เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 686 มาเอาทะเบียนบ้าน



บทที่ 686 มาเอาทะเบียนบ้าน

เขาพูดอย่างใจเย็น ดวงตาและใบหน้าไม่แสดงออกถึงความรู้สึก ใคราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากล่าวถึงนัก เขาเพียงแค่เป็น สุภาพบุรุษเท่านั้น

เพียงเสี้ยววินาทีที่ประกายไฟเสี่ยวเหยียนลุกโซนก่อนจะมืดลง ในวินาทีถัดมาเพราะการกระทำและคำพูดของเขา

อนิจจา เธอยังคิดว่า…… หานซิงให้น้องไก่กับเธอแล้วจะแสดง ถึงความหมายดีหรอกนะ

แต่นั่นแหละเป็นเพียงมารยาทของสุภาพบุรุษก็เท่านั้น

เธอรู้สึกเศร้าเล็กน้อยเมื่อเพิ่งคิดเข้าข้างตัวเองไป

อย่างไรก็ตามหานซิงยินดีจะให้น้องไก่แก่เธอเพื่อแสดงให้เห็น ว่าเธอใช้ชีวิตอยู่อย่างฟุ่มเฟือย ในเวลานี้ความคิดที่ว่าพวกเขา ฟุ่มเฟือย ในก่อนหน้าก็ได้หมดลงสิ้น

เธอถือน่องไก่และรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาแทบไหล ฮือ หานซึ่ง ไม่ใช่คนเย็นซาอะไรเลย… แถมเขายังเข้าใจความหมายของ สุภาพบุรุษคืออะไรอีก

ดังนั้น ตราบใดที่เธอยังคงพยายามอย่างหนักต่อไป เธอจะ ต้องได้ใกล้ชิดเขามากยิ่งขึ้น

*ดูสิ ว่าฉันทําอะไรมา? กินไหม?”
หานซึ่งเห็นว่า จื่อและเสี่ยวหมี่โต้วยังคงมองที่เขาอยู่ มีเพียง เสี่ยวเหยียนคนเดียวที่จับน่องไก่แล้วเคี้ยวกินอย่างมีความสุข เขาจึงตีหน้าผากทั้งสองคนด้วยตะเกียบก่อนจะพูดน้ำเสียงต่ำ ออกมา

มอได้สติคืนมาก่อนจะก้มหน้าก้มตากินน่องไก่

หลังกินไปได้เพียงคำเดียว เธอก็มองไปยังใบหน้ามีความสุข ของเสี่ยวเหยียน ก่อนรอยยิ้มจางๆจะปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของ เธอเอง

หรือว่า…. มีอะไรบางอย่างค่อยๆเปลี่ยนไปงั้นเหรอ? ดูเหมือนว่ามีเพียงหานซึ่งเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

เนื่องจากตอนนี้บรรยากาศของอาหารมื้อนี้ค่อนข้างจะพูดยาก

สักหน่อย ทุกคนต่างเหม่อ ใจลอย และต่างคิดไปไม่เหมือนกัน

ทุกคนรับประทานอาหารในระยะเวลาอันรวดเร็วและต่างก็ ไม่มีใครพูดอะไร

รอจนมื้ออาหารผ่านพ้นไป พอหานซึ่งอยากจะพูดอะไรบาง อย่างกับจื่อ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เขามองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ แล้วหันไปมองที่มู่จื่อ

มู่จื่อที่ถูกมอง โดยเขาก็กำลังมองมาที่เขาอย่างสงสัย

ทานชิงเงียบไปครู่ก่อนจะกระซิบ “มู่จื่อ ไปรอพี่ห้องหนังสือ ก่อนนะ”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมารับโทรศัพท์แล้วเดินออกไป

หลังจากรอเขาเดินออกไปแล้ว เสี่ยวเหยียนที่หายโกรธแล้ว เล็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่มู่จื่อ

“มู่จื่อ เธอเห็นไหม? เมื่อพี่ชายเธอเพิ่งให้น้องไก่ฉัน

มู่จื่อเหลือบมองเธอที่แสดงออกแปลกๆเล็กน้อย เสี่ยวเหยียน: “.………….

“นี่คือเหตุผลที่เธอกินน่องไก่ชิ้นนี้เนี่ยนะ?”

ตั้งแต่หานซิงให้น่องไก่กับเธอ เธอก็รู้สึกตื้นตัน ดังนั้นเธอจึง ไม่กินอาหารจานอื่นเลย เอาแตะแทะกินน่องไก่ชิ้นนั้น

มู่จื่อเม้มริมฝีปากและไม่ลังเลที่จะตบไหล่เธอ

“อาหารวันนี้อร่อยมาก เธอแน่ใจนะว่าจะไม่กินต่ออะ?”

เสี่ยวเหยียน: “หึ ไม่กินแล้ว!!

“ฟังฉันนะ พี่ชายเธอให้น้องไก่ฉันแล้ว ฉันรู้สึกซึ้งใจมากจริงๆ แล้ว เธอคิดว่าพี่ชายเธอคิดอะไรกับฉันไหม?”

“คิดอย่างนั้นเหรอ?” มู่จื่อเอียงศีรษะเล็กน้อย หากสิ่งนี้จะ ทำให้ความหวังของเสี่ยวเหยียนกลับมาอีกครั้งก็คงไม่เป็นไร

เสี่ยวเหยียนกำหมัดแน่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“โอเค! ฉันจะตั้งใจพยายามให้หนักขึ้น!!! แต่จู่ๆฉันก็รู้สึก ความพยายามที่ผ่านมามันได้ผลมากเลย
มู่จื่อจึงทิ้งหมี่โต้วและเสี่ยวเหยียน จากนั้นจึงลุกขึ้นมาช่วยจัด งานหลังจากล้างมือจึงไปห้องอ่านหนังสือของท่านซึ่ง

ห้องอ่านหนังสือเงียบสงัด ทั่วทั้งห้องทำความสะอาดเรียบไม่มี แม้แต่ฝุ่นแม้แต่นิดเดียว ของบนชั้นก็ถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อย

พี่ชายของเธอเป็นคนที่เข้มงวดและจริงจังเป็นที่สุด

ถ้าสามารถอยู่กับเสี่ยวเหยียนได้ก็คงเป็นทางเลือกที่ไม่เลว

แต่จื่อรู้ดีว่าความรู้สึกนั้นไม่สามารถบังคับกันได้ ดังนั้นแม้ว่า หานซึ่งไม่ได้อยู่กับเสี่ยวเหยียนในตอนสุดท้ายเธอก็จะไม่รู้สึก อะไรเช่นกัน

มู่จื่อรอทานซึ่งอยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่กลับมา เธอพึมพำถึงว่าขนาด วันอาทิตย์ยังต้องยุ่งขนาดนี้เลยเหรอ ก่อนเธอจะนั่งจ้องหน้าจอ คอมพิวเตอร์หานชิง หลังจากนั้นจึงใช้คอมพิวเตอร์หานซิงเข้า เล่นอินเทอร์เน็ต

การรอใครสักคนนี่มันช่างน่าเบื่อจริงๆ จื่อจึงนั่งเล่นเกม ออนไลน์ง่ายๆแต่ก็ยังเบื่ออยู่ดี จนเธอเกือบจะหลับไปแล้ว จน กระทั่งได้ยินเสียงดังเบาๆ จากทางประตู

มู่จื่อที่นอนเล่นอยู่นั้นกำลังต่อสู้กับเปลือกตาของตัวเอง และ เมื่อได้ยินเสียงเข้าจึงเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองไปที่อีกฝ่าย

เมื่อหานซึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือ พอ เห็นว่าเธอนอนอยู่ที่ตรงนั้นจึงปิดประตูห้องก่อนจะเดินเข้าไปหา

เธอ
“ง่วงเหรอ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จื่อก็ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะขยี้ตาตัวเอง “รอนาน มาก วันอาทิตย์ก็ยังยุ่งขนาดนี้เหรอ? ตอนเช้าก็วิดีโอคอลประชุม ตอนบ่ายก็ต้องประชุมทางโทรศัพท์อีก?”

ประโยคที่ดูเป็นการเยาะเย้ยเล็กน้อยจนหานซึ่งอดไม่ได้ที่จะ รู้สึกข่า เขามองไปที่น้องสาวตัวเองก่อนจะยกยิ้มขึ้นเบาๆ

“ประชุมทางโทรศัพท์มันเสร็จก่อนกำหนดอีก

มู่จื่อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ยังจะให้ฉันพูดอีกเหรอ? ว่าพี่ อะยุ่งมากขนาดไหน?

“เมื่อก่อนเธอก็ยุ่ง แต่วันอาทิตย์ก็ไม่ยุ่งขนาดนี้?”

มู่จื่อรู้สึกอายเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองได้พูดไปจะถูกพี่ ชายย้อนกลับมาที่ตัวเอง ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นยืน “แล้วพี่เรียกฉัน มา มีธุระอะไรรึเปล่า?”

“ไม่มีแล้วเรียกมาไม่ได้เหรอ? ครอบครัวเรามีแค่สองพี่น้อง ถึงไม่มีอะไรเธอก็ควรกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ

ตระกูลทานมีเพียงแค่สองพี่น้อง จื่อสัมผัสได้ถึงคำพูดเหล่านี้ เธอชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะหวนนึกถึงคำพูดของสาวรับใช้ที่พูดกับ เธอก่อนหน้านี้เช่นเดียวกับความคิดในใจเธอ

เพราะท่าทีที่ผ่อนคลายของหานซึ่งนั้นดูเหมือนว่าเขายังไม่รู้ เรื่องเกี่ยวกับเธอและเย่ไม่เซ็น
ดังนั้น…..เธอที่ตัดสินใจจะสารภาพไปก่อนหน้านี้จึงไม่มีความ ลังเลใจอีกต่อไป

พอคิดถึงตรงนี้ จื่อจึงมองไปที่ทานซึ่ง

“พี่ ฉันมีอะไรจะบอก

“หืม?” ช่วงนี้หานซึ่งยุ่งมาก ยุ่งจนเขาไม่ได้สนใจเรื่องของน้อง สาวเลย แถมทั้งสองยังเคยเกือบทะเลาะกัน จนสุดท้ายเป็นหาน ชิงเองที่รู้สึกละอายใจต่อน้องสาวของเขามาโดยตลอด หานซึ่ง พยักหน้า “พูดสี”

เมื่อเห็นใบหน้านิ่งๆของหานชิง จื่อจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ราวกับกำลังขบคิดว่าจะพูดอย่างไรดีหลังจากจากคิดวนเกี่ยวกับ เรื่องนี้มาเป็นเวลานาน จนมจื่อจึงตัดสินใจบอกตรงๆ

อย่างไรก็ตามไม่ช้าก็เร็วพี่เขาก็ต้องรู้อยู่ดี เพราะฉะนั้นการพูด ตรงไปตรงมาจึงดีกว่าพูดอ้อมค้อม

ดังนั้นจื่อจึงรวบรวมพลังก่อนจะพูดออกมา

“วันนี้ฉันอยากแวะไปรับทะเบียนบ้าน

“ทะเบียนบ้าน?”

ดวงตาของพานชิงดูมึนงงดูเหมือนไม่มีการตอบสนอง ไม่รู้ว่า เธอคิดอยากจะทำอะไรกับทะเบียนบ้านกันแน่ เพียงแค่รู้สึกว่า เธอเป็นน้องสาวของเขา และเขาควรจะตอบสนองที่เธอต้องการ ดังนั้นหานซึ่งจึงพยักหน้าอีกครั้งหลังจากงุนงงไปชั่วครู่
“ไต้ เอาสิ”

หาน มู่จื่อ: “???”

แค่นี้?

เมื่อเห็นสีหน้าสงบของเขา ก็เดาไม่ออกเลยว่าเขากำลังจะทำ อะไรกับทะเบียนบ้านเล่มนั้น

มู่จื่อกัดริมฝีปากล่างก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง “พี่ไม่ถาม ฉันหน่อยเหรอว่าฉันจะทําอะไรกับทะเบียนบ้าน

หานซึ่งมองไปที่เธอ “ทำอะไรล่ะ?”

าน มู่จื่อ: “…จดทะเบียน

หาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ