บทที่168 โผงผางเหมือนกับลา
ก็เป็นสินบน?
เสี่ยวเหยียนสีหน้าเปลี่ยน ดูแล้วในคำพูด ของเย่หลิ่นหานก็คือยอมรับแล้วว่ากำลังจีบเสิ่น
เฉียว
พระเจ้าช่วย
เสี่ยวเหยียนทนไม่ไหวกะพริบตา ถ้าหากเย่ หลิ่นหานอยากจะจีบเสิ่นเฉียวจริงๆ งั้นระหว่าง เธอกับเย่โม่เซินล่ะ? ถึงแม้เสี่ยวเหยียนก็ไม่ได้ รู้สึกว่าเสิ่นเฉียวพึ่งเย่โม่เซินถึงเข้ามาในบริษัท ตระกูลเย่ แต่เธอรู้สึกว่าสถานะของเธอก็คล้ายๆ กันกับเธอไม่ได้พิเศษอะไร
แต่ว่าตอนนี้ เธอ…สถานะของเธอคงไม่
ง่ายเลย?
ไม่อย่างนั้นตระกูลเย่สองพี่น้องนี่จะ….
คิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนทนไม่ไหว กระแอมออกมา : “รองประธานเย่ คุณจริงจังกับ เฉียวเฉียวไหม? ถึงแม้….พวกเราจะเป็นคน ธรรมดา ในสายตาพวกคุณ ผู้หญิงธรรมดาแบบ พวกเราอะไรแบบนั้นหรอ … แต่ว่ารองประธานเย่ฉันอยากจะอธิบายสักหน่อย พวกเราก็มี ศักดิ์ศรี เสิ่นเฉียวพึ่งจะถูกประธานเยือน ตำแหน่ง รองประธานเย่ก็….”
เธอพูดอย่างลังเล พูดครึ่งๆ กลางๆ ไม่กล้า พูดออกมาทั้งหมด กลัวว่าตัวเองไม่ระวังก็จะถูก โกรธ
เย่หลิ่นหานก็ฟังเข้าใจความหมายในคำพูด ของเธอ ค่อยๆ ยิ้ม
“ฉันรู้ว่าเธอหมายความว่ายังไง วางใจ ฉัน ไม่ใช่คนแบบนั้น”
เสี่ยวเหยียน : “คุณรู้จริงๆ หรอว่าฉัน หมายความว่ายังไง? ”
คิดไปคิดมา เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าเย่หลิ่ นหานไม่ใช่คนแบบนั้น ปกติเธออยู่ในบริษัทเขา เป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยน แต่ไม่เคยเห็นเขาจะ ชอบใครจริงจัง ถ้าหากจะพูดว่าสามารถคบกับ รองประธานเย่ได้ รองประธานเย่ต้องเป็นคนรักที่ อ่อนโยนมากแน่ๆ
แต่เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าเขารอยยิ้มของเขา ยังไม่เข้าตา ให้ความรู้สึกราวกับว่าให้กับคนที่ไม่รู้
จัก
“รองประธานเย่ ฉันรู้สึกว่าเฉียวเฉียวเป็นคน ที่ทำเรื่องอะไรก็จริงจัง ” คิดไปคิดมา เสี่ยวเห ยียน ก็พูดมาอีกประโยค
เย่หลิ่นหานยิ้มแต่ไม่พูด สองคนยิ่งเดิน เข้าหากันยิ่งไกล
เสิ่นเฉียวตรงไปบนตึกเพื่อไปหาพี่จิง ตอน ที่ผลักประตูเข้าไปเสิ่นเฉียวก็อึ้งเลย
เพราะวันนี้คนในห้องทำงานไม่ใช่พี่จิง แต่ กลับเป็…..เย่โม่เซิน
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เย่โม่เซินเงยหน้า สายตาเย็นตาจ้องไปที่
เธอ
“ทำไม สัญญาก็ให้เธอแล้ว ที่ก็เป็นของเธอ
แล้ว”
เสิ่นเฉียว : . ฉันไม่ได้หมายความแบบ
นั่น”
พูดจบ เธอเดินไปเอาของที่อยู่ในมือวางไว้ บนโต๊ะ เธอแค่คิดไม่ถึงว่าเย่โม่เซินจะอยู่ที่นี่เฉยๆ
อีกอย่างนึกไม่ถึงเลยเขาจะพูดกับเธอแล้ว ตอนอยู่ในบ้านก็ไม่ได้คุย
สายตาของเย่โม่เซินเยาะเย้ย : “สัญญากับ บัตรธนาคารอยากจะคืนฉันไม่ใช่หรอ? ทำไมถึง หยิบมาอีก? ผู้หญิงที่แต่งงานครั้งที่สอง คำพูด
ของเธอที่จริงแล้วมีกี่คำกันที่เป็นความจริง?” คำพูดนี้…เสิ่นเฉียวเจ็บในใจ เธอกัดริม ฝีปากล่างของตัวเอง ไม่ได้มองเขา
“เธอคิดว่ามันเป็นความจริงก็คือความจริง เธอคิดว่าเป็นเรื่องปลอมหรอ ฉันไม่มีอะไรจะ เถียง ”
“จากที่เธอพูดแบบนี้ ฉันทำผิดแล้วโทษคุณ
หรอ?”
เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไร
สายตาของเย่โม่เซินเย็นชาและมองมาที่
เธอตลอด
เสิ่นเฉียวหายใจเข้าลึกๆ “ยังไงพี่จิงไม่อยู่ ฉันขอกลับก่อนละ”
พอเดินถึงนอกประตู เสิ่นเฉียวก็บังเอิญเจอ พี่จิง “อ้าว เฉียวเฉียวเธอมาแล้วหรอ? ฉันพึ่งจะ พูดกับโม่เซินว่าเดี๋ยวเธอก็มาแล้ว ไม่ได้คิดว่าวัน นี้เธอจะมาสายนะ ฉันพึ่งจะไปชั้นล่างซื้อกาแฟมา ช่วยฉันถือแก้วหนึ่งให้โม่เซิน”
พูดจบ พี่จิงเดินไปอีกข้างของเธอ : “ฉันไป ดูพวกเขาเป็นยังไงบ้างแล้ว”
เสิ่นเฉียว :
เธอหยิบกาแฟมาสองแก้วแล้วหยุดนิ่ง
สุดท้ายได้แค่กลับตัวเอากาแฟสองแก้ววาง
ไว้ต่อหน้าเย่โม่เซิน
“เอาของเธอออกไป ” เย่โม่เซินพูดอย่าง
เย็นชา
เสิ่นเฉียว : “ไม่จำเป็น นี่คือของพี่จิงซื้อให้
คุณ”
“มีแค่แก้วหนึ่งให้ฉัน”
เสิ่นเฉียว : “..นี่คุณเป็นเด็กหรอ !
เธอโกรธ เอาแก้วของตัวเองหยิบมาแล้ว เดินออกไปข้างนอก สายตาของเย่โม่เซินมองไป ที่ด้านหลังของเธอ : “ยกห้างสรรพสินค้าให้เธอ แล้ว ประสิทธิภาพก็ลดลงอย่างสิ้นเชิง”
เสิ่นเฉียว : “ฉันรู้ ไม่ต้องให้คุณมาเตือน ฉันกำลังคิดหาวิธี”
เย่โม่เซิน : “คิดวิธีให้ประสิทธิภาพลดลง ไปอีกหรอ?”
เสิ่นเฉียวกำมือแน่น หันหน้าไปจ้องตากับ เย่โม่เซิน
“คุณไม่จำเป็นต้องเยาะเย้ยฉันแบบนี้ ช่วงนี้ ฉันกำลังเรียนรู้กับพี่จิงอย่าขยันขันแข็ง ถ้าหาก คุณคิดว่าฉันไม่มีคุณสมบัติกับงานนี้ งั้นคุณ สามารถเอาสัญญากลับไป ฉันจะยกมันให้ด้วย สองมือเลย ไม่ผิดนัดแน่นอน! ”
เย่โม่เซินจ้องที่เธอ ว่าเธอสองประโยคก็จะ เอาของคืนไปให้เขา นานขนาดนี้นิสัยของเธอก็ ยังไม่เคี่ยวกรำอีกหรอ ยังคงโผงผางเหมือนกับ ลา
เห็นเขาไม่พูดอะไรแล้ว เสิ่นเฉียวก็ขี้เกียจ จะสนใจเขาแล้ว
ตอนพี่จิงมาแล้ว บรรยากาศที่นี่นิ่งมาก ใคร ก็ไม่พูดไม่จา สายตาเธอมองไปที่เย่โม่เซินกับ เสิ่นเฉียวครั้งหนึ่ง แล้วยกมุมปาก: “พูดสิ คืนนี้ อยากไปกินข้าวด้วยกันไหม?”
ได้ยินแล้ว เสิ่นเฉียวใจเต้น มุมตามองไปที่ เยโม่เซิน
ถ้าหากสามารถออกไปกินข้าวด้วยกันได้ หรือว่าสามารถทำให้บรรยากาศระหว่างเธอและเย่โม่เซินสงบลงได้ ถึงเวลาเธอก็จะอธิบายเรื่อง
วันนั้นกับเขาได้ไง? ถึงแม้จะหลายวันผ่านมา แต่
เสิ่นเฉียวยังคงครุ่นคิดอยู่ ถึงแม้คำพูดพวกนั้น มันจะเกินไปมาก หลังจากนั้นนานเธอก็ยังรู้สึกว่าคำพูดเหล่า
นั้นเกินไปมาก
เพราะฉะนั้นพี่จึงพูดขึ้นมาว่าอยากกินข้าว ด้วยกัน ทันใดนั้นเสิ่นเฉียวก็รู้สึกว่าเป็นข้อเสนอที่
ดี
สายตาเธอมองไปที่เยโม่เซินอย่างมีความ หวัง เสียงที่เย็นชาของเย่โม่เซินก็ดังขึ้นตอนนี้
ไม่ต้อง”
เขาปฏิเสธตรงๆ เลย
เสิ่นเฉียวตกใจ ในสายตาค่อนข้างผิดหวัง
พี่จิงกลอกตาไปมา “ทำไมปฏิเสธล่ะ? โม่ เซินไปด้วยกันเถอะ เสิ่นเฉียวก็มา
พูดจบ พี่จิงผลักเสิ่นเฉียวครั้งหนึ่ง : “ใช่
ไหมเสี่ยเฉียว? ”
เขาก็ปฏิเสธแล้ว เสิ่นเฉียวตอบกลับง่ายๆ : “แล้วแต่เถอะ”
น้ำเสียงเฉยๆ ราวกับไม่ได้สนใจ
ที่จริงเธอผิดหวัง เย่โม่เซินก็ไม่ไป เกี่ยว อะไรกับเธอล่ะ? เธอทำไมต้องมาครุ่นคิดอยู่แบบ นี้ ให้เขาโกรธให้ตายไปเลย
อีกอย่างคำพูดพวกนี้เข้าหูเย่โม่เซิน คิดว่า เธอไม่สนใจหรอกว่าเธอจะออกไปกินข้าวกับตัว เองหรือไม่ บางทีที่คำขอที่พี่จิงขอสำหรับเธอ อาจจะเป็นการบังคับ สำหรับเย่โม่เซินตัวเย็น เฉียบและรุนแรงมากขึ้น หลังจากนั้นไม่นานก็มี เสียงหัวเราะคิกคักขึ้นมา
พี่จิง: … จะไม่ไปกันจริงหรอ? it
เย่โม่เซินกับเสิ่นเฉียวไม่มีการตอบสนอง พี่ จึงคิดว่าตัวเองทำดีไม่ได้ดี เลยตอบไปประโยค นึง : “โอเค งั้นฉันไปเอง”
เสิ่นเฉียวอยู่ก็เริ่มลำคานแล้ว แล้วก็ยืนขึ้น : “ฉันนัดกับเพื่อนไว้ว่าจะออกไปข้างนอก ฉันไป ก่อนละ ”
พูดจบไม่รอการตอบสนองของสองคน ก็ เดินจากไปจากห้องทำงานเลย
ในห้องทำงานเหลือแค่เย่โม่เซินกับพี่จิง พี่ จึงรู้สึกถึงเย่โม่เซินที่ลมหายใจจะผันผวนมากขึ้นทนไม่ไหวดื่มกาแฟไปอีกหนึ่ง แล้วชำเลืองมอง เขา : “โม่เซิน พวกเธอเรื่องอะไรกัน? ทะเลาะกัน หรอ? ”
เย่โม่เซินใช้สายตาที่เย็นชาชำเลืองมอง เธอ แล้วไม่ได้พูดอะไร
พี่จิงกลับเม้มริมฝีปากด้วยความภาคภูมิใจ : “ดูแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอจะดีกว่าที่ฉัน คิดไว้นะ”
เสียงเพียงแผ่วลง เย่โม่เซินเพียงแค่หมุน ล้อของวีลแชร์แล้วออกไป
พี่จิง :
เธอทำอะไรผิด?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ