เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 28 พูดไม่ถูกใจ



บทที่ 28 พูดไม่ถูกใจ

เสิ่นเฉียวจะไม่มีวันลืมคำพูดที่เยโม่เซินพู ดูกับเธอ

อยู่ข้างนอกเธอเป็นแค่ผู้ช่วยของเขา หรือ แม้แต่ที่ตระกูลเย่เธอก็ไม่ใช่ภรรยาของเขา

เรื่องพวกนี้ ไม่มีใครบอกเสิ่นเฉียวก็สามารถ รับรู้ได้ด้วยตัวเอง

เดิมการแต่งงานนี้ก็เพราะความจำเป็นเท่านั้น

“เลขา?”พี่จิกจ้องมองเธอเป็นเวลานานแล้ว ถอนหายใจ “ถ้าเธอบอกว่าเป็นแค่ผู้ช่วยฉันก็จะ เชื่อแบบนั้น เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วมานั่งตรงนี้”

พอเสิ่นเฉียวเดินไปนั่งพี่จิงก็เริ่มทำผมให้เธอ

“ทำผมด้วยเหรอคะ?”

“แน่นอนสิ จะทิ้งไว้สภาพนี้ไม่ได้หรอกนะ”

พี่จิงมือเป็นระวิง อีกทั้งยังช่วยดูแลผมให้ ด้วยการเล็มหน้าม้าของเธอออกนิดหน่อย

ผมของเสิ่นเฉียวสุขภาพดีและนุ่มมาก เส้นผมที่พี่จิงเล็มออกติดอยู่บนแก้มทั้งสองข้างก็ ปัดออกให้ ส่วนปลายผมก็ม้วนให้เป็นลอนแล้วยี

ออก
เซียวซู่ที่เดินตามทั้งคู่มาได้ยินบทสนทนา โดยไม่ตั้งใจ เขาไม่คิดว่าเย่โม่เซินจะเป็นห่วง หน้าตาของตระกูลเย่ขนาดนั้น กลับคิดว่า รังเกียจเสียด้วยซ้ำไป

ไม่อย่างนั้นเขาจะทำอะไรตามใจตัวเองแบบ นั้นเหรอ

แต่คำพูดที่พูดใส่ผู้หญิงคนหนึ่งแบบนี้ก็ออก จะเกินไปหน่อย

เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของเสิ่นเฉียวดรอปลง ไปมาก จังหวะการก้าวเดินก็ช้าลง เซียวซู่เดิน เข้าไปหา “คุณหนูเสิ่นให้ผมเข็นไหมครับ?”

สติของเสิ่นเฉียวกลับมาเพื่อได้ยินคำถามนั้น “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำเอง”

เธอกำลังคิดอะไรยื่นสัญญาที่อยู่ในมือมา ตลอดคืนให้เย่โม่เซิน

เย่โม่เซินเลิกคิ้วแล้วยิ้มเย็นยะเยือก “คิดว่า เล่นอะไรอยู่?”

เสิ่นเฉียวไม่เข้าใจ “อะไรนะ?”

สบตากับสายตาเย้ยหยันของเขาเสิ่นเฉียว ถึงเข้าใจว่าที่เขาพูดมันหมายความว่ายังไง เธอ เม้มริมฝีปากแน่น พยายามทำใจให้สงบ กลั้น น้ำตาจากดวงตาที่พยายามจะไหลออกมาแล้ว
“สวยมาก โม่เซินจะต้องชอบแน่นอน”

เป็นครั้งแรกที่เสิ่นเฉียวถูกชม รู้สึกว่าตัวเอง แทบจะลอยได้แล้ว

พอดีกับที่เซียวซู่ที่รออยู่ข้างนอกร้องเรียกพี่ จึงจึงพาเธอเดินออกมาข้างนอก

เซียวซู่ตกตะลึงเมื่อมองเห็นเสิ่นเฉียวที่ปาก คอสั่นมาเป็นเวลานาน “คุณชายเย่ตื่นแล้วครับ เรารีบไปกันเถอะครับคุณหนูเสิน”

“ค่ะ” พอได้ยินว่าเย่โม่เซินตื่นแล้วเสิ่นเฉียวก็ เกิดประหม่าขึ้นมา

พี่จิงเดินออกมาด้วยจนถึงข้างนอก ประตูรถ เปิดออกเผยให้เห็นเย่โม่เซินที่นั่งอยู่ข้างในดู เหมือนว่ากำลังทำงานอยู่โดยมีแล็ปท็อปวางอยู่ ตรงหน้า นิ้วเรียวของเขาพิมพ์รัวอยู่บนแป้นพิมพ์ สวมหูฟังบลูทูธ และริมฝีปากที่ขยับบ้างเป็นครั้ง คราว

“คุณชายเย่ เรียบร้อยแล้วครับ” เซียวซู่ก้าว ไปข้างหน้าเพื่อกระซิบบอก

เยโม่เซินไม่สนใจเขาเพราะกำลังสนทนาอยู่ กับคนในแล็ปท็อป พอจบก็ปิดพับลง ดวงตาเย็น ชามองไปยังทิศทางที่พวกเธอยืนอยู่

เยโม่เซินกะจะมองผ่าน ๆ เพียงแวบเดียว แต่เมื่อมองไปที่เสิ่นเฉียวดวงตาของเขาก็หยุดนิ่ง แต่เพียงแวบเดียวก็เก็บซ่อนความรู้สึกบางอย่าง ในดวงตาไปอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครมองทัน แต่ ไม่ใช่กับพี่จิงที่ใช้แขนโอบไหล่เสิ่นเฉียว “เป็น ไง? สวยมากเลยใช่ไหมล่ะ?”

เสิ่นเฉียวได้ยินแบบนั้นก็ประหม่าจนเผลอกัด ริมฝีปาก

ริมฝีปากของเธอซีดจางพี่จิงเลือกชุดสุด คลาสสิคสไตล์ผู้ชายให้ และใช้สีลูกพืชทาบนริม ฝีปากชุ่มชื้นให้เหมือนกับตอนที่กัดริมฝีปาก ราวกับว่าริมฝีปากนั้นมีมนต์สะกดจนดวงตาของ เยโม่เซินจับจ้องอยู่เนิ่นนาน

เสิ่นเฉียวที่แปลงโฉมแล้วนั้นดีกว่าจริง ๆ ชุด สูทตัวสวยนี้เผยให้เห็นรูปร่าง เอวบางและ หน้าอกของเธออย่างชัดเจน และขาตรงยาวที่อยู่ บนรองเท้าส้นสูง

เกิดบุคลิก ที่เป็นข้อบกพร่อง

เยโม่เซินเหลือบตาขึ้นมอง มองไปถึงที่ริม ฝีปากของเธอก็หยุดสายตาอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งถึง ย้ายสายตาไปที่ดวงตาของเธอ

เยโม่เซินคิดออกแล้วว่าเธอขาดอะไรไป

ความสง่างาม!
เธอมองดูตัวเองที่ดูขี้ขลาดและปวกเปียก เหมือนลูกแมวท่าทางสับสนที่หาเจ้าของไม่เจอ มาหลายวันทั้งยังถูกทอดทิ้งไว้ข้างถนน ทำไมถึง คิดจะตามเขาไปที่งานเลี้ยงกัน?

คิดถึงสิ่งนี้ ริมฝีปากบางของเย่โม่เซินก็ยก ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เหมือนเยาะเย้ยก็ไม่ปาน

“งั้น ๆ”

ในใจเสิ่นเฉียวรู้สึกตื่นเต้นมากที่ตัวเองที่ถูก แปลงโฉมได้ขนาดนี้ ไม่คิดว่าเย่โม่เซินจะคิด แบบนั้น

“เธอคิดได้ยังไง ปกติเธอก็ไม่เหมาะกับการ แต่งหน้าแบบนี้อยู่แล้ว” หลังจากที่เยโม่เซินพูด จาทำร้ายความมั่นใจเสิ่นเฉียวแล้วก็หันไปเล่น งานพี่จิงต่อ

พี่จิงนิ่งครู่หนึ่งถึงโต้กลับ “ไม่เหมาะ? นายใช้ อะไรมอง? เธอ…

“ฉันไม่มีเวลามานั่งฟังพวกเธออธิบายหรอก นะ ขึ้นรถ” พูดจบเย่โม่เซินก็เบนสายตากลับไป มองข้างหน้าอย่างเฉยเมยไม่สนใจรอบข้าง

ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นราชา ท่าทางของเขาเริ่มทำให้เสิ่นเฉียวรู้สึกโกรธ คนอื่นเขาตั้งใจเตรียมตัวอย่างรอบคอบ เขากล้า

ดียังไงมาพูดแย่ ๆ ใส่กันแบบนี้ แค่ชมกันสักคำมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?

ความอ่อนแอของเสิ่นเฉียวจู่ ๆ ก็หายไป เธอ กำหมัดและกัดริมฝีปาก จ้องมองเย่โม่เซินอย่าง ขุ่นเคือง

พี่จิงมองเห็นแสงที่รุ่งโรจไปด้วยความโกรธ ในดวงตาของเสิ่นเฉียว แต่แสงแห่งความโกรธนี้ กลับทำให้เธอดูสว่างไสวขึ้นมาด้วยดวงตาที่เป็น ประกายนั้น

พี่จิงมองเธอสลับกับเย่โม่เซินแล้วก็นึกขำ เธอนี่ซื่อบื้อจริง ๆ เย่โม่เซินน่ะ ใช่ว่าจะ จัดการได้ง่าย ๆ

คิดถึงแค่ตรงนั้นพี่จิงก็จิ้มไปที่ไหล่ของเสิ่น เฉียว “เอาล่ะ รีบขึ้นรถเถอะ”

“ฉันไปก่อนนะคะพี่จิง ขอบคุณมากค่ะ สำหรับวันนี้”

เสิ่นเฉียวขอบคุณพี่จิงก่อนจะขึ้นรถไปอย่าง ไม่เต็มใจ

เสิ่นเฉียวนั่งลงข้าง ๆ เขา เมื่อประตูปิดลง กลิ่นหอมอ่อน ๆ บนตัวเธอก็กระจายไปทั่วรถ แน่ นอนว่าเยโม่เซินเองก็ได้กลิ่นผ่านการหายใจ

กลิ่นหอมจากน้ำหอมและร่างกายของหญิง สาวที่ผสมรวมกัน
ได้กลิ่นเบา ๆ แต่กลับทำให้รู้สึกสดชื่น เยโม่เซินขมวดคิ้วเล็ก ๆ

เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ฉีดน้ำหอม โดยเฉพาะ น้ำหอมกลิ่นแรง

แต่กลิ่นบนตัวของเสิ่นเฉียวกลับทำให้เขา รู้สึกผ่อนคลาย จนเผลอสูดลมหายใจลึก

พอเยโม่เซินรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็กลับไป ทำตัวปกติ

ให้ตาย เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้?

“ทำไมบนตัวเธอมีกลิ่นนั้น?”

เขาถามเสียงเย็น

เสิ่นเฉียวหันไปมองเขาแล้วชี้ตัวเอง “ถามฉัน

เหรอ?”

“ตรงนี้มีคนอื่นด้วยเหรอ?” ถามกลับด้วยน้ำ เสียงที่เริ่มไม่พอใจ

เสิ่นเฉียว: ”

เสิ่นเฉียวเงียบสนิท “…”

คนขับรถกับเซียวซู่เองก็เช่นกัน “…”

แม้พวกเขาจะอยู่ในสถานะที่ต่ำกว่าแต่ก็ควร จะนับรวมพวกเขาด้วยหรือเปล่า? คุณชายเย่อ ย่าเงินพวกเราได้ไหม?
“คือ…พี่จินบอกว่าเป็นน้ำหอมที่พึ่งคิดค้นขึ้น มา คิดว่าเหมาะกับฉันดีก็เลยให้มาขวดหนึ่งค่ะ”

พูดจบเสิ่นเฉียวก็เอาน้ำหอมขวดนั้นออกมา ให้เยโม่เซินดู ลืมสิ่งที่เขาพูดใส่เธอเมื่อกี้ไปเสีย สนิท

เยโม่เซินมองไปที่ขวดน้ำหอมที่มีของเหลว สีชมพูใสถูกบรรจุอยู่ในนั้น

เสิ่นเฉียวกลัวว่าเขาจะมองไม่ถนัดเลยเอื้อม ตัวเข้าไปใกล้อีกทำให้คอเสื้อเปิดออกเผยให้เห็น

ผิวขาว ๆ ของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ