เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1072 พลังแฟนสาวระเบิด



บทที่1072 พลังแฟนสาวระเบิด

ในนาทีที่ชนเข้าไปนั้น เสี่ยวเหยียนรับรู้เพียงความเจ็บที่แผ่ กระจายออกมาจากหน้าผาก จนรู้สึกตาลายวิงเวียนศีรษะขึ้นมา ทันที

กลิ่นอายของความเป็นชายที่รุนแรง โอบล้อมรอบตัวเธอทันที เนื่องจากคนเยอะ ภายในลิฟต์ก็มีเสียงดังโหวกเหวกดังขึ้นมา แต่หลังจากที่เสี่ยวเหยียนได้สติกลับมาว่าตอนนี้ตนกำลังอยู่ ที่ไหน ก็รู้สึกว่าโลกทั้งใบตกอยู่ในความเงียบ

เธอเงยหน้าขึ้นไปอย่างเหม่อลอย มองไปทางหานชิงที่ดึงร่าง เธอเข้ามาสู่อ้อมกอด ดวงตาคู่นั้นเผยให้เห็นแววตาของความ เหลือเชื่อออกมา

นี่คือ…

นี่คือกำลังทําอะไรอยู่?

หานซิงเขา…รู้หรือเปล่าว่าเขากำลังทำอะไรอยู่?

ในตอนที่เสี่ยวเหยียนกำลังมองอีกฝ่ายไปอย่างเต็มไปด้วย ความสงสัย หาเชิงก็ผละร่างเธอออกไปด้วยใบหน้าเย็นชา “เกือบโดนชนเข้าแล้ว ไม่รู้จักหลบ?”

เสี่ยวเหยียนถูกคำพูดของเขาทำเอาเงยหน้าไม่ขึ้นเลยทีเดียว ในตอนที่กัดลงไปบนริมฝีปากตัวเองเบาๆเตรียมที่จะแย้งออกไปแต่ก็ได้ยินหานซิงเอ่ยเสียงเย็นออกไปกับคนที่เข็นรถเข็นเข้ามา คนนั้นพร้อมมองออกไปด้วยสายตาของความเยือกเย็น

“ถึงแม้ว่าจะรีบร้อนแค่ไหน ที่สาธารณะก็ควรระวังหน่อยไม่ใช่ หรือไง? ถ้าชนคนอื่นเขาบาดเจ็บขึ้นมา คิดว่าจะมาขอโทษกัน ง่ายๆก็ได้งั้นหรือไง?”

เขาเป็นประธานบริษัทคนนึง บวกกับออร่าที่เด็ดขาดน่า ยำเกรงจากตัวเขาอีก

ดังนั้นแล้วในตอนนี้ได้เปล่งเสียงนิ่งขรึมออกไป ลิฟต์ที่มีเสียง ดังโหวกเหวกอยู่นั้นก็ได้ตกอยู่ในความเงียบ คนอื่นเขาไม่อยาก วอนหาเรื่องกัน ก็เลยพากันกลั้นหายใจไม่ให้หลุดเสียงออกมา

คนที่เข็นรถเข็นคนนั้นเป็นคนท้องวัยกลางคน สวมชุดที่ทัน สมัยสุดๆ กำลังเป็นคนสูงอายุคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นคู่พ่อลูก กัน

เธอมองมาทางหานซิง เพียงมองไปแวบเดียวก็มองออกได้ ทันทีว่าอีกฝ่ายมีออร่าที่ไม่ธรรมดา ก็คงไม่ใช่คนที่จะหาเรื่อง ด้วยเท่าไหร่นัก

แต่ต่อหน้าผู้คนมากมายแล้วทำเอาเธอสุดจะทนขึ้นมา เธอเอง ก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเหมือนกัน ก็เลยได้ตอกกลับออกไปด้วย อารมณ์ที่เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ

“นี่มันยังไม่ได้ชนโดนเลยไม่ใช่หรือไง? อีกอย่างตอนที่ฉันเข้า มาเด็กอย่างเธอก็ไม่หลบไปหน่อยล่ะ ดูแลผู้สูงอายุหน่อยไม่ เข้าใจหรือไง?”
คนสูงอายุหมายถึงชายชราที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น

เสี่ยวเหยียนนึกไม่ถึงว่าท่านซึ่งจะไปว่าอีกฝ่ายเขาได้ และก็นึก ไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะโต้กลับมาเหมือนกัน บรรยากาศภายใน ลิฟต์ดูเหมือนว่าจะกลับกลายเปลี่ยนมาตึงเครียดขึ้นมาทันที

“ความหมายของเธอก็คือคิดว่าคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นเป็นคน สูงอายุแล้วจะสามารถมาทำเรื่องไม่เห็นหัวใคร แล้วพุ่งชนเข้ามา ตรงๆอย่างนี้ได้?” เสียงของหานซิงเยือกเย็นขึ้นมาอีกหลาย ระดับ

ในระหว่างนั้นเองอุณหภูมิภายในลิฟต์ก็ได้เกิดการ เปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน หญิงวัยกลางคนอับอายไม่ได้พูดอะไรออกมา อีกฝ่ายเพียงแค่

มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนที่จะไปยั่วอารมณ์ได้ด้วยง่ายๆ ในตอนนี้คน

ซราที่อยู่บนรถเข็นก็ได้เอ่ยพูดออกมาอย่างสั่นงก

“ขอโทษนะแม่หนู…ลูกสาวของฉันเธอไม่ได้ตั้งใจ เธอรีบนิด หน่อยนะครับ พวกเรารีบลงไปชั้นล่างกัน ผมต้องขอโทษคุณ แทนเธอด้วยแล้วกันนะครับ”

ชายชรามีความจริงใจออกมา และได้แสดงท่าทีที่ดีออกมา

เดิมทีเสี่ยวเหยียนก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ท่าทางเมื่อกี้นี้ของหญิง วัยกลางคนนั้นมันก็แย่มากจริงๆ แต่มาตอนนี้พอได้ยินชายชรา คนนี้ขอโทษออกมาแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ใจอ่อนขึ้นมาทันที

โบกมือปฏิเสธออกไป “ไม่เป็นไรค่ะคุณตา ถึงยังไงก็ไม่ได้ชนนี่คะ คุณตาไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ

หญิงวัยกลางคนก็เอ่ยออกมาอย่างใจจืดใจดำ “ใช่แล้ว ผู้ หญิงของตัวเองก็ยังรู้เลยว่าไม่ได้ชน ผู้ชายตัวโตอย่างคุณจะมา คิดเล็กคิดน้อยมากมายไปทำไมกัน? ไร้ศีลธรรมจริงๆเลย!”

ได้ยินเธอเกลียดชังทานชิงอย่างนั้นแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ได้ยิน คิ้วออกมา ไฟโกรธที่ได้หายไปเมื่อกี้นี้ ในตอนนี้นั้นได้พรั่งพรู ออกมา

“คุณพูดบ้าอะไร? ที่ฉันบอกว่าไม่เป็นไรเพราะเห็นแก่คุณตา คุณนิสัยดีขนาดนี้ ทำไมถึงได้มีลูกสาวอย่างนี้ได้ ทั้งๆที่ตัวเอง เกือบจะชนคนอื่นเขาแล้ว ยังจะทำเป็นเชิดหน้าเชิดตาโทษคนอื่น เขาอีก ทําเป็นมาแสดงท่าทางว่าคุณถูกอยู่ฝ่ายเดียวอีก!”

จู่ๆเด็กสาวก็ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา หญิงวัยกลางคนเองก็ไม่ ได้คาดคิดมาก่อน เบิกตากว้างมองไปอย่างไม่อยากเชื่อ “เธอ…”

“เธออะไร ถ้าจะให้ทะเลาะกันน่ะนะมารดาไม่เคยแพ้ใครหรอก นะ อย่าเห็นว่าคนอื่นเขาอายุน้อยกว่าแล้วคิดว่าเขารังแกได้ง่าย ไปหน่อยเลย บอกว่าเขาไร้ศีลธรรม ไม่ได้ดูตัวคุณเองเลยนะว่า ตัวเองมีศีลธรรมอะไรกัน? เกือบจะชนคนอื่นเขาไม่ว่าแต่ยังไม่ พูดขอโทษอีก ท่าทางอย่างนี้ฉันว่ามันช่างทุเรศเสียจริงๆเลยนะ คะ!”

ผู้คนภายในลิฟต์เองก็นึกไม่ถึงกันว่าเด็กสาวจะมีพลังในการ ระเบิดอารมณ์ที่แรงกล้าขนาดนี้ได้ เมื่อกี้นี้ยังอ่อนแอหดตัวอยู่ใน การปกป้องของชายหนุ่มอยู่เลย
แต่ในตอนนี้? กลับมีท่าทางเดือดดาล แยกเขี้ยวยิงฟันตวาด ระเบิดอารมณ์ใส่อีกฝ่าย แสดงท่าทางปกป้องพวกตัวเองออกมา เหมือนกับสัตว์ที่ถูกรุกรานอาณาเขตเข้าไม่มีผิด

พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็ได้เก็บเขี้ยวเล็บที่แหลมคมของตนกลับ ไป ส่งรอยยิ้มหวานไปทางชายชรา พร้อมเอ่ยเสียงหวานออกไป

“คุณตาคะ ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณตานะคะ เรื่องนี้ไม่ได้ เกี่ยวกับคุณตา คุณเป็นคุณตาที่ดีท่านนึงเลยค่ะ

ชายชรา “.….”

เกิดอะไรขึ้น? เขาอยู่ที่ไหนกัน?

แม้แต่หานซิงเองก็ยังมองท้ายทอยหญิงสาวไปอย่างอึ้งตะลึง เดิมทีเธอก็ไม่ได้อารมณ์ดีอะไรอยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าจะระเบิด ออกมาเมื่อกี้นี้ได้?

คนภายในลิฟต์ยืนชมเหตุการณ์กัน

ส่วนในตอนนี้ ลิฟต์เองก็ได้เคลื่อนไปยังจุดหมาย หญิงวัย กลางคนก็ได้ถูกเสี่ยวเหยียนตอกกลับไปจนพูดไม่ออกมาเลยสัก คำเดียว โกรธจนส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมา ถือโอกาสใน ตอนที่ประตูลิฟต์เปิดออกเป็นชายชราออกไปด้วยอารมณ์ ฉุนเฉียว

คนอื่นที่อยู่ภายในลิฟต์เห็นภาพนั้นก็ได้เอ่ยยิ้มๆออกมา “แม่ สาวน้อย นี่เธอพลังแฟนสาวระเบิดสินะ”
“ใช่ เมื่อกี้นี้ผู้หญิงคนนั้นก็เกินไปจริงๆ เป็นผู้ใหญ่ของตัวเอง โดยที่ไม่ระวังเลยสักนิด คนแบบนั้นมันน่าเกลียดเสียจริง แล้วยัง มาทำตัวระรานคนอื่นเขาอีก

“แม่หนูน้อย ทำได้สวยเลย อีกอย่างแฟนของแม่หนูก็หล่อมาก เหมือนกันนะเนี่ย!”

หานซึ่งผู้มีใบหน้าหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่ เสี่ยวเหยียนก็ตัว เล็กน่ารัก เมื่อกี้นี้หานซิงก็ยังดึงหญิงสาวเข้าไปสู่อ้อมกอด แล้ว ยังทวงความเป็นธรรมให้กับเธออีก ในสายตาคนนอกนั้นไม่ว่า จะมองยังไงก็คิดว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก

ดังนั้นแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่การกระทำของเสี่ยวเหยียนจะดู เป็นการปกป้องแฟนหนุ่มในสายตาของทุกคน

พอถูกผู้คนเย้าแหยออกมาอย่างนี้แล้ว สีหน้าของเสี่ยวเหยีย

นก็ได้เปลี่ยนไปในทันที

“เอ่อ…ไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิดนะคะ ฉัน…

เธอจะอธิบายออกไปยังไง บนใบหน้าของเสี่ยวเหยียนก็แทบ จะบีบมารวมกัน

เมื่อกี้นี้เธอได้ยินคุณป้าวัยกลางคนต่อว่าหานซึ่งไร้คุณธรรม จนเธอโกรธเดือดดาลหน้าเขียวคล้ำขึ้นมาทันที เดิมทีก็ไม่ได้คิด ว่าทำอย่างนี้แล้วมันจะเกิดผลอะไรอย่างนี้ขึ้นมา ตอนนี้…

เสี่ยวเหยียนก็เหลือบมองหานจึงไปแวบนึง
บนใบหน้าหล่อของท่านซึ่งยังคงเรียบนิ่งไร้อารมณ์ดังเดิม มี เพียงนัยน์ตาดำสนิทคู่นั้นที่จ้องมองมายังเธอ หลังจากที่สายตา ของทั้งสองคนสบเข้าหากัน เสี่ยวเหยียนก็รีบหลบไปอย่าง รวดเร็ว

ภายในลิฟต์มีคนเยอะมาก เธอก็เลยไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไร ออกไป

ดังนั้นแล้วเสี่ยวเหยียนก็เลยทำได้เพียงก้มหน้าลงไป ในเวลา นั้นเองก็รู้สึกถึงสายตาที่มองลงมาจากตรงด้านบนศีรษะของเธอ อยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นแล้วเสี่ยวเหยียนก็เลยเริ่มคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อคืนเธอสระผมแล้วหรือยังเนี่ย? ตอนนี้ผมยุ่งหรือเปล่า? ไม่รู้เหมือนกันว่าบนหัวจะมีรังแค หรือว่าจะมีกลิ่นแปลกๆออก มา?

คิดฟุ้งซ่านไปอย่างนั้นแล้ว ในที่สุดลิฟต์ก็มาถึงชั้นหนึ่ง เสี่ยวเหยียนเดินตามหลังหานชิงออกไปจากลิฟต์

เธอยังคงรักษาระยะห่างจากหานชิง เพียงแต่เมื่อกี้นี้ในลิฟต์ พวกเขาทั้งสองคนยืนอยู่ใกล้กันมาก บนร่างเธอในตอนนี้ก็ เหมือนกับว่าจะยังคงมีกลิ่นอายของหานซึ่งอยู่

สงบ เยือกเย็น

เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากเบาๆ นึกย้อนไปถึงเรื่องทั้งหมดใน ลิฟต์เมื่อกี้นี้
อ้อมกอดของเขา…มันช่างอบอุ่นมากจริงๆ

ไม่สิ!

เสี่ยวเหยียนส่ายหัวออกมาทันที เธอกำลังคิดอะไรอยู่?

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ได้ตัดสินใจดีแล้ว แต่มาถูกอ้อมกอดเดียว มาทำให้พ่ายแพ้ไป? ไม่ เป็นอย่างนี้ไม่ได้นะ

หลังจากที่เสี่ยวเหยียนได้สติกลับมานั้น ก็ได้ตามหานชิงไปถึง ลานจอดรถ

จากนั้นก็ได้นึกเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

ก็คือครั้งที่แล้วเสี่ยวหมี่โต้วเหมือนจะเป็นเขาที่เป็นคนส่งมา อย่างนั้นแล้วหานซึ่งก็ควรจะรู้ว่าบ้านเธออยู่ที่ไหนถึงจะถูก ใน เมื่อรู้แล้วว่าบ้านเธออยู่ที่ไหนแล้ว ทำไมยังให้เธอมานำทางให้ อีก?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ