เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 552 ติดตาม



บทที่ 552 ติดตาม

แน่นอนว่ามีความเชื่อมโยงกันอยู่แล้ว ตอนนี้เขาไม่รู้ว่า บุคคลที่สองที่ต้องตามหานั้นเป็นใคร ทว่าเป็นบุคคลที่คุณ ชายเย่ให้ตามหาในตอนกลางดึกนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่

ต่อไปเขาต้องเข้าไปตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของคุณผู้ หญิงและบริเวณโดยรอบ ทั้งยังตรวจสอบคนอื่นอีก…..

นี้ให้งานยากกับเขาเลยงั้นเหรอ?

แต่เมื่อคำพูดนี้ออกจากปากเขาแล้ว เซียวซูจึงต้องรีบ เปลี่ยนประเด็น “มะ ไม่เกี่ยวกันครับ ผมทราบแล้วครับ เดี่ยว ผมจะจัดการตรวจสอบให้ชัดเจนนะครับ”

กึก!

สิ้นเสียงจากปลายสาย อีกฝ่ายก็วางสายไป

เซียวซูมองไปที่เวลา เขาโมโหมากจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี กลางดึกแบบนี้มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นเวลาเลิกงาน ตอนนี้ มันเป็นเวลาพักผ่อน ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าเย่ไม่เป็นไม่มี คําพูดให้เขาได้พักผ่อนสักคำ

งั้นก็ช่างมันเถอะยังตอน ใช้เวลาอีกระยะหนึ่งด้วย

อ๊ากกกกกกก ต้องโทษที่เขา ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ใครที่ไหนจะทนรับคำสั่งที่แสนทรมานนี้ได้จากคุณชายเยู่กัน

หานมู่จื่ออาบน้ำเสร็จ แต่ยังไม่ง่วง ดังนั้นเธอจึงหยิบเอา แบบร่างออกมาวาดอยู่สักพัก

เนื่องจากบริเวณโดยรอบทั้งเงียบสงบ ดังนั้นจึงทำให้ไม่ ว่าอะไรที่เคลื่อนไหวอยู่รอบๆ นั่นเขาจะได้ยินเสียงทั้งหมด นอกจากนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากคืนนี้ทำให้เธอรู้สึกอ่อน ไหวขึ้นมา

เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวที่ดังมาจากห้องถัดไป หา นมจื่อจึงวางมือจากการร่างแบบ หลังจากนั้นเธอจึงลุกขึ้น แล้วเดินไปเปิดประตูห้องถัดไปดู

หลังจากที่ผลักประตูเข้าไปแล้วหานคู่จื่อก็เห็นเพียงโคม ไฟเล็กๆ ในห้องที่เปิดเอาไว้ ด้านเสี่ยวหมี่โต้วเขานอนอยู่บน เตียงภายใต้ผ้านวมอย่างอ่อนโยน สองมือเล็กวางไว้บน หน้าอกที่หายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อมองเห็นฉากนี้แล้ว หาน จื่อจึงถอดรองเท้าอย่าง เบามือ ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปเสียงเบา เมื่อเดินเข้าไป จนถึงเตียงเธอก็ได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกอย่าง สม่ำเสมอ จึงได้แน่ใจว่าเขาหลับไปแล้ว

ที่เธอได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเมื่อครู่ ไม่คาดว่าเธอจะได้ยิน ผิดไปอย่างนั้นเหรอ?
ยืนอยู่ครู่หนึ่ง หาน จื่อจึงได้ก้มตัวไปด้านหน้าพลางดึงผ้า นวมขึ้นมาห่มให้เสี่ยวหมี่โต้วดีๆ จนแน่ใจว่าเขาจะไม่เป็น หวัดทีหลัง ก่อนจะเดินถอยออกจากห้องไป

เมื่อประตูปิดลง เสี่ยวหมี่โต้วที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น มา ค่อยๆ กะพริบดวงตาที่ดำสนิท หลังจากนั้นจึงถอน หายใจออกมา

ตกใจแทบตาย

ไม่คิดว่าหม่ามีจะเดินเข้ามากะทันหัน เมื่อตอนที่เขาจะ นอนเขาก็ไม่ทันระวังจนเผลอทำของตก ดังนั้นจึงเกิดเสียงดัง ขึ้นมา

เพราะคืนนี้มัวแต่ใช้เวลาส่งข้อความหาแอ๊ดอยู่นาน ดัง นั้นจึงทำให้เขานอนดึก ถ้าหม่ามารู้เข้า คงได้หาว่าเขาเป็น เด็กดื้อแน่

เมื่ออยู่ต่อหน้าหม่ามีเขาจึงมักจะแสดงท่าที่เด็กเชื่อฟังเป็น พิเศษ เขาไม่อยากให้หม่ามีต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับเขา

เมื่อนึกถึงตัวเองที่ส่งอีเมลล์หาเย่ไม่เป็นแล้ว เสี่ยวหมี่โต้

วก็ยิ้มบางอย่างมีความสุข เรื่องนี้ค่อนข้างยุ่งยากเป็นพิเศษ แน่นอนว่าต้องให้แดดดี้เป็นคนแสดงออกมา แม้ว่าในตอนนั้นสิ่งที่แดดดี้แสดงออกมาจะเลวร้ายจน

ทำให้หม่ามเสียใจอยู่หลายปี มันทำให้เขารู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก

ทว่าเพียงแค่แต๊ดที่ปรับเปลี่ยนอย่างจริงใจ ยินดีที่จะทำดี กับหม่าม เขาก็จะยอมให้อภัยกับแดด

ก็ใครใช้ให้เขาเป็นแด๊ดดี้ของตัวเองกันล่ะ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสี่ยวหมี่โต้วก็เม้มปาก ก่อนจะพลิกตัว หลังจากนั้นก็หลับตานอนหลับไป

ในคืนที่เงียบสงบ หาน จื่อที่นอนอยู่บนเตียง เธอปิดตา ลงแต่ทว่าในหัวกับมีแต่ฉากนองเลือด

ฉากนั้นส่งผลต่อจิตใจเขาเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าเธอและเสี่ยวเหยียนจะไม่ได้เห็นสิ่งน่ากลัวนั่น ทั้งหมด ทว่าเธอก็ไม่ได้มีจิตใจที่เข้มแข็งขนาดนั้น

ถึงท่าทีการแสดงออกของเธอจะนิ่งสงบ แต่ว่านั่นก็ไม่ได้

หมายความว่าเธอไม่รู้สึกอะไรเลย นอนอยู่สักพัก เธอก็พบว่าเธอนอนหลับไม่ลง ไม่อยาก แม้แต่จะหลับตา เธอจึงลุกขึ้นมาเปิดดูรายการวาไรตี้บน

โทรศัพท์

ไม่รู้เลยว่าดูอะไรตอนไหนที่หานจื่อหลับไปพร้อม โทรศัพท์ของเธอ

ภายในฝันราวกับมีแผ่นดินไหว เธอยืนอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่าและรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน ทานมู่จื่อขมวดคิ้วแน่น ทันใดนั้นจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหนึ่งตะโกนออกมา “จื่อ! ตื่นเร็ว”

เธอลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบว่าไม่ได้มีแผ่นดิน ไหว เป็นเพียงเสี่ยวเหยียนที่มาเขย่าไหล่ของเธออย่างแรง

” ในที่สุดคุณก็ตื่น ลุกขึ้นเร็วเข้า ถูกคนปลุกให้ตื่นก็ทรมานไม่น้อย

หานมู่จื่อพยายามบังคับไม่ให้เปลือกตาตัวเองปิด หลัง จากนั้นเธอจึงลุกขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปหว่างคิ้ว พลางเอ่ย ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “มีอะไร?”

เสี่ยวเหยียนยื่นมือมาลูบแก้มเธออย่างแรง “จะมีเรื่อง อะไรได้ยังไง? เมื่อคืนเกิดเรื่องขึ้นขนาดนั้นคุณยังจะมานอน หลับได้อีกเหรอ?”

หานมู่จื่อตบลงที่มือของเธอเบาๆ หลังจากนั้นจึงก้มไปถึง ผ้านวมออก

เธอรู้สึกปวดหัวจริงๆ เมื่อคืนไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน ทำให้ตอนนี้รู้สึกไม่ไหว ตาก็แทบจะลืมไม่ขึ้นแล้ว

“รีบตื่นเร็วเข้า ด้านล่างมีตำรวจมา

เมื่อได้ยินคำว่าตำรวจ ประสาทสัมผัสของหานคู่จื่อ ราวกับถูกกระตุ้น หลังจากนั้นเธอจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความง่วงงุนก่อนหน้าได้หายไปหมดแล้ว
ผ่านไปเพียงครึ่งวินาทีเธอก็เด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง

“ตำรวจมาแล้วเหรอ?”

เสี่ยวเหยียนพยักหน้า “ใช่ ฉันได้ยินเสียงเอะอะดังมาจาก ด้านล่าง ฉันเลยมองไปทางหน้าต่างก็เห็นว่าประตูทางเข้า ชุมชนมีรถตำรวจจอดอยู่ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็มองมาทางเธอด้วยสายตาไม่ สบายใจ “ทำไมสีหน้าเธอดูแย่จัง?”

เมื่อได้ยินดังนั้น หานมอก็เงยหน้าขึ้นมองเธอก่อนจะตอบ กลับไป “เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ

หานคู่จื่อลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเอา เสื้อโค้ทมาสวมใส่ให้ตัวเอง “อาจจะเกี่ยวกับเรื่องของเรา เมื่อคืนก็ได้ งั้นพวกเราลงไปดูสักหน่อยไหม?”

“ไม่น่าเป็นไปได้เปล่า?” เสี่ยวเหยียนเอียงคอ “มันเป็น เพียงกระต่ายที่ตายไปแล้วตัวเดียวเองนะ จะแจ้งตำรวจได้ ยังไง? อาจจะเกิดเรื่องใหญ่เรื่องอื่นมากกว่าไหม?”

“งั้นไปดูกัน”

หานคู่จื่อพูดจบก็เดินออกประตูไป

วันนี้เป็นวันหยุดพอดี เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ต้องไปทำงานไว้ตอนบ่ายเธอค่อยมานอนต่อไ

เมื่อทั้งคู่เดินไปจนถึงครึ่งทางแล้ว จู่ๆ หานมอก็คิดอะไร ขึ้นมาได้ เธอจึงหมุนตัวไปหาเสี่ยวเหยียน “ทำไม… เธอไม่ เอาเสี่ยวหมี่โต้วมาด้วยกันล่ะ ฉันไม่วางใจให้เขาอยู่บ้านคน เดียว

“เสี่ยวหมี่โต้วยังนอนหลับอยู่เลย” พูดจบเสี่ยวเหยียน มองดูเวลา “ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะตื่น นาฬิกาชีวิตเขา เป็นไงนี้เธอเป็นแม่ไม่รู้หรือไง?

หานคู่จื่อก็หันไปมองดูเวลาเช่นกัน ยังเหลือเวลาอีกหนึ่ง ชั่วโมงก่อนที่เสี่ยวหมี่โต้วจะตื่น ถ้าเขาไม่วิ่งรอบแล้วล่ะ ก คงจะไม่มีปัญหาอะไร

“งั้นโอเค พวกเราไปดูกันเถอะ ไม่มีเรื่องอะไรค่อยกลับ

มา”

“อืมอืม”

ดังนั้นทั้งคู่จึงเดินออกไปด้วยกัน หานมอไม่วางใจ เธอจึง ล็อกประตูบ้านให้ดีหลังจากนั้นจึงลงลิฟต์ไปกับเสี่ยวเหยียน

ชุมชนแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก ทว่ามีสองประตูใหญ่ดังนั้น ในเวลาปกติแล้วคนเข้าออกจึงไม่เยอะมาก แต่ทว่าวันนี้ ประตูด้านหลังกลับถูกตำรวจปิดเอาไว้ มีเพียงประตูเล็กที่ เปิด ในเข้าออกทางเดียวเท่านั้น
เมื่อหานมู่จื่อและเสี่ยวเหยียนมาถึง ก็พบว่าบริเวณโดย รอบเต็มไปด้วยผู้คนกลุ่มใหญ่ พวกเธอจึงมองเห็นไม่ชัดเจน ว่าตรงหน้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เสี่ยวเหยียนสะกิดไหล่ชายร่างสูงคนหนึ่งก่อนจะส่งยิ้ม หวานแล้วเอ่ยถามขึ้นมาว่า “พี่ชาย ขอถามหน่อยได้ไหมว่า เกิดเรื่องไรขึ้นเหรอ? ทำไมตำรวจถึงมากันล่ะ? แล้วยังจะมี คนเยอะๆ นี้อีก?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ