เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1388สวยโดดเด่นจนกลบคนอื่น



บทที่1388สวยโดดเด่นจนกลบคนอื่น

หลินสวีเพิ่งคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเธอจะถามแบบนี้ เงียบลงมาในชั่วขณะ ไม่ได้ตอบเธอ ความอ่อนโยนบนใบหน้าก็ได้หายไปหมดในนาที นี้ เหลือแค่ความเย็นชา

อุณหภูมิของห้องก็จางหายไปในทันที

สวี่เย็นหวั่นตระหนักอะไรได้ แววตามีความสับสนวุ่นวายแว๊บ ผ่าน

“พี่หลิน ขอโทษค่ะ ฉันอารมณ์แย่เกินไป พูดจาเหลวไหลอยู่ นั่นแหละ พี่กลับไปก่อนเถอะค่ะ”

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ดีเอง ฉันไม่ควรยกตัวอย่างไปมั่ว ยิ่งไม่ควร

เอาพี่หลินมายกตัวอย่าง สมัยเด็กๆ พี่หลินดูแลฉันดีขนาดนั้น ฉัน

เกินไปจริงๆ”

มองหน้าตาที่โทษตัวเองและเศร้าโศกเสียใจขนาดนี้ หลินส เพิ่งรู้สึกเมื่อกี้ตัวเองค่อนข้างเกินไปจริงๆ ยัยเด็กคนนี้มองดูคนที่ ตัวเองชอบอยู่กับคนอื่น ต้องเสียใจแน่นอน อีกทั้งพ่อแม่เธอก็ เสียไปแล้ว ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว ความสามารถในการ ยอมรับแย่จนพังทลายโดยตรงเลย เธอยังสามารถเข้มแข็งได้ ขนาดนี้ ก็ยากมากแล้ว

ไม่ว่ายังไงก็เป็นสาวน้อยที่ตัวเองดูมาตั้งแต่เล็กจนโต หลินส เจิ้งก็ไม่อยากถือสากับเธอมากเกินไป ถอนหายใจที่นึงแล้วพูด“เรื่องของเมื่อกี้พี่ไม่โทษเธอก็ได้ แต่ต่อไปเธอจะเอาเรื่องของพี่ สะใภ้มาพูดไม่ได้อีกนะ เธอน่าจะรู้ดีว่าพี่สะใภ้เธอมีความหมาย กับพี่ยังไง”

“อืมๆ ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้แล้วค่ะ เมื่อฉันมันเลวเอง เพราะฉะนั้นฉันถึงให้พี่หลินรีบกลับไป ให้ฉันได้อยู่เงียบๆสักพัก ฉันได้สงบสติอารมณ์สักพักก็ดีแล้วค่ะ”

“สถานการณ์ของเธอ ในตอนนี้ ให้เธออยู่คนเดียวพี่กลัวเธอจะ เกิดเรื่อง ไหนๆพี่ก็ว่างไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว หลายวันนี้ก็อยู่เป็น เพื่อนเธอที่โรงพยาบาลก็แล้วกัน”

หลินสวีเจิ้งยืนหยัดที่จะไม่ไป สวีเย็นหวั่นก็ไม่ได้ไล่เขาอีก คน นึ่งนั่งอยู่บนเตียงเงียบๆ อีกคนก็นั่งอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ

ก็ได้ผ่านไปครึ่งค่อนวันอย่างสงบสุข

พอตกดึก หลินสวี่เจิ้งให้คนรับใช้ที่บ้านส่งกับข้าวมา ล้วนเป็น อาหารรสจืด แต่สวีเย็นหวั่นกลับไม่อยากอาหาร แต่เพื่อร่างกาย แล้วได้แต่ฝืนกินนิดหน่อย

ตอนที่กินข้าว สวีเย็นหวั่นอยากพูดแต่หยุดชะงักตลอด อยาก ทำอะไรสุดท้ายมองใบหน้าหลินสวีเจิ้งแล้ว ก็ได้กลืนคำพูดลงไป อีก

หลังจากผ่านไปสามสี่ครั้ง หลินสวี่เจิ้งพูดตรงๆว่า “มีอะไรเธอ ก็พูดมาเลย ไม่ต้องมองพี่แล้วๆอึ้งๆอยู่ตลอด ขอแค่ไม่ เกี่ยวข้องกับพี่สะใภ้เธอ พี่ก็ไม่โกรธหรอก”
ได้ยินเขาพูดแบบนี้ สวี่เย็นหวั่นก็วางใจแล้ว แต่ว่าเพราะเรื่อง เกี่ยวข้องกับหานชิง ดังนั้นตอนที่เธอเปิดปากก็ยังระมัดระวังอยู่

“พี่หลิน ฉันอยากถามหน่อยว่าเขาสองคนอยู่ด้วยกันนานเท่า ไหร่แล้วคะ?”

หลินสวี่เจิ้งฟังแล้วหรี่ตาขึ้นมาด้วยปฏิกิริยา “เธอถามเรื่องนี้ ทำไม?”

สวี่เย็นหวั่นตอบอย่างละมุนคำนึง “เมื่อกี้พี่หลินบอกว่า ขอแค่ เรื่องที่ฉันพูดไม่เกี่ยวกับพี่สะใภ้ พี่ก็จะไม่โกรธไม่ใช่เหรอคะ? แล้วพี่หลินจะสนใจฉันถึงถามเรื่องนี้ทำไม? ตอนนี้ฉันถึงขั้นถามก็ ถามไม่ได้แล้วเหรอ?”

“ถามได้”หลินสวี่เจิ้งก้มหน้ากินข้าวไปคำนึง สีหน้าเหมือน

กำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ สักพักเขาถึงเปิดปากพูดขึ้นมาใหม่ “ถา

มน่ะถามได้ แต่ตอนนี้เธอถามเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ทรมานตัวเองเห

รอ? พวกเขาอยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่ ไม่สามารถกระทบความรัก

ของพวกเขาหรอก เมื่อตอนที่เสี่ยวเหยียนมาเธอไม่เห็นแหวน

เพชรบนนิ้วมือหล่อนหรือไง?”

ก็เพราะเมื่อกี้เห็น ถึงได้อยากถาม แน่นอนว่าคำพูดนี้สวี่เย็น หวั่นไม่ได้พูดออกมา

“ฉันแค่อยากรู้เฉยๆว่าฉันชอบเขามานานขนาดนี้ กลับไม่ได้ รับการตอบรับใดๆเลย แล้วเธออยู่ด้วยกันกับหานชิงได้ยังไง เฉยๆ ไม่ได้มีความคิดอย่างอื่นค่ะ

“แล้วทำไมเธอถึงชอบหานซิงล่ะ?”หลินสวี่เจิ้งย้อนถาม
สวี่เย็นหวั่นอิ้งค้าง

“นี่ก็คือโชคชะตาพัวพันค่ะ พี่ชอบเธอ เธอไม่ชอบพี่ แต่พี่เคย คิดถึงคนที่ตามจีบพี่อยู่ข้างหลังพวกนั้นมั้ย? พวกเธอจะไปถาม ใครได้? ทำไมถึงไม่ชอบพวกเธอ? ทำไมจีบพี่นานขนาดนี้กลับ ไม่ได้รับการตอบรับเลยสักนิด?”

“เธอนี่นะ”แววตาของหลินสวีเจิ้งเต็มไปด้วยความอ่อน โยน ถ้าไม่ใช่เห็นแก่ที่สมัยเด็กๆ ดูเธอโตมาตั้งแต่เล็กจนโต พี่ ขี้เกียจคุยเรื่องพวกนี้กับเธอด้วยซ้ำ เธอนี่ดันทุรังจริงๆ แค่ผู้ชาย คนเดียวเอง ถ้าเขามีใจให้เธอก็แล้วไป แต่นี่เขาก็อยู่กับผู้หญิง คนอื่นแล้ว เธอยังดื้อดึงไปชอบเขาอีก มันไม่มีผลดีอะไรกับเธอ เลย”

ดื้อดึงไปชอบเขา

ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของสวี่เย็นหวั่นซีดเซียวลงมาตั้งเยอะ หลิน พี่ว่าฉันแบบนี้ได้ยังไง ฉันแค่อยากถามดูเฉยๆ”

“พี่เห็นเธอโตมาตั้งแต่เด็ก เธอแค่ถามดูหรือเปล่า มีหรือที่พี่จะ ไม่รู้?”

สวีเย็นหวั่นสีหน้าซีดเซียว ไม่ได้ตอบคำถามเขา

“เธอเป็นผู้หญิงที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ไม่ใช่คน สมัยก่อนที่อยู่ในสังคมแบบปิด ทำไมยังคิดไม่ตกขนาดนี้อีก? แค่ผู้ชายคนเดียวเอง ชีวิตวันข้างหน้าของเธอยังอีกยาวไกล อยากได้ผู้ชายแบบไหนมีหรือจะหาไม่ได้?
“แต่หานซึ่งมีแค่คนเดียวนี่คะ”สวี่เย็นหวั่นเบ้าตาแดงก่ำ หน้าตาเหมือนจะร้องไห้ “ฉันชอบเขาตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้ก็ยัง ชอบเขาอยู่ ถ้าฉันสามารถชอบคนอื่นได้ งั้นฉันก็อยู่กับผู้ชายอื่น ตั้งนานแล้ว ไม่รอเขามาโดยตลอดหรอก”

“เพราะฉะนั้นคำพูดของพี่หลินเธอก็ฟังไม่เข้าแล้วใช่มั้ย? “พี่หลิน ฉันไม่ใช่ฟังคำพูดของพี่ไม่เข้า ฉันก็แค่ตอนนี้ยังคิดไม่ ได้เฉยๆ ให้เวลาฉันหน่อยได้มั้ย?”

“งั้นเธอลองคิดดูดีๆเถอะ เธอเป็นผู้ใหญ่ แถมยังเป็นคนฉลาด เรื่องบางเรื่องก็ไม่ต้องให้คนอื่นคอยว่าเธอตลอดหรอก ตัวเธอ เองก็สามารถคิดได้แล้ว”

คำพูดพวกนี้อีกแล้ว ให้เธอคิดเองอีกแล้ว

ทําไมคนฉลาดก็ต้องคิดได้เอง หรือว่าเธอจะต้องทำตามความ คิดของคนส่วนใหญ่เหรอ?

สวี่เย็นหวั่นหลับตาลง ไม่ได้ตอบคำถามเขาอีก

ไม่นานก็ถึงวันงานแต่งของลูกพี่ลูกน้องเซียวซู

เดิมทีเจียงเสี้ยวไปไม่อยากแต่งตัว แต่พอคิดๆแล้ว สุดท้าย ก็ได้แต่งตัวอย่างประณีต อย่างไรก็ตามเธอไปในฐานะแฟนสาว ของเซียวซู ถึงเวลาแม่ของเซียวซูต้องลากเธอไปแนะนำให้ทุก คนแน่นอน

อย่างไรก็ตามหลังจากกลับมาก็จะเลิกกันแล้ว ก็ถือซะว่า ตอบแทนที่เขาได้ช่วยเหลือเธอในช่วงที่ผ่านมานี้เถอะ ให้เขาได้มีหน้าหน่อยเถอะ

ครั้งนี้คือขับรถกลับไปเอง ดังนั้นเหลียงหย่าเทอมาหาเจียง เสี่ยวไปตั้งแต่เช้าเลย ที่จริงเมื่อวานเธอก็ส่งวีแซทกำชับเจียง เสี่ยวไปตลอดแล้วว่าต้องแต่งตัวอย่างประณีตนะ

พอพูดจบก็กลัวเจียงเสี่ยวไปคิดมาก จึงได้รีบพูดเสริมไปอีก

“เสี่ยวไปหน้าตาสวยขนาดนี้ ถึงไม่แต่งตัวก็สวยมากอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามนี้เป็นงานแต่ง ถึงเวลาทุกคนต้องแต่งตัวได้สวย มากแน่นอน เสี่ยวไปของน้าก็แพ้คนอื่นไม่ได้นะ

อ้าปากปิดปากก็เสี่ยวไป สรุปก็คือได้เห็นเจียงเสี่ยวไปเป็นลูก สะใภ้ของตัวเองอย่างสิ้นเชิง

ที่จริงสําหรับเจียงเสี่ยวไปแล้ว เหลียงหย่าเหอเป็นคนที่เข้ากัน

ได้ง่ายมาก ถ้าสามารถเป็นลูกสะใภ้ของแม่สามีที่เข้าหาได้ง่าย

แบบนี้ ก็ไม่เลวเลยจริงๆ

แต่

คิดถึงตรงนี้ แววตาของเจียงเสี่ยวไปมืดมน ไม่ได้คิดลึกไป กว่านั้นอีก

เจียงเสี่ยวไปแต่งตัวที่ห้องเสร็จและออกจากห้อง เหลียงหย่า เหอเห็นเธอปุ๊บก็ชมไม่ขาดปากเลย

“วันนี้เสี่ยวไป์ของเรานี่สวยจริงๆเลย ต้องสวยโดดเด่นจนกลบ คนอื่นหมดแน่ๆ”
เจียงเสี่ยวไป๋ “ ฮ่มๆ คุณน้าคะ ยังไงซะวันนี้ก็เป็นงานแต่งของ คนอื่น สวยโดดเด่นจนกลบคนอื่นคงไม่ค่อยดีมั้งคะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ