เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1411 เจ้าสุนัขตัวผู้ คิดจะสู้กับฉัน



บทที่1411 เจ้าสุนัขตัวผู้ คิดจะสู้กับฉัน

เป็นไปตามที่เจียงเสี่ยวไปคาดเอาไว้ เพราะหลังจากที่เซียวซูเลิก งานกลับบ้านชายเสื้อไม่เปียกเลยแม้แต่น้อย

ไฟดวงใหญ่ภายในห้องก็ได้ปิดไปหมดแล้ว เหลือเพียงไฟสลัว จากโคมไฟเล็กๆที่อยู่ตรงมุม ส่องสว่างไปยังข้าวของทั่วทั้งห้อง ที่ผ่านมาทํางาน โอกลับมาบ้าน ภายในบ้านมืดมิดไปหมด แต่ ตั้งแต่หลังจากที่เจียงเสี่ยวไปเข้ามาอยู่ ไม่ว่าเขาจะทำงานโอที ดึกแค่ไหน เปิดประตูเข้าไปก็จะไม่เจอกับความมืดมิดเลย

ไฟโคมนี้ถึงแม้ว่าจะสลัว แต่ในเวลากลางดึกอย่างนี้ได้กลาย มาเป็นแสงไฟนำทางกลับบ้านให้กับเซียวซู

เซียวซู่ปลดกระดุม ถอดเสื้อสูทเสื้อคลุมด้านนอกออกแล้ววาง

ลงไปบนโซฟาที่อยู่ข้างๆ

แกรก——

จู่ๆประตูห้องก็เปิดออกมา เจียงเสี่ยวไปขยี้ตาเดินออกมาจาก ด้านในอย่างงัวเงีย “คุณกลับมาจากทำโอทีแล้วหรอ? นี่มัน โมง ยามแล้ว?”

“เที่ยงคืนแล้ว ทำไมถึงตื่นขึ้นมาล่ะ?”

เซียวซูเห็นสิ่งที่เธอสวมอยู่บนร่างก็ขมวดคิ้วออกมา เจียง เสี่ยวไปที่คาดว่าคงออกมาจากโปงผ้าห่มแบบฉุกละหุก บนร่างก็ เลยสวมเพียงชุดนอนตัวเดียว ตอนเธอนอนจะมีโรคประจำอยู่อย่างนึง ก็คือไม่ชอบสวมชุดนอนหนาๆ ดังนั้นแล้วถึงแม้ว่าจะ เป็นฤดูหนาวชุดนอนที่เธอสวมก็ยังคงเป็นแบบบางที่ใช้ใส่ใน ช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงเหมือนเคย

ในตอนนี้เท้าที่เดินออกมาก็ยังเปลือยเปล่า ไม่ได้สวมถุงเท้า เลย

“กลับไปนอนต่อเถอะ อย่าให้โดนอากาศเย็นจนป่วยเอา

ความจริงเจียงเสี่ยวไปนอนไปสักพักนึงแล้วลุกขึ้นมาเข้า ห้องน้ำ ได้ยินเสียงด้านนอกเข้าพอดี เตรียมจะออกไปดูทักทาย สักหน่อยแล้วกลับไปนอน ตอนนี้เซียวซูพูดมาอย่างนี้ เธอก็ยังซึ้ง ใจเอามากๆเลย

อันที่จริงตัวเขาเองก็ทำโอทีเสียจนดึกดื่น กลับมาก็ยังเป็นห่วง เป็นใยเธออีก นั่นก็หมายความว่าเจ้าสุนัขตัวผู้ตัวนี้ก็ยังเป็นห่วง เธออยู่สินะ

เจียงเสี่ยวไปซาบซึ้งใจอยู่แป๊บนึง จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “คุณหิวหรือเปล่า? ฉันต้มบะหมี่ให้คุณสักหน่อยมั้ย?”

ได้ยินอย่างนั้น คิ้วของเซียวซูก็ขมวดกันแน่นกว่าเดิม “แต่ง ตัวอย่างนี้ลงไปต้มบะหมี่?”

“คุณโง่หรือไง? ฉันสวมเสื้อคลุมเพิ่มสักตัวก็ได้แล้ว”

พูดจบเจียงเสี่ยวไปก็หันกลับห้องไปสวมเสื้อคลุมจริงๆ แต่ เชียวซูกลับเดินเข้ามาจับลงมาที่ไหล่ “ดึงดันอะไรอีก? ฉันบอก แล้วไม่ใช่หรือไงว่าให้เธอกลับไปนอน? ดึกขนาดนี้แล้ว ฉันจัดการเองก็ได้”

ตอนที่เขาประชิดตัวเข้ามา เจียงเสี่ยวไปก็รู้สึกได้ถึงความ หนาวเย็นและความชื้นของฝนที่ตกหนักที่ประทับอยู่บนร่างของ เขาได้อย่างชัดเจน เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนคิดยังไงอยู่ เอื้อมมือออกไปจับตามมือเขาอย่างไม่รู้ตัว

จากนั้นก็สัมผัสไปยังฝ่ามือเย็นเฉียบของเชียว

ทันทีที่เจียงเสี่ยวไปออกมาจากผ้าห่ม ก็ได้เจอเข้าอย่างนี้ทันที ถูกแช่แข็งจนตัวสั่น เซียวซูก็รู้ได้ในทันที จึงรีบเก็บมือตัวเองกลับ มาอย่างรวดเร็ว เม้มริมฝีปากพร้อมเอ่ยออกมา “เข้าไปนอน เถอะ”

“ทำไมมือคุณถึงได้เป็นอย่างนี้? ด้านนอกหนาวขนาดนี้เลย หรอ?”

“ฝนตก หนาวนิดหน่อย แต่ก็ทนไหวอยู่

“ตอนนี้คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะ” ทันใดนั้นเองเจียงเสี่ยวไปก็ เอ่ยสั่งออกมา

เซียวซูเลิกคิ้วออกมา “หม?”

“ไปอาบน้ำอุ่นๆ ให้ตัวอุ่นสักหน่อย ผู้ชายตัวโตอย่างคุณมือ เย็นจนกลายเป็นอย่างนี้มันใช่มั้ยเนี่ย? มือฉันยังอุ่นกว่ามือคุณ เสียอีก!”

คำพูดไม่พอใจที่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาเซียวซูรู้สึกแปลก ใจขึ้นมา บนหัวก็ผุดเครื่องหมายคำถามออกมา
เขาทําโอทีมาจนดึกดื่น ตอนที่ออกมาด้านนอกฝนก็กำลังตก อยู่ เหน็บหนาวอย่างมาก มือถึงได้เป็นอย่างนี้ ส่วนเธอนั้นออก มาจากในผ้าห่มอุ่นๆ แตะมือเขาไป ก็หงุดหงิดเขาขึ้นมาแล้ว?

แต่ไม่รอให้เซียวซูตอบกลับมา เจียงเสี่ยวไปก็ได้ผลักเขา เข้าไปในห้องอาบน้ำ แล้วก็ถือโอกาสนั้นปิดประตูให้เขาเสียงดัง ปัง “อาบไม่อุ่นห้ามออกมา!”

เซียวซูยืนอยู่กับที่ ลูบจมูกตัวเองอย่างพูดอะไรไม่ถูก เขา อยากพูดไปว่าอาบน้ำไม่ต้องเอาเสื้อผ้าหรือไง?

หลังจากผ่านการผลักกันไปผลักกันมาอย่างนี้อยู่สักพัก อาการง่วงงุนของเจียงเสี่ยวไปก็หนีหายไปโดยสมบูรณ์ เธอกลับ ห้องไปสวมเสื้อคลุมให้ตัวเอง แล้วเข้าไปในครัว

เปิดไฟไปพลาง เจียงเสี่ยวไปก็เปิดตู้ข้างๆไปพลาง ดึกดื่น อย่างนี้ทำบะหมี่น้ำใสอุ่นๆ ให้เขาก็ได้แล้ว ถึงยังไงอากาศ หนาวๆอย่างนี้ กินอะไรร้อนๆ จะทำให้มือเท้าอุ่นขึ้นมาได้

หลังจากที่นาเดือด เจียงเดี่ยวไปเอาบะหมี่ลงไป พลางมองไป ทางห้องอาบน้ำ พร้อมกับบ่นพึมพำออกมาเบาๆไปพลาง “ติด หนี้คุณแล้วจริงๆ”

ทั้งๆที่เธอตัดสินใจที่จะนอนแล้วแท้ๆ ก็แค่อยากออกมาดูสัก หน่อยเท่านั้นเอง ทำไมถึงมาทำมื้อดึกที่แสนห่วงใยให้เขากัน ล่ะเนี่ย? ชิส์!

รอจนเซียวซูอาบน้ำเสร็จ บะหมี่ของเจียงเสี่ยวไปก็ต้มเสร็จ แล้ว
เธอนั่งอยู่บนโซฟา ตรงด้านหน้าบะหมี่ชามใหญ่วางอยู่ ตะเกียบซ้อนได้เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เห็นเซียว ออก มา ก็กวักมือตะโกนเรียกอย่างกับกำลังให้อาหารหมูไม่ปาน มากิน กินเสร็จจะไปนอน

เซียวซู่หลังจากที่ผมจนสะอาดแล้วก็เข้ามานั่งตรง หน้าเธอ

นอนเสียเถอะเซียวเห็นท่าทางดูเหมือนจะเหนื่อยของเธอแล้ว ก็ได้เสนอออกไป

แต่ใครจะพอเจียงเสียวไปได้ยิน ก็เลิกคิ้วอย่างสบ อารมณ์ออกมาทันที ทำไม บะหมี่ฉันทำ ฉันคุณสักคำ ไม่เลยเชียว”

เอาเถอะ มองมองไป จะอารมณ์เสียมากมายทำไม

แน่นอนว่าคำพูดพวกเชียวนั้นกล้าเพียงพูดใจ ภายนอกไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย เก้าอี้นั่งลงไปไปอย่างว่าง่ายสุดเจียงเสี่ยวนั่งจ้องมองเขาอยู่ตรง ข้าม

ถึงว่าเซียวซูมาอย่างเขารู้สึกอายมากเหมือนกัน ถ้าพูดออกไป เจียงเสี่ยวจะด่าเขากลับมาอีกแน่ เลยได้เพียงแค่ต้อง ทนเอาไว้

“คุณกินเส้นทำไมดื่มซุปหน่อยสิ”
เขียวหยิบซ้อนขึ้นมาดื่มน้ำซุปไปหลายคำ เพราะว่าไม่ได้ ลองวัดอุณหภูมิก่อนก็เลยถูกลวกไปเล็กน้อย เจียงเสี่ยวไปก็ทน ไม่ไหวจึงพูดเหน็บแนมเขาขึ้นมา “คุณโง่หรือไง? ก่อนดื่มซุปคุณ จะไม่ลองวัดอุณหภูมิก่อนหรือไง? ลวกไปแล้วมั้ยล่ะ? โง่แล้วมั้ย เนี่ย?”

ในระหว่างทันใดนั้นเองเซียวซูก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรขึ้นมา แต่เจียงเสี่ยวไปก็ไม่คิดจะปล่อยเขาไป ยกมือขึ้นมารินน้ำให้ เขา “ดื่มสักหน่อยเถอะ อย่าให้มันลวกปากล่ะ”

เจอกับค่าเรียกร้องของเธอแล้ว เซียวซูก็ได้พบว่าตนนั้นได้ กำลังที่จะตอบโต้กลับไปได้ ทำได้เพียงยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม แต่ ผลก็คือน้ำอุ่นนั้นเย็นจนน่าตกใจ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะสำลักออก มาอีก

ผลที่ออกมาอย่างนี้แน่นอนว่าสายตาที่เจียงเสี้ยวไปมองเขา นั้นได้เพิ่มความไม่ชอบใจมากขึ้นกว่าเดิม

“ทำไมคุณถึงได้เป็นอย่างนี้เนี่ย? กินอะไรนิดดื่มอะไรหน่อยก็

สําลักเสียแล้ว”

เซียวซู่ซ่อนสายตาขึ้นมองเจียงเสียวไปเล็กน้อย เธอก็อ้าปาก พูดต่างๆนานาออกมาอย่างไม่ได้รับรู้ถึงอะไรเลย แววตาของ เซียวที่จ้องมองอยู่นั้นค่อยๆนิ่งลึกอยู่สักพักนึง เขาวางแก้วลง จู่ๆเขาก็ลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปตรงด้านหน้าของเจียงเสี่ยวไป โน้มตัวลงไปพร้อมกับวางสองมือลงไปบนด้านหลังที่นั่งของเธอปิดล้อมเธอเอาไว้

“ฉันว่าคุณ…” กับการเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทําเอาคำพูด ของเจียงเสียวไปหยุดชะงักไปกะทันหัน เบิกตากว้างมองใบหน้า หล่อที่อยู่ตรงหน้า น้ำเสียงฟังดูร้อนรนขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว “คุณ คุณทําอะไรน่ะ?”

“พูดต่อ ทําไมไม่พูด?” เซียวซูยิ่งโน้มเข้ามาอีก ลมหายใจ ของทั้งสองคนแทบจะหลอมรวมกัน เมื่อกี้นี้เจียงเสี่ยวไปยังปาก เก่งอยู่เลย แต่ในตอนนี้ได้เป็นใบ้ไปเสียแล้ว

“หืม?” เห็นเธอไม่พูด เซียวซูกลับขมวดคิ้วออกมา “เมื่อกี้นี้ ไม่ใช่ว่ายังปากเก่งอยู่เลยไม่ใช่หรอ? ตอนนี้ ต่อ

เจียงเสี่ยวไปก็เข้าใจขึ้นมา เขากำลังท้าทายเธออยู่นี่เอง!

เหอะ เจ้าสุนัขตัวผู้ คิดจะสู้กับฉัน? คิดว่าแบบนี้จะมายึด อำนาจกันได้งั้นหรอ? ฝันไปเถอะ! ฉันเจียงเสี่ยวไปถ้าให้คุณพลิก ตัวได้ งั้นฉันก็แซ่เดียวกับคุณได้สิ

ทันทีที่ความคิดหลุดออกมา เจียงเสี่ยวไปแสยะยิ้ม ทันใดนั้น เองก็เอื้อมมือออกไปโอบรอบสําคอของเซียวซูเอาไว้ เอ่ยด้วย ใบหน้ายิ้มระรื่น “คุณโน้มเข้ามาใกล้ขนาดนี้แล้ว ฉันยังจะพูด อะไรได้อีกล่ะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ