เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1026 ฉันเป็นคนที่เห็นแก่เงินขนาดนั้นเลยเหรอ



บทที่1026 ฉันเป็นคนที่เห็นแก่เงินขนาดนั้นเลยเหรอ

เขียว อยากจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ฉวยโอกาสแก้แค้น แต่เมื่อ เห็นก้อนผมในมือของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าจะพูดแก้ตัวให้ตัวเอง อย่างไรดี

สุดท้าย เซียวซูจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา “ช่างเถอะ เรื่องเกิด ขึ้นไปแล้ว ในเมื่อฉันเป็นคนทำผิด ฉันขอโทษเธอจริงๆ เธอจะ โกรธฉันยังไงก็ได้ แต่…” เขาหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง สายตาเหลือบ มองไปที่หน้าจอคอม “ช่วยแก้ข้อความพวกนั้นก่อนได้ไหม?

เจียงเสี่ยวไป: “!!!

“คุณเขียว คุณช่วยทําตัวเป็นคนหน่อยได้ไหมคะ? คุณรู้บ้าง เปล่าว่าผมคือสมบัติล้ำค่าของนักเขียนอย่างพวกเรา คุณดูผม ของฉันสิ…เดิมทีก็มีน้อยอยู่แล้ว คุณยังมาดึงออกไปมาขนาดนั้น คุณไม่รู้สึกเจ็บปวดใจบ้างเหรอ?” เจียงเสี่ยวไปพูดพลางชี้ไปที่ ผมของตัวเอง

ก่อนหน้านี้เซียวซูไม่ได้สังเกตอะไร แต่เมื่อหล่อนพูดออกมา เช่นนี้ เขาจึงเหลือบมองดู

พบว่าผมของหล่อนไม่ได้น้อยเหมือนที่หล่อนพูดขนาดนั้น แม้ว่าไม่ได้เยอะมาก แต่อย่างน้อยดูจากภายนอกก็เหมือนคน ปกติทั่วไป
จากนั้นเซียวซูจึงพูดขึ้น: “ผมของเธอยังดูเยอะอยู่นะ”

เจียงเสี่ยวไป: “…”

เซียวซูยกมือไหว้ “ขอโทษ ขอโทษจริงๆ เรื่องเมื่อครู่ฉันทำผิด ไปแล้ว แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ขอเพียงแค่เธอช่วยฉันแก้งานชิ้น นี้ก่อน ฉันจะขอโทษเธออย่างดีแน่นอน โอเคไหม?”

ดูท่าทางอันร้อนรนของเขา ไม่มีความรู้สึกผิดต่อการกระทำ ของตัวเองที่ดึงผมหล่อนแม้แต่น้อย เจียงเสี้ยวไปพูดด้วยความ เย็นชา: “ไม่แก้”

“เดิมทีที่ยอมตกลงว่าจะแก้ให้ก็เกินพอแล้ว ตอนนี้คุณยังมา ทำให้ฉันโมโห ไม่มีทางแก้ให้แน่นอน

เซียวซูแทบจะบ้าคลั่ง แม้ว่าคุณชายเย่กับคุณนายน้อยจะไป บ้านตระกูลเย่ แต่เซียวซูก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน เขาเพียงแค่รู้ว่าก่อนถึงเวลาทานข้าวกลางวันน่าจะยังปลอดภัย

แต่หลังจากทานข้าวกลางวันล่ะ? คุณชายเยู่กับคุณนายน้อย คงไม่อยู่ที่บ้านตระกูลเยทั้งวันหรอก ต้องออกไปทานข้าวกลาง วันบ้าง รอให้พวกเขาทานข้าวเสร็จ คุณชายเย่ก็คงมาตาม เอกสารจากเขา

สาวนักเขียนยังคงไม่ยอมแก้งานให้เขา หรือถึงตอนนั้นเขาจะ นำนิยายรักที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและชั่วร้ายส่งให้ต่อหน้า คุณชายเย่?
เขาผิดไปแล้ว

เขาไม่ควรหานักเขียนแทนจากอินเตอร์เน็ต และไม่ควรที่จะรีบ ร้อนจนประหม่าไม่ตรวจสอบเนื้อหาที่นักเขียนร้อยเรียงออกมาว่า เป็นอย่างไรบ้าง

ตอนนี้สามารถพูดได้ว่าเขากำลังขุดหลุมฝังตัวเองอยู่

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ งั้นเอาอย่างนี้ เธอแก้ให้เสร็จก่อน แล้ว เธออยากจะเพิ่มเงินเท่าไหร่หรือจะทำอะไร ฉันตามใจเธอ ทั้งหมด”

เดิมทีเจียงเสี่ยวไปคิดต่อต้านให้ถึงที่สุด แต่เมื่อได้ยินว่าเขา จะเพิ่มเงินให้ จึงหรี่ตาลง “คุณคิดว่าฉันเป็นใคร? ยังเพิ่มเงินให้ อีก คุณเห็นฉันเป็นคนยังไง? ฉันเป็นคนเห็นแก่เงินขนาดนั้นเลย เหรอ??”

เซียวซู่: “ฉัน…”

“อย่างน้อยสามเท่า!” คำพูดขอเซียวซูยังคงติดอยู่ในลำคอ เจียงเสี่ยวไปก็ยกนิ้วขึ้นมาสามนิ้วหันไปหาเขา

เซียวซูเงียบไปทันที ก้มหน้าลง

โอเค เห็นได้ชัดว่ามีเงินแล้วมีอำนาจทำได้ทุกอย่าง

คนก็เช่นกัน

“เพิ่มให้! เธอแก้ให้ฉันเดี๋ยวนี้
“โอเคจ้า”

เจียงเสี่ยวไปลืมเรื่องผมไปในทันที นั่งลงตรงหน้าคอม ทำงาน อย่างกระตือรือร้นมาก เดิมทีเงินที่เซียวซู่ให้หล่อนก็เยอะพอ สมควรแล้ว แต่ตอนนี้ยังเพิ่มให้อีกสามเท่า หล่อนสามารถหยุด ทํางานได้สักพักเลย

ทํางานเขียนทุกวันจนหล่อนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว

เจียงเสี้ยวไปทํางานอย่างรวดเร็ว ลบออกถือเป็นเรื่องง่าย ยัง ไงเซียวซูแค่ไม่ชอบข้อความพวกนั้น หล่อนจึงลบคำที่เขาไม่ชอบ ออกก็เสร็จแล้ว

เซียวซูคอยยืนมองอยู่ด้านข้าง พูดออกมาเป็นครั้งคราว “ประโยคนี้เอาออกก็ได้ ฉันคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา

“ยังมีตรงนี้อีก ตรงนี้เอาออกทั้งหมด

เจียงเสี่ยวไปลบพลาง เหลือบมองเขาพลาง อดไม่ได้ที่จะถาม ขึ้น: “พูดแบบนี้ คุณชายเย่ที่คุณพูดถึง เขาสูญเสียความทรงจำ ไปแล้วงั้นเหรอ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวซูตกใจตะลึงขึ้นมาทันที จากนั้นมอง หล่อนด้วยสายตาทีเฉียบคม

“เธอรู้ได้ยังไง?”

มีอาชีพเป็นแค่นักเขียน เขาไม่ได้พูดถึงสภาพปัจจุบันของคุณ ชายเย่ให้หล่อนฟังเลย เพียงแค่ให้หล่อนเขียนเรื่องราวบาง อย่างเท่านั้น และไม่ได้พูดถึงชื่อของคุณชายเยอีกด้วย เพียงแค่เรียกคุณชายเย่แทนเย่ ไม่เซ็นเท่านั้น

จู่ๆเจียงเสียวไปถามขึ้นมาแบบนี้

ชั่วพริบตาเดียวเจียงเสี่ยวไปก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจที่น่าสะ พรึงกลัวจากเขา พร้อมกับแรงกดดันมหาศาลที่ถาโถมเข้าใส่ตัว เอง หล่อนตกใจจนมือที่จับเมาส์อยู่สั่นระรัว

หล่อนทำสีหน้าอย่างหมดคำพูด “ขอโทษนะ ถ้าไม่ได้สูญเสีย ความทรงจำ คุณจะให้ฉันเขียนเรื่องพวกนี้ทำไมกัน? ฉันใช้นิ้ว เท้าคิดก็ยังคิดออกเลย

เซียวซู: “ ”

งั้นเหรอ? ใช้นิ้วเท้าคิดได้ยังไงเหรอ?

“จินตนาการของฉันดีเยี่ยม จะขยายความให้คุณฟังเพิ่มอีก คุณชายเย่ของคุณไม่เพียงแต่สูญเสียความทรงจํา อีกทั้งยัง พยายามดิ้นรนรื้อฟื้นความทรงจำของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะ เป็นเพราะการพยายามรื้อฟื้นความทรงจำมากเกินไป ทำให้เขา ต้องทุกข์ทรมานอย่างมาก และคุณนายน้อยของพวกคุณ ต้อง เป็นคนที่เขารักและห่วงใยมากที่สุด แต่คุณชายเย่นั้น ไม่อยาก เห็นหล่อนต้องทนปวดใจ ดังนั้นตัวเองจึงยอมทนความเจ็บปวด อยู่อย่างเงียบๆ ใช่หรือไม่?”

เซียวซูมองหล่อนด้วยความประหลาดใจ พูดไม่ผิดแม้แต่คำ เดียว

ดูเหมือนว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นแบบนี้ หล่อนบอกว่าตัวเองเดาแต่ทำไมถึงเดาได้ตรงขนาดนี้?

ดูเหมือนว่าเจียงเสี่ยวไปจะมองเห็นความสงสัยของเขาออก จึงพูดขึ้น: “ฉันอ่านเค้าโครงเรื่องด้านหน้าก็ต้องรู้ว่าเกิดเรื่อง อะไรต่อไป นี่พี่ชาย ชีวิตของคุณชายเยผู้นี้ช่างเหมือนละครจริงๆ มีเรื่องราวสีสันมากมาย เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม? ให้ฉันเอา โครงเรื่องนี้ไปแต่งเรื่อง วันนี้ฉันไม่เก็บเงินคุณแล้วก็ได้ โอเค ไหม?”

“แต่งเรื่อง?”

เจียงเสี่ยวไปพยักหน้าลง : “ใช่ ผลงานชิ้นนี้แหละ คุณก็รู้ว่าฉัน เป็นนักเขียน ฉันรู้สึกว่าผลงานชิ้นนี้ดีมาก

เมื่อคิดถึงตัวตนของหล่อน เซียวซูรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที

“ไม่ได้”

“ทำไมไม่ได้ล่ะ? นี่ฉันไม่เก็บเงินคุณแล้วนะ”

เซียวซูทำสีหน้านิ่งขรึม “เธอเชื่อฉันนะ ถ้าเธอเผยแพร่เรื่องนี้ ออกไป คนที่เธอไปทำให้เขาเดือดร้อนน่ากลัวมากนะ ไม่ต้องคิด ว่าผลงานพวกนี้ของเธอจะได้เจอโลกภายนอกหรือไม่ แม้แต่ตัว เธอเองก็อย่าได้คิด

เขาพูดออกมาเป็นชุด ท่าทางน่าเกรงกลัว จนทำให้เจียงเสียว

ไปต้องยอมแพ้ได้สำเร็จ

“ซื่อๆ! เข้าใจแล้วค่ะ!”

ช่างเถอะ แม้ว่าจะเป็นผลงานที่มีความสร้างสรรค์ แต่หล่อนเป็นเพียงนักเขียนตัวเล็กๆ ถ้าทำให้ใครเดือดร้อนขึ้นมาจริงๆ ต่อไปหล่อนคงต้องใช้ชีวิตอย่างยากลําบาก

ใช้เวลาไม่นานก็แก้งานเสร็จเรียบร้อย เซียวซูโอนเงินเข้า บัญชีที่มากขึ้นสามเท่าให้หล่อนด้วยท่าทางตั้งใจ จากนั้นหยิบ เอกสารเดินออกไป

หลังจากที่เขากลับไปแล้ว เจียงเสี่ยวไปล้างหน้าและกลับไป นอนต่อ

หลังจากที่เสี่ยวเหยียนกลับมาพักที่บ้าน ก็ใช้ชีวิตในแต่ละวัน ด้วยการนอนตั้งแต่หัวค่ำและตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ทำกับข้าวกับแม่ ทุกวัน จากนั้นก็ไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาล 48ชั่วโมงในการเฝ้าดู อาการผ่านพ้นไปแล้ว แต่พ่อของเสี่ยวเหยียนยังคงไม่ฟื้นขึ้นมา

แต่คุณหมอบอกว่าเขาพ้นขีดอันตรายแล้ว ทำให้เสี่ยวเหยียน และแม่สบายใจมากขึ้น

หลัวหุ้ยเหม่ยได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจโล่งอก “งั้นก็ดีแล้ว รอให้พ่อของลูกฟื้นขึ้นมา ลูกต้องไปขอโทษเขา อย่าทำให้เขา เสียใจล่ะ”

เสี่ยวเหยียนพยักหน้าด้วยสายตาเศร้า

“แม่ หนูทราบแล้วค่ะ”

เมื่อก่อนหล่อนอารมณ์ฉุนเฉียวมาก เป็นแบบนั้นมานานหลาย ปี ถ้าไม่ได้เป็นเพราะพ่อเกิดอุบัติเหตุกะทันหัน หล่อนไม่รู้เลยว่าความรู้สึกสูญเสียนั้นเป็นเช่นไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ