เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่998 ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกหลอก



บทที่998 ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกหลอก

“คงไม่อยู่ทานข้าวเย็นแล้วครับ ส่วนทางนายท่านก็ยังมีผมอยู่ เป็นเพื่อน ตลอดหลายปีพวกผมก็ผ่านกันมาแบบนี้ คุณนาย หลานสะใภ้น้อยอย่าได้เป็นกังวลไปเลยครับ”

ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อได้ยินคำพูดของลุงหยู หาน จื่อถึงได้รู้สึก เหงามาก

คนแก่อายุมากคนหนึ่ง ต้องอยู่เมืองนอกตัวคนเดียว รอบตัว ไม่มีลูกหลานเลยสักคน ช่างน่าสงสารเหลือเกิน

ใจของหาน จื่อรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่กลับไม่รู้จะพูดอะไรอีก หลังจากส่งหยูโปแล้ว หานมอก็กลับไปที่ห้อง เปิดโน๊ตบุ๊ค ของตัวเองขึ้นจากนั้นก็เข้าไปเช็คข่าวของธุรกิจอ

เธอไม่ได้รู้จักตระกูลนี้ดีมากนัก แต่ตอนนี้เริ่มเกิดความสนใจที่ อยากจะรู้จักแล้ว

อาจเป็นเพราะ ถ้าเกิดทำได้ หลังจากที่เธอกับเยโม่เซินกลับ ประเทศแล้ว ก็จะได้รับชายชรากลับไปอยู่ด้วย

ไม่ว่าอย่างไร อายุมากขนาดนั้นแล้ว กว่าจะได้เจอญาติพี่น้อง มากมายขนาดนี้ แล้วจากนั้นก็ต้องกลับไปอยู่ตัวคนเดียวอีก ความรู้สึกที่ต้องสูญเสียหลังจากที่ได้ครอบครองแล้ว มันเจ็บปวด มากที่สุด
หานมู่จื่อตรวจสอบข้อมูลอยู่นาน จนเสี่ยวหมี่โต้วอาบน้ำเสร็จ เดินออกมา เธอก็ยังจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์

บนตัวของเสี่ยวหมี่โต้วยังมีไอน้ำหลังการอาบน้ำอยู่ มือน้อยๆ โอบรอบคอเธอ “หม่ามี้ กำลังดูอะไรอยู่เหรอฮะ”

เมื่อได้ยินเสียงของเจ้าตัวเล็ก หาน จื่อก็จับมือที่โอบรอบตัว เองไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า “ตรวจสอบข้อมูลนิดหน่อย อาบน้ำ เสร็จแล้วเหรอ”

เสี่ยวหมี่โค้วพยักหน้าอย่างว่าง่าย

จากนั้นเขาก็เห็นข้อความที่อยู่บนโน๊ตบุ๊คของหานมู่จื่อ แล้ว อุทานออกมาเสียงหนึ่ง “นี่เป็นคุณตาทวดไม่ใช่เหรอฮะ ?”

“ใช่แล้ว”

หานคู่จื่อกำลังตรวจสอบข้อมูลของตระกูลถือ บนสารานุกรม มีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของตระกูลนี้อยู่มากมาย แล้วยังมีคลิป วิดีโอสัมภาษณ์บางส่วน ดังนั้นเธอก็เลยดูจนครบ แล้วพบว่า ตอนที่ชายชราให้สัมภาษณ์นั้นสีหน้าสงบนิ่งมาก เรื่องถามตอบก็ ชัดเจนทุกข้อ

เพียงแต่ว่า วิดีโอบางรายการมักจะมีบทส่งท้ายเสมอ ผู้ สัมภาษณ์บางคนก็ตาไร้แวว ถึงได้ถามฉือจีนว่าที่ประสบความ สำเร็จเหมือนทุกวันนี้ เพราะมีครอบครัวที่ทำงานหนักอยู่เบื้อง หลัง ใช่หรือไม่

ที่จริงก็แค่อยากอวดฉลาดเล็กน้อย ถึงแม้ทุกคนจะไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นตระกูลของฉือจีนบ้าง ทำไมลูกหลานได้ หนีไปหมด แต่เรื่องทุกคนต่างดี คุณเป็นข้อมูลพวกนี้อย่างไร

แต่จะถามออกไปตรงไม่ดี ดังนั้นแกล้งอวดวิธีเพื่อถามแทน

และตอนที่ชายชรากล่าวครอบครัวของเขาการ สัมภาษณ์ ท่าทางเกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิงทันที บรรยากาศ

เขาหันไปมองนักข่าวที่ถามคำถามนั้นขึ้นมา แล้วอย่างหน้าที่ถามแบบ

ตอนนั้นเป็นการถ่ายทอดนักข่าวคิดนักธุรกิจใหญ่ แบบจะหน้ากันบ้าง คิดถึงว่าเขาไว้หน้าเลยแม้น้อย เลยลนลานมาทันที จนเกือบจะรับมือไม่ได้

ยังที่นักข่าวผู้ประสบการณ์อยู่ข้างๆช่วยสถานการณ์ สุดท้ายสัมภาษณ์อย่างไม่น่าชื่นชมเท่าใดนัก

ด้านล่างวิดีโอมีแถบความคิดเห็นต่างๆนาๆ

“นักข่าวถามแบบออกมาอย่าข่าวชาวบ้านอย่าง ธุรกิจนี้เลย
“ฉันแค่ดูก็รู้แล้ว จงใจถามแบบนี้ คิดจะอวดฉลาด แต่เธอก็ หน้าหนาเกินไปนะ ฉือจีนเป็นใครกัน จะไปไว้หน้าเธอได้ยังไง

“คนด้านบนเป็นบ้าอะไรกัน แค่ถามแค่นี้จะเป็นอะไรไป อีก อย่างฉันก็รู้สึกว่าถามแบบนี้ก็สุภาพพอแล้วนะ หรือจะให้ถาม ตรงๆว่าทำไมคนที่บ้านคุณถึงไม่อยู่กับคุณหรือยังไงกัน

“ตอบคนด้านบน เธอบ้า เรื่องส่วนตัวบ้านคนอื่นจําเป็นต้อง บอกเธอด้วยเหรอ หรือว่าเธอยังรู้สึกว่าถามคำถามแบบนี้มันน่า ภูมิใจกัน สุภาพหน่อยแล้วยังไง แทงเข็มแนวเฉียงหรือแนวตรง มันก็เจ็บเหมือนกันทั้งนั้นแหละ

มองดูความคิดเห็นพวกนี้ หานมอก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างหน่าย ใจ

ชาวเน็ตช่างไร้สาระจริงๆ ขนาดใต้คลิปวิดีโอแบบนี้ยัง

ทะเลาะกันได้

แต่ว่า…..หานคู่จื่อก็ถอนหายใจอีกครั้ง แล้วจู่ๆก็ได้ยินเสี่ยว หมี่โต้วพูดว่า “หม่ามี้ นักข่าวคนนั้นร้ายมากเลย ทั้งๆที่รู้ว่านี่เป็น บาดแผลของคุณตาทวด ยังจะจงใจถามออกมาอีก

หานมู่จื่ออุ้มเสี่ยวหมี่โต้ขึ้นมาบนตักของตัวเอง อีกทางก็ยื่น มือไปปิดวิดีโอนั้น แล้วพูดเสริมว่า “หม่ามีเองก็รู้สึกว่าเธอทำเกิน ไปหน่อย ไม่ควรสาดเกลือลงบนแผลของคนอื่น แต่ว่า……เธอ อาจจะทําเพื่อยอดขายก็ได้ ก็เข้าใจได้”

เสี่ยวหมี่โต้วทำเสียงในลำคอที่หนึ่ง “รังแกปู่ทวด เสี่ยวหมี่โต้ วไม่สนใจเธอหรอก”
หาน จื่อยิ้มบางๆ ฝ่ามืออันอ่อนโยนวางลงบนหัวของเสี่ยวหม โต้วแล้วลูบเบาๆ “ดังนั้นต่อไปไม่ว่าเสี่ยวหมี่โต้วจะทำอาชีพ อะไร พวกเราก็ต้องทำอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะทำเพื่อผลงาน ก็จะทำ เพื่อความสําเร็จบนความทุกข์ของคนอื่นแบบเธอไม่ได้เด็ดขาด

เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้าแรงๆ

“ผมจําไว้แล้วครับหม่ามี

“เด็กดี”

จากนั้นสองแม่ลูกก็เปิดดูวิดีโอด้วยกัน เสี่ยวหมี่โต้วเกาะอยู่ บนขอบโน๊ตบุ๊คแล้วดูอย่างออกรส

ผ่านไปครูใหญ่ถึงได้หันกลับมามองหาน จื่อ “หม่ามี ทำไมวันนี้คุณตาทวดถึงส่งผมกลับมาล่ะฮะ”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หานมู่จื่อก็คิดถึงสิ่งที่หยูโปพูดกับตัวเองเมื่อ ครู่นี้

เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะบอกความจริงกับเสี่ยวหมี่โต้วดีหรือ เปล่า คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจถามแบบอ้อมๆว่า “เสี่ยวหมี่โต้ว อยากจะกลับประเทศไปกับหม่ามี้และแดดดี้ไหม ?”

เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตาปริบๆ ดวงตาของเด็กน้อยเป็น ประกายสดใส ราวกับน้ำใสที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน

“อยากครับ!

เขาพยักหน้าอย่างซื่อตรง แต่ก็เหมือนว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้ก่อนจะเอียงคอเล็กน้อย “แต่ว่าเสี่ยวหมี่โต้วก็สงสารคุณตาทวด เลยอยากจะอยู่เป็นเพื่อนคุณตาทวดมากกว่า”

เป็นไปตามคาด

หาน จื่อรู้ดีว่าลูกชายสุดที่รักของเขาเป็นคนที่มีน้ำใจ แต่ว่า ถ้ามีน้ำใจเกินไป ก็จะกลายเป็นเห็นใจคนอื่นเกินไปจนตัวเอง เดือดร้อนได้

ก็เหมือนที่เสี่ยวหมี่โต้วพูดเมื่อครู่ เขาอยากจะกลับประเทศไป กลับแดดดี้และหม่าม แต่ก็เพราะสงสารคุณตาทวด ก็เลยต้อง ยอมทิ้งความต้องการนั้นไป อยากจะอยู่เป็นเพื่อนคุณตาทวด ของเขามากกว่า

ถ้าเป็นแบบนี้ ก็เหมือนว่าตัวเขาเองพรากสิ่งที่ตัวเองชอบไป หานคู่จื่อจะทนเห็นลูกชายตัวเองเป็นแบบนี้ตั้งแต่อายุน้อย แบบนี้ได้อย่างไร

ดูแล้ว เธอจะต้องหาโอกาสคุยเรื่องความคิดก่อนหน้านี้กับเ ไม่เซินเสียแล้ว

“ถ้างั้น หม่ามี้ขอคุยกับแดดดี้ก่อน ดูว่าถึงตอนนั้นจะรับคุณ ตาทวดของลูกกลับไปในประเทศด้วยกันได้หรือเปล่า ถึงตอนนั้น ลูกก็จะได้เจอแดดดี้หม่ามีทุกวัน แล้วยังได้อยู่เป็นเพื่อนคุณ ตาทวดของลูกด้วยไง”

เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตาปริบๆ ได้เหรอฮะ คุณตาทวดจะกลับ ไปกับพวกเราได้เหรอฮะ
“ดังนั้นก็ต้องพึ่งเสี่ยวหมี่โต้วแล้วไงครับ” หาน จื่อส่งยิ้มให้ เขา ดวงตาคู่สวยมีแววเจ้าเล่ห์วานผ่าน

เสี่ยวหมี่โต้วมองเธอด้วยใบหน้าใสซื่อ ทำไมถึงได้รู้สึกว่า ตัว เองกำลังจะถูกหม่าหลอกได้

หานคู่จื่อขยับหน้าตัวเองเข้าไปแนบกับเสี่ยวหมี่โต้วด้วยความ รักใคร่และเอ็นดู น้ำเสียงแผ่วเบา “หม่ามีขอคุยกับลูกเรื่องหนึ่ง ก่อน ลูกอยู่เป็นเพื่อนคุณตาทวดก่อน หม่ามีกับแดดดี้จะกลับ ประเทศไปจัดการธุระทั้งหมดก่อน จากนั้นค่อยมารับพวกลูก ไหมครับ ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ