เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1047 เก่งมากๆ



บทที่1047 เก่งมากๆ

หลังจากวางสายไปแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วกลับมาคิดดูก็รู้สึกว่าผิด ปกติ นี่เวลาเพิ่งผ่านไปนานแค่ไหนเอง แด๊ดดี้จะมีความสามารถ จัดการเรื่องทุกอย่างได้เรียบร้อยจริงๆ เหรอ ? แล้วบริษัทที่อยู่ อย่างประเทศล่ะจะทำอย่างไร ? คุณตาทวดก็อายุมาก โอกาสที่ เขาจะไปบริษัทก็น้อยมากแล้ว แค่หาเวลาไปเซ็นเอกสารใหญ่ๆ

ส่วนที่เหลือก็มีผู้จัดการแต่ละฝ่ายดำเนินการ ไม่จำเป็นต้องให้ เขาไปกังวลเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนั้น

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถอยู่ได้อย่างสบายๆ อย่างไรก็ตาม อายุมากแล้ว ถ้าเขาจะต้องกลับประเทศจริงๆ แล้ว เรื่องบริษัทจะจัดการอย่างไรล่ะ ?

เสี่ยวหมี่โต้วเริ่มจะกังวลขึ้นมา หลังจากวางสายโทรศัพท์ไป

แล้ว คิดอยู่ชั่วครู่จึงได้ไปหาตาทวดยถือ

ในตอนนี้ฉือจีนสวมแว่นสายตายาวขอบทองกำลังเปิดการ ประชุมทางวิดีโออยู่ในห้องอ่านหนังสือ เสี่ยวหมี่โต้วแอบดูอยู่ที่ ประตู สังเกตได้ว่า แม้ว่าฉือจินจะอายุมากแล้ว แต่บนใบหน้า ของเขายังมีลักษณะที่น่าเกรงขามและทรงพลังในการเปิดประชุม ระหว่างคำพูดมีแนวคิดที่ชัดเจนพร้อมกับรัศมีที่แผ่ขึ้นด้วยตัวเอง

ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมาก ลักษณะท่าทางเช่นนี้ ของตาทวดดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรมากนี้
ฉือจีนทําสีหน้าเคร่งขรึม ตอนที่หลานชายน้อยของเขาไม่อยู่ บนใบหน้าของเขาจะไม่มีรอยยิ้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอน ทํางาน คนอื่นๆ ที่อยู่ต่อหน้าก็ไม่มีใครกล้าหยอกล้อตามอำเภอ ใจ

อาจเป็นเพราะมีอายุมากแล้ว ดังนั้นดวงตาของเขาจึงลึกมาก ตาดูทรงพลังและเคร่งขรึมมาก

“อืม เรื่องนี้ตัดสินใจแบบนี้เลยนะ พวกคุณรีบไปปฏิบัติตาม เลขาอาหลินไปติดตามความรวดเร็วในการดำเนินการ มี สถานการณ์พิเศษอะไรก็รายงานตลอดเวลา”

พูดจบ ขณะที่ฉือจินต้องการพูดอะไรอีก แต่ทันใดนั้นก็ เหลือบไปเห็นร่างหนึ่งอยู่ที่ประตู

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย คิดว่าคนรับใช้คนไหนมัน

อยากตายถึงได้ฝ่าฝืนข้อห้ามของเขา แต่เมื่อเงยหน้ามองไปก็ได้

สบกับดวงตาคู่หนึ่งที่ดำขลับราวกับลูกปัดแก้ว

เสี่ยวหมี่โต้ว ?

ความเคร่งขรึมที่อยู่บนตัวของฉือจีนก็เปลี่ยนไปทันที คนที่ อยู่ในวิดีโอฝั่งนั้นก็สังเกตได้อย่างชัดเจน เมื่อได้มองกันก็ได้ยิน ยู่ฉือจินพูดขึ้น “ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องอื่นก็จบแค่นี้ เลย ฉันเหนื่อยแล้ว”

“ครับ”

ฉือจินปิดวิดีโอ จากนั้นก็ถอดแว่นสายตายาออกมาแล้วโบกมือให้กับร่างเล็กๆ ตรงทางเข้าประตูนั้น

“มาก็มาแล้ว ทำไมคุณไม่เข้ามา ?”

เสี่ยวหมี่โต้วซ่อนตัวอยู่นอกประตู แล้วยื่นมือปิดปากของตัว เอง ส่วนตาก็กะพริบอย่างรุนแรง

หลังจากได้ยินฉือจินพูดกับเขาแล้วเขาจึงได้หันมาแล้วก้าว ขาสั้นเล็กๆ เดินไป

“คุณตาทวด ~”

ทันทีที่ฉือจินได้ยินเด็กน้อยเรียกเขาว่าคุณตาทวดอย่างออก อ้อน หัวใจที่แข็งเย็นก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยนใน ทันที เขาจึงยื่นมือออกมาให้กับเสี่ยวหมี่โต้ว

“เจ้าเหลนผู้ว่านอนสอนง่าย มาหาตาทวดตรงนี้”

เสี่ยวหมี่โต้วก็เดินไปอย่างว่านอนสอนง่าย

“ทำไมมาแล้วถึงไม่เข้ามา ? ซ่อนอยู่นอกประตูแอบมองเห รอ ?” ยูฉือจินดึงเขามานั่งบนตัก จากนั้นก็ช่วยจัดเสื้อให้เหลน เมื่อพบว่าเสี่ยวหมี่โต้วสวมเอน้อยชิ้น จึงขมวดคิ้วขึ้น “ตอนนี้ อากาศหนาวมาก ทําไมคุณถึงสวมเสื้อน้อยชิ้นขนาดนี้ล่ะ ? คน รับใช้ไม่ได้ดูแลคุณให้ดีใช่ไหม ?

“ไม่ใช่ครับคุณตาทวด คนรับใช้ พี่สาว และคุณน้าก็ดีกับเสี่ยว หมี่โต้วมาก แต่เสี่ยวหมี่โต้วเองที่ไม่หนาว

เมื่อพูดจบเสี่ยวหมิโต้วก็กอดแขนยู่ อจินโดยตรง
“คุณตาทวดครับ ที่เสี่ยวหมี่โต้วไม่ได้เข้ามาเมื่อกี้เพราะเห็นว่า คุณตาทวดยังพูดอยู่ ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วก็เลยไม่ได้เข้ามารบกวน คุณตาทวด”

“ว่านอนสอนง่าย” เฉือจนรู้สึกปลื้มใจที่เสี่ยวหมี่โต้วรู้เรื่อง และเข้าใจคน เมื่อได้อยู่ด้วยกันในช่วงนี้ก็สังเกตได้ว่าผู่จื่อ สอน เด็กคนนี้ได้ดีมาก

แม้ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งที่สูง แต่ก็เจอเด็กที่ดื้อมาไม่น้อย แม้ว่าจะเป็นเด็กของผู้ประกอบการรายใหญ่ แค่พื้นผิวดูเหมือน จะว่านอนสอนง่าย แม้ว่าจะทักทายอย่างสุภาพ แต่บางส่วนใน สายตาก็เต็มไปด้วยรำคาญและเกลียดชัง

แต่บางส่วนก็แข็งทื่อเกินไป เหมือนเครื่องจักร แต่เสี่ยวหมี่โต้วจะต่างกัน

ตอนที่เขาทักทายกับคุณหรือพูดคุยกับคุณ ในสายตาก็เต็มไป ด้วยความเฉียบแหลมและจริงจัง ทำให้คุณไม่สามารถมองข้าม แต่ละคำพูดของเด็กคนนี้ ขณะที่สนทนากันก็เป็นไปอย่างราบรื่น และสบาย ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร เด็กคนนี้ก็สามารถตอบได้เสมอ ทุกครั้งจะอยู่เหนือความคาดหมายของคุณ

แม้แต่บางเรื่องที่คุณไม่รู้ เขาก็สามารถพูดได้อย่างสมเหตุสม ผล

เหลนของตนฉลาดขนาดนี้ นอกจากฉือจีนรู้สึกปลาบปลื้ม แล้วยังชื่นชมยินดีมาก
หากทรัพย์สินกับบริษัทของเขาจะยกให้ลูกหลานของเขา แล้ว เย่ไม่เป็นไม่ต้องการ ถ้าอย่างนั้น…..เขาสามารถยกให้เหลน ของเขาได้

เมื่อความคิดแบบนี้เริ่มก่อตัวในสมอง ก็ไม่สามารถกระจาย

หายไปได้ ตอนนี้ฉือจินได้วางแผนแบบนี้แล้ว ก่อนหน้านี้เขายังกังวลว่า หลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้ว จะมอบสมบัตินี้ให้กับใคร ?

เมื่อหาเย่ ไม่เชินเขาก็ดีใจมาก คิดว่าเปลี่ยนชื่อให้เขาแล้วเขา จะสามารถอยู่และช่วยดูสมบัตินี้ให้ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าสุดท้าย เขาจะกลับประเทศ ดังนั้นช่วงนี้ฉือจินก็เริ่มจะกังวลขึ้นมาอีก จน กระทั่งมีความคิดที่จะให้เสี่ยวหมี่โต้วสืบทอดสมบัติเหล่านี้ คือ จนรู้สึกว่าความเป็นห่วงของตนเองมีพื้นที่ให้อยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่อเย่ไม่เซินโทรมาบอกเขาว่าจะรับเสี่ยวหมี่โต้วกลับ ประเทศ ยูฉือจินก็ได้บอกความคิดนี้ให้กับเขา ในตอนนั้นเย่ไม่ เซินก็เงียบอยู่ชั่วขณะ แล้วได้บอกเขาไป

“ผมกับมู่จื่อก็เคารพความคิดของเสี่ยวหมี่โต้ว แม้ว่าเขาจะยัง เป็นเด็ก แต่เขาก็มีความสามารถในการคิดอิสระ ดังนั้นคุณ ตาทวดสามารถพูดคุยกับเขาได้ ถ้าเขาเต็มใจรับมรดกหลังจาก

เป็นวัยผู้ใหญ่ ถ้าเช่นนั้นผมกับมู่จื่อก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม เส้นทางหลังจากวัยผู้ใหญ่เขาก็เป็นคนเลือกเอง พ่อแม่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปยุ่ง
ตราบใดที่เขาไม่หลงผิด

ดังนั้นเรื่องนี้เย่ไม่เซินกับฉือจินจึงได้ตกลงกัน ให้ฉือจินไป พูดคุย ส่วนความกังวลของฉือจีนมีทางออกแล้ว จึงได้รับปาก กลับประเทศด้วยกันกับเสี่ยวหมี่โต้ว

ในบริษัทของเขามีคนที่เชื่อถือได้ที่สามารถช่วยดูแลเป็นการ ชั่วคราว ดังนั้นสามารถกลับประเทศไปอยู่กับพวกเขา แล้ว สามารถหาเวลากลับมาดู

“คุณตาทวดครับ เรื่องของบริษัทยังมากเลยเหรอครับ ?”

ช่วงที่อยู่ด้วยกันนี้ ทั้งสองคนก็ได้สนิทกันไม่น้อย เฉือจินช่วย เขาจัดเตรียมเสื้อผ้า เสี่ยวหมี่โต้วก็ยื่นมือที่อุ่นๆ ของเองไปอุ่นที่ หูของฉือจีน อุ่นไปด้วยพลางถามไปด้วยอย่างออดอ้อน

คำพูดกับการกระทำเล็กๆ เหล่านี้ มันอบอุ่นจนละลายใจอัน เยือกเย็นมาหลายปีของฉือจิน เขาได้บีบแก้มของเสี่ยวหมี่โต้ว เบาๆ กำลังคิดอยู่ว่าจะเอ่ยปากพูดเรื่องนี้กับเขาอย่างไร

“เรื่องที่บริษัทไม่ถือว่ายุ่งหรอก บริษัทของตาทวดมีผู้ เชี่ยวชาญจัดการอยู่ แล้วก็มีคนที่เชื่อถือได้อยู่หลายคน ดังนั้นสิ่ง ที่ตาทวดต้องยุ่งคือเรื่องสำคัญบางส่วน เสี่ยวหมี่โต้ว วันนั้น ตาทวดพาคุณไปเดินดูบริษัท คุณคิดว่าบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง ดี

ไหม ? โอ่อ่าหรือไม่ ?”

เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้าอย่างบริสุทธิ์ แล้วพูดขึ้นตามในใจของ คุณตาทวดของเขา “ดีมากครับ บริษัทโอ่อ่ามาก คุณตาทวดเก่ งมากๆ เลยครับ”
ตราบใดที่เขาไม่หลงผิด

ดังนั้นเรื่องนี้เย่ไม่เซินกับฉือจินจึงได้ตกลงกัน ให้ฉือจินไป พูดคุย ส่วนความกังวลของฉือจีนมีทางออกแล้ว จึงได้รับปาก กลับประเทศด้วยกันกับเสี่ยวหมี่โต้ว

ในบริษัทของเขามีคนที่เชื่อถือได้ที่สามารถช่วยดูแลเป็นการ ชั่วคราว ดังนั้นสามารถกลับประเทศไปอยู่กับพวกเขา แล้ว สามารถหาเวลากลับมาดู

“คุณตาทวดครับ เรื่องของบริษัทยังมากเลยเหรอครับ ?”

ช่วงที่อยู่ด้วยกันนี้ ทั้งสองคนก็ได้สนิทกันไม่น้อย เฉือจินช่วย เขาจัดเตรียมเสื้อผ้า เสี่ยวหมี่โต้วก็ยื่นมือที่อุ่นๆ ของเองไปอุ่นที่ หูของฉือจีน อุ่นไปด้วยพลางถามไปด้วยอย่างออดอ้อน

คำพูดกับการกระทำเล็กๆ เหล่านี้ มันอบอุ่นจนละลายใจอัน เยือกเย็นมาหลายปีของฉือจิน เขาได้บีบแก้มของเสี่ยวหมี่โต้ว เบาๆ กำลังคิดอยู่ว่าจะเอ่ยปากพูดเรื่องนี้กับเขาอย่างไร

“เรื่องที่บริษัทไม่ถือว่ายุ่งหรอก บริษัทของตาทวดมีผู้ เชี่ยวชาญจัดการอยู่ แล้วก็มีคนที่เชื่อถือได้อยู่หลายคน ดังนั้นสิ่ง ที่ตาทวดต้องยุ่งคือเรื่องสำคัญบางส่วน เสี่ยวหมี่โต้ว วันนั้น ตาทวดพาคุณไปเดินดูบริษัท คุณคิดว่าบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง ดี

ไหม ? โอ่อ่าหรือไม่ ?”

เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้าอย่างบริสุทธิ์ แล้วพูดขึ้นตามในใจของ คุณตาทวดของเขา “ดีมากครับ บริษัทโอ่อ่ามาก คุณตาทวดเก่ งมากๆ เลยครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ