เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1354 คุยกันหน่อยงั้นเหรอ



บทที่1354 คุยกันหน่อยงั้นเหรอ

เสี่ยวเหยียนนั่งว่างอยู่ที่ร้านราเมนตลอดทั้งวัน

เพราะว่าเธอเอาแต่ทำเรื่องผิดพลาด ใส่ของผิดบ้าง เสิร์ฟผิด คนบ้าง อยากจะช่วยแต่กลับเป็นภาระมากกว่าเดิม

สุดท้ายพนักงานที่ร้านก็ทนดูไม่ได้อีกต่อไป ก็เลยรวมตัวกัน พยุงเธอห้องส่วนตัวชั้นสอง ให้เธอพักผ่อน

หลังจากที่เสี่ยวเหยียนนั่งลง ก็เอาแต่นอนฟุบลงที่โต๊ะอย่าง เหม่อลอย

เธอเอามือลูบท้องตัวเองบ้างเป็นครั้งคราว แววตานั้นว่าง

เปล่า

ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตอนนี้ด้วย?

ถ้าเกิดว่า…ถ้าเกิดว่าเธอรู้เร็วกว่านี้คงจะดี ก็คงไม่พัวพันกัน อุตลุดเหมือนตอนนี้

ยิ่งคิดยิ่งทุกข์ใจ เพราะว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืน ตอนนี้ตา ก็เลยล้าอย่างมาก แต่ว่าเธอก็ไม่ง่วงเลย พอหลับตาลงคำพูดที่ แผนกต้อนรับก็จะดังขึ้นมาในหัวของเธอ

สวีเย็นหวั่นเป็นคู่หมั้นของหานชิง ส่วนเธอคือมือที่สาม

ดังนั้นเธอเลยไม่กล้านอน แต่ว่าร่างกายที่ตั้งครรภ์ บวกกับที่ เธอนอนไม่หลับทั้งคืน ตอนนี้เธอง่วงแล้ว
สุดท้ายเสี่ยวเหยียนก็นอนฟุบหน้าบนโต๊ะแล้วก็หลับไป แต่ว่าเธอฝันร้าย

ในฝันนั้นสวีเย็นหวั่นไล่ให้เธอติดกำแพง น้ำเสียงเด็ดขาด

“ฉันต่างหากคือคนที่ควรจะยืนอยู่ข้างเขา ฉันคือคู่หมั้นของ เขา ส่วนเธอนั้นคืออะไรกัน? มือที่สามอย่างเธอ มีค่าพอที่จะมา กับฉันเหรอ? ”

หลังจากนั้นพนักงานบริษัทตระกูลหานก็ต่างมาที่เธอแล้วก็ เยาะเย้ยเธอทุกรูปแบบ

“พระเจ้า เธอหน้าด้านจริงๆ เป็นคนที่เสียบเท้าเข้ามาใน ความสัมพันธ์ของคนอื่น เป็นเขามันดีขนาดนั้นเลยรึไง? ผู้หญิง ดีๆ คนหนึ่งทำอะไรไม่ดีก็มาเป็นชู้ไร้ยางอายจริงๆ

“จริง วันๆ วิ่งร่อนเอาซุปมาให้ผู้ชายที่บริษัท เธอจะอาศัยสิ่งนี้ เพื่อเอาชนะใจผู้ชายยังงั้นเหรอ? ผู้หญิงแบบนี้ ไม่มีข้อดีเลย แม้แต่นิดเดียว ไม่ช้าก็เร็วก็จะถูกทิ้ง

“ก็เลยทําได้แค่เป็นชู้ไง เป็นไม่มีทางจบได้ด้วยดีหรอก”

“ยัยที่น่ารังเกียจ ไสหัวออกไปจากบริษัทตระกูลหานได้ไหม? อย่ามาที่บริษัทเราอีก เห็นเธอแล้วสะอิดสะเอียน

คนพวกนั้น ในความฝัน ทั้งเคยเห็น หรือไม่เคยเห็น สีหน้าที่ มองเธอต่างเต็มไปด้วยความรังเกียจ ปากก็ประณามเธอ

เสี่ยวเหยียนถูกบังคับให้ถอยหลังจากคำด่าที่มืดฟ้ามัวดินพวกนี้ ถอยไปจนไม่รู้ว่าไปชนกับใครเข้า

เธอเงยหน้าขึ้นมอง ก็สบตาเข้ากับสายตาที่เย็นชาของทานซึ่ง พอดี

เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เย็นชา ปากก็พูดคำพูดที่แสนจะ ไร้เยื่อใย

“ไม่ต้องมาพัวพันฉันอีกต่อไปแล้ว”

ไม่ ไม่ใช่แบบนี้ เธอไม่ได้ตั้งใจจะไปพัวพันกับเขานะ

ถ้าเกิดว่าเธอรู้ว่าเขามีคู่หมั้นแล้วล่ะก็ เธอจะไปพัวพันกับเขา ได้ยังไง เธอเปล่าเลย

เสี่ยวเหยียนเอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุด เธอปฏิเสธ และถอยหลัง ไปอีก ทันทีหลังจากนั้นเท้าหลังเธอก็เหยียบความว่างเปล่าแล้วก็ กลิ้งลงมาจากบันได

“โอ้ย! ”

เสี่ยวเหยียนกรีดร้องและตื่นขึ้นมาจากความฝัน เอามือลูบท้อง ของตัวเอง หัวใจเธอเต้นแรงมากจนแทบจะหลุดออกมาจากลำ

คอ จุดจบของความฝัน เธอตกลงมาจากบันได หลังจากนั้นเลือดก็

ไหลออกมาจากขาทั้งสองข้าง ปวดท้องเหมือนจะตายให้ได้

ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะว่าความรู้สึกในความฝันนั้นมันเหมือน จริงเกินไปรึเปล่า เสี่ยวเหยียนรู้สึกปวดท้องเบาๆ
เหงื่อไหลซึมออกมาจากหน้าผาก หยดลงที่พื้น เสี่ยวเหยียนยัง ไม่ทันหายรู้สึกหวาดผวา ประตูด้านหลังของเธอก็ถูกเปิดออก

หลวยเหม่ยรีบวิ่งเข้ามาอย่างกังวลและย่อตัวลงข้างๆ เธอ

“เหยียนเหยียน เป็นอะไรไป? ”

พอเห็นหลัวหุยเหม่ย เสี่ยวเหยียนก็รีบดึงมือที่กุมท้องอยู่กลับ ทันที

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นก็ส่ายหน้า “แม่ หนูไม่ ได้เป็นอะไร….

“ร้องดังขนาดนั้นยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรอีกเหรอ? ดูสิเหงื่อ แตกหมดแล้ว….หลวยเหม่ยหยิบทิชชูมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก ให้เธออย่างปวดใจ

“หนูไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ” เสี่ยวเหยียนปัดมือของเธอออก แล้วก็ฟุบกลับไปบนโต๊ะอย่างอ่อนเพลีย แล้วก็พูดนิ่งๆ ว่า “เมื่อกี้ หนูก็แค่ฝันร้าย ไม่ยังงั้นหนูก็คงไม่ร้องดังขนาดนั้นแล้วทำให้แม่ เป็นห่วงหรอกค่ะ”

พอพูดจบ เสี่ยวเหยียนก็สูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นก็พูด ว่า “แม่ หนูอยากออกไปข้างนอกหน่อย

หลัวหุ้ยเหม่ยรับพูดต่อ “จะไปไหน? เดี๋ยวแม่ไปเป็นเพื่อน เสี่ยวเหยียนส่ายหน้า “ไม่ได้ไปใกล้ๆ หนูอยากไปต่าง จังหวัดคนเดียว ไปทำใจให้สบาย เดินเล่น
เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว เมืองนี้มันเกี่ยวข้องกับหานซึ่ง เธออยากจะไปจากที่นี่ ไปอยู่เมืองอื่นสักพักหนึ่ง ถึงตอนนั้นอาจ จะดีกว่าก็ได้

“ต่างจังหวัด? “สีหน้าของหลัวหุยเหม่ยไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก “สภาพของลูกตอนนี้ ถ้าให้ลูกไปต่างจังหวัด แล้วแม่จะสบายใจ ได้ยังไง? ”

“ทําไมจะไม่สบายใจล่ะคะ? ”

เสี่ยวเหยียนยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มซีดเซียว “ลูกสาวแม่เป็น ผู้ใหญ่แล้วนะ ไม่ไปฆ่าตัวตายหรือไปโดนคนอื่นหลอกได้หรอก ก็แค่จะไปพักผ่อนให้สบายใจขึ้นหน่อยเท่าไหร่นั้น ฉะนั้นแม่ไม่ ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ วันไหนหนูไม่กลุ้มใจแล้วก็กลับมา แต่แค่ ว่า….ช่วงเวลาที่หนูไม่อยู่ เรื่องที่ร้านก็ต้องรบกวนพ่อกับแม่แล้ว ถ้าเกิดรู้สึกว่าเหนื่อยล่ะก็ ก็ปิดร้านไปชั่วคราวก่อนก็ได้

ตอนนี้เธอไม่มีกระจิตกระใจและกำลังที่จะดูแลร้านแล้ว

ต่อให้มันเป็นการทำให้หลินสวี่เพิ่งผิดหวัง เสี่ยวเหยียนก็รู้สึก ว่ามันไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว คิดซะว่าเธอเป็นคนที่พูดจาเชื่อ ถือไม่ได้ ไม่มีความรับผิดชอบก็แล้วกัน

เสี่ยวเหยียนหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า

การกระทำของเธอว่องไวมาก เรื่องที่ตัดสินใจแล้วก็ลงมือท่า

โดยทันที

ดังนั้นวันนั้นหลังจากกลับไปเธอก็เตรียมจะเก็บเสื้อผ้า ใครจะไปคิดว่าที่ล่างตึกของบ้านตัวเองจะเจอรถของท่านซึ่ง กับ….เจ้าของ

ตอนที่เห็นเขานั้น หานซึ่งไม่รู้ว่ารอเธอมานานแค่ไหนแล้ว

แต่ว่าอาศัยโอกาสตอนที่ท่านซึ่งยังไม่เห็นเธอ เสี่ยวเหยียน รีบเดินไปข้างหน้าอย่างเร็ว อยากจะหลบสายตาของท่านชิงแล้ว ก็ขึ้นตึกไป

ตอนนี้เธอไม่อยากจะเผชิญหน้ากับหานชิง และก็ไม่อยากจะ คุยกับเขาด้วย

แต่ว่าไม่ว่าเธอจะเดินเร็วแค่ไหน ขาของหานซึ่งก็ยังยาวกว่า

เธอ ตามเธอมาได้ทันอย่างรวดเร็ว แล้วก็ขวางทางของเธอเอาไว้ เสี่ยวเหยียน “หลีกไป ฉันไม่อยากจะคุยกับคุณแม้แต่คำ เดียว”

หานชิงมองเสี่ยวเหยียนที่กำลังโกรธ พร้อมกับก้าวไปข้างหน้า อย่างจนปัญญา พูดด้วยเสียงอ่อน “คุยกับฉันอย่างสงบๆ ไม่ได้ เหรอ? ”

คุย?

คุยอะไร?

พอเสี่ยวเหยียนได้ยินคำถามนี้ ก็ได้แต่หัวเราะในใจ

คุยว่าเธอเป็นยังไงบ้างกับการที่กลายมาเป็นมือที่สามยังงั้นเห รอ? ตอนนี้เสี่ยวเหยียนรู้สึกอ่อนไหวกับเรื่องนี้มาก เธอนึกถึงเรื่องที่ทุกคนรู้ว่าสวี่เย็นหวั่นเป็นคู่หมั้นของหานซิง และมีแค่ตัว เธอเท่านั้นที่ไม่รู้ แค่คิดก็เวียนหัวแล้ว

“คุณคนนี้คะ เมื่อคืนฉันน่าจะคุยกับคุณชัดเจนแล้วไม่ใช่เห รอ? พวกเราเลิกกันแล้ว และฉันก็ไม่มีทางเป็นเพื่อนคุณได้ ตอน นี้พวกเราคือคนแปลกหน้า คุณมาขวางทางฉันจะทำอะไรกันแน่? ถ้าเกิดว่าไม่อยากให้ฉันแจ้งตำรวจล่ะก็ ก็รีบหลีกทางด้วยค่ะ

หานซิงที่ขมวดคิ้วอยู่แล้วต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นเพราะคำพูด ของเธอ

ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้เสี่ยวเหยียนจะตัดสัมพันธไมตรี พูดจนถึง ขนาดนี้เลย นี่เขาทําร้ายเธอแรงขนาดไหนกัน?

“เมื่อวาน…….

“พอแล้ว ฉันไม่อยากฟัง! ” เสี่ยวเหยียนเอามืออุดหูพร้อมกับ ส่ายหน้าอย่างแรงแล้วก็ถอยไปด้านหลัง ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร ฉันก็ไม่อยากฟัง ออกไปเดี๋ยวนี้ ไป! ”

เธอยังคงนึกถึงทุกคนที่ถ่มน้ำลายใส่เธอในความฝัน ดวงตาที่ ขยะแขยงเหล่านั้นทำให้เธอรู้สึกกดดัน การป้องกันทางด้าน จิตใจของเธอบอกเธอว่าเธอไม่มีทางสามารถผ่านระดับนี้ไปได้

พอตื่นเต้น เสี่ยวเหยียนก็เริ่มรู้สึกปวดท้องขึ้นมาอีกแล้ว ทำได้ แค่พิงกำแพง ใบหน้าซีดเซียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ