เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่173 พวกแกไม่ได้นอนด้วยกันเหรอ



บทที่173 พวกแกไม่ได้นอนด้วยกันเหรอ

ทั้งรถเข็นและเยโม่เซินหยุดลงพร้อมกัน เขา เหลือกตาขึ้น แววตาเย็นชา มองมาที่ใบหน้าขาวซีดของ เสิ่นเฉียว

เขามองเสิ่นเฉียวด้วยความเย้ยหยัน แม้แต่น้ำ เสียงก็เต็มไปด้วยอารมณ์เยาะเย้ย

“ตั้งใจ? ผู้หญิงที่แต่งงานครั้งที่สอง เธอประเมิน ตัวเองสูงเกินไปหน่อยแล้ว”

สีหน้าของเสิ่นเฉียวซีด กัดปากล่างของตัวเอง เอาไว้ “ฉันพูดเรื่องจริงหรือไม่ คุณรู้ดีที่สุด”

เยโม่เซินสีหน้าเย็นชา “ออกไป”

ทนแล้วก็ทน เสิ่นเฉียวก็ยังไม่ขยับ แต่กลับหมุน ตัวมาอยู่ด้านหลังเขา

ก่อนที่เขาจะมา ลิฟต์ถูกปิดแล้ว ในใจก็คิดอย่าง โกรธๆ น่าจะปล่อยให้เขาอยู่ข้างล่างรอไปอีกรอบ

คนบ้า!

พอเสิ่นเฉียวกลับมาถึงห้องก็รีบไปอาบน้ำใน ทันที ตั้งใจว่าอาบเสร็จก็จะมุดเข้าผ้าห่ม

แต่เพิ่งจะเอนตัวเสี่ยวเหยียนก็ส่งข้อความในวีแช ทมาหาเธอ ถามว่าเธอหลับหรือยัง ชุดไปงานพรุ่งนี้ เตรียมเอาไว้หรือยัง บอกว่าพรุ่งนี้จะมาหาเธอแล้วไปแต่งหน้าด้วยกัน เสร็จแล้วค่อยไปที่งานด้วยกันต่อ

เสิ่นเฉียวคิดถึงที่ตัวเองนัดไว้กับหานเส่โยว เลย ถามเสี่ยวเหยียนไปหลายคำถาม

หลังจากที่รู้ว่าสามารถพาญาติไปงานด้วยได้ อารมณ์ของเสิ่นเฉียวก็ดีขึ้น

ดังนั้นเสิ่นเฉียวก็เลยนัดกับเสี่ยวเหยียนว่าพรุ่งนี้ จะไปแต่งหน้าด้วยกันกับหานเส่โยว เสร็จแล้วก็ค่อยไป งานด้วยกัน

พอคุยกันเสร็จ ตอนที่เสิ่นเฉียวเตรียมตัวจะพัก ผ่อน ก็เห็นข้อความใหม่จากรายการคนที่เป็นเพื่อน เป็น รูปประจำตัวที่เธอไม่คุ้นเลยสักนิด

เธอกดเข้าไปอ่าน

{เตรียมชุดที่จะไปงานพรุ่งนี้เอาไว้หรือยัง?”}

เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าข้อความๆนี้ค่อนข้างจะแปลกๆ เธอไม่รู้จักบัญชีผู้ใช้นี้นี่? ดังนั้นเสิ่นเฉียวก็เลยไม่อยาก จะสนใจอีกฝ่าย แต่ในตอนที่เธอกำลังจะกดออก ในหัว ของเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้มีคนเพิ่มเธอเป็น เพื่อน

กดเข้าไปดู ก็พบว่าโมเมนต์ของอีกฝ่ายว่างเปล่า ชื่อบัญชีก็เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

เสิ่นเฉียวเงียบไปสักพัก แล้วค่อยตอบกลับไป

หนึ่งประโยค {ประธานหาน?} ผ่านไปพักใหญ่ๆก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับ แต่แป๊บหนึ่งอีกฝ่ายก็ส่งข้อความมา

(ผมสั่งให้ซูจิ๋วเตรียมชุดเอาไว้ให้คุณชุดหนึ่ง พรุ่งนี้จะให้เธอเอาไปให้

หานชิงสั่งให้ซูจิ๋วเอาชุดมาให้เธอ? นี่เธออ่านผิด หรือเปล่า?

{ขอโทษนะคะ… คุณคือประธานหานจริงๆหรือ เปล่า?} อีกฝ่ายไม่ยอมตอบกลับมา เสิ่นเฉียวส่งข้อความ

ไปอีกสองข้อความแต่ก็ไม่มีการตอบกลับ เธอเลยทำได้ แค่ถอย

ก่อนที่เยโม่เซินจะเข้าไปในห้องน้ำเขาเห็นว่าเล่น โทรศัพท์อยู่ พอออกมาก็ยังเห็นเธอเล่นโทรศัพท์อยู่อีก แถมยังมองเหม่ออีก ดวงตาคู่คมก็แผ่บรรยากาศกดดัน ออกมา

เสิ่นเฉียวกำลังมองโทรศัพท์ อยู่ๆก็สัมผัสได้ว่า บรรยากาศรอบตัวมันดูกดดันแปลกๆ

เธอมองไปตามต้นทางของบรรยากาศเหล่านั้น พบว่าเยโม่เซินกำลังจ้องเธออยู่ด้วยสายตาเย็นชา คิดว่า เมื่อกี้ตัวเองเพิ่งจะคุยกับหานชิงจบ พอโดนเขามองด้วย สายตาแบบนี้ อยู่ๆในใจก็เกิดกลัวขึ้นมา

เสิ่นเฉียวหลบตา แล้วก็ล็อกหน้าจอโทรศัพท์ เธอ ดึงผ้าห่มขึ้นมา แล้วหมุนตัวหันหลังให้เย่โม่เซินแล้วหลับตาลง

แค่คุยด้วย ยังต้องมาชักสีหน้าใส่เธออีก เขานี่มัน ช่างเอาแต่ใจจริงๆ

ผู้ชายคนนี้ ชักจะโมโหง่ายเกินไปหน่อยแล้ว เสิ่นเฉียวถือโทรศัพท์ไว้ ไม่นานก็หลับไป

วันถัดมา เสิ่นเฉียวยังคงนอนหลับฝันหวานอยู่ หานเส่โยวก็มาหาเธอแล้ว เยโม่เซินอนุญาตให้เธอเข้า มาในห้องได้เลย เธอเลยงัดตัวเส้นเฉียวออกมาจาก ผ้าห่ม

“นี่มันกี่โมงแล้ว แกยังนอนอยู่อีกเหรอ?”

ตอนเห็นหานเส่โยว เสิ่นเฉียวคิดว่าตัวเองฝันไป “เส่โยว แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“แน่นอนว่าฉันก็มาปลุกเธอนะสิ!” หานเส่โยวใช้ นิ้วจิ้มลงไปบนหน้าผากของเธอ “หลับอย่างกับหมูตาย เลยนะแกเนี่ย”

เส้นเฉียวมองไปรอบๆ พบว่าที่นี่คือห้องนอนของ เธอ แล้วเธอก็กำลังปูผ้านอนอยู่บนพื้นด้วย

“ทำไมแก….”

“วันนี้ฉันไม่มีอะไรต้องทำ ก็เลยมาแต่เช้า คุณปู่เย่ ให้ฉันขึ้นมา คุณชายเย่อนุญาตให้ฉันเข้ามาได้” เยโม่เซินก็อนุญาต? เล่นเฉียวมองหาเย่โม่เซิน

อบๆ”ไม่ต้องหาแล้ว เขาไม่ได้อยู่ในห้อง”

ได้ยินแบบนั้น เสิ่นเฉียวก็ถอนหายใจออกมา เธอ ลุกขึ้นนั่ง ตอนกำลังเตรียมตัวจะเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับ ได้ยินหานเส่โยวเดินมาหาแล้วถามขึ้นอย่างประหลาด ใจ “แกกับเย่โม่เซิน…ไม่ได้นอนเตียงเดียวกันงั้นเห รอ?”

เส้นเฉียวนิ่งไปแล้วส่ายหน้า

“ฉันไม่รู้เลยนะเนี่ย ว่าความสัมพันธ์ของพวกแก มันจะห่างกันขนาดนี้” ความหมายของคำพูดของหานเส่ โยวดูเสียใจ แต่น้ำเสียงของเธอกลับมีชีวิตชีวา

“ใช่น่ะสิ ก็ไม่ใช่สามีภรรยาจริงๆตั้งแรกอยู่แล้วนี่

ความสัมพันธ์มันก็ต้องห่างกันเป็นธรรมดา” น้ำเสียงของเสิ่นเฉียวมีนัยเยาะเย้ยตัวเอง “เขามี

ที่ให้ฉันนอน ก็ดีมากแล้วล่ะ”

เหมือนตอนแรกๆ เธอทำได้แค่นั่งอยู่ด้านนอก เท่านั้น

ตอนแรกหานเส่โยวเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่าง พวกเขาทั้งสองคนนั้นไม่ค่อยจะดีเธอเองดีใจขึ้นมา อย่างน้อยเส้นเฉียวกับเย่โม่เซินก็ห่างกันอยู่แล้วเธอเอง ก็ไม่ต้องไปแยกพวกเขาออกจากกัน แต่ว่าวันนี้เห็นเสิ่น เฉียวดูเศร้าๆ แล้วยังมีท่าทีเย้ยหยันตัวเองอีก เธอก็รู้สึก แย่ขึ้นมา

พอคิดถึงตรงนี้หานเส่โยวก็เบะปาก อยู่ๆก็รู้สึกว่า

ตัวเองนั้นนิสัยแย่
“เฉียวเฉียว….ชีวิตของแกในบ้านตระกูลเย่มันเย่ ขนาดนี้ ไม่อย่างนั้น…”

เฉินเฉียวหยิบชุดแล้วยืนขึ้น “แกรอฉันแป๊บหนึ่ง นะ ฉันขอไปเปลี่ยนชุดแล้วเดี๋ยวไปกินข้าวเช้าเป็น เพื่อนแก”

เสิ่นเฉียวเดินเข้าไปในห้องน้ำ หานเส่โยวเห็นว่า ประตูของห้องน้ำปิดสนิท ก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็เปิดประตูตู้เสื้อผ้าด้วยความสงสัย พอเห็นว่า ด้านในมีสูทของเย่โม่เซินแขวนเอาไว้ก็ไม่อยากเดินไป ไหน

พวกนี้ เป็นของของเย่โม่เซิน.

แค่คิดว่าเสื้อเชิ้ตพวกนี้เคยอยู่บนร่างกายของเย่ โม่เซิน หานเส่โยวก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปลูบลงบน เสื้อเชิ้ต นิ้วของเธอกรีดผ่านไปทีละตัวๆ สุดท้ายก็ไป หยุดลงบนเสื้อสูทตัวหนึ่ง

ตอนที่เธอเห็นกระดุมบนเสื้อสูท เหมือนรู้สึกคลับ คล้ายคลับคลาขึ้นมา

แต่วินาทีถัดมาหานเส่โยวก็นึกอะไรบางอย่างได้ เธอเบิกตากว้างแล้วจ้องไปที่สูทตัวนั้นอย่างเอาเป็น เอาตาย กระดุมสีทองอันนั้น ไม่ใช่กระดุมที่เสิ่นเฉียวเคย เอามาให้เธอหรือไง?

คิดไม่ถึงว่าเสื้อสูทตัวนี้ กระดุมหายไปแล้วยังถูก เก็บเอาไว้ที่นี่อีก

นี่ถ้าเกิดว่าเสิ่นเฉียวเห็นเข้า..
ไม่ได้!

สีหน้าของหานเส่โยวเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นมา ในทันที ได้ยินว่ายังมีเสียงดังออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ รีบยื่นมือออกไปถอดสูทลงมา เสร็จแล้วก็พับแล้วยัด เข้าไปในลิ้นชัก

ในตอนที่หานเส่โยวปิดลิ้นชักลง เสิ่นเฉียวก็ออก

มาจากห้องน้ำพอดี “เส่โยว แกไปยืนทำอะไรอยู่ตรง นั้น?” ได้ยิน หานเส่โยวก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วหันไป มองเสิ่นเฉียว “เมื่อกี้เห็นว่าแกหยิบชุดออกมาตู้เสื้อผ้า

แล้วมันสวยดี ก็เลยมาดูหน่อยนะ คิดไม่ถึงนะเนี่ยว่าพวก แกจะใช้ตู้เสื้อผ้าตู้เดียวกัน แถมชุดพวกนี้ก็ไม่ใช่ถูกๆใช่ ไหมล่ะ? เป็นเย่โม่เซินซื้อให้อย่างนั้นเหรอ?”

พอพูดถึงเรื่องชุดพวกนั้น เสิ่นเฉียวก็ชะงักไปเล็ก น้อย แล้วค่อยพยักหน้า

“ใช่ เขาคิดว่า ก่อนหน้านี้ฉันแต่งตัวไม่ค่อยเรียบ ร้อยนะ”

“ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง อย่างนั้นเขา….ก็ทำดีกับ แกอยู่เหมือนกันนะ ก็แค่….ให้แกมาปูผ้าแล้วนอนบน พื้นเนี่ย ออกจะเกินไปหน่อย ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ เลย”

สุภาพบุรุษ? สำหรับเย่โม่เซิน ทั้งชีวิตนี้เขาคง ไม่มีทางสะกดคำว่าสุภาพบุรุษเป็นหรอก คิดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวก็แสยะยิ้มแล้วหมุนตัวไป”พวกเราลงไปกินอาหารเช้ากันเถอะ”

“โอเค โอเคเลย” หานเส่โยวหันมามองตู้เสื้อผ้า แวบหนึ่ง ในใจก็ยังคงคิดถึงแต่สูทตัวนั้น เธอ ต้อง….ต้องทำยังไงถึงจะได้เอาสูทตัวนั้นไปนะ? หรือ ไม่ก็ เอากระดุมบนนั้นเก็บกลับไป

“เฉียวเฉียว อยู่ๆฉันก็ปวดท้องขึ้นมา แกลงไป ก่อนเลย ฉันขอเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ