เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 363 ยืนยันตัวตน



บทที่ 363 ยืนยันตัวตน

เสี่ยวเหยียน “.

ได้โปรดล่ะ เธอก็แค่อยากแน่ใจว่าเขาไม่ใช่คนที่ เธอคิด ไม่ใช่จะไปขอเบอร์เขาสักหน่อย?”

“ฉันไม่ได้ไปขอเบอร์เขาจริงๆ แค่รู้สึกว่าเขาเป็น เหมือนคนที่ฉันรู้จักมาก่อน ดังนั้นจึงอยากจะไป ยืนยันสักหน่อยว่าใช่เขาหรือไม่”

“โธ่” ผู้หญิงคนหนึ่งตบไหล่เธอ จากนั้นจึงพูด ด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นคือเหตุผลที่คุณคิดจะเข้าไปคุยห รือ? ฟังแล้วดูมีประโยชน์อยู่บ้าง อย่างนั้นพวกเราก็ บอกแบบนี้บ้าง บอกว่าเขาคล้ายกับรุ่นพี่ที่โรงเรียน เดิมของเรามากๆ”

เสี่ยวเหยียน “พวกคุณ …”

“ไม่ต้องอายขนาดนี้ก็ได้ พวกเราไปด้วยกัน เถอะ” พูดจบคนๆ นั้นก็จับแขนของเสี่ยวเหยียนเอา ไว้

เสี่ยวเหยียนกำลังใกล้จะบ้า เธอรู้สึกว่าอารมณ์ ของเธอพลุ่งพล่านจนเก็บไม่อยู่อยู่บ้าง ดังนั้นเธอจึง เอ่ยอย่างอารมณ์เสีย “พี่สาว พวกเราไม่ได้สนิทกัน?ดังนั้นหยุดจับแขนฉันแบบสนิทสนมขนาดนี้ได้ไหม? ยังมี เมื่อครู่ที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง เขาคล้ายคนที่ฉัน เคยรู้จัก และฉันก็แค่อยากจะแน่ใจเท่านั้น ไม่ได้คิด จะเข้าไปพูดคุย ได้โปรดพวกคุณช่วยออกห่างจาก ฉันสักหน่อย ขอบคุณ”

พูดจบ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา ดวงตา มองไปที่อีกฝ่ายอย่างเยียบเย็น

ผู้หญิงสองสามคนตัวแข็งไป จากนั้นจึงรีบปล่อย

เธอ

“ชิ โกรธอะไรกัน ก็แค่อาศัยความงามนิดๆ บน หน้านั่นไม่ใช่หรือไง? ถึงกับไม่เห็นเราอยู่ในสายตา”

“นั่นสิ ทำเป็นบอกว่าจะไม่เข้าไปคุยกับเขา แต่ ใครจะไปรู้ เห็นชัดๆ ว่าคิดจะยึดไว้คนเดียว”

“ไม่ต้องสนใจเธอ พวกเรารีบเข้าไปหาเขาก่อน”

“ใช่! ”

ผู้หญิงหลายคนเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน เสี่ยว เหยียนคิดจะไปดู แต่เมื่อคิดดูอีกที หากอาศัยผู้หญิง เหล่าที่เข้าไปเพื่อพูดคุยกับคนๆ นั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี โอกาสได้เห็นหน้าเขา

ตราบใดที่คนเหล่านั้นยืนอยู่ข้างหลัง ชายคนนั้น ก็จะต้องหันกลับมา
เมื่อนึกได้แบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็ตัดสินใจยืนอยู่ที่ เดิม ไม่ได้เข้าไปใกล้กว่านี้ และตัดสินใจซ่อนตัวอยู่ เบื้องหลัง

เสี่ยวเหยียน กลั้นหายใจและเฝ้าดูอย่างเงียบๆ สาวๆ เหล่านั้นปิดแก้มของพวกเธออย่างเขินอาย จากนั้นจึงค่อยส่งเสียงออกมา “เอ่อ…พี่สุดหล่อ คุณหน้าตาเหมือนรุ่นพี่ที่โรงเรียนของเรามาก พวก เราช่างมีวาสนาต่อกันอย่างยิ่ง”

เนื่องจากระยะทางไม่ได้ไกลเกินไป เสี่ยวเหยียน จึงได้ยินสิ่งที่เธอพูด และทำเอาเธอแทบเซและเกือบ จะล้มลงไปข้างหน้า

คนพวกนี้โบราณมาก ถึงกับเอาสิ่งที่เธอพูดไป ใช้จริงๆ ประเด็นคือใช้แล้วก็แล้วไป แต่กลับยังใช้ได้ แย่มาก เธอพูดแบบนี้ไม่ว่าใครฟังก็รู้ทั้งนั้นแหละว่า เธอตั้งใจเข้าไปพูดคุยกับเขา?

อย่างที่คิด ชายคนนั้นยังคงไม่เคลื่อนไหว ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของหญิงสาว เขายืนนิ่ง ราวกับภูเขาลูกใหญ่ลูกหนึ่ง ความเยือกเย็นบนตัว หลอมหลวมเข้าไปกับความมืดมิด

หลังจากความเงียบ ราวกับว่าอีกาบางตัวกำลัง บินผ่านไป

เสี่ยวเหยียนมองไปที่ฉากนี้ และอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปปิดตาของตนเอง

เธอแทบจะตาบอดแล้ว ทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้

“หล่อ หล่อจัง…” หญิงสาวราวกับไม่ได้คาดคิด เลยว่าเขาจะทำเป็นไม่ได้ยินเธอ ร่างผอมสูงยังคงยืน นิ่งอยู่ที่นั่นไม่เคลื่อนไหว ราวกับพวกเธอเป็นเพียง ธาตุอากาศ

แต่ไม่นานนักเพื่อนของเธอก็ตอบสนอง เธอ หัวเราะ “เขาต้องคิดว่าพวกเราไม่ได้คุยกับเขาแน่ พวกเราเข้าไปข้างหน้าเถอะ”

ผู้หญิงสองสามคนเดินไปเข้าไปด้านหน้าของ ชายหนุ่มจากนั้นจึงเผยรอยยิ้มเขินอายออกมา

เอ่อ…

เยโม่เซินขมวดคิ้ว กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงเหล่า นี้ลอยเข้ามาในจมูกของเขา กลิ่นน้ำหอมฉุนกึก ทำเอาบรรยากาศโดยรอบเข้มข้นขึ้นมา

ผู้หญิงเหล่านี้.

“พี่ชายสุดหล่อ คุณ….”

“ไปให้พ้น! ”

เยโม่เซินจู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมาโดยไม่คาดคิด

ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากขึ้นตามที่คิด แต่คำพูดของเขากลับเหมือนมีดอาบยาพิษที่แทงเข้าไปในหัวใจผู้ หญิงหลายคน

ทันใดนั้น ใบหน้าของผู้หญิงเหล่านั้นก็แปร เปลี่ยนเป็นสีขาวในทันที ท่ามกลางความมืดสีหน้า นั้นขาวซีด จนแทบจะไม่ต่างจากผี

เมื่อเสี่ยวเหยียนเห็นฉากนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะ ยกมือขึ้นปิดปากและเกือบจะหัวเราะออกมา

ขำแทบตายแล้ว อันที่จริงชายคนนั้นไม่ได้ยืน อยู่กับฝูงชนแต่เลือกที่จะไปยืนอยู่คนเดียวก็พอที่จะ บ่งบอกได้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนที่จะเข้าไปหาเรื่องได้ ง่ายๆ พวกผู้หญิงเรานี้ไม่ดูตาม้าตาเรือ ถึงได้หลงผิด คิดไปว่าจะได้เขา

เฮ้อ

แต่ว่า ยิ่งชายหนุ่มเป็นแบบนี้ ในใจของเสี่ยวเหยี ยนก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น

ถ้าเป็นคนๆ นั้น ก็คงมีปฏิกิริยาแบบเดียวกันแน่

เพียงแต่…ตอนนั้นเขายังนั่งอยู่บนรถเข็น แต่สิ่ง ที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้นกลับยืนอยู่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ ไม่มีทางที่จะเชื่อมโยงเข้าด้วยกันได้

เสี่ยวเหยียนหลบตาลงและจมสู่ความคิด เมื่อ เงยหน้าขึ้นมาเธอก็เห็นชายหนุ่มยกมือขึ้นสอดกระเป๋ากางเกง และเดินจากไปทิศทางอื่นด้วยสีหน้า อันเย็นชา

ทิศทางของเขาตรงกับทิศทางของเสี่ยวเหยีย นพอดี ดังนั้นเสี่ยวเหยียนจึงสามารถมองเห็นโครง หน้าของเขาได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเยโม่เซิ นกลับมีสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่ง ดวงตาของเขานิ่งเฉย จนไม่เห็นว่ารถคันข้างๆ กำลังมีเสี่ยวเหยียนที่ยืนตก ตะลึงอยู่

หลังจากได้เห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย เสี่ยวเหยี ยนก็รู้สึกราวกับมีอ่างน้ำเย็นสาดใส่ศีรษะของเธอ จนทำให้เธอรู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วทั้งตัว

จนกระทั่งเย่โม่เซินจากไปไกล เสี่ยวเหยียนยัง คงจ้องมองที่ด้านหลังของเขาอย่างเหม่อลอย เหล่า สาว ที่ถูกไล่ไปจนตาแดงก่ำก็หันมาเห็นฉากนี้เข้า พอดีเช่นกัน จากความอับอายกลายเป็นความโกรธ ดังนั้นจึงเอ่ยว่าเสี่ยวเหยียน “เช็ดน้ำลายของคุณ หน่อยเถอะ ดวงตาแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว เห็น ชัดๆ ว่าชอบจะเป็นจะตาย แต่กลับทำปากแข็ง”

เมื่อได้ยิน เสี่ยวเหยียนก็ได้สติกลับมา เธอหันไป มองผู้หญิงหลายคนตรงหน้า

เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเธอไม่ใช่คนที่ถูกไล่ แต่ใบหน้า ของเธอกลับซีดขาวจนดูไม่ได้ เมื่อเทียบกับพวกหล่อนแล้วยังดูน่ากลัวกว่า

หนึ่งในนั้นเห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ถูกต้องนัก จึง ถามอย่างสงสัย “ทำไมเธอถึงหน้าขาวเหมือนผีแบบ นี้ล่ะ คนที่ถูกปฏิเสธไม่ใช่เธอสักหน่อย

ได้ยินเข้า เสี่ยวเหยียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ โลกภายนอกพูดอะไรเธอไม่ได้ยินสักนิด

เธอรู้ก็แค่ ผู้ชายที่เดินผ่านไปเมื่อครู่ เหมือน กับ….เหมือนกับคนเมื่อห้าปีก่อนอย่างไม่ผิดเพี้ยน!

อีกทั้งยังเหมือนกับเสี่ยวหมี่โต้วทุกกระเบียด นิ้วด้วย!

เป็นไปได้ยังไง?

โชคชะตาบนโลกในนี้ช่างบังเอิญเกินไปมั้ง พวก เธอเพิ่งจะกลับมาได้นานแค่ไหนกัน? ถึงกับพบเขา เข้าให้บนทางด่วนได้? ไม่ว่าจะคิดยังไงก็แทบไม่ อยากเชื่อ!

เยโม่เซิน!

เธอมาเจอเยโม่เซินที่นี่ได้ยังไง!?

เป็นไปได้ไหมว่าเธอจะคิดมากเกินไปที่เห็นว่า ใบหน้าของเสี่ยวหมี่โต้วที่เธอเห็นทุกวันนั้นคล้า ยกับเย่โม่เซิน? ดังนั้นจึงมองเห็นชายหนุ่มเมื่อครู่เป็น เยโม่เซินไป?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนไม่สนใจว่าผู้หญิง เหล่านั้นจะมองเธออย่างไร เธอเอ่ยถามขึ้นตรงๆ “เมื่อครู่มีคนเดินผ่านไปใช่ไหม? ใช่ไหม?”

เมื่อได้ยิน สาวๆ เหล่านั้นก็แสดงสายตาราวกับ กำลังมองคนงี่เง่าปัญญาอ่อน

“เธอสบายดีไหม? ”

“ฉันว่าเธอคงเพี้ยนไปแล้ว เธอไม่ได้จ้องเขาตา แทบถลนหรือไง?”

“มีคน…ผ่านไปจริงๆ?” เสี่ยวเหยียนถามอย่างโง่

เขลา

ดังนั้น เธอเจอเยโม่เซินเข้าจริงๆ งั้นหรือ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ