เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 22 แค่ขอโทษคิดว่าจะจบเหรอ



บทที่ 22 แค่ขอโทษคิดว่าจะจบเหรอ

เธอรับรู้ถึงสัญญาณเตือนจากสายตาของ ผู้ชายคนนั้น ถ้าเธอยังไม่ตั้งใจเลือกเสื้อผ้าอยู่ แบบนี้เธออาจจะถูกไล่ออกก็เป็นได้ ดวงตาของ เขาอาจจะดูลึกลับแต่ความจริงแล้วเหมือนมีพลัง บางอย่าง ถือเป็นทักษะของเขาเลย

พนักงานรีบทำให้ร้านกลับไปอยู่ในความสงบ ด้วยการพาเสิ่นเฉียวเข้าไปในห้องลองชุด

“กระโปรงชุดนี้ราคาแพงมาก ให้ฉันช่วยใส่ นะคะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันใส่เองได้”

เสิ่นเฉียวไม่ชินกับการที่จะมีใครมาดูเธอ ถอดเสื้อผ้า

พนักงานได้ยินแบบนั้นก็พูดอย่างไม่พอใจ “เธอเป็นอะไรของเธอ? ชุดแพง ๆ แบบนี้ถ้าไม่ให้ ฉันช่วยแล้วเกิดทำพังขึ้นมาเธอจะจ่ายไหวเห รอ?”

“ฉัน…

“ฉันอะไร ดูสิเสื้อผ้าตลาด ๆ ที่เธอใส่สิ ยังจะ กล้ามาลองชุดที่นี่อีก หรือว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยง?” หลังจากเปลี่ยนไปหลายชุดจนมือเผลอไปโดนตัวเธอเข้าก็รู้ว่าผิวพรรณของเสิ่นเฉียวนั้นอ่อน นุ่ม

เสิ่นเฉียวไม่ตอบอะไรเพราะถูกพูดแทงใจดำ

เข้า

“โอเค เธอลองเองแล้วกันฉันจะได้ไม่โดนว่า

กล่าวไปด้วย” พนักงานโยนเสื้อผ้าให้เธอแล้วเดิน ออกมาและไม่ลืมที่จะปิดประตู

เสิ่นเฉียวยืนถือกระโปรงพวกนั้นด้วยความ

มึนงง

หลังจากนั้นไม่นานเสิ่นเฉียวก็เปลี่ยนไปใส่ ชุดกระโปรงชุดหนึ่ง

ชุดพวกนั้นแพงมากเหมือนกับที่พนักงานคน นั้นบอก แตกต่างจากกระโปรงสไตล์เก่าที่เธอ เคยลองก่อนหน้านี้

หลังจากเปลี่ยนเสร็จเธอก็รวบปลาย กระโปรงแล้วเดินออกไปหาเย่โม่เซิน แต่กลับ ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย เส้นเฉียวครวญคราง

ทำไมถึงไม่มีใครอยู่ล่ะ?

หรือว่าชุดพวกนี้ที่เธอเปลี่ยนมันไม่เข้ากับ เธอก็เลยโกรธจนหนีไปแล้ว? พอคิดแบบนั้นเสิ่น เฉียวก็รวบกระโปรงเดินกลับห้องลอง แต่พอเดิน ผ่านกระจกก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
“ที่รักคะ ฉันใส่ชุดนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง?”

“ยังต้องถามอีกเหรอ? เป่าเอ๋อใส่อะไรก็สวย ไปหมดเลยจ้ะ” เสิ่นเฉียวทนไม่ได้ก็เดินไปที่ตรงนั้น มีราว

แขวนเสื้อขนาดใหญ่ขวางกั้นอยู่แต่เธอก็ยังเลื่อน

ออกเพื่อให้ได้เห็นคนตรงหน้า

เป็นหลินเจียงกับเมียน้อยนั่นเอง

ทั้งสองคนแนบชิดสนิทสนมกันมาก ท้องของ ผู้หญิงคนนั้นตอนนี้ใหญ่ขึ้นแล้วเห็นได้ชัดว่า กระโปรงในมือนั่นไม่สามารถใส่ได้

“แต่ตอนนี้ฉันใส่ไม่ได้แล้ว”

“ไม่เป็นไร ขอแค่เป่าเอ๋อชอบก็ต้องซื้อ รอ คลอดแล้วค่อยใส่ก็ได้”

“ขอบคุณค่ะสามี คุณน่ารักมากเลย”

เสิ่นเฉียวกำหมัดแน่น เดี๋ยวนี้หลินเจียงใช้คำ พูดหวานขนาดนั้นเลยเหรอ? ไม่คิดว่าวันนี้จะมา เจอพวกเขาที่นี่

สายตาของเมียน้อยที่มองมาด้านนี้ทำให้เสิ่น เฉียวตกใจรีบซ่อนตัว

ตอนที่หันกลับไม่ทันระวังชนกับพนักงานที่ คอยดูแลเธอจนล้ม พนักงานคนนั้นคว้าชุดที่เสิ่น เฉียวใส่อยู่โดยไม่รู้ตัวทำให้ตัวเองล้มลงไปด้วยพร้อมกับเสียงชุดที่ฉีกขาด

สิ่งเหล่านั้นเรียกความสนใจจากลูกค้าคนอื่น ๆ ในร้านได้เป็นอย่างดีรวมไปถึง หลินเจียงกับ

เมียน้อยของเขา

พนักงานคนนั้นเมื่อเห็นว่าชุดกระโปรงขาดก็ ตกใจรีบลุกขึ้นแล้วกล่าวหาเสิ่นเฉียว

“เธอรู้ไหมว่าชุดนี้มันราคาเท่าไหร่ เธอตั้งใจ ทำให้ชุดขาดแน่ ๆ”

เสิ่นเฉียวมึนงง เธอเพียงแค่ต้องการหลบ สายตานั่นเพราะไม่อยากให้พวกเขารู้ว่าเธอก็อยู่ ที่นี่ ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ข้างหลังก็เลยหันกลับ อย่างรวดเร็ว พอถูกพนักงานกล่าวหาแบบนั้นเธอ ก็ยืนขึ้นแล้วมองไปที่ชุดกระโปรงก็เห็นว่าขาด จริง ๆ อีกทั้งยังเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียนนั่นด้วย แล้วยังเห็นอีกว่าลูกค้าคนอื่นก็มองมาทางนี้ เสิ่น เฉียวเอื้อมมือไปปิดไหล่ของตัวเอง “ขอโทษนะ คะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

พนักงานหัวเราะเยาะ “ขอโทษอย่างนั้นเห รอ? ชุดนี้เป็นชุดพิเศษของที่ร้านพึ่งสั่งมาจาก อิตาลี ราคาชุดตั้งเป็นล้านบาท เธอคิดว่าพูดแค่ คำว่าขอโทษแล้วมันจะจบเหรอ? เธอคิดว่ามันจะ ทำให้ชุดนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?”

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากแล้วพูดเสียงเบา “ฉันจะซ่อมให้คุณแน่ ๆ ค่ะ”

“ซ่อม? จะซ่อมยังไง?”

คำพูดกล่าวหาของพนักงานดังขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนในร้านต่างก็มองมาทางนี้กันหมด

“อ้าว เสิ่นเฉียวหรอกเหรอ?” เมียน้อยที่มากับ หลินเจียงมองเห็นใบหน้าอึดอัดใจของเสิ่นเฉียว ก็ยกยิ้มขึ้นมาแล้วพูดเยาะเย้ย “คนคนหนึ่งที่ใส่ แค่เสื้อผ้าบ้าน ๆ ราคาไม่กี่บาททำไมถึงมาอยู่ที่ ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ได้? แล้วยังจะมาทำชุดพังอีก เสิ่นเฉียวเธอตั้งใจมาเพื่อทำลายร้านใช่ไหม?””

พนักงานคนที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ยินก็ตาเบิกกว้าง “นี่คุณพูดอะไร? ที่แท้เธอก็ตั้งใจเข้ามาก่อความ วุ่นวายเหรอ? ชุดนี้ราคาอย่างต่ำหนึ่งล้านสาม แสนบาท จ่ายมา!”

เมียน้อย หัวเราะเสียงดัง เสียงหัวเราะนั่นดัง กังวานราวกับเสียงกระดิ่ง “เธอจะไปเอาเงิน ที่ไหนมาจ่าย? ทำงานเดือนหนึ่งก็ได้มาแค่หมื่น สาม ตอนนี้ตกงาน เกรงว่าจะไม่มีจ่ายนะ”

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากและเม้มแน่น

เธอรู้ลึกขนาดนี้หลินเจียงคงจะเป็นคนบอก สินะ?

“ฉันว่านะ ถ้าเธอจ่ายไม่ไหวก็ลองไปขอร้องหลินเจียงสิ ไม่แน่เขาอาจจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ ครั้งเก่ายอมช่วยเธอก็ได้”

ได้ยินแบบนั้นเสิ่นเฉียวก็กำมือแน่นแล้วมอง ไปที่หลินเจียง

เมื่อทั้งสองคนสบตากัน หลินเจียงตัวแข็งที่อ ในดวงตามีร่องรอยของความรู้สึกไม่สบายใจ ความสัมพันธ์ที่มันผ่านมานานแล้วก็เท่ากับว่า ไม่มีความรู้สึกอะไรหลงเหลืออีกแล้ว แต่มันมี ความรู้สึกหนึ่งที่ยังคงฝังรากลึกอยู่

แล้วมาเห็นคนอื่นโทษว่าเธอผิดแบบนี้ก็อดไม่

ได้

แต่…

“หลินเจียง คุณจะช่วยเธอหน่อยไหมคะ?”

หลินเจียงปฏิเสธ มองดูใบหน้ามีเสน่ห์ของ ซื้อจีนเป่า กระแอมแล้วเข้าไปกอดเธอ “เป่าเอ๋อ ผมจะไปช่วยผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่คุณได้ยังไง กัน? โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตั้งใจมาก่อความวุ่นวาย ที่ร้านยิ่งไม่ควรช่วยใหญ่เลย”

คำพูดเหล่านั้นเป็นเหมือนมีดที่มแทงเสิ่น เฉียวที่ไร้คำพูด

ความเย็นชานั่นทำให้เสิ่นเฉียวที่เม้มริมฝีปาก อยู่แล้วมีเลือดไหลออกมา
“โธ่ที่รักคะ แม้การกระทำของเธอจะน่า รังเกียจแต่ตอนนี้เธอดูน่าสงสารออก ชุดนั้น ราคาตั้งเป็นล้าน ถ้าจ่ายไม่ได้ไม่ใช่ว่าจะถูกขังไว้ ที่นี่เหรอคะ?”

คำพูดนั้นเหมือนเป็นการเตือนสติพนักงาน “ฉันจะโทรตามตำรวจเดี๋ยวนี้แหละ!”

เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมอง ตำรวจ?

“ผู้หญิงแบบนี้ ไม่มีเงินแล้วยังจะเข้ามาลอง ชุด ซื้อไม่ได้แล้วยังจะทำลายอีก! โทรแจ้ง ตำรวจเดี๋ยวนี้!”

คนแถวนั้นที่มองอยู่เห็นด้วย

“ใช่ ๆ พวกเธอดูสิ ผมยุ่งเหมือนไม่ได้หวี ขนาดนั้นปล่อยให้เข้ามาในร้านได้ยังไง?”

“ผู้หญิงคนนี้น่ะ ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสภาพ ตัวเองตอนนี้เป็นยังไง คงไม่เข้ามาลองชุดแล้ว คิดว่ามันเหมาะกับตัวเองหรอกนะ? เหอะ แล้ว ตอนนี้ชุดพังแล้ว จ่ายคืนไม่ไหวล่ะสิ? น่าขำจริง ๆ รอตำรวจมาจับไปขังไว้สักพัก ไม่อย่างนั้นก็จะ เป็นแบบนี้อีก!”

เกิดเสียงหัวเราะเยาะเย้ยและสายตาดูถูก จากทุกทิศทาง เสิ่นเฉียวรู้สึกละอายใจภายใต้ ใบหน้าแข็งที่อ เกิดมาอยู่บนโลกนี้ตั้งนานเกิด เรื่องแบบนี้ขึ้นยิ่งทำให้คนที่ไม่มั่นใจในตัวเองรู้สึกแย่ไปกันใหญ่

แต่อยู่ดี ๆ เย่โม่เซินกับเซียวซู่ก็หายไป

เธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมตอนที่เข้าไป ลองชุดแล้วพอออกมาก็ไม่เจอแม้แต่เงาของพวก เขา อาจเป็นเพราะเธอสวมชุดพวกนี้แล้วดูไม่ดี เลยทิ้งเธอไว้ทั้งอย่างนี้

เสิ่นเฉียวคิดแบบนั้นแล้วก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา ดวงตาค่อย ๆ แดงขึ้น

เธอเงยหน้ามองผู้คนที่เยาะเย้ยเธอ แต่เสียง เยาะเย้ยและสายตาดูถูกพวกนั้นทำให้เธอต้อง ก้มหน้าลงไปอีกครั้ง ร่างเล็กตัวสั่น ความรู้สึกที่ แสนสิ้นหวังพวกนี้ทำให้เธอเวียนหัว

เสิ่นเฉียวมีอาการป่วย คือถ้ารู้สึกประหม่า หรือกดดันจะเวียนหัวขึ้นมา

ตอนนี้ค่อย ๆ รู้สึกหน้ามืดจนแทบจะมองไม่

เห็นผู้คนตรงหน้าแล้ว

เมื่อความมืดเข้ามาปกคลุม

เสิ่นเฉียวไม่สามารถประคองตัวเองไว้ได้อีก ต่อไป เมื่อร่างกายเกือบจะล้มลงไปบนพื้นก็มีมือ ใหญ่มาช่วยเธอไว้ได้ทัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ