เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1565 จุดประสงค์ชัดเจน



บทที่1565 จุดประสงค์ชัดเจน

คิดมาถึงตรงนี้ เธอก็หันไปมองเสียวโต้วหยากับเพิ่งเขือเฟย พวก เธอทั้งสองคนผอมกันมาก ตอนที่เดินร่างกับฝีเท้าก็เลยเบามาก ไม่เหมือนเธอ ที่ทั้งหนักแล้วยังน่าเกลียดอีก

เพียงแค่ชั่วแวบเดียว ในใจของถางหยวนหยวนก็เกิดความ

คิดเล็กๆที่จะลดความอ้วนขึ้นมา

ทุกคนผอมกันทั้งนั้น แต่มีแค่เธอที่อ้วนอย่างนี้

ถางหยวนหยวนที่ตรงไปตรงมา เงยหน้าขึ้นถามอย “H?”

“พี่ชาย”

ฉือนอกจากจะต้องถือกระเป๋าให้เธอแล้ว ยังต้องมา ป้องกันไม่ให้จู่ๆเธอตกลงไปด้วยอีก ก็เลยวางมือลงไปบนแขน เล็ก แต่เพียงแค่แนบลงไปเบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้จู่ๆเธอก็ตกลง ไป

ในตอนนี้ได้ยินเธอเรียกตัวเอง จึงก้มลงไปสบตากับเธอ ดวงตาใสคู่นั้นของถางหยวนหยวนทั้งสนิทและทั้งเป็น ประกาย “หยวนหยวนน่าเกลียดมากเลยใช่มั้ย?”

ได้ยินอย่างนั้น ถือก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “เป็นอะไรไป? ทำไมจู่ๆก็ถามคำถามนี้ออกมา?
ถางหยวนหยวนกัดริมฝีปากตัวเองไปอย่างไม่รู้ตัว จากนั้น ก็ได้เอ่ยพูดออกมา “พี่ชาย ฉันอ้วนมากเลยใช่มั้ย?”

“ใครพูดกัน?” ในดวงตาของฉือซูมีความมืดครึ้มแวบผ่าน ออกมา ใบหน้าเยือกเย็นออกมาทันที “มีคนบอกว่าหยวนหยวน อ้วน?”

“เปล่าๆ”

ถางหยวนหยวนเห็นสีหน้าของพี่ชายเธอเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม ออกมาทันที จึงรีบส่ายหน้าออกไป “ไม่มีใครว่าหยวนหยวนอ้วน เป็นหยวนหยวนเองที่คิดว่าตัวเองอ้วน เสี่ยวโตวหยากับเฟยเฟย พวกเธอผอมกันมากเลย แต่หยวนหยวนกลับ…

ได้ยินอย่างนั้น สายตาของฉือซูกอ่อนลงหลายส่วน หัวเราะ ออกมาเบาๆ “ดูเหมือนว่าเธอจะโตขึ้นแล้วนะ เริ่มแคร์ภาพ ลักษณ์ภายนอกของตัวเองขึ้นมาแล้ว อ้วนนิดหน่อยแล้วยังไง? อ้วนสักหน่อยก็น่ารักนะ

“จริงหรอ?” คำพูดตรงท่อนหลัง ได้ปัดเอาความทุกข์ใจของ ถางหยวนหยวนหายไปจนหมด “พี่ชายไม่ได้หลอกหยวนหยวน ใช่มั้ย?”

“พี่เคยหลอกเธอเมื่อไหร่กัน?”

ริมฝีปากของฉือซูเผยรอยยิ้มจางๆออกมา เผยออกมาบน ใบหน้าหล่อ ตรงจุดของถางหยวนหยวนนั้น ได้เห็นเข้ากับแสง สว่างที่เข้าปกคลุมร่างของเขาพอดี หน้าม้าที่ปรกลงมาสะท้อน เป็นเงา ออกมา ทําให้โครงหน้าของเขาที่เดิมทีก็ดูล้ำลึกมากอยู่แล้วยิ่งดูเหมือนจริงมากขึ้น

ครั้งแรก ถางหยวนหยวนมองไปอย่างเหม่อลอยเล็กน้อย คิด ว่าพี่ชายหล่อมากเลย

เมื่อก่อนตอนม.ต้น เพื่อนร่วมชั้นของเธอหลายคนก็พูดกันทั้ง นั้นว่าพี่ชายของเธอหล่อมาก ตอนนั้นถางหยวนหยวนยังไม่ได้มี ความรู้สึกอะไร เพียงแค่ถามออกไปเพียงเท่านั้น “หล่อหรอ? ทำไมฉันไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลยล่ะ?”

“เธอไม่รู้สึกอะไรเพราะว่าเธอเห็นหน้านี้มาตั้งแต่เด็กแล้วไง เห็นจนชินชาไปแล้ว เป็นความเบื่อหน่ายต่อความสวยความงาม นี้ เธอก็เลยไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับพวกเราแล้ว พี่ชายของเธอนั้น หล่อจนน่าตกใจเลยล่ะอ้ากกก!”

ตอนนั้นถางหยวนหยวนไม่ได้สนใจผู้หญิงพวกนั้นเลย ถึง แม้ว่าพี่ชายจะหล่อแค่ไหน นั่นก็แค่หล่อ ไม่เห็นจะต้องตื่นเต้นกัน ขนาดนั้นเลยไม่ใช่หรือไง?

จวบจนถึงตอนนี้ ในทันใดนั้นเองถางหยวนหยวนก็เพิ่งจะรู้ซึ้ง ขึ้นมาว่าพี่ชายนั้นหล่อมากจริงๆ

สุดแสนจะบรรยายออกมาได้ ถางหยวนหยวนที่จากเดิมแก้ม แดงระเรื่อออกมา ตอนนี้แม้แต่สีที่อยู่ตรงหูเองก็เปลี่ยนตามไป เช่นกัน

“หืม? ทำไมหน้าแดงเสียแล้ว?” ฉือ หลังจากที่สังเกตได้ว่า ใบหน้าของเธอได้แดงออกมาแล้วนั้น ก็หรี่ตายื่นมือออกไปแตะ ลงไปบนแก้มเธอเล็กน้อย พบว่ามันร้อนเสียจนลวกมือ จึงถามออกไป “ร้อนเกินไปใช่มั้ย?”

ถางหยวนหยวนร้อนที่ไหนกัน? ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเป็นเพราะ รู้สึกเขินอายขึ้นมาตอนที่คิดเพ้อเจ้อเมื่อกี้นี้เท่านั้น แต่เธอกล้า พูดออกไปที่ไหนกัน เพราะถึงยังไงพูดคำพูดอย่างนี้ออกไปมัน รู้สึกเหมือนจะดูน่าอับอายสุดๆไปเลยนี่นา? เธอก็เลยทำได้เพียง แค่พยักหน้าออกไปอย่างนั้น

“งั้นก็พักสักหน่อย?”

“ไม่ ไม่ต้อง” ถางหยวนหยวนส่ายหน้าไปมา แล้วยังฉุดดึง ชายเสื้อของอเล็กน้อย “พี่ชายไม่ต้องหรอก พวกเราเดินไป ถึงไหล่เขาก่อนแล้วค่อยพักกันเถอะ เราเพิ่งจะเดินออกมาได้ไม่ นานเท่าไหร่เอง”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน?”

คำพูดหลุดออกไป ถือก็หยุดฝีเท้ามองไปยังกลุ่มคนทันที “เหนื่อยแล้ว พักกันสักหน่อย

พูดจบ ก็พาถางหยวนหยวนไปพักตรงที่ว่างข้างๆ คนอื่นเจอ สถานการณ์อย่างนี้เข้าไปก็ทำได้เพียงแค่หยุดฝีเท้าไปตามๆกัน จงเพิ่งเอ่ยเยาะออกมาเล็กน้อย “นี่เพิ่งจะเท่าไหร่เอง พี่ก็เหนื่อย เสียแล้ว? พี่ พี่ยังไหวอยู่หรือเปล่า?”

คำพูดหลุดออกไป ตอนที่จงเพิ่งเห็นถางหยวนหยวนที่หน้า แดงก่ำอยู่ข้างๆเขา ก็เข้าใจอะไรๆขึ้นมาทันที จึงเอ่ยเย้าแหย่ ออกไปด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ ที่แท้ก็เป็นหยวนหยวนที่เหนื่อยนี่เอง อยากให้พี่เฟิงช่วยแบกหรือเปล่าครับ?”

คําพูด พูดออกมาจนทำเอาใบหน้าของถางหยวนหยวนแดง ออกมามากกว่าเดิม จึงรีบโคลงศีรษะออกมาทันที

“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่เฟิง หยวนหยวนหนักเกินไป พี่แบกไม่ไหว หรอก”

“ใครบอกว่าพี่แบกไม่ไหว? น้องหยวน พี่เฟิงของเธอมีกำลัง แขนที่น่าเหลือเชื่อเชียวล่ะ อย่าว่าแต่แบกเธอเลย แบกเธอมือ เดียวขึ้นเขาก็ไม่มีปัญหาเลย

“นายไม่พูดมากสักวันมันจะตาย?” เสียงเย็นชาของฉือ ดัง

เข้ามา

จงเฟิงเบ้ปาก “ฉันก็แค่พูดกับน้องหยวนไม่กี่คำเอง ทำไมพี่ ถึงต้องขัดไปเสียทุกครั้งเลยล่ะ? โชคดีที่เธอไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ของพี่นะ นี่ถ้าเป็นน้องสาวแท้ๆ พี่คงจะเข้ามายุ่งมากขึ้นกว่าเดิม แน่เลย?”

พูดจบจงเฟิงก็เข้าไปนั่งลงข้างๆถางหยวนหยวน รูดซิบ กระเป๋าเป้ของตัวเองออก หยิบนมเปรี้ยวออกมาขวดนึงแล้วส่ง ให้เธอ

“เอาไป”

ตอนแรกถางหยวนหยวนก็ยังรู้สึกกังวลจากการเข้าใกล้ของ เขา ไม่รู้ว่าต่อจากนี้พี่เพิ่งจะพูดอะไรมาทำให้เธอรู้สึกลำบากใจ อีก แต่พอเห็นเขาหยิบนมเปรี้ยวขวดนึงส่งมาให้เธอ และนมมาด้วยใบหน้ายิ้มเริงร่าทันที

เปรี้ยวขวดนั้นก็ยังเป็นรสลูกพืชสีเหลืองที่เธอชอบมากอีก จึงรับ

“ขอบคุณค่ะ เพิ่ง

เห็นท่าทางเธอกอดนมเปรี้ยวขวดนั้นอย่างมีความสุข นัยน์ตา ของจงเฟิงก็ปรากฏดวงดาวดวงน้อยๆที่เปล่งประกายระยิบ ระยับออกมาทีละดวง ส่องสว่างจนน่าตกใจ

“ขอบคุณอะไรกัน? รีบดื่มสิ

ฉือที่อยู่ข้างๆมองการกระทำของเขา แล้วมองดูถางหยวน หยวนที่กำลังกอดนมเปรี้ยวรสพืชสีเหลืองอยู่ในอ้อมอกอีกที สายตาที่มองจงเฟิงนั้นมันดูอ่านยากอยู่หลายส่วน

สายตาของเมิ่งเขือเฟยเองก็มองสำรวจไปยังใบหน้าของจง เพิ่งเช่นเดียวกัน จุดประสงค์ของเขา…มันชัดเจนเกินไปจริงๆ ไม่ ปิดซ่อนอะไรเลยสักนิด

สองหนุ่มแห่งตระกูลหานยืนอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไร แต่เดี๋ยวโต้

วหยากลับวิ่งเข้าไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

“พี่เฟิง เสี่ยวโต้วหยาก็อยากดื่มเหมือนกัน!!

“เสี่ยวโต้วหยา? พี่เฟิงจะขาดของเธอไปได้ยังไงกัน? มาๆๆ นี่เป็นรสบลูเบอร์รี่รสโปรดของเธอ”

หลังจากที่เสี่ยวโต้วหยาเข้าไป บรรยากาศก็ผ่อนคลายขึ้นมาทันที
หลังจากที่เธอหยิบนมเปรี้ยวมาแล้ว จงเฟิงก็หยิบอีกขาดขึ้น มาส่งให้เพิ่งเขือเฟยแล้วเอ่ยออกไปว่า “น้องเขือเฟย ของเธอก็มี นะ แต่พี่เฟิงเพิ่งรู้จักเธอ ไม่รู้ว่าเธอชอบดื่มรสอะไร ก็เลยเอารส ที่เหมือนกับของหยวนหยวน ได้หรือเปล่า?

เพิ่งเขือเฟยที่ถูกเอ่ยถึงก็ชะงักไปเล็กน้อย นานกว่าจะตอบ กลับไป “ฉัน ฉันอะไรก็ได้

จากนั้นเธอก็เข้าไปรับนมเปรี้ยวขวดนั้นมา “ขอบคุณ”

“เฟยเฟย มานั่งสิ

ถางหยวนหยวนกวักมือมาทางเมิ่งเขือเฟย จากนั้นก็ผลักร่าง จงเฟิงออกไป “พี่เฟิง พี่เขยิบออกไปหน่อยสิ ให้เฟยเฟยเข้า มานั่ง”

“ซีส์ ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีสักนิดเลยนะ นมเปรี้ยวในมือ ยังดื่มไม่หมด ก็เริ่มถีบหัวส่งกันเสียแล้ว”

ถึงจะพูดไปอย่างนั้น แต่จงเฟิงก็ยังยิ้มออกไปด้วยความรัก ใครที่ประดับอยู่เต็มหน้าไปหมด จากนั้นก็ลุกขึ้นยกที่นั่งให้กับ เมิ่งเช่อเฟย

ส่วนเสียวโต้วหยาก็ได้วิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าของฉือซู “พี่ รีบลุกขึ้นสิ ฉันอยากนั่งกับพี่หยวนหยวน

ฉือที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงมาตลอดในที่สุดเขาก็ขยับออกไป เล็กน้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ