เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1284 ก็เป็นอาชีพที่มีอาชีพหนึ่ง



บทที่ 1284 ก็เป็นอาชีพที่มีอาชีพหนึ่ง

ก่อนที่งานเลี้ยงวันเกิดจะเริ่มขึ้น ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องโถง เพราะว่าวันนี้เชิญผู้คนมาตั้งมากมาย ดังนั้นจึงมีบางคนมองเห็น เจียงเสี่ยวไปยืนตัวสูงๆ ก็เข้ามาถามเกี่ยวกับอายุและการศึกษา ของเธอ

หลังจากที่ฉันได้ยินว่าเธอทำงานฟรีแลนซ์แล้วนั้น ยังชมเชย เธอด้วยว่ายอดเยี่ยมมากๆ และให้เธอตั้งใจทำงานต่อไปอะไร จําพวกนั้น

เจียงเหมยฟังอยู่ข้างๆ อย่างอึดอัด หัวใจทั้งดวงอิจฉาจนจะบิด เบี้ยวแล้ว

แม้ว่าตระกูลเจียงจะมีลูกชายสามคน แต่ว่าลูกชายทั้งสามคน

นี้ก็ให้กำเนิดลูกสาวสองคน

เจียงเหมยชอบเปรียบเทียบกับเจียงเสี่ยวไปตั้งแต่เด็กๆ

เจียงเสี่ยวไปทำอะไรเธอก็จะทำสิ่งนั้นด้วย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอ ไม่สามารถทำตามได้ นั่นก็คือร่างกายของเจียงเสี่ยวไป

เนื่องจากเจียงเสียวไปได้รับกรรมพันธุ์ความงามจากคุณแม่ ของเธอและในขณะเดียวกันก็ได้รับความสูงและขายาวจากคุณ พ่อของเธอด้วย ดังนั้นเธอไม่เพียงแต่มีขาที่ยาวและตัวสูงจนน่า อิจฉาเท่านั้น แต่ยังมีใบหน้าที่ทำให้คนน่าอิจฉาอีกด้วย

เธอเป็นคนที่สวยโดยไม่ต้องแต่งตัวแบบนั้น เพียงแค่แต่งตัวก็สามารถปราบปรามผู้ชมได้หมด ดังนั้นก่อนที่จะมางานในวันนี้ เจียงเหมยตั้งใจแต่งตัวอย่างเป็นพิเศษ

และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอกังวลเรื่องตาชั้นเดียวของตัว เองมาเป็นเวลานาน และในที่สุดก็ตัดสินใจไปหาคุณหมอเพื่อ ทําตาสองชั้น

เธอได้ฉีดหน้าขาวใส และกรดไฮยาลูโรนิก ผลิตภัณฑ์ ศัลยกรรมทางการแพทย์ต่างๆ และก็ทำผ่าตัดศัลยกรรมมาตั้ง มากมาย

เจียงเหมยนึกว่าตัวเองสวยมากๆแล้ว แต่เจียงเสี่ยวไปเก็บเนื้อ เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน จะต้องหน้าตาไม่สวยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้เมื่อได้พบเจียงเหมย เธอถึงตระหนักว่าเธอคิดผิดไปแล้ว

เพราะว่าเธอไม่เพียงแค่สวยเท่านั้น แต่เธอยังสวยอย่างเป็น ธรรมชาติอีกด้วย ไม่ได้สนใจดูแลเรื่องผิวพรรณอะไรมากนักแต่

ก็ยังเนียนขาวใสเหมือนเดิม ซึ่งทำให้เธอน่าโมโหมากจริงๆ!!! ตอนนี้แขกส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่พูดคุยกับเจียงเซียวไป์ เจียงเหม ยก็ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก

ดังนั้นเมื่อมีคนถามคำถามว่ารายได้จากการเขียนบทความ ของเจียงเสี่ยวไปต่อเดือนเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตของเธอ หรือไม่นั้น เจียงเหมยก็อดไม่ได้ และก็ไม่สนว่าจะเสียมารยาท หรือไม่ ก้าวเข้าไปข้างหน้าและพูดแทรกโดยตรงว่า “รายได้จาก งานที่เธอทำเพียงพอสำหรับการเลี้ยงชีพตัวเองซะที่ไหนกันละ? เมื่อก่อนตอนสมัยเรียนเธอก็ไม่ค่อยชอบเรียนหนังสือ หลังจากเรียนจบไปแล้วทำไมถึงไม่หางานดีๆทำละ? เดี๋ยวไป แม้ว่าพวก เราจะเป็นพี่น้องกัน แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่ว่าเธอคำหนึ่งจริงๆ เธอ ไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ในอนาคตเธอต้องการแต่งงานและมีลูก นะ ยังไงก็รีบหางานที่ดีๆ เก็บเงินสักหน่อย และเลิกทำให้คุณ พ่อคุณแม่ลำบากซะ ”

เจียงเสี่ยวไป์ “..….”

แมลงวันน่ารำคาญตัวนี้ คิดไม่ถึงว่าจะบินออกมาอีกแล้ว เฮ้อ แมลงวันก็บินตามกลิ่นมาจริงๆด้วย

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เจียงเสี้ยวไปมองไปที่เธอ และยิ้มจาง ๆ “คุณ พ่อคุณแม่ของฉัน? เธอเป็นรุ่นหลาน ไม่รู้ว่าจะเรียกผู้อาวุโสของ ตัวเองอย่างไรเหรอ?”

สีหน้าของเจียงเหมยเปลี่ยนไป เธอคิดไม่ถึงมาก่อนว่าจะใช้ หัวข้อนี้มาเขียนบทความอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงรีบ แก้ตัวอย่างรวดเร็ว “ฉันก็แค่พูดออกไปเฉยๆ คุณน้าสามและคุณ ลุงสามเดิมทีก็ทำงานหนักเพื่อเธอ เดิมทีครอบครัวของเธอก็มีแค่ ลูกสาวคนเดียว เธอทั้งไม่ทำงานทั้งไม่หาเงินแถมยังใช้เงินที่ บ้านกินอยู่กับคนในบ้าน แบบนี้ไม่ดีจริงๆนะ

“งั้นตามที่เธอว่า ฉันควรจะทำอย่างไรดีละ?”

เจียงเสี่ยวไปก็ไม่ได้โกรธเช่นกัน มีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ราวกับว่ากําลังสะสมพลังเพื่อขยายตัว

เจียงเหมยมีลางสังหรณ์ที่คลุมเครือหนึ่งอย่าง แต่หลังจากได้เห็นคนรอบๆ ฟังคำพูดของเธอแล้วนั้นและแสดงสีหน้าท่าที่ดูถูก เจียงเสียวไปเล็กน้อย หัวใจของเธอก็เริ่มกลับมามืดมนอีกครั้ง

” ที่นี่มีคนตั้งมากมาย ให้ทุกคนช่วยเธอดูไหมล่ะว่ามีงาน อะไรที่สามารถแนะนำได้บ้าง? ”

“ต๊ะ? ผลการเรียนของเธอก็ไม่ค่อยดีนัก และเธอก็ใช้ชีวิตอยู่ บ้านเฉยๆมานาน ไม่ทำอะไรเลยเธอออกไปทำงานก็คงทำไม่ได้ หรอกมั้ง?

“ใช่ ไม่เคยลําบาก จะออกมาทำงานได้อย่างไรกัน? ”

เจียงเหมยกระแอมเล็กน้อย ” เสี่ยวไป มีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ในบริษัทที่ฉันทำงาน เปิดร้านอาหารฝรั่ง ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้ พวกเขากำลังรับสมัครพนักงานเสิร์ฟ แม้ว่าเงินเดือนจะไม่สูงมาก นัก แต่ยังดีที่พวกเขาให้อาหารสามมื้อฟรี แม้ว่าการเป็น พนักงานเสิร์ฟจะเหนื่อยไปหน่อย แต่ตามสภาพปัจจุบันของเธอ แล้ว ไม่ลองดูหน่อยเหรอ อย่าให้คุณลุงสามและคุณน้าสาม ลำบากใจอีกเลย”

“พนักงานเสิร์ฟ?” เจียงเสี่ยวไปยกริมฝีปากขึ้น “ก็เป็นอาชีพที่ ดีอาชีพหนึ่ง”

ในสายตาของเจียงเสี่ยวไป ตราบใดที่พึ่งพาลำแข้งตนเอง ไม่ เพียงทําเรื่องอะไรก็ควรค่าแก่การมีคนเคารพ ทุกคนกำลัง ทํางานอย่างหนักเพื่อทำในสิ่งที่สามารถทำได้ ไม่ไปขโมยหรือ ว่าไปแย่งใคร อาศัยความสามารถในการทำงานของตนเองเพื่อ ใช้แลกเงิน ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ไม่มีอะไรให้ต้องละอายใจ
แต่เจียงเหมยอยากนำอาชีพพนักงานเสิร์ฟนี้มาทำให้เธอ อับอาย

“ใช่ไหม? ” เจียงเหมย ได้ยินเธอพูดว่าเป็นอาชีพที่มีอาชีพ หนึ่ง คิดว่าเธอจะใจเต้นจริงๆ ในขณะเดียวกันก็ถอนหายใจอยู่ ในใจว่าเธอหน้าด้านแค่ไหน ถึงยอมรับความอับอายต่อหน้า สาธารณชนเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่หันศีรษะแล้วเดินออกไป

“ถ้าเธอคิดว่าดีละก็ พอถึงตอนนั้นฉันจะแนะนำให้เธอรู้จัก เจียงเสี่ยวไป “ได้เลย”

เจียงเหมยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ ข้างนอก เฉียงเสี่ยวไปไม่ได้พูดดีแบบนี้

ดังนั้นเธอจึงเอนตัวเข้าใกล้เคียงเสี่ยวไป ลดเสียงลง และถาม

เธอด้วยน้ำเสียงที่มีเพียงแค่พวกเธอสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน “เธอ

กำลังทำอะไรกันแน่?

เมื่อได้ยิน เจียงเสี่ยวไปก็กะพริบตาอย่างไร้เดียงสา “ต๊ะ? ฉัน ไม่ได้ทำอะไรนี่”

เจียงเหมยไม่เชื่อ “ฉันพูดถึงขนาดนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าเธอจะยัง ไม่โกรธอีก เจียงเสี่ยวไป ตอนนี้เธอหน้าหนามากจริงๆ

“ ที่ไหนกันละ ไม่ว่าหน้าของฉันจะหนาแค่ไหนก็ไม่สามารถ 11 เทียบกับอันดับหนึ่งสองของเธอได้ หรอก อาศัยผู้ชายเข้ามา ทํางานในบริษัท ผลก็คือคุณธรรมของตัวเองไม่สามารถเข้ากับ สถานะทางสังคมได้ สุดท้ายก็ยังต้องพึ่งพาผู้ชายเพื่อใช้ชีวิตเจียงเหมย ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันฉันต้องเตือนเธอสัก ประโยคว่า ถ้าผู้ชายคนนั้นเต็มใจที่จะให้เธอพึ่งพาไปตลอดชีวิต ก็ถือว่าเธอโชคดี แต่ถ้าเขาหนีไปกลางคัน เธอจะมีอะไรอีกเห รอ ?”

เจียงเหมยตกตะลึง

“เธอคิดว่าเธอยังสามารถยืนอยู่ตรงนี้อย่างสง่าผ่าเผยเหมือน ตอนนี้ ที่ใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ฉีดน้ำหอมแบรนด์ชื่อดัง และพูดอย่าง หยิ่งยโสว่าจะหางานให้ฉันทำ กลัวว่าเมื่อถึงเวลานั้น งานที่เธอ อยากแนะนํา ตัวเธอเองยังหาทำไม่ได้ ”

หลังจากพูดจบ เจียงเสี่ยวไปก็แสดงรอยยิ้มละเอียดอ่อน งดงาม และพูดเบา ๆ : “เธอพูดแบบนี้ต่อหน้าทุกๆคน ไม่ใช่ว่า อยากจะบอกทุกคนว่าตอนนี้เธอมีชีวิตที่ดี มีตำแหน่งในบริษัท แถมยังรู้จักคนเก่งๆ และฉันเจียงเสียวไปไม่มีอะไรเลยไม่ใช่เห รอ? อยากเห็นฉันกระทืบด้วยความโมโหอย่างสุดขีด เห็นฉัน ขายหน้า ฉันบอกเธอให้ อย่าแม้แต่จะคิด

หลังจากนั้นเจียงเสี่ยวไปก็มองไปรอบ ๆ หนึ่งครั้ง และพูดกับ ทุกคนอย่างจริงใจ “งานในปัจจุบันของฉันค่อนข้างอิสระจริงๆ ถ้าหากทุกๆคนอยากจะแนะนำงานให้ฉันทำ ฉันก็สามารถหา เวลามาทํางานพาร์ทไทม์ได้ ถึงอย่างไรก็ตามการทำงานทำให้ ฉันรู้สึกมีเกียรติ”

ทุกคนคิดไม่ถึงว่าเธอจะถ่อมตัวและไม่หยิ่งยโสขนาดนี้ แตะ จมูกของตัวเองอย่างเงียบๆ และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก เป้าหมายของ เจียงเหมยยังไม่บรรลุ ไม่มีความสุขในใจเป็นอย่างยิ่ง เธอจับมือของเจียงเสี่ยวไป อยากจะพูดอะไรอีก ในตอนนี้คุณ หญิงใหญ่เจียง กลับถูกติดตามเป็นกลุ่มออกมา

“จับมือฉันทำไม คุณยาออกมาแล้ว คุณเจียงเหมยยังไม่รีบ ปล่อยมือฉัน แล้วไปประจบประแจงอีก? ช้าอีกหน่อยกลัวว่าเธอ จะไม่มีโอกาสแล้ว”

เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋พูดแบบนี้ เจียงเหมยเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นได้ หลังจากพูดว่าเธอรอดูแล้วกันไปหนึ่งประโยค จากนั้นก็หันตัว เข้าไปในกลุ่มคน

คนที่อยากเอาอกเอาใจเนี่ย ไม่สามารถทนความตื่นเต้นได้ จริงๆเลย

เจียงเสียวไปหันกลับมา และหัวเราะอย่างจนใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ