เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่142 ยาบำรุงครรภ์



บทที่142 ยาบำรุงครรภ์

ความดุเดือดนี้ไม่รู้ว่าดำเนินไปนานเท่าใด เสิ่นเฉียวรู้สึกแต่เพียงว่าตัวเธอไม่เป็นของเธออีก ต่อไป ทุกประสาทสัมผัสของเธอถูกเย่โม่เซินเข้า ควบคุม สุดท้ายร่างกายเธอกลับนอนอยู่บนตัวเขา อย่างสับสน ไร้ทิศทาง

ผ่านไปครู่ใหญ่ เย่โม่เซินก็ถอนตัวออก จับ แขนเธอแล้วเลื่อนตัวเธอวางไว้ที่ผ้าห่มด้านข้าง มีรอยยิ้มเยาะเกิดขึ้นที่มุมปาก

ด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลัง มือดังผู้ชายเลวทรามคนหนึ่ง

“ยายผู้หญิงแต่งงานสองครั้ง เธอนี่ตัณหา จัดเหมือนกันนะ”

หลังของเสิ่นเฉียวสัมผัสกับผ้าห่มนุ่ม เธอ หลับตาโดยไม่รู้ตัวด้วยความเหนื่อยล้า ทันใดนั้น เสียงที่เย็นเยียบของเย่โม่เซินก็ดังขึ้น

ราวกับในช่วงฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ ทันใด นั้นก็ถูกสาดด้วยน้ำเย็น ทำให้เธอรู้สึกหนาว สะท้านตั้งแต่เท้าขึ้นมา

เสิ่นเฉียวลืมตาขึ้น สิ่งที่เขาตาเธอก็คือรอยยิ้มที่โหดร้ายนั้นของเย่โม่เซิน เธอผงะไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นไปคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างของเธอ แล้วมองเขาอย่างเดือดดาล

เย่โม่เซินยื่นมือออกไปบีบคางเธอแน่น เสิ่น เฉียวพยายามดิ้นรนแต่ไม่สามารถสะบัดพันได้ ทำได้เพียงจ้องหน้าเขา

“จัดการตัวเองให้ดี จากนี้ไปฉันจะตรวจ สอบเธอทุกคืน ถ้าหากว่าฉันเจอว่าเธอไม่สะอาด และไม่ซื่อล่ะก็…”

เขาไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น แต่ก็ชัดเจนว่า เป็นคำพูดที่ข่มขู่คุกคาม

“เย่โม่เซิน ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้? คุณอยากจะตรวจสอบฉันก็ทำ? คุณทำเหมือนฉัน เป็นตัวอะไรไปแล้วกันแน่?”

ช่วงเวลาแห่งความอ่อนโยนละมุนละไม ผ่านไปเหลือไว้เพียงความเย้ยหยัน คำพูดเหล่า นั้นบาดลึกเข้าไปในใจของเสิ่นเฉียว

ตาเธอแดงก่ำและร้องถามเย่โม่เซินเสียง

ดัง

เมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำของเธอ ในใจของเย่ โม่เซินก็รู้สึกทนไม่ไหวเล็กน้อย แต่รูปถ่ายพวกนั้นยังคงติดอยู่ที่มุมสายตาของเขา สำหรับเย่โม่ เซินยิ่งนึกถึงภาพที่เธอกับเย่หลิ่นหานกินสุกี้ด้วย กัน ยิ้มให้กัน หรือไปไหนด้วยกัน มันทำให้ใจของ เย่โม่เซินลุกเป็นไฟอย่างบอกไม่ถูก

คำพูดของเย่โม่เซินเหมือนลูกศรอาบยา

พิษ

“ทำไมเหรอ? ก็เพราะเธอคือผู้หญิงที่ตระ กูลเสิ่นของพวกเธอส่งมาให้ฉันถึงเตียงไงล่ะ เหตุผลแค่นี้เพียงพอรึยัง?”

บนใบหน้าของเสิ่นเฉียวไม่เหลือเลือด แม้แต่น้อย คงจะเป็นเพราะโกรธมาก จนทำให้ เธอไม่มีอารมณ์อะไรบนใบหน้า มีเพียงใบหน้าซีด ขาวที่จ้องมองโม่เซิน และปากซีดขาวที่สั่นเทา

เธอไม่พูดอะไรอีก จากนั้นครู่หนึ่งเธอได้ลด สายตาลงและทำหน้าอาลัยตายอยาก

ใช่สิ เธอมีคุณสมบัติอะไรจะไปเถียงเขา? ตั้งแต่วันที่เธอต้องแต่งงานแทนเสิ่นโย่ว เข้ามาในตระกูลเย่ ชีวิตของเธอก็ได้ถูกลิขิตไว้ แล้ว

ถ้าหากว่าเย่โม่เซินไม่เซ็นสัญญากับเธอไว้ เป็นเวลาครึ่งปี ทั้งชีวิตของเธอจะต้องอยู่กับเย่โม่เซิน นอกเสียจากเขาจะเต็มใจปล่อยเธอไป

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวทุกข์ใจจนต้อง หลับตาลง จากนั้นจึงพลิกตัวและดึงผ้าห่มมาห่ม ตัวเองเอาไว้

เธอไม่อยากจะสนใจเยโม่เซินแล้ว คนเลว

น้ำตาไหลออกจากหางตาเงียบๆ ไหลลง หมอนและหายไปทันใด ด้านหลังเป็นอย่างไรบ้างนั้นเงินเฉียวไม่รู้

เลย ได้ยินเพียงเสียงใส่เสื้อผ้าแว่ว ๆ ครู่หนึ่งก็ เป็นเสียงหมุนล้อวีลแชร์ จนเสียงล้อนั้นจางหาย ไป

เสิ่นเฉียวจึงมั่นใจว่าเย่โม่เซินออกไปแล้ว

เธอเข้ามาตระกูลเย่นานขนาดนี้แล้ว นี่เป็น ครั้งแรกที่เธอเสียน้ำตามากมายเช่นนี้เหมือน สายสร้อยลูกปัดที่มันขาด ร่วงหล่นไม่สามารถจะ เก็บมันขึ้นมาได้หมด มีความเจ็บปวดบางอย่าง เกิดขึ้น อาการบวมและปวดที่ริมฝีปากของเธอ และรอยประทับที่เขาทิ้งไว้บนร่างกายของเธอ ล้วนทำให้เธอนึกถึงความอัปยศอดสูนี้อย่าง ชัดเจน

ทั้งกายอยู่ตรงนั้นไม่รู้นานเพียงไหน ทันใดนั้นเสิ่นเฉียวก็รู้สึกไม่สบายที่ท้องน้อย เธอทำได้ เพียงใช้มือพยุงตัวขึ้นเพื่อไปห้องน้ำ สุดท้ายเธอ ก็พบว่าพื้นที่น้อย ๆ ตรงนั้นมีเลือดไหล

ในตอนแรกเสิ่นเฉียวยังคิดว่าประจำเดือน

มา

แต่เมื่อคิดดูแล้วมันไม่ปกติ เธอตั้งครรภ์ แล้ว แล้วประจำเดือนจะมาได้ยังไง?

ได้ยินว่าเรื่องที่ต้องระวังในระหว่างการตั้ง ครรภ์ช่วงสามเดือนแรกคือเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ เธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แม้ว่าขาจะเจ็บ แต่เสิ่น เฉียวก็รีบเก็บของและแต่งตัวเพื่อไปลงทะเบียนที่

โรงพยาบาล

หลังจากที่แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยเธอ แล้วก็มีสีหน้าค่อนข้างซับซ้อน: “คุณเพิ่งจะตั้ง ครรภ์ได้ประมาณสองเดือนใช่ไหม?”

เสิ่นเฉียวพยักหน้า

“สามีคุณล่ะ?”

ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของเสิ่นเฉียวก็ เปลี่ยนไปแล้วพูดเสียงอ่อย: “เขา เขางานยุ่งค่ะ”
เมื่อแพทย์เห็นสีหน้าเธอไม่สู้ดี น้ำเสียงจึง ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย “ในช่วงสามเดือนแรกของ การตั้งครรภ์คู่รักต้องใส่ใจกับจำนวนการมีเพศ สัมพันธ์ อีกทั้งไม่ควรจะทำอะไรรุนแรงเกินไป บวกกับร่างกายคุณที่อ่อนแออยู่แล้ว ถ้าหากว่า เกิดสถานการณ์แบบนี้อีก หมอไม่กล้าจะรับรอง ความปลอดภัยของเด็ก”

เสิ่นเฉียว: “..” เธอพยักหน้ารับด้วยความ กระอักกระอ่วนใจ: “ฉันทราบแล้วค่ะ ต่อไปจะ ระวังค่ะ”

“เดี๋ยวหมอจะสั่งยาบำรุงครรภ์ให้คุณ กลับ ไปให้ทานยาตามเวลา ให้ระวังเรื่องอาหารและ การพักผ่อน ถ้าไม่ไหวก็ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ เข้าใจไหม?” พูดจนถึงสุดท้าย แพทย์คงจะ สังเกตเห็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเธอ จึงพูดขึ้นอีกคำหนึ่ง “เมื่อเราเป็นแม่ ก็ต้องปกป้อง ลูกของตัวเองให้ดี เข้าใจไหม?”

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ!” เสิ่นเฉียวมองเธอ ด้วยความขอบคุณ หลังจากเสิ่นเฉียวได้รับยาแล้ว ก็ออกจากโรงพยาบาล

เธอพบกับหลินเจียงเขาระหว่างที่ออกจาก

โรงพยาบาล
หลินเจียงลงจากรถในทันทีและเดินไปหา

เธอด้วยรอยยิ้ม: “บังเอิญจังนะเฉียวเฉียว ไม่คิด

เลยว่าจะได้เจอเธอที่นี่ เธอมาโรงพยาบาล ทำไม?” ได้เจอหลินเจียงทำให้เธอคิดถึงเรื่องที่ผ่าน

มา แววตาก็เย็นชาลงและเดินจากไปโดยไม่ อยากจะสนใจเขา

ใครจะไปคิดว่าหลินเจียงจะดื้อดึง เขา เข้าไปดึงมือของเสิ่นเฉียวและพูดอย่างสนิทสนม “เฉียวเฉียวคุณอย่าเมินผมสิ ผมมีเรื่องอยากจะ คุยกับคุณนะ”

สีหน้าของเส้นเฉียวดูไม่ดี และสะบัดมือ ของเขาออกไป: “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”

“แต่ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ เฉียวเฉียว คุณ ให้โอกาสผมสักครั้งเถอะนะ พวกเราไปคุยกันที่ ร้านกาแฟใกล้ๆ ที่นี่กันเถอะ”

ได้ยินดังนั้น เสิ่นเฉียวหยุดก้าว ไปร้าน กาแฟแถวนี้?

เธอยิ้มขึ้น: “ฉันเลี้ยงเหรอ?”

ทันใดนั้นสีหน้าของหลินเจียงก็มีสีสันขึ้น “นะ แน่นอนว่าไม่ใช่สิ ผมเลี้ยงเอง”
“ไม่ต้อง” พูดแล้วเสิ่นเฉียวก็ยิ้มเยาะและ ก้าวถอยหลังเล็กน้อย: “หลินเจียง ฉันขอให้คุณ เข้าใจไว้อย่างนะ ฉันหย่ากับคุณแล้ว พวกเราไม่มี ความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว คุณอย่ามายุ่งกับฉัน อีก”

พูดจบ เสิ่นเฉียวก็หันหลังแล้วเดินไป เดิมที เสิ่นเฉียวคิดว่าเธอพูดได้แจ่มแจ้งแล้ว แต่เธอ กลับประเมินความไร้ยางอายของหลินเจียงไว้ต่ำ ไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะเดินตามเธอมา: “ใครบอกว่า เราไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว เมื่อกี้คุณไป ตรวจอะไรที่โรงพยาบาล?”

เมื่อเสิ่นเฉียวได้ยิน เธอเกือบจะล้มหน้าคว่ำ

หรือว่าหลินเจียงจะรู้แล้ว?

“คุณจะรู้ไปทำไมว่าฉันมาตรวจอะไร? หลิน เจียง เรื่องของฉันคุณไม่ต้องมายุ่ง คุณเลิกยุ่งกับ ฉันสักที!”

เธอเร่งฝีเท้า หวังให้ออกไปจากตรงนี้ให้ เร็วขึ้น

หลินเจียงตามเธอไป หลินเจียงตัวแขนเธอ อย่างแรงและตะโกนขึ้น: “เสิ่นเฉียวนี่เธอยังกล้า ตอแหลอีกเหรอ เธอท้องใช้รึเปล่า? เด็กในท้องเธอนั่นลูกใคร?”

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ: “กูไม่ ได้แตะตัวถึงเลยใช้ไหม? แล้วถึงท้องได้ยังไง? เสิ่นเฉียวนี่ถึงแม่งสวมเขาให้กใช่ไหม?”

เสิ่นเฉียว: “..”

นอกจากนี้ยังมีผู้คนบางคนที่มองพวกเขา ด้วยสายตาแปลก ๆ แต่หลินเจียงไม่รู้สึกละอาย เลย ในทางกลับกันเขายิ่งพูดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่ง อาละวาดมากกว่าเดิม

“คิดไม่ถึงเลย ว่าเธอที่วางท่าทางไว้ว่าเป็น ผู้หญิงที่แสนดีแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าเธอจะทำแบบนี้ กับฉัน เป็นผู้ชายที่ฉันเจอคราวที่แล้วใช่ไหม? เธอได้กับมันตั้งแต่เมื่อไหร่?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ