เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่419 สายโทรเข้าของเย่โม่เซิน



บทที่419 สายโทรเข้าของเย่โม่เซิน

ขับรถต่อไปอีกหลายสิบนาที รถก็ได้จอดลงบริเวณหน้า โรงเรียนแห่งหนึ่ง

นี่คือโรงเรียนของตระกูลผู้ดีในเมืองเป่ย

นับเป็นโรงเรียนอนุบาลเอกชน ที่ไม่เพียงคุณภาพการ สอนดีเท่านั้น สภาพแวดล้อมและอาหารก็ล้วนพิถีพิถัน คน มีเงินในเมืองเป่ยส่วนมากล้วนส่งลูกหลานมาเรียนที่นี่

หานมู่จื่อชอบที่นี่เพราะโรงเรียนนี้อยู่ใกล้กับบริษัทของ พวกเธอ และเธอมาดูในวันนั้น สภาพแวดล้อมก็โอเคดี -หล่าคุณครูก็พูดกันอย่างนิ่มนวล

เพราะแจ้งไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นแม้จะเป็นเสาร์อาทิตย์ก็ ยังมีคนมาต้อนรับพวกเขา

เสี่ยวหมี่โต้วมือซ้ายจูงหานมู่จื่อ มือขวาจูงเสี่ยวเหยียน ราวกับมีนางสนมมากมาย

หานซิงเดินอยู่ด้านข้างหานมู่จื่อ

เหล่าครูที่มาต้อนรับมองความสวยงามของครอบครัวนี้ ช่างน่าทึ่งจริงๆ เลย

นี่คือครอบครัวเดียวกัน? หน้าตาดีกันทุกคนเลย

“เสี่ยวหมี่โต้ว ทักทายคุณครูทุกคนก่อน”

“สวัสดีครับคุณครู” เสี่ยวหมี่โต้วต่อหน้าหานมู่จื่อนั้นเป็น ด็กดี เธอพูดอะไรเขาก็ทำตามนั้น คุณครูเห็นเขาหน้าตา น่ารัก แล้วยังมีมารยาท ย่อตัวนั่งยองแล้วมองเขาอย่าง ชอบใจ “สวัสดีครับ เด็กน้อย หนูชื่ออะไร?”

เสี่ยวหมี่โต้วตอบอย่างฉลาดเฉียบแหลม “สวัสดีคุณครู

คนสวย ผมสกุลหาน ชื่อหานยี่ซู”

คนตระกูลหาน?

คุณครูแววตาฉายแววอิจฉาชื่นชม หลังจากทักทาย เสร็จ: “คุณครูพาหนูสร้างความคุ้นเคยกับที่นี่ดีไหม? ที่นี่ยัง มีเพื่อนที่พักที่โรงเรียน หนูอยากไปเล่นกับพวกเขาไหม?”

เสี่ยวหมี่โต้วไม่ตอบ ที่จริงแล้วเขาไม่ค่อยชอบเล่นกับคน แปลกหน้า

หานมู่จื่อนิ่งไปพักหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยเสียงเบา “เสี่ยวหมี่ ตัว ไปเถอะ”

เสี่ยวหมี่โต้วเงยหน้ามองหม่ามี้ตัวเองครั้งหนึ่ง แล้วจึง พยักหน้าไปกับคุณครู

เสี่ยวเหยียนที่เห็นเสี่ยวหมี่โต้วแยกออกไป ยิ่งรีบพูด “ฉัน ป็นห่วงเขา ฉันจะไปกับเขาด้วย”

จากนั้นเธอจึงรีบเดินไปข้างหน้า เห็นท่าทางรีบเดินของ ธอแล้ว หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะขำ เธอเป็นห่วงเสี่ยวหมี่โต้ว ที่ไหน เห็นชัดเลยว่าไม่อยากเดินกับหานซิง

คิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อจึงส่งเสียงถาม: “พี่ พี่

คิด….อย่างไรกับเสี่ยวเหยียน?” หานซิงไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร คิดว่าเธอแค่ถามถึง ตัวเสียวเหยียน จึงพยักหน้าไป “ก็ไม่เลว”

ไม่เลว?

หานซิงน้อยนักที่จะชมคนอื่น ได้ยินเขาบอกว่าเสี่ยวเหยี ยนไม่เลว เธอคิดว่าอาจจะมีโอกาสทันที เธอจึงขยับเข้าไป ใกล้ๆ ถามเสียงเบา: “ไม่เลวจริงเหรอ? งั้น ….พี่จะรับ พิจารณาผู้หญิงคนนี้ไหม?”

หานซิงนิ่งไป กว่าจะเข้าใจความหมายของเธอ เขาหรี่ ตาลงมองหานมู่จื่อที่ยืนอยู่ข้างเขา

น้องสาวเขาคนนี้ลำบากมามาก โดยเฉพาะตอนที่อยู่กับ ตระกูลเสิ่น แล้วยังถูกตระกูลเสิ่นบังคับให้แต่งงานกับตระ กูลเย่ โดยรวมแล้วชะตากรรมของเธอเมื่อก่อนพูดได้เลย ว่าเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ดังนั้นหานซิงจึงโทษตัวเองเป็น อย่างมาก เลยทำสารพัดอย่างเพื่อชดเชยให้เธอ

เขาตั้งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยสนใจเรื่องความรักของตัว อง หนึ่งคือเขาอยากความสำคัญแค่กับมู่จื่อและลูกชาย ของเธอ สองคือเขาไม่สนใจเรื่องรักใคร่จริงๆ และยังไม่มีผู้ หญิงคนไหนที่ทำให้เขารู้สึกพิเศษด้วยได้

ดังนั้น หานซิงคิดว่าถ้าตัวเองจะโสดตลอดชีวิตก็ไม่เลว แต่เห็นได้ชัดว่าน้องสาวเขาคนนี้ กระตุกความคิดอย่าง อื่นของเขา

“ทำไม? คิดอะไรไม่ดีอยู่?” หานซิงมองท่าทางคาดหวัง ของเธอ อดไม่ได้ที่จะเขกหัวเธอไปหนึ่งที

“โอ๊ย” หานมู่จื่อยกมือขึ้นกุมหัวเพราะความเจ็บ ต่อหน้าพี่ ชายที่รักเธอทั้งใจ หานมู่จื่อมักแสดงท่าทางเป็นเด็กหญิง ตัวน้อย “ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงพี่เรื่องแต่งงานเรื่องใหญ่เห รอ? คนข้างนอกล้วนพูด กันว่า ที่พี่ไม่แต่งงานก็เพราะต้อง ดูแลน้องสาวอย่างฉัน ถ้าพี่โสดตลอดชีวิตจริง ก็เป็นความ ผิดของฉันอีกสิ”

“อะไรกัน?” หานซิงมองเธอแล้วหัวเราะ : “ฉันหานซิงจะ ดูแลน้องสาวแล้วมันทำไม? ถึงแม้คนอื่นจะกล้าพูด แต่ถ้า เธอไม่ฟังก็ไม่เป็นไรแล้ว”

“ฉันก็ไม่ได้ฟัง พี่คิดว่าความรับผิดชอบชั่วดีฉันจะทนรับ การประณามนี้ได้เหรอ จริงเลย….ต่อให้เป็นคนอื่นก็เถอะ ฉันหวังว่าพี่จะมีความสุขเป็นของตัวเอง”

พูดถึงเรื่องนี้ หานซิงก็นึกถึงอีกเรื่องหนึ่ง เขาขมวดคิ้ว เล็กน้อย “พูดถึงเรื่องนี้ ฉันนึกถึงคนที่บอกว่าจะแนะนำให้ ธอ เขา…”

ได้ยินแล้วหานมู่จื่อสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

“พี่ พวกเราเดินดูรอบๆ โรงเรียนกันเถอะ ฉันจะพาพี่ไปดู สภาพแวดล้อมของที่นี่”

คุณครูที่ยืนอยู่ด้านข้างยิ้มพร้อมพยักหน้า: “ใช่แล้ว ทั้ง ชองท่านลองเดินชมดู”

หานซิงที่เห็นเธอเอาแต่หลบเลี่ยงก็จนใจ

ตั้งแต่เรื่องนั้นเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ปฏิเสธผู้ชายมาโดย คลอด อย่าพูดเรื่องแนะนำคู่เลย แม้กระทั่งก่อนหน้านี้ตอน อยู่ต่างประเทศมีผู้ชายมาตามจีบ เธอก็ไม่ได้สนใจใครเลย สักคน

ถ้าเธอจะโสดตลอดชีวิตจริง แล้วพี่ชายอย่างเขาจะดูแล เธอตลอดไปไม่ได้?

แต่ว่า….เสี่ยวหมี่โต้ว

“มู่จื่อ”

เสี่ยวเหยียนเรียกเธออย่างกะทันหันพร้อมวิ่งมา ในมือยัง คือโทรศัพท์ วิ่งมาอีกไม่ไกลก่อนจะถึงตรงหน้าเธอก็หยุด ศึก จากนั้นโบกไม้โบกมือกวักเรียกเธอไปหา

หานมู่จื่อนิ่งไปก่อนจะเดินไปหาเสี่ยวเหยียน

เสี่ยวเหยียนหลบๆ ซ่อนๆ ดึงหานมู่จื่อไปอีกด้าน จากนั้น ส่งโทรศัพท์ให้เธอ

“สายของเธอ”

“สายของฉัน?” หานมู่จื่องุนงง ต้องการคุยกับเธอทำไม ถึงโทรเข้าหาเสี่ยวเหยียน? หานมู่จื่อรับโทรศัพท์มาด้วย ความสงสัย เมื่อเห็นชื่อบนจอเป็นเย่โม่เซินแล้ว เธอหน้า ปลี่ยนสีทันที

“ทำไม..

“ฉันก็ไม่รู้ เบอร์บันทึกไว้ตอนฉันเซ็นสัญญา เธอรีบรับ สายเถอะ”

ใช่แล้ว โทรศัพท์ของเธอไม่ได้พก เมื่อวานโทรศัพท์ถูก เซียวซู่เอาไป ดังนั้นเย่โม่เซินต้องการโทรหาเธอเลยต้อง ทรหาผ่านทางเสี่ยวเหยียนแทน หานมู่จืออดไม่ได้ที่จะลอบมองหานซิงที่อยู่ไกลๆ แล้ว เอ่ยเสียงเบา “เธอลากพี่ชายฉันไปที่เสี่ยวหมี่โต้วที่ ฉันยืม โทรศัพท์ก่อนครู่เดียว”

เสี่ยวเหยียนพยักหน้า: “โอเค ฉันไปจะคุยกับพี่ชายเธอ” หานมู่จื่อถึงวางใจเดินไปอีกด้านแล้วค่อยรับสาย

อาจจะเป็นเพราะหวั่นใจ ดังนั้นเธอเลยเดินไปไกล หลัง จากรับสายแล้ว ก็มีเสียงผู้ชายติดขี้เกียจลอดผ่านสาย โทรศัพท์

“ทำไมถึงรับสายช้า?”

สมกับเป็นเย่โม่เซิน

หานมู่จื่อระงับความโกรธ น้ำเสียงเย็นชา

“นายเย่ มีธุระอะไร?”

“คุณตอนนี้อยู่ไหน? ผมจะให้คนไปรับ”

หานมู่จื่อ: “? ? ? ”

เธออึ้งไป จากนั้นจึงถาม: “หมายความว่าไง?”

“ลืมแล้ว?”

หานมู่จื่อขมวดคิ้วสวย

“ที่ผมบอกคุณเมื่อวานที่สำนักงาน ลืมแล้ว?”

ฟังแล้ว หานมู่จื่อนึกย้อนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวานเธอบอก ว่าจะหาพนักงานมาวัดให้เขา สุดท้ายเขาต้องการให้เธอทำ อง แล้วบอกว่าถ้ามีเวลาจะติดต่อเธอ.. “ฉันจำได้แล้ว แต่นายเย่ ตอนนี้มันเก้าโมงเช้า ท่านแน่ใจ นะว่าไม่ได้โทรผิด?”

“ทำไม?” เยโม่เซินเหมือนกำลังดื่มน้ำ ได้ยินเพียงเสียง กุกกัก หลังจากนั้นเสียงต่ำปนแหบเล็กน้อยก็ดังขึ้น: “คุณ ยังไม่ตื่น?”

หานมู่จื่อข่มความโกรธในใจ เอ่ย: “วันนี้เป็นวันหยุด ถ้า คุณสะดวกก็…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ