เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1085 ใครกันที่บอกว่าจะทิ้งฉัน



บทที่1085 ใครกันที่บอกว่าจะทิ้งฉัน

พูดจบ หาน จื่อก็วิ่งออกไปทันที

เย่ไม่เป็นที่นอนรอดื่มน้ำอยู่บนเตียง “.…….…..

จากนั้นคุณหมอก็เข้ามา พอเห็นเยโม่เซ็นตื่นแล้วก็รู้สึกตะลึง เล็กน้อย แล้วตรวจเช็กร่างกายเขารอบหนึ่ง เมื่อยืนยันแล้วว่าเขา ไม่เป็นไรแล้วถึงได้ออกไป

หลังจากที่คุณหมอออกไปแล้ว หาน จื่อกรินน้ำอุ่นให้เยโม่ เซินแก้วหนึ่ง จากนั้นก็พยุงให้เข้าลุกขึ้นนั่ง

“ดื่มน้ำก่อน”

เย่ไม่เป็นไม่ขยับ จ้องเธออย่างนั้นไม่ยอมขยับเขยื้อน

สายตาของเขาชัดเจนมาก หานมู่จื่อถูกเขามองจนเริ่มรู้สึก อึดอัดเล็กน้อย “คุณ เป็นอะไร

เย่โม่เซินเม้มริมฝีปากบาง อยากจากเปิดปากถกเถียงกับเธอ แต่ตอนที่ออกเสียงกลับเสียงแตกพร่า คิ้วเขาก็เลยยิ่งขมวดกัน แน่นขึ้น เลยต้องรับน้ำมาดื่มเข้าไปหลายอึกอย่างไร้ทางเลือก

ตอนนั้นเองหาน จื่อก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความ

ไปให้ทุกคน

บอกทุกคนว่าเย่ไม่เซินตื่นแล้ว

เพื่อความสะดวก หานมอก็เลยลากคนรู้จักทุกคนเข้าไปในกลุ่มวีแซท จากนั้นก็บอกเรื่องนี้ ในกลุ่ม

พอเธอส่งข้อความจบแล้ว เตรียมจะโพสต์ลงบนไทม์ไลน์เพื่อน

จู่ๆ มือถือก็ถูกเย่ ไม่เป็นคว้าไป “ฉันพึ่งจะตื่นขึ้นมา เธอไม่มองฉัน แต่กลับไปมองโทรศัพท์นั้น

เหรอ”

หานคู่จื่อเงยหน้าอย่างรู้สึกผิด เม้มริมฝีปากตัวเองแล้วส่ายหัว

“ไม่ใช่นะ ช่วงที่คุณไม่ได้สติทุกคนต่างก็เป็นห่วงคุณมาก ตอน นี้คุณตื่นแล้ว ฉันก็ต้องบอกเรื่องนี้กับพวกเขาสิ

“งั้นตอนนี้ก็บอกหมดแล้วสินะ” เย่โม่เซ็นซุกโทรศัพท์เข้าไป ใต้หมอน เห็นได้ชัดว่าจะไม่ให้หาน จื่อแตะต้องโทรศัพท์อีก

หานผู่จื่อไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร คิดได้แค่ว่าเขาคงไม่

อยากให้ตัวเองดูโทรศัพท์ ดังนั้นก็เลยไม่ดึงดันอีก เพียงแค่พู

ดกับเย่ โม่เซินว่า

“เมื่อกี้คุณหมอมาตรวจร่างกายให้คุณแล้ว ตอนนี้คุณรู้สึกว่ามี ตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า หรือว่า คุณอยากจะดื่มน้ำอีกไหม หิว หรือเปล่า ให้ฉันโทรไปหา…….

เธอถามคำถามรัวๆ ทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วงที่มี ต่อเย่ไม่เซิน

จู่ๆเย่โม่เซินก็ล็อกข้อมือเธอไว้ แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ของตัวเอง หานมู่จื่อล้มลงในอกเขา แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา
“คุณทําอะไร”

เยโมเงินจับคางของเธอไว้ ในสายตาปรากฏแววอันตราย ออกมา

“เมื่อกี้ ใครบอกว่าจะทิ้งฉันนะ”

หาน จื่อกะพริบตาปริบๆ มองเขาอย่างเลิกลัก

นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เขาถามคำถามนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาติดใจ คำถามนี้ขนาดไหน สองครั้งก่อนหน้านี้ก็เบี่ยงเบนความสนใจไป แล้ว ครั้งนี้ต่อให้แกล้งโง่ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว

เมื่อเห็นเธอไม่ตอบ เย่โม่เซินก็ถามอีกครั้ง ครั้งนี้น้ำเสียงหนัก แน่นกว่าเดิม ราวกับว่าจนกว่าจะได้คำตอบจะไม่ยอมรามือเด็ด ขาด

หานมู่จื่อ “.………ก็ได้ ฉันพูดเอง แต่ฉันก็แค่อยากลองดูว่าพูด แบบนั้นแล้วคุณจะมีปฏิกิริยาอะไรหรือเปล่า ใครใช้ให้คุณไม่ ยอมตื่นขึ้นมากันล่ะ คุณเห็นไหมเมื่อกี้พอฉันพูดคุณก็ตื่นเลย ก็ ดีแล้วไม่ใช่หรือ”

เย่โม่เซินหรี่ตาอย่างดุร้าย “ก็ดีแล้วงั้นเหรอ ?”

หานคู่จื่อ “ฉันหมายความว่า คุณตื่นขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว ส่วนที่ฉันพูดไป…..พวกนั้นก็แค่เพื่อปลุกให้คุณตื่น ถ้าฉันจะทิ้ง คุณไปจริงๆ ฉันจะยังมาเฝ้าคุณอยู่อย่างนี้ได้ยังไง”
เมื่อได้ยินแบบนั้น แต่ไม่เป็นก็ชะงักไป

ใช่สิ เธอจะทิ้งเขาไปได้อย่างไร

ขนาดตอนที่เขาเกิดเรื่อง หายไปอย่างไร้วี่แวว ไม่รู้ว่าเป็นตาย ร้ายดีอย่างไร แม้กระทั่งตอนที่เจอเขาแล้ว รู้ว่าเขาสูญเสียความ ทรงจํา ก็ยังฝืนทนอยู่คนเดียวได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่ไม่เป็นก็ค่อยๆขยับเข้าใกล้เธอ ไอร้อนที่ ออกมารดอยู่เต็มใบหน้าของเธอ

หาน จื่อเห็นเขาขยับเข้ามาใกล้ ก็เบิกตาโตทันที จากนั้นก็ ผลักเขาออก แล้วพูดอย่างรีบร้อนว่า

“คุณพึ่งจะตื่น คุณเป็นคนป่วย จะรีบร้อนไม่ได้”

เพิ่งจะสิ้นเสียง เย่ ไม่เป็นก็โค้งตัวลงกอดเธอไว้ หาน จื่อชะงัก อยู่กับที่ รู้สึกได้ว่าแขนของเขาที่โอบอยู่บนเอวของตัวเองนั้น แน่นขึ้นหลายระดับ แต่ก็ราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้เลยปล่อย กะทันหัน แล้วโอบไว้เบาๆแทน

“ถึงเธอจะทิ้งฉันไปจริงๆ ฉันก็จะไม่มีทางไปจากเธอ ทั้งชีวิตนี้ เธอเป็นของฉันคนเดียว”

ตอนที่พูดค่านี้นั้น น้ำเสียงของเขาจริงจังหนักแน่น หาน จื่อ ขยับปาก คิดอยากจะพูดอะไร แต่กลับรู้สึกว่าได้ทั้งเสียงและคำ พูด ริมฝีปากก็เลยค่อยๆโค้งขึ้น

ทั้งสองคนโอบกอดกันอยู่ในห้องผู้ป่วยเงียบๆ ดื่มกับช่วง เวลาที่เป็นของทั้งสองคน
แต่แล้วตอนนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์เสียงหนึ่งดังขึ้นทําลาย

บรรยากาศ

ทั้งสองคนชะงักไป เป็นเสียงจากโทรศัพท์เครื่องที่เย่ไม่เซินซุก ลงใต้หมอนเมื่อครู่นี้

เย่ไม่เซินยังกอดภรรยาของตัวเองไม่เต็มอิ่มเลย ก็ดันมีเสียง โทรศัพท์มารบกวนเสียก่อน เขาเลิกคิ้วแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ปิดเสียง จากนั้นก็ซุกลงไปใต้หมอนอีกครั้ง แล้วหันกลับมากอด ภรรยาของตัวเองต่อ

หานมู่จื่อ ”

“คือว่า ไม่รับสายจะไม่เป็นไรเหรอ” หาน จื่อถามเขาเบาๆคำ หนึ่ง

“จะเป็นอะไรล่ะ เธอก็บอกพวกเขาว่าฉันตื่นขึ้นมาแล้วไม่ใช่เห รอ” เย่ โม่เซินพูดเสียงต่ำ “ข้อความก็ส่งออกไปแล้ว ไม่จำเป็นจะ ต้องพูดซ้ำสองอีก”

พูดได้มีเหตุผลมาก ทำเอาเธอคัดค้านไม่ได้เลย

สั่งอานเป็นคนแรกที่มาถึงโรงพยาบาล และเธอก็เป็นคนแรกที่ โทรหาหาน จื่อ แต่หลังจากที่โทรสายก็ไม่มีคนรับ สั่งอานก็ เลยเริ่มรู้สึกเป็นกังวล

นี่พึ่งจะตื่นขึ้นมาไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์กัน ท้ายที่สุดเธอก็เลยทิ้งชายชราเอาไว้ แล้วตรงมาที่โรงพยาบาล
แต่คิดถึงเลยว่าเมื่อเปิดห้องป่วยออก สิ่งเห็นฉากและงดงาม ถึงว่าเมื่อเลยไม่ใครรับโทรศัพท์ เพราะกำลัง กอดอยู่ แถมยังกอด

สั่งอานรู้สึกว่าตัวเองกำลังป้อนอาหารสุนัข

นี่กอดกันหรือยัง

ถึงแม้จะว่าการขัดจังหวะพวกนั้นไม่ค่อยนัก แต่สั่งอาน เคาะประตู เพื่อเป็นส่วนตัวของ

ที่จริงเย่ไม่เซินเห็นสั่งอานมาตั้งนานแล้ว แต่เพราะเขานั้นหนา

หานมู่พอได้ยินเสียงของสังอาน ก็รีบผลักเย่ไม่เซินออก

ทันที แล้วหันใบหน้าแดงระเรือมองสั่งอาน

คุณ คุณน้า……

สั่งอานย่างสวมรองเท้าสูงเข้ามา

“พึ่งตื่นขึ้นมา รู้สึกยังไงบ้าง

ไม่เซินกวาดสายกลับ จากนั้นก็มองไปทางหานจื่อ แล้วสายตาหนึบอยู่เธอ

ฉากทำให้สั่งอานอดไม่ได้จะกลอกตามองบน
“ว่านะ พอได้แล้วกว่ามั้ง จะตื่นก็หนีบซะขนาดนี

ถึงแม้รู้สึกไม่อารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะ แต่ยังไงอาน เป็นญาติผู้ใหญ่ บอกกับหาน จื่อที่อยู่ข้างตอนหน้าแดงหมดแล้ว เลยเริ่มกลับเป็นปกติไม่

ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว วันก็จะออกโรงเลย”

“ออกจากโรงพยาบาล ล้อเล่นอะไรของนาย นายหลับตั้ง กี่จะออกจากโรงพยาบาลวันนี้เนี่ยอะไรเกิดขึ้นอีกจะ ทํายังไง

ประโยคนั้นทําให้เย่ เป็นขมวดคิ้วแน่น เห็นได้ว่าเขาไม่ อยากอยู่โรงพยาบาล คิดรู้สึกอึดอัด บวกเขานอนอยู่บนเตียงมาหลายวันแล้ว

หาน จื่อรีบออกเสียงทันที

“เอาแบบนี้แล้วกัน หมออนุญาต พวกเราจากโรงพยาบาลล่วงหน้าจากนั้นค่อยมาตรวจ

เย่ชอบต้องพยายามตามใจเขา อย่างเต็มที่แล้วกัน ยังไงเขาเป็นคนป่วย หาน จื่อกลัวจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นเขาอีก ถ้าเกิดเป็นลมไปจะทําอย่างไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ