เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 296 คุณเป็นหนี้ฉันมามากพอแล้ว



บทที่ 296 คุณเป็นหนี้ฉันมามากพอแล้ว

คำพูดครั้งนี้ทำให้เส้นเฉียวยากที่จะสงบใจ เดิมที ในใจก็เหมือนกับผิวทะเลที่ไม่เรียบสงบ ตอนนี้กลายเป็น คลื่นน้ำได้ซัดสาดเข้ามาอย่างรุนแรง เสิ่นเฉียวมองเสี่ยว เหยียนเป็นเวลานานและในที่สุดก็ลดสายตาลง

“เธอพูดถูก แต่ไม่ว่าเธอจะพูดอย่างไร ฉันก็ยังจะ ไป ถ้าเธออยากอยู่ที่นี่ อย่างนั้นเธอก็อยู่รอเขาเถอะ”

พูดจบ เส้นเฉียวก็หันหลังจากไป

เสี่ยวเหยียนมองเงาจากด้านหลังของเธอ แล้ว ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ “เส้นเฉียว พวกเรายัง เป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ไหม? เธอมีความกล้าแค่นี้เหรอ?”

เสิ่นเฉียวหยุดก้าวเดินไปชั่วขณะเธอหลับตาลง

ด้วยความเหนื่อยล้า

เพื่อนสนิท? หล่อนก็อยากเป็นเพื่อนสนิทกับเธอ เหรอ แต่เธอไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเย่โม่เซิ นอีก

เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นเฉียวจึงไม่ได้ตอบเธอกลับไป สักประโยค ยังคงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า เดิมที่เสี่ยวเหยี ยนคิดว่าเธอคงจะหันกลับมา ใครจะรู้ แม้แต่จะหันกลับ มาเธอก็ไม่หัน ในใจของเธอจึงเต็มไปด้วยความโกรธ เสี่ยวเหยียนรีบก้าวเดินตามไป

พอเดินไปได้สองก้าวก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยเดิน จากข้างนอกเข้ามา ขวางทางเสิ่นเฉียวไว้พอดี
เสิ่นเฉียวคาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับเย่หลิ่นหาน เธอตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา แล้วก็เดินผ่านตัวเขาไป

เย่หลิ่นหานใจหวิวเมื่อเห็นขอบตาเธอแดงเล็ก น้อย ผลสุดท้ายเธอทำเหมือนมองไม่เห็นตนเองแล้ว เดินจากไป ขณะนั้นเย่หลิ่นหานรู้สึกเหมือนหัวใจของตน ถูกแทงอย่างรุนแรง

จากนั้นเขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว แล้วรีบหัน หลังตามไป

“เฉียวเฉียว!”

เย่หลิ่นหานขยับตัวแล้วคว้าแขนของเธอไว้อย่าง รวดเร็ว เสิ่นเฉียวหน้าเปลี่ยนสี แล้วรีบดึงมือกลับ

“ปล่อยฉัน!”

การเคลื่อนไหวของเธอรุนแรงมากจนเย่หลิ่นหาน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว “ไม่อยากเจอฉันขนาดนี้? แม้ว่าฉัน จะมาช่วย เธอก็ไม่ยินยอมเหรอ? เฉียวเฉียว ที่แท้เธอ เกลียดฉันมากแค่ไหน? ตอนนี้เกลียดจนไม่แม้แต่จะมอง ฉันสักนิดหรือยอมรับความช่วยเหลือจากฉันเลยเหรอ?”

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่างของเธอ แล้วมองเขา อย่างดื้อดึง: “พี่ใหญ่ ก่อนหน้านี้คุณเคยช่วยฉันหลาย ครั้งแล้ว ฉันเป็นหนี้คุณมากแล้ว ไม่อยากเป็นหนี้คุณอีก”

พอได้ยินอย่างนี้ เย่หลิ่นหานก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม อย่างขมขื่น: “ที่แท้เธอก็รู้ว่าเธอเป็นหนี้ฉันมากมาย อย่างไรก็ตามเธอเป็นหนี้มากขนาดนี้อยู่แล้ว เป็นเพิ่มอีกสักหน่อยจะเป็นอะไรไป?”

เสิ่นเฉียว: “.

เสี่ยวเหยียนที่ยืนมองพวกเขาอยู่ไกล ๆ ถึงแม้จะ ไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่ความโกรธของเธอ ตอนนี้สงบลงแล้ว เพราะเมื่อครู่เธอตื่นเต้นเกินไปจริง ๆ เมื่อได้ยินว่าหล่อนจะจากไปและไม่อยากเจอเย่หลิ่ นหาน เท่ากับว่าละทิ้งการกระทำนี้ ดังนั้นเธอจึงรีบพูดใน สิ่งพลิกสถานการณ์ไม่ได้ไป

“ไม่ใช่แบบนี้ ฉันติดหนี้คุณ ฉันก็ต้องคืนให้คุณ” เสิ่นเฉียวจำเงินสามแสนนั่นได้ ถึงแม้การกระทำของคุณ แม่เสิ่นจะทำให้เธอโกรธและผิดหวังมาก แต่หล่อนก็ยัง เป็นคุณแม่ผู้ให้กำเนิดเธอ ถึงเธอจะโกรธแต่ก็ต้องรับผิด ชอบภาระก้อนนี้

“เป็นหนี้ อย่างไรเสียก็ต้องใช้คืน ไม่สู้เป็นเพิ่มอีก สักหน่อย ก็ไม่เห็นจะเป็นไร”

เมื่อพูดจบ เย่หลิ่นหานก็เดินนำเข้าไปข้างใน “ฉันก็มาแล้ว เข้าไปกันเถอะ” เสิ่นเฉียวยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับ พอเห็น

ความดื้อรั้นของเธอ เย่หลิ่นหานจึงก้าวไปข้างหน้า แล้ว จับแขนของเธอ ดึงเธอเข้ามา

“เย่หลิ่นหาน ปล่อยฉัน ปล่อยฉัน!”

พอได้ยินชื่อของเขาจากปากของเธออีกครั้ง ในที่ สุดเย่หลิ่นหานก็สามารถแก้ปัญหาความทุกข์ทรมานจาก ความคิดถึงในช่วงวันที่ผ่านมานี้ได้แล้ว
พอรู้ว่าเธอหายไปจากตระกูลเย่กะทันหัน ไม่เห็น เธออยู่ที่ตระกูลเย่ แม้แต่ที่บริษัทก็มองไม่เห็นเงาของ เธอ แล้วเขาก็ไม่สามารถตามหาเธออย่างโจ่งแจ้งได้ นับ ว่าเบาะแสในวันนี้ทำให้เขาได้เจอเธออีกครั้ง เขาจึงรีบ ขับรถมาอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดก็ได้เห็นเธอยืนตรงหน้าตนเองอีกครั้ง

เพียงแค่คิดว่าในช่วงวันเหล่านี้เธออยู่กับเย่โม่ เซิน หัวใจของเขาก็เหมือนถูกเข็มทิ่มแทง เย่หลิ่นหาน เม้มปากแล้วดึงเธอกลับมาที่เดิมอีกครั้ง เสี่ยวเหยียนยัง ยืนเหม่ออยู่ตรงนั้น เสิ่นเฉียวมีสีหน้าที่อ่อนเพลีย

เธออยากส่ายหัวแล้วจากไป แต่ว่า… พอคิดว่า ตนเองเป็นหนี้น้ำใจเขามากมาย ก็ก้าวเท้าไม่ออก

สุดท้ายเธอก็ยังคงนั่งลงไปอีกรอบด้วยสีหน้าที่ เย็นชาแล้วเอ่ย

“ฉันไม่มีอะไรที่ต้องการให้คุณช่วย” ในเมื่อจาก ไปไม่ได้อย่างนั้นเธอก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือของเย่ หลิ่นหาน

สีหน้าของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย มอง ไปทางเย่หลิ่นหาน: “รองประธานเย่ โชคดีที่คุณมาแล้ว พวกเรามีเรื่องสำคัญต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”

“เรื่องอะไร พูดเถอะ”

ทั้งสองคนทำราวกับไม่ได้ยินประโยคนั้นของเสิ่น เฉียว แล้วสนทนากันต่อ
เสิ่นเฉียวกัดฟันด้วยความโกรธ

เสี่ยวเหยียนกำลังเอ่ยปากอยากจะพูด เสิ่นเฉียวก็

ขัดจังหวะ: “ฉันได้พูดไปแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ ฉัน ไม่ต้องการให้คุณช่วยฉัน” เย่หลิ่นหานมองไปทางเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

แต่น้ำเสียงของเขากลับมีความขมขึ่นอยู่เล็กน้อย: “ถ้า

เป็นคนอื่นล่ะ? นอกจากฉันแล้ว ไม่ว่าใครเธอก็ยอมรับ

ความช่วยเหลือได้ทั้งนั้น?”

แม้ว่าว่ามันจะทำให้อีกฝ่ายอึดอัด แต่เสิ่นเฉียวก็ ยังยอมรับอย่างโหดร้าย

“ใช่ พี่ใหญ่ ฉันบอกแล้วว่าฉันติดหนี้คุณมาเยอะ แล้ว ถ้ามีเพิ่มฉันคงคืนให้ไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ คุณอย่ายุ่ง”

เสี่ยวเหยียนกัดฟันและตอบโต้คำพูดของเธอ แน่นอนว่าต้องยุ่ง ถ้ารองประธานเยไม่ยุ่งพวกเราก็ได้แต่ ยอมรับความไม่เป็นธรรมแล้ว!”

เสิ่นเฉียว: “…เสี่ยวเหยียน เธอจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ฉันให้ได้เลยใช่ไหม?”

เสี่ยวเหยี่ยน มองเธอด้วยสายตาที่แน่วแน่ “ขอโทษนะ ถึงเธอจะโกรธ แต่ครั้งนี้ฉันก็ยังยืนยัน”

เสิ่นเฉียวจ้องมองเธอเป็นเวลานาน เธอก็ไม่ สามารถพูดอะไรได้ เธอแค่มองไปทางที่หล่อนแล้ว หัวเราะอย่างเย็นชา: “เอาเถอะ ในเมื่อเธออยากทำแบบ

นี้ อย่างนั้นเธอก็อยู่คุยกับเขาเถอะ ฉันยังมีธุระ ขอโทษนะอยู่เป็นเพื่อนด้วยไม่ได้”

พอพูดเสร็จเสิ่นเฉียวก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

ครั้งนี้เย่หลิ่นหานไม่ได้ห้ามเธออีก เสี่ยวเหยียนรี บลุกขึ้นอยากจะตามเธอไป แต่ก็ถูกเย่หลิ่นหานห้ามไว้

“อย่าตามเลย ในเมื่อเธออยากไป คุณตามไปก็ ไม่มีประโยชน์”

พอได้ฟัง เสี่ยวเหยียนรีบจนตาแดงเหมือนจะ ร้องไห้แล้ว: “แต่ว่า…”

“เรื่องนี้คุณไม่รู้เหรอ? ถึงเธอไม่อยู่ตรงนี้ผมก็ สามารถแก้ไขได้”

เสี่ยวเหยียนนิ่งไปสักพัก แล้วกัดริมฝีปากของตัว เอง: “ถึงเฉียวเฉียวไม่อยู่ตรงนี้ รองประธานเย่ ก็ยัง สามารถช่วยได้เหรอ?”

เย่หลินหานมองเธอ ด้วยสีหน้าที่เงียบขรึม: ” แน่นอน คุณลองเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังก่อน”

เสี่ยวเหยียนกลอกตาไปมา เธอไม่ได้โง่ รู้ว่าไม่ สามารถนำเรื่องทั้งหมดบอกเย่หลิ่นหานได้อย่าง แน่นอน ทำได้แค่โกหกไป

“ความหมายของคุณคือ คุณหนูตระกูลหานกับ เพื่อนของคุณรักกัน พอเธอท้องแล้ว ผู้ชายคนนั้นกลับ ทอดทั้งเธอ ดังนั้นเธอเลยมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย?”

เสี่ยวเหยียนรีบพยักหน้า เธอกลืนไม่เข้าคายไม่ ออกอย่างสุดชีวิต เดิมทีเธอก็แต่งเรื่องไม่ค่อยเป็น แล้วก็ไม่รู้ว่าจะถ่ายทอดเรื่องนี้ออกมาได้ไหม นี่คือสิ่งที่เธอคิด ดีที่สุดแล้ว

“ที่คุณพูด เป็นความจริงเหรอ?”

เป็นอย่างที่คิดไว้คือเย่หลิ่นหานถามเธอหนึ่ง ประโยค

เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่าง: “เป็นความจริง แน่นอนฉันจะโกหกรองประธานเย่ทำไม? แล้วยังไม่มี ประโยชน์ใด ๆ อีกด้วย ฉันเพียงแต่อยากรู้ว่าเธอท้องจริง หรือเปล่า พวกเราหาทางลงมือกับโรงพยาบาลนั้นไม่ได้ เลยอยากยืมแรงรองประธานเย่ช่วยฉันดูหน่อย อย่างไร เสียเพื่อนคนนั้นของฉัน…ก็เป็นห่วงเธอมาก”

หลังจากนั้นไม่นาน เย่หลิ่นหานก็พยักหน้าเสียง ของเขาเย็นชา

“ได้ ผมจะช่วยคุณ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ