เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 612 ผมสามารถถือว่าเขาเป็นลูกของ ผมเองได้



บทที่ 612 ผมสามารถถือว่าเขาเป็นลูกของ ผมเองได้

{หม่ามี้ คุณได้สังเกตไหมว่าหลังจาก กลับประเทศมาแล้วนั้น คุณก็เปลี่ยนไปเป็นไม่ ค่อยที่จะอยู่ใกล้กับหนูแล้ว เชอะ เสี่ยวหมี่โต้ วไม่ดีใจแล้ว }

ถูกเขาพูดเช่นนี้ หานมู่จื่อครุ่นคิดสักพัก หนึ่ง และก็คิดว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

หลังจากกลับมาประเทศมีเรื่องมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เย่ไม่เป็นปรากฏตัว ข้างกายเธอนั้น หานมู่จื่อก็มักจะเบี่ยงเบน ความสนใจกับเสี่ยวหมี่โต้วหรือลุงไปส่งที่อื่น ยังไงซะก็ไม่ให้พวกเขามีโอกาสที่จะได้พบ เจอกันพบเขา

สรุปก็คืออยู่ด้วยในระยะสั้นและห่างกัน เป็นเวลานานนั่นเอง เฮ้อ

หาน จื่อถอนหายใจเบา ๆ และพิมพ์ต่อ {ขอโทษนะเสี่ยวหมี่โต้ว เป็นหม่ามีที่ไม่ ดีเอง ครั้งนี้หม่ามี้จะต้องจัดการเรื่องทุกอย่าง ให้ดี แล้วจะไปรับหนูกลับมาเอง! }

{จริงเหรอ? }

แน่นอนสิ }

{ถ้าอย่างนั้นหม่ามี้ต้องสัญญากับเสี่ยว หมี่โต้ว ว่าครั้งหน้าไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ตามจะไม่ไล่เสี่ยวหมี่โต้วอีกแล้ว }

เมื่อเห็นคำพูดนี้ หานมู่จื่อก็รู้สึกเศร้าไป ชั่วขณะ

เธอไม่ใช่คุณแม่ที่มีความรับผิดชอบคน หนึ่งจริงๆ

หม่ามีรับปากกับเสี่ยวหมี่โค้ว ถ้าหาก ครั้งหน้าส่งเสี่ยวหมี่โต้วออกไปอีกละก็ หม่ามี ก็คือลูกหมา }

{หม่ามี รักคุณนะ! /อีโมจิหัวใจ} เมื่อเห็นประโยคนี้ ใบหน้าของหานมู่จื่ อก็กลับมามีรอยยิ้ม ในตอนที่กำลังจะตอบ กลับข้อความนั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงผู้ชายเสียง ต่าดังมาจากด้านหลัง

“ในเมื่อคิดเช่นนี้ ทำไมไม่พาเขากลับ มาล่ะ ? ”

เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้หา นมู่จื่อทำโทรศัพท์มือถือร่วงหล่น ตกลงไปบน เตียงตูมหนึ่งเสียง หานมอก็เบิกตากว้างโดย ไม่รู้ตัว รู้สึกว่าหัวใจแทบจะหยุดเดิน

ปฏิกิริยาที่รุนแรงมากเกินไปของเธอทำ ให้เยโมเงินขมวดคิ้ว เม้มริมฝีปากบาง ยื่นมือ อยากที่จะไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่ตกลงบน เตียงของเธอ แต่ว่าเขายังไม่ทันได้แตะ โทรศัพท์มือถือ ก็ถูกหานมู่จื่อกดกลับ และ มือของเยโมเงินก็หยุดอยู่ที่เอวของเธอ

เขาก้มศีรษะลง ประประสบกับดวงตาที่ สวยงามตื่นตระหนกของหานมู่จื่อพอดี

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ริมฝีปากบาง ๆ ของ เยโมเงิน ก็เปิดออกเบา ๆ

“คุณตึงเครียดขนาดนี้ไปทำไมกัน ? “

หาน จื่อหายใจอย่างไม่มั่นคง และไม่ ได้ตอบคําถามของเขา

“กลัวว่าผมจะทําอะไรกับเขาเหรอ?” สีห น้าของเย่โม่เชินดูไม่ดีเล็กน้อย มองไปที่เธอ และถามว่า “คุณมีลูกชายแล้ว แต่ผมไม่เคย เห็นเด็กคนนี้มาเลยสักครั้งเดียว หรือแม้แต่ รองเท้าและห้องของเขา คุณก็ล็อกลงไว้หมด คุณกลัวว่าถ้าผมเห็นเข้าแล้วผมจะไม่สามารถ รับเขาได้ในอนาคตเหรอ? ”

หานมู่จื่อ “…

เธอจะพูดอย่างไรดี เป็นเพราะว่าเสียว หมี่โต้วหน้าตาเหมือนกับนายทุกประการ กลัว ว่านายจะมีความคิดอื่น ๆ ดังนั้นถึงไม่กล้าให้ เขาพบเจอเสี่ยวหมี่โต้ว?

ไม่ คําพูดพวกนี้เธอพูดไม่ได้แน่นอน เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง และยัง ไม่ตอบคําถามของเขา

แต่สิ่งเหล่านี้ตกอยู่ในสายตาของเย่โม่ เชิน และก็กลายเป็นความอดกลั้น รู้สึกว่าเธอ จงใจที่จะซ่อนเด็กคนนั้นต่อหน้าเขา

คิดถึงจุดนี้ เขาก็หัวเราะขึ้นมาหนึ่งครั้ง

” คุณกลัวว่าผมจะยอมรับกับเขาไม่ได้ สินะ ? เพราะว่าเป็นลูกของอดีตสามีของคุณ ดังนั้นคุณจึงกังวล กลัว ใช่ไหม ? ”

หานมู่จื่อหลีกเลี่ยงการจ้องมองของเขา และรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยจาก โทรศัพท์มือถือทางด้านหลังของเธอ เธอ แสร้งทําเป็นไม่สังเกตเห็นอะไร และยังคง นอนอยู่ตรงนั้นโดยกดทับโทรศัพท์มือถือไว้

มือใหญ่ของชายคนหนึ่งกอบกุมอยู่ที่ เอวของเธอ ดวงตาของเขาก็ลึกซึ้ง “คุณผู้ หญิงโง่เช่นนี้ ทำไมผมในสายตาของคุณถึงดู ทนไม่ได้ขนาดนั้นกันนะ ? เห็นได้ชัดว่า… ผม ได้ยอมรับเด็กคนนี้ตั้งแต่ห้าปีก่อนมาแล้ว เมื่อได้ยิน หาน จื่อก็อดไม่ได้ที่จะมอง

ไปทางเขาอีกครั้ง

“คุณคิดว่าสําหรับผม ลูกสําคัญมากกว่า คุณเหรอ ? ถึงแม้ผมจะรู้ว่านั่นคือลูกของอดีต สามีของคุณ แต่…เด็กคนนี้ก็มีเลือดของคุณ อยู่ในตัวเช่นกัน เพียงแค่คุณเห็นด้วย ผม…จะยอมถือว่าเขาเป็นลูกชายแท้ๆของผม เอง ”

หานมู่จื่อ “…

ถ้าจะบอกว่าไม่แปลกใจนั่นคือเรื่อง

โกหก

เพราะว่าเธอเคยนึกถึงความคิดในหัวใจ ของเย่ไม่เซ็นเป็นพัน ๆ แบบ แต่ทว่าเธอไม่ เคยคิดถึงเรื่องเช่นนี้มาก่อน เขาจนถึงตอนนี้ก็ ยังไม่เคยเห็นเสี่ยวหมี่โต้วมาก่อน ดังนั้นเขา จึงคิดเสมอว่าเสี่ยวหมี่โต้วเป็นลูกของอดีต สามีของเธอ

แต่ถึงแม้จะรู้ว่าเสี่ยวหมี่โตัวเป็นลูกของ อดีตสามีของเธอ เขาก็ยังอยากที่จะใช้ชีวิต ร่วมกับเธอโดยไม่ลังเลอีกหรือ?

เยโม่เซ็นเช่นนี้…

“ ผมจะไม่บังคับคุณ

เมื่อเห็นดวงตาของเธอปรากฏสีที่ ยุ่งเหยิง เย่ไม่เป็นรู้ว่าเธออาจต้องการเวลา คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นทำได้เพียงพูดเบา

ๆ : “ผมจะให้เวลาคุณไตร่ตรอง”

ให้เวลาเธอไดร่ตรอง ?

หานมู่จื่อสังเกตได้ถึงอะไรนะ “ถ้านาย ให้เวลาไตร่ตรองละก็ งั้นนายก็ต้องให้พื้นที่ ส่วนตัวฉันด้วย ?”

เย่ไม่เซินจ้องมองอย่างลึกซึ้ง “อยากจะ บไล่ผมใช่หรือไม่?”

“นายเดินไปเดินมาต่อหน้าฉันทุกๆวัน ฉันจะไตร่ตรองได้อย่างไร ? ”

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ริมฝีปากบางของ เย่ไม่เซินก็กระตุกเล็กน้อย “โอเค งั้นให้เวลา คุณไตร่ตรอง คุณต้องการพื้นที่ส่วนตัวใช่ ไหม ? สองสามวัน?”

สองสามวัน? เวลาไม่กี่วันจะพอได้ อย่างไร

หานมู่จื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย

“สองสามวันยังไม่พออีกเหรอ?” เย่ไม่ เซินเลิกคิ้ว “ แล้วคุณต้องการเวลานานแค่ ไหน?”

“หนึ่งเดือน” หาน จื่อกล่าวคําตอบในใจ ของเธอ อย่างไม่ลังเล

เย่โม่เชิน “…”

ดวงตาของเขาลึกล้ำ ผู้หญิงคนนี้ยัง กล้าพูดเงื่อนไขจริงๆด้วย เวลาหนึ่งเดือนนี้ นี่ อยากที่จะเอาชีวิตของเขาใช่หรือไม่?

เมื่อคิดเช่นนี้ เย่โม่เชินจึงปฏิเสธ โดยตรง “ไม่ได้” “ไม่ได้?” หานมู่จื่อก็ไม่พอใจเช่นกัน ทำไมไม่ได้ล่ะ ? เป็นนายเองที่ถามฉันว่า ต้องการเวลานานแค่ไหน ยังไงซะฉันก็ ต้องการเวลาหนึ่งเดือน”

“หนึ่งเดือนเหรอ ? ” เย่ไม่เซินหรี่ตาลง ลดศีรษะเข้าใกล้เธอ ใช้ปลายจมูกคลึงไปที่ ปลายจมูกของเธอ “คุณให้ผมงดมีเพศสัมพันธ์ เป็นเวลาห้าปีก็มากเกินพอแล้ว ตอนนี้ผมกิน เนื้อได้แล้ว คุณยังให้ผมงดอีกหนึ่งเดือน ? คุณอยากให้ผมตายเหรอ ? ”

ประโยคสุดท้ายนั้นถูกพูดเข้าหูของเธอ และตอนที่พูดนั้นยังก็จงใจเป่าลมเข้าไปในหู ของเธออีกด้วย ทำให้หานมู่จื่อสั่นไปทั้ง ร่างกาย

คนคนนี้…มีท่าทางเป็นนักเลงจริงๆ

เธอหันหน้าหนี ริมฝีปากบาง ๆ ที่ร้อน ผ่าวของเขา “ฉันขี้เกียจที่จะสนใจนาย พูด สั้น ๆ คือนายจะตกลงก็ตกลง ถ้าไม่ตกลงก็ ไม่ต้องหวังว่าฉันจะไตร่ตรองเรื่องนี้อีกตลอด ไป”

” นี่ขู่ผมเหรอ ? ”

“ใช่”

“โอเค” เย่โม่เชิ เม้มริมฝีปากลึก ๆ แล้ว ยิ้มเอ่ยว่า “ชีวิตผมล้วนแต่มอบให้คุณได้ ผม ยังจะมีอะไรที่ตอบตกลงไม่ได้อีก”

หานมู่จื่อสูดลมหายใจหนึ่งครั้ง และไม่ พูดอะไร

หลังจากนั้นไม่นาน แต่ไม่เป็นก็ลุกขึ้น มาอีกครั้ง และหานมู่จื่อก็ได้รับอิสรภาพกลับ คืนมาเช่นกันเธอดึงโทรศัพท์มือถือออกมา จากด้านหลัง และดูสถานะหน้าไทม์ไลน์ของ WeChat เสี่ยวหมี่โต้วไม่ได้ส่งข้อความใด ๆ เข้ามา เธอคิดแล้วคิดอีกก็ไม่ได้ตอบกลับไป อีก

หันหน้าไปมองเย่ไม่เป็นที่กำลังนั่งอยู่ ข้างเตียงปรับคอเสื้อหนึ่งครั้ง “วันนั้นที่มีคน ตามฉันสองสามคน นายตรวจสอบเจอแล้ว หรือยัง ?

การกระทําของเย่โม่เซินหยุดไปชั่วขณะ นึกถึงผลลัพธ์นั้นที่เชียว บอกเขา แล้วเอ่ย อย่างเย็นชา “ยังเลย”

“ยังเหรอ?” หานมู่จื่อขมวดคิ้วและพูดว่า “มันผ่านมาสองสามวันแล้วไม่ใช่เหรอ ? นาย ยังตรวจสอบไม่พบ?”

เยโม่เซินหันหน้ากลับมามอง สีหน้า ของเธอที่บ่งบอกว่าทำไมเขาถึงได้อ่อนขนาด นี้

คิ้วก็ขมวดโดยไม่รู้ตัว คนที่ทำเกี่ยวกับ เรื่องนี้ ถ้าหากบอกกับเธอไป ก็เท่ากับว่าจะ ต้องเปิดประเด็นบาดแผลในตอนนั้นใหม่อีก ครั้ง

ถ้าหากไม่พูดละก็ ความรู้สึกของเธอที่มี ต่อเขาก็จะลดน้อยลง

เมื่อนึกถึงไนต์คลับที่สง่างามของบริษัท ตระกูลเย่ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่คนสะกดรอยตาม ก็ยังหาไม่ได้ถ้าถูกเผยแพร่ออกไปจะเป็นเรื่อง น่าขันขนาดไหนกันนะ?

หานมู่จื่อฉลาดมากๆ เมื่อเห็นเขาเงียบ แววตาก็เปลี่ยนไปโดยทันที “นายตรวจสอบ แล้ว ใช่ไหม ? ”

เยโม่เชิน “…

“บอกผลลัพธ์กับฉันไม่ได้เหรอ ? ”

เขาลุกขึ้นยืน คลี่ข้อพับสุดท้ายบนมุม เสื้อออก แล้วก็พูดอย่างเบา ๆ

“สรุปก็คือ จะไม่มีใครสะกดรอยตามคุณ อีก ในช่วงเวลานี้คุณปลอดภัยมากๆ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ