได้นอนสองวัน ต้องเหนื่อยมากแน่ๆ เธอไม่ได้นอนคืนเดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว

ค่อยเป็นค่อยไป หานมู่จื่อก็ได้ยินเสียง ลมหายใจของเย่โม่เซินเปลี่ยนไปสม่ำเสมอ กันแล้ว ลมร้อนๆที่พ่นออกมาบนคอของเธอ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอหันไปมองสนามบินที่กว้าง ใหญ่ไพศาลนอกหน้าต่าง

ก็ยังคงรู้สึกว่าทั้งหมดเหมือนกับความ ฝันที่ไม่จริงอยู่ดี หานมู่จื่อยื่นมือมา บีบแก้มของตนเอง

ไม่เจ็บ

เธอจึงออกแรงอีกหน่อย แล้วก็รู้สึกเจ็บ จนอ้าปากค้างทันที

ไม่ใช่ความฝันเหรอ?

เป็นความจริงเหรอ?

ยังรู้สึกว่ากับเยโม่เซินพัฒนามาจนถึง สถานการณ์วันนี้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ

แล้วต่อไปล่ะ? หลังจากไปต่างประเทศ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ตวนเสผู้หญิงคนนั้น ยังคงทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

วินาทีที่เครื่องบินขึ้น คนเราจะรู้สึกไร้แรง โน้มถ่วง เย่โม่เซินที่กำลังหลับฝันอยู่นั้นก็ยื่น มือออกมางับเธออย่างกะทันหัน

หานมู่จื่อตกใจ หันไปมอง แต่กลับพบว่า เย่โม่เซินยังคงหลับใหลอยู่ และการกระทำที่ อยู่ตรงหน้าแค่ไม่รู้สึกตัว เธอตกตะลึงไปชั่วครู่ แล้วจับมือของเย่ ไม่เซินกลับ นายคนนี้แม้ว่าจะหลับอยู่แต่ยังคง จับมือของเธอเอาไว้แน่นทีเดียว ขมวดคิ้ว อย่างหนัก ตะโกนชื่อของเธอออกมาอย่าง กะทันหัน

หาน จื่อก็ตะลึงอยู่ตรงนั้นทันที

ด้าน หลังจากเสี่ยวเหยียนได้รับ โทรศัพท์ของหานมู่จื่อ ก็ไปรับเสี่ยวหมี่โต้วก ลับบ้าน

ระหว่างทางกลับบ้าน เสี่ยวหมี่โต้วกำลัง มองเสี่ยวเหยียนอย่างสงสัย

“น้าเสี่ยวเหยียนครับ ทําไมหม่ามีไม่มา รับผม?”

“หม่ามีงานยุ่งอีกแล้ว จึงมารับเราไม่ได้

“อย่างนั้นพวกเราต้องไปอยู่ที่บ้านคุณน้า ใช่ไหมครับ? แต่หม่ามีรับปากผมแล้วชัดๆ ว่า จะไม่ส่งเสี่ยวหมี่โต้วไปอีกแล้ว”

เขาค่อนข้างน้อยใจ รู้สึกว่าตนเองคุยกับ หานมู่จื่อรู้เรื่องแล้วชัดๆ แต่ช่วงเวลาสำคัญ ไม่นึกว่าหมา คิดจะส่งเขาไปอีก

“ไม่ใช่นะ” เสี่ยวเหยียนโบกมือ ปฏิเสธ ความคิดของเขา: “ครั้งนี้พวกเราไม่ต้องไป อาศัยอยู่ในบ้านคุณน้า กลับบ้านกับน้าก็ พอแล้ว ครั้งนี้หม่ามีของเราน่ะออกไปทำงาน นอกสถานที่ และต่อให้เธอไม่ได้ไปทำงาน นอกสถานที่ พวกเราก็ไม่ต้องไปหาคุณนําของ เสี่ยวหมี่โต้วแล้ว”

จากในคำพูดนี้ทำให้เสี่ยวหมี่โต้วได้กลิ่น ที่ไม่ปกติ

“เอ๊ะ น้าเสียวเหยียนทะเลาะกับคุณน้า ผมเหรอครับ?”

เสี่ยวเหยียน: “. ……..เปล่านะ! ใครทะเลาะ กับเขา? แต่ไหนแต่ไรเขาอาจจะไม่เห็นน้า เสี่ยวเหยียนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ จะยังมีค่ามา ทะเลาะกับน้าได้ที่ไหน?”

นึกถึงเรื่องเมื่อคืนนั้น เบ้าตาของเสียวเห ยียนก็แดงขึ้นมา ในใจรู้สึกน้อยใจจะแย่แล้ว

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเป็นฝ่ายไล่ตาม ผู้ชายคนหนึ่งขนาดนี้ รู้สึกว่าต่อหน้าของ ผู้ชายคนนี้เธอกวาดเกียรติและศักดิ์ศรีลงไป บนพื้นหมดแล้ว ผลลัพธ์กลับแลกมาด้วยการ ถูกของเขา

เขาต้องรู้สึกว่าเธอต่ำทรามแน่ๆเลยสินะ ผู้ชายคนไหนก็สามารถชักนำได้

เสี่ยวเหยียนหายใจเข้าลึกๆ พยายาม ควบคุมความเดือดดาลในใจของตนเองเอาไว้ อย่าโมโหอย่าอารมณ์เสีย!

“น้าเสี่ยวเหยียน น้าชอบคุณน้ามากจริงๆ ใช่ไหมครับ?” จู่ๆเสี่ยวหมี่โต้วก็ถามขึ้นมา

พอดีกับตอนที่ลิฟต์มาถึง เสี่ยวเหยียน จูงมือเขาเข้าไปในลิฟต์ แล้วก็ตอบไปด้วย

“เด็กน้อย ไม่ต้องยุ่งเรื่องพวกนี้ของ ผู้ใหญ่หรอก ความรู้สึกที่น้ามีต่อคุณน้าของ เธอเป็นของจริงนะ แต่เรื่องของความรู้สึกมัน บังคับกันไม่ได้ ดังนั้นน้าตัดสิน……

“น้าเสี่ยวเหยียนยอมแพ้ที่จะจีบคุณน้า ของผมแล้วเหรอครับ?”

ได้ยินอย่างนี้ เสี่ยวเหยียนก็ตกตะลึง

ยอมแพ้เหรอ?

เธอจะยอมแพ้จริงๆใช่ไหม?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ