เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1176 เรียกสักหน่อยก็ไม่เสียหาย



บทที่1176 เรียกสักหน่อยก็ไม่เสียหาย

อีกทั้ง ในตอนนั้นเองเธอก็ยังระเบิดอารมณ์ออกไป

ตอนนี้พอมาคิดๆดูแล้ว มันทั้งอับอายทั้งขายขี้หน้าเสียจริง อัน ที่จริงสำหรับเธอนั้น หลินสวี่เจิ้งถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนของหานซึ่ง แต่เธอก็ไม่สนิทสนมกับเขาเลยจริงๆ

แต่ตอนนี้เขากลับพูดเย้าแหย่เธอออกมา ทำเอาเสี่ยวเหยียน ไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไงเลยจริงๆ

หลินสวี่เจิ้งก็ได้วางแก้วชาลง ส่งยิ้มให้เธอพลางพูดออกมาว่า

“เป็นอะไรไป? ทั้งสองคนคบกันก็เป็นเรื่องที่ดี ทำไมถึงมีสีหน้า อย่างนั้นล่ะครับ?”

เห็นท่าทางอีกฝ่ายเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มอย่างนั้นแล้ว เสี่ยวเหยียนก็เข้าใจขึ้นมา หลินสวีเจ๋งคงรู้เรื่องนี้แล้วก็เลยตั้งใจ มาหากัน

ถึงแม้ว่าเสี่ยวเหยียนจะไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง ทำไมเขาถึงได้เป็นห่วงชีวิตรักของหานชิงได้ถึงขนาดนี้ แต่เดี๋ยว เหยียนก็ไม่กล้าเสียมารยาทถามออกไปตรงๆ

แต่คาดว่าหลินสวี่เจ๋งคงเป็นคนที่อ่านความคิดได้ทะลุปรุโปร่ง คนนึง เพียงไม่นานก็คาดเดาได้ว่าภายในใจเสี่ยวเหยียนกำลัง คิดอะไรอยู่ จึงเอ่ยถามเสียงเรียบนิ่งออกไป “คือแปลกที่ทำไม ฉันถึงมา?”
เอ่อ….

เสี่ยวเหยียนไม่ได้ตอบออกไป แต่สีหน้าที่แสดงออกมาก็ แสดงออกไปอย่างชัดเจนแล้ว

“ความจริงแล้วก็แค่รู้สึกว่ามันน่าสนุกเท่านั้นเอง ยังจำได้เลย ว่าเมื่อก่อนฉันยังเคยบอกเธอว่าอยากแนะนำผู้ชายคนนึงให้กับ เธอใช่มั้ยล่ะ?”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เสี่ยวเหยียนเหม่อไปสักพักนึง แต่เพียงไม่ นานก็เรียกสติกลับคืนมาได้ หรือว่า คนที่นายหลินพูดถึงเมื่อ ก่อนนี้จะเป็นหานชิง?”

หลินสวี่เจิ้งพยักหน้ายิ้มๆ

เสี่ยวเหยียนนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไป

“เพื่อนสนิทฉันโสดมาหลายปี ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเข้าตา เขาเลยสักคน แต่ตอนนั้นเพื่อเรื่องของเธอแล้วเขาถึงกับเอ่ย ปากขอกับฉันเป็นครั้งแรก ตอนแรกฉันก็แปลกใจที่ได้ยินชื่อของ เพศตรงข้ามที่ไม่ใช่ชื่อน้องสาวออกมาจากปากของเขา ก็เลย เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาสุดๆ ครั้งที่แล้วสาวน้อยยังยืน แตกอยู่ที่สถานีตำรวจอยู่เลยไม่ใช่หรอ? ความจริงเธออย่าคิด อย่างนั้นเลย หายากเลยนะที่เขาจะเอ่ยปากกับคนอื่นเพราะเรื่อง ของเธอได้ นี่มันก็ได้อธิบายเรื่องนี้เอาไว้หมดแล้ว”

เสี่ยวเหยียนไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลที่หลินสวีเจิ้งมาในวันนี้ หรือ ว่าจะมาพูดยกยอหานชิง? แต่ในใจของเสี่ยวเหยียน ในตอนนี้ หานชิงได้เป็นคนดีที่ไม่มีใครสู้ได้อยู่แล้ว
“ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะพูดอะไรพวกนี้ออกไปก็ฟังดูเหมือนจะ เกินความจำเป็นไปบ้าง แต่ฉันก็ต้องสำรวจความรู้สึกของการมี ตัวตนอยู่เพื่อเพื่อนรักของฉันคนนี้สักหน่อยด้วยนี่ไม่ใช่หรือไง? หลินสวีเจิ้งยิ้มจางๆออกมา เหมือนกับว่ากำลังพูดเล่นออกมา ไม่มีผิด

เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา

“ไม่ว่าจะพูดยังไง ฉันก็ควรจะต้องขอบคุณคุณนะคะนายหลิน

“อ้อ?” หลินสวี่เจ๋งได้ยินแล้วก็ได้เลิกคิ้วออกมา “ขอบคุณฉัน? ขอบคุณอะไรฉัน? ตอนแรกที่ฉันอยากแนะนำให้เธอ เธอก็ไม่ได้ ตอบรับกลับมานี่”

“ไม่ใช่เรื่องนี้ค่ะ” เสี่ยวเหยียนพูดออกไปด้วยความเขินอาย อยู่บ้าง “ฉันหมายถึงเรื่องตอนนั้นที่คุณเรียกเขามาที่สถานี ตำรวจ ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้ ช่วงหลังของฉันกับเขาก็คงไม่มีทางที่จะ มีความรู้สึกที่ประดังเข้ามาพวกนั้นได้

คุณ?

ไม่รู้ว่าทำไม แต่คำว่าคุณค่นี้ได้ทำให้หลินสวีเพิ่งได้ยินแล้วก็ รู้สึกขัดหูขึ้นมาสุดๆ ถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากกว่าสาวน้อยตรง หน้าอยู่มาก แต่ร้ายดียังไงเขาก็เกิดปีเดียวกันกับทานชิง เธอรัก กับหานชิง ในตอนที่พูดกับเขาก็ได้นำหน้าด้วยคำว่าคุณ เหมือน กับเขาเป็นคุณลุงคนนึงไม่มีผิด

“คำพูดเกรงอกเกรงใจจำพวกนี้ นี่เป็นโชคชะตาระหว่างเธอ กับเขา ฉันอย่างมากก็แค่เพิ่มสีสันให้เท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าจะไม่มีโอกาสในครั้งนั้น หลังจากพวกเธอก็ถูกกําหนดให้มากัน

อยู่”

เป็นสิ่งเมื่อก่อนตอนภรรยาของเขามีชีวิตอยู่พูดอยู่ บ่อยๆ เนื่องจากการพบเจอของเขากับภรรยามันวิเศษมาก และหลังถ้านั้นไม่ได้ไปงานเลี้ยงงานนั้น ไม่แล้วใช่หรือเปล่า

ทุกครั้งภรรยาของเขาจะหยิกหน้าของเขาแล้วถามพูด เหลวไหลอะไร นี่มันเป็นโชคชะตาของพวกแม้ว่าวันนี้จะ เจอ พรุ่งไม่เจอ วัน

เพียงได้เจอกัน นั่นจะหนีไปไม่พ้นแล้ว

ดังแล้วเริ่มตั้งแต่หานชิงมาเอ่ยปากพูดถึงเรื่องของเสียว เหยียนเป็นครั้งแรก หลินสวี่เจิ้งได้มั่นใจ

หานชิง

ไม่ใช่หญิงสาวจะต้องการเขา แต่เขาต่างหากที่ต้องการเธอ

แต่จะว่าไปแล้ว หลินสวี่เจิ้งกระแอมออกมาเบาแล้วด้วย น้ำเสียงจริงจังออกมา ถ้าเธออยากจะขอบคุณฉัน มันก็ใช่จะได้ แต่หลังจากก็พูดปกติกับฉันได้ อย่าใช้ว่าเลย ถึงยังไงฉันก็อายุเท่ากับหานชิง

เสี่ยวเหยียน “.….”
เธอนิ่งอึ้งไปได้สักพักนึงกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่หลินสวีเจิ้งพูดมามัน หมายความว่าอะไร ที่แท้เขาก็คิดว่าเธอเรียกเขาเสียเป็นคนแก่ แต่ก็ใช่ เธอรักกับหานซิง แต่สุดท้ายมาเรียกหลินสวี่เวิ้งว่าคุณ เหมือนกับว่าจะยกช่วงวัยของเขาเสียสูงเสียจนบอกไม่ถูก

หลังจากคิดจนแน่ชัดแล้ว เสี่ยวเหยียนเกาหัวออกมาอย่าง

ทำตัวไม่ถูก “ได้ค่ะนายหลิน”

“ถ้าไม่รังเกียจ หลังจากนี้ก็ให้เรียกฉันว่าพี่สวีเจ๊งก็ได้ คำว่าพี่ แค่ค่าเดียวคงได้หรอกมั้งนะ?”

เสี่ยวเหยียนรีบหยักหน้าออกมาทันที “อืม! แน่นอนอยู่แล้ว คุณลดค่าเช่าร้านให้ฉันตั้งขนาดนั้น แล้วยังช่วยเหลือฉันอีก เรียกคุณว่าพี่ก็ไม่ได้เสียหายอะไร

เสี่ยวเหยียนเองก็ไม่ได้กระมิดกระเมี้ยนออกมา เพียงไม่นานก็ เรียกอีกฝ่ายว่าพี่ออกมาทันที เรียกเอาเสียจนหลินสวีเจิ้งสมใจ รู้สึกว่าตัวเองได้กดหัวหานชิงสักที ไม่รู้ว่าต้องไปต่อหน้าเขาแล้ว ให้เขาเรียกตนว่าพี่สักค้าด้วยหรือเปล่า?

คิดๆไปแล้วก็น่าสนุก

“พี่สวี่เจิ้ง ฉันทำราเม็งให้พี่สักชาม พี่นั่งรอเดี๋ยวนะคะ”

“อืม”

พอหญิงสาวเดินออกไปแล้ว หลินสวีเจ๋งก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

โทรหาใครบางคน

ทางหานซิงที่เพิ่งจะเอาเสื้อที่หญิงสาวใส่แล้วออกมาจากเครื่องซักผ้าเตรียมที่จะเอาไปแขวน แต่สุดท้ายก็มีสายหลินส เจิ้งโทรเข้ามา เห็นคนผู้นี้โทรเข้ามาแล้ว เขาเงียบอยู่สักพักกว่า จะรับสาย

“มีธุระ?”

“จุ๊ๆ ไม่มีธุระจะโทรหานายไม่ได้เลย?”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หานซึ่งก็ขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย บิดผ้า ในมือ “มีธุระก็ว่ามา”

“ก่อนหน้านี้ใครที่มันไม่มีธุระอะไรแล้วก็ยังมาหาฉัน ให้ฉัน ช่วยสาวน้อยของพวกเขากัน? ฉันว่า ตอนนี้คบกันแล้ว นายนี่มัน พอข้ามแม่น้ำได้แล้วก็คิดจะรื้อสะพานทิ้งงั้นหรอ?”

“ติดค้างน้ำใจของฉันก็ไม่ได้ชดใช้คืน ที่สถานีตำรวจครั้งที่ แล้วก็ติดค้างเพิ่มมาอีกหนึ่งใช่หรือเปล่า?”

“เป็นเพื่อนพ้องกันมาตั้งหลายปี คบกันก็ไม่บอกฉันสักคำ ไม่ สมกับที่เป็นเพื่อนกันเลย

“หลินสวี่เจิ้ง ตกลงนายอยากจะพูดอะไรกันแน่?” หานชิงถอน หายใจออกมาอย่างจนใจ แล้วเอ่ยถามออกไป

“ดีใจแทนนายไม่ได้? ไม่ง่ายเลยที่จะเห็นนายมีคนเคียงข้างก็ เลยรู้สึกดีใจแทนนาย”
หานซิงคิดว่าน้ำเสียงที่พูดออกมาของเขามันฟังดูผิดปกติ มอง ดูวันที่ จากนั้นก็ถามออกไป “ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?

“อยู่ที่ไหน?” หลินสวี่เจิ้งยกยิ้มออกมาแล้วเหลือบมองออกไป รอบๆ ส่งยิ้มจางๆ พร้อมเอ่ยออกมา “นายว่าไงล่ะ? มากินราเม็ง ก็ไม่ง่ายเลย รอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว”

หาน ง ” ”

เงียบไปสักพัก “รอฉันอีกสิบห้านาที

ตู้ดๆ—

หลังจากที่วางสายไป หานซึ่งก็เอาเสื้อไปตาก เห็นเสื้อที่หญิง สาวเคยใส่แขวนอยู่ท่ามกลางเสื้อผ้าสีขาวของตนที่อยู่รายล้อม ภายในใจก็มักจะเต้นแรงออกมาขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

เดิมทีเขาก็ยังคิดอยู่เลยว่า มีผู้หญิงมาอยู่ใกล้ตัวอีกคนมันจะ วุ่นวายไปหรือเปล่า แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ได้ทำให้เขา คิดว่ามันก็ไม่เลวเลย ถึงขนาดที่มีความใฝ่ฝันหาชีวิตอย่างนี้ขึ้น มา

เพียงไม่นาน เขาก็คว้ากุญแจรถออกไปจากบ้าน ผ่านไปสิบห้านาทีก็ได้ถึงหน้าร้านราเม็งเป็นที่เรียบร้อย

ในตอนที่หานชิงเข้าไปเสี่ยวเหยียนก็กำลังนั่งกินเป็นเพื่อน หลินสวี่เจิ้งอยู่ที่ชั้นบน ตรงชั้นล่างก็เลยไม่เจอเธอ ดังนั้นแล้วใน ตอนที่หานชิงเข้าไปจึงเห็นแค่เพียงหลัวหุ้ยเหม่ย
เห็นหานชิง หลัวหุ้ยเหม่ยก็นิ่งอึ้งไปเล็กน้อยๆ จากนั้นก็เห็นอีก ฝ่ายเดินเข้ามาทักทายตน

“คุณป้าครับ”

หลัวหุ้ยเหม่ย “มาหาเสี่ยวเหยียน?”

หาเชิงพยักหน้าออกมาเล็กน้อย

“อยู่ชั้นบน กำลังกินราเม็งเป็นเพื่อนนายหลินอยู่น่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ