เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่849 เจอกันอีกครั้ง



บทที่849 เจอกันอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าความหมายจะสื่อออกไปอย่างนั้น แต่พี่หลินไม่อาจพูด คำพูดที่ไม่น่าฟังอย่างนั้นออกไปได้

เธอยิ้มออกไปเล็กน้อย บริษัทของเราเพียงแค่ไม่อยาก ลำบากคุณหนูสวน เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้คุณ เข้ามาทำงานที่บริษัทเรานะคะ

ตวนมเสสะบัดมือออกไป ท่าทางประจบสอพลอดูสุภาพ อ่อนโยนเมื่อสักครู่ได้หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย ฉันไม่ได้กลัว ลำบาก จัดตำแหน่งอะไรตามใจพี่มาให้ฉันก็ได้ คุณไม่ได้ บอกพี่ไปแล้วหรือไง? ทำไมถึงทำอย่างนี้อีก? ก็แค่จัดตำแหน่ง ให้ฉันสักอย่างเท่านั้นเองไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเลย”

คำพูดออกมาได้อย่างไม่ถูกใจผู้ฟังนัก พี่หลินขมวดคิ้วออกมา เล็กน้อย พร้อมเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก ถ้าคุณหนูต วนคิดว่าการตั้งตำแหน่งขึ้นมาชั่วคราวให้กับคุณหนูมันง่าย ขนาดนั้น ก็เชิญกลับไปตั้งที่บริษัทตระกูลตวนของคุณเถอะค่ะ อย่าว่าแต่ตำแหน่งทั่วๆไปเลย แม้แต่ตำแหน่งในผู้บริหารระดับ สูงเองคุณหนูม่อยากจะจัดตั้งยังไงก็สามารถทำได้ตาม ต้องการ ฉันคิดว่า บริษัทของพวกคุณไม่มีทางมีใครกล้าว่าอะไร หรอกค่ะ”

“…เธอพูดออกมาได้ยังไง?” ตวนเสถลึงตาออกมา มองพี่ หลินไปอย่างโกรธเกรี้ยว “เธอคิดว่าเธอเป็นผู้อาวุโสที่ทำงานมานาน มีอายุมากกว่าหน่อยแล้วกล้ามาแนะนำฉันงั้นหรอ? ฉันเป็น คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตวน เป็นคนที่คุณปู่จื่อเรียกเข้าบริษัท มาด้วยตัวเอง เธอกล้าพูดอย่างนี้กับฉันงั้นหรอ!”

พี่หลินเลิกตาขึ้นมอง เธอไม่ใช่คนที่เกรงใจใคร จึงเอ่ยเสียง เรียบเย็นออกไปว่า “ที่คุณพูดมามันก็ไม่ผิด ถึงแม้ว่าคุณจะเป็น คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตวนมู่ แต่ฉันไม่ใช่คนบริษัทตระกูลตวน ของพวกคุณ ฉันเป็นเลขาของท่านประธาน ฟังคำสั่งของท่าน ประธานเพียงคนเดียวเท่านั้น ถ้าคุณหนูสวนม่มีปัญญา ก็ให้ลอง ไปหานายท่านดูว่าสามารถจัดตั้งสักตำแหน่งนึงที่มีอำนาจ มากกว่าท่านประธานเพื่อมาควบคุมฉันเถอะค่ะ”

ตวนมเสว่ “…”

หาน จื่อที่ยืนอยู่ข้างๆช็อกอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าพี่หลินจะพูด วาจาเผ็ดร้อนได้ถึงขนาดนี้ ดูสิเนี่ยทำเอาอีกฝ่ายพูดไม่ออกเลยที เดียว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะตนที่เป็นต้นเหตุให้ตวนเสว่อยาก เข้ามาทํางานในบริษัท

เรื่องวุ่นวายนี้นับว่าเป็นเรื่องที่เธอก่อขึ้นมาด้วยเหมือนกัน ให้ พี่หลินออกหน้าเองตลอดก็ไม่ค่อยจะดีนัก เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว หานคู่จื่อจึงเดินอ้อมโต๊ะทำงานออกไป ทิ้งคำพูดออกไปด้วย เสียงเบาหวิว

“ฉันว่าเธอกลับไปเสียเถอะ ถึงยังไงคุณหนูใหญ่แห่งตวนผู้ ยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะใช้เส้นสายแล้วก็ยังไม่สำเร็จ ไม่ลองเผชิญหน้าใช้ความสามารถตัวเองเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยล่ะ? บางที เธอ อาจจะยังมีโอกาสก็ได้?”

คำพูดพวกนั้นแน่นอนว่าเธอตั้งใจพูดออกไป ภาพที่เธอมี ต่อตวนเสานั้นแย่มาก รู้ทั้งรู้ว่าเธอกับเข่ไม่เป็นรักกัน แต่กลับ ยังอยากจะแทรกเข้ามาอีก

เธอพูดออกมาอย่างดีว่าเป็นการแข่งขันกันอย่างยุติธรรม แต่ อันที่ไม่น่าฟังเลยนั่นก็คือความจริงแล้วมันอยู่ที่เธอคิดที่แย่งชิง ของของคนอื่นไปต่างหาก

แย่งของของคนอื่นยังไงมันก็คือแย่ง ทำไมยังจะต้องพูดให้ตัว เองดูดีเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิดอย่างนั้นอีก?

ถ้าเธอกล้ายอมรับว่าตัวเองกำลังแย่งคนรักของคนอื่น อย่าง นั้นแล้วหานคู่จื่อก็คงอาจจะคิดว่าเธอคนนี้ช่างตรงไปตรงมาเสีย จริง กล้าทํากล้ารับ แต่เธอกลับไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะยอมรับ ออกมาเลยด้วยซ้ำ

ไม่เพียงแต่จะไม่มีความกล้าที่จะยอมรับออกมา คำพูดของเธอ ก็ยังคอยพูดให้ร้ายคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างนั้นแล้วเธอก็ไม่มี ความจําเป็นที่จะต้องเกรงใจเธออีก

และก็เป็นไปอย่างที่คิด ตวนเสบู่ที่เดิมทีก็กลัดกลุ้มหาที่ ระบายอารมณ์โกรธเกรี้ยวของตัวเองไม่ได้ พอดีกับหานคู่จื่อที่ได้ ปรากฏตัวออกมาพอดี เธอจึงใช้สายตาเกลียดชังมองไปยังหา นมู่จื่อ เอ่ยออกไปอย่างจงเกลียดจงชัง “เธออย่ารีบดีใจไปก่อน เลย พี่เซินเป็นของฉัน ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะอยู่ใกล้ตัวเขา เธอก็ไม่อาจได้คบกับเขา ขอเพียงแค่เขาเป็นคนของตระกูลยคือ ไม่ช้า ก็เร็วเขาก็ต้องแต่งงานกับฉัน ถึงตอนนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นตอน ไหนเธอก็ไม่ใช่อยู่ดี ถ้าฉันไม่ใช่เธอ ก็ควรจะรู้จักประเมินตัวเอง แล้วรีบไสหัวออกไปจากที่นี่เสีย

หานมู่จื่อมองเธอไปด้วยสายตาที่นิ่งเรียบ เอ่ยออกไปด้วยรอย ยิ้ม “ด้วยคำพูดเดียวกันนั้นฉันขอแย้งสักประโยคแล้วกันว่าถ้า เธอรู้จักประเมินตัวเองบ้าง ก็รีบกลับไปจัดตั้งตำแหน่งงานที่ บริษัทของพวกเธอเถอะ มาก่อเรื่องวุ่นวายอย่างนี้ต่อไปอีก ชื่อ เสียงของตระกูลตวนมของคุณใกล้จะถูกคุณทำลายย่อยยับไป แล้วนะคะ”

“เฮอะ ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

ตวนมเสว่ยกชายกระโปรงขึ้นผันร่างเดินออกไป ในตอนที่เดิน ออกไปนั้นก็ได้จ้องมองหานจื่อไปอย่างเอาเป็นเอาตาย

สายตาที่ทั้งโหดเหี้ยมและทั้งดุร้ายคู่นี้ เหมือนอย่างกับงูพิษที่ กำลังแลบลิ้นออกมา ทำให้รู้สึกได้ถึงความอันตราย

ภายในใจของหานมู่จื่อชะงักลึก แต่ก็กลับมาสงบนิ่งลงอย่าง รวดเร็ว

หลังจากที่เธอเดินออกไป พี่หลินก็เดินเข้ามา “เมื่อกี้นี้ให้ฉัน พูดกับหล่อนเองก็ได้ ไม่มีอะไรแล้วเธอออกมาหาเรื่องใส่ตัวไป ทําไมกัน?”

พูดจบ พี่หลินถอนหายใจออกมาอีกครั้ง หานมู่จื่อมองเธอเล็ก น้อย “พี่หลิน ฉัน…”
“เธออะไร? ฉันเป็นเลขาของบริษัท แล้วยังแก่กว่าตั้งหลายปี ถึงแม้ว่าหล่อนจะโกรธแค้นแค่ไหนก็ไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก แต่ กับเธอ? หล่อนมองเธอเป็นศัตรูหัวใจ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเธอก็ยัง เป็นศัตรูหัวใจกันจริงๆอีก ฉันได้กลิ่นบรรยากาศที่ขึ้นมาแล้ว

พี่หลินส่ายหน้าออกมา ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเท้าคางทำท่าทาง

ที่กำลังคิดออกมา “เมื่อกี้นี้ตอนก่อนที่หล่อนจะเดินออกไป

สายตาคู่นั้นของหล่อนมันช่างดูชั่วร้ายเป็นอย่างมาก ต่อไปเธอ

จะทำอะไรก็ระวังหน่อยก็ดี ถ้าหล่อนใช้สถานะของหล่อนให้คน

มาแก้แค้นเธอล่ะ

แก้แค้นเธองั้นหรอ?

หาน จื่อหลุบตาลง ไม่ได้ตอบอะไรออกไป

“เธอไม่ควรจะก้าวออกมาเลยจริงๆ” พี่หลินอดไม่ได้ที่จะเอ่ย ออกมาอีกครั้ง

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หานมู่จื่อจึงได้เงยหน้าขึ้นไป เธอส่ายหน้า ออกไปอย่างไม่แยแส “พี่หลิน ขอเพียงแค่หล่อนมีความคิดไม่ดี กับฉัน ไม่ว่าฉันจะออกมาหรือไม่ออกมา หล่อนก็มีความคิดพวก นี้อยู่ดี”

ไม่มีทางที่จะเป็นเพราะเธอไม่ลุกออกไป แล้วจะสามารถ ลบล้างความคิดพวกนี้ของเธอไปได้

พี่หลินเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็รีบขมวดคิ้วออกมาทันที “อย่างที่ เธอพูดออกมาอย่างนั้น หล่อนมีความคิดอย่างนี้จริงๆงั้นหรอ?”
หาหมู่จื่อฝืนยิ้มออกไป “เรื่องนี้ฉันจะรู้ชัดได้ยังไงกันคะ? ฉัน คาดเดาความคิดของหล่อนไม่ได้หรอกค่ะ แต่เรื่องที่เธอเกลียด ฉันนั่นมันก็แน่อยู่แล้วนี่คะ”

มือข้างหนึ่งของพี่หลินตบไหล่เธอเบาๆ “สรุปแล้วก็คือ จะต้อง ระมัดระวังในทุกๆเรื่อง เธอกับท่านประธานไม่ใช่ว่าคบกันแล้ว หรือไง? เรื่องนี้จะบอกเขาหรือเปล่า? ให้เขาช่วยเธอระวังอีก หน่อย?”

บอกเย่ ไม่เซิน?

หานคู่จื่อเม้มริมฝีปากออกมาเล็กน้อย พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ คำแนะนำของพี่หลินออกไป

“เขาต้องเผชิญกับคุณตาของเขาก็ลำบากมากแล้ว ฉันไม่

อยากให้เขาต้องมาจัดการเรื่องพวกนี้อีก ฉันได้คิดหาวิธีอื่นเอา

ไว้แล้วค่ะ”

บางที เธอลองติดต่อไปหาดวนเจอสักหน่อย

ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ได้เจอกันก็มองออกได้เลยว่าตวนเพื่อไม่ ยอมให้น้องสาวของเขาคนนั้นคบหากับเยโม่เซิน อีกทั้งจากคำ พูดและการกระทำของเขาก็สามารถมองเห็นได้ว่าตวนเจ๋อเป็น คนที่มีสติมีเหตุผลมากคนนึง เขารู้ดีว่าน้องสาวของเขาแต่งงาน ให้กับคนที่ไม่รักตัวเองไม่มีทางมีความสุขได้ ดังนั้นแล้วเขาจึง เลือกที่จะทำลายความฝันอันงดงามของน้องสาว ไม่ทำให้เธอได้ สำเร็จดังที่หวัง

“งั้นก็เอาเถอะ เธอนี่คิดแทนท่านประธานเก่งเสียจริงเลยนะเธอคงตัดสินใจไปแล้วฉันก็จะไม่พูดมากแล้วกัน สรุปแล้ว…ก็คือ จะทำอะไรก็ให้ระวังไว้ด้วยล่ะ

“โอเคค่ะ ขอบคุณพี่หลินนะคะ”

หาน จื่อส่งยิ้มไปให้เธอเล็กน้อย จากนั้นก็กลับไปยังที่ทำงาน ของตัวเอง

เธอก้มหน้าลงคว่ำเอกสารในมือ คิ้วสวยก็อดไม่ได้ที่จะขมวด ออกมา

เธออยากจะไปลองคุยเรื่องนี้กับสวนเพื่อดู แต่…เธอจะไปเจอ เขาได้จากที่ไหนกันล่ะ? เธอไม่มีช่องทางการติดต่อของเขาเลย สักอย่าง

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้ว หานเจอก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา หรือเธอ จะต้องลองไปบริษัทตระกูลตวนดูสักครั้งหรือยังไง?

คนที่ไม่มีการนัดล่วงหน้าไปก่อนอย่างเธอ กลัวแค่เพียงว่าไม่มี โอกาสแม้แต่จะได้เจอหน้าก็คงถูกไล่ตะเพิดออกมาจากบริษัท เสียก่อนแล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้หานคู่จื่อรู้สึกไม่คาดคิดมาก่อนก็คือเมื่อตอนเช้า เธอเพิ่งจะคิดที่จะไปหาตวนมเจ๋ออยู่เลย แต่เมื่อถึงตอนเที่ยงตวน มู่เจ๋อกลับเป็นฝ่ายมาหาเธอเองเสียอย่างนั้น

แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่เขาคนเดียว แต่ยังมีเฉียวจื้อที่มาพร้อม กับเขาด้วย

เป็นเฉียวจื้อที่ส่งข้อความมาหาเธอให้เธอไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆบริษัท หลังจากที่หาน จื่อไปถึงร้านก็พบว่าคนที่อยู่กับ เฉียวจื้อนั้นเป็นตวนเจอนั่นเอง

ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน นั่นจึงเป็นเหตุให้หานคู่จื่อรู้สึกแปลก ใจขึ้นมา

“เจอกันอีกแล้ว”

ตวนมู่เจ๋อยกกาแฟในมือขึ้นมา ส่งยิ้มที่ยากจะคาดเดาออกมา

ให้กับทาน จื่อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ