เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1420 ไม่จําเป็นต้องอธิบาย



บทที่1420 ไม่จําเป็นต้องอธิบาย

เป็นตอนกลางคืน หานซึ่งหลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็ได้ยินเสียง โทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเสียงข้อความ บนร่างของเขาสวมเสื้อคลุมอาบน้ำตัวนึง มือข้างนึงหยิบ

โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา

“ประธานหาน เบาะแสช่วงสองวันนี้ของเสี่ยวเหยียนฉันได้ส่ง เข้าไปในอีเมลคุณแล้วนะคะ

วางโทรศัพท์ลง หานซึ่งเปิด โน๊ตบุ๊ค กดเข้าอีเมล

สิ่งที่ปรากฏออกมาก่อนนั่นก็คือการเดินทางของเมื่อวาน เสี่ยว เหยียนอยู่ที่ร้านราเม็งทั้งวัน ระหว่างนั้นก็ยังแวะไปสาขาย่อยอยู่ รอบนึง จากนั้นก็กลับบ้าน

มองดูแล้วดูปกติอย่างมาก ไม่มีจุดที่ผิดปกติอื่น

การเดินทางวันนี้ก็เหมือนๆเคย เธออยู่ร้านราเม็งตลอด เพียง แต่ตอนบ่ายก็ออกไป แล้วไปร้านกาแฟ คนที่เจอกับเธอนึกไม่ ถึงว่าจะเป็น

ตอนที่เห็นชื่อสวี่เย็นหวั่น หานซึ่งก็หรี่ตาลงทันที

ตอนเย็นตอนที่เขาเลิกงานกลับมา สีหน้าของเสี่ยวเหยียนก็ดู ออกว่าเจอกับเรื่องที่ทำให้กลัวมาเยอะอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าเธอ จะบอกเขาว่าฝันร้าย แต่หานชิงจะเชื่อได้ยังไง ถ้าแค่ฝันร้ายเฉยๆเธอไม่มีทางหวาดกลัวจนเป็นถึงขนาดนี้ได้หรอก

ดังนั้นแล้วก็คงจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เจอมาเมื่อตอนกลางวัน เพียงแต่ตอนนั้นหานซึ่งไม่ได้ถามออกไปมากมาย เพราะไม่ อยากให้เธอคิดเรื่องที่ทำให้เธอกลัวพวกนั้นอีก ภายหลังจากนั้น เธอก็ถูกเขาเบี่ยงเบนความสนใจ จนลืมเรื่องเมื่อกลางวันไป

แต่หานซึ่งก็ยังต้องให้ความสำคัญกับมันอยู่

สุขภาพทางร่างกายและจิตใจของหญิงสาว ยังคงจำเป็นต้อง รักษาให้ดีๆ

สวี่เย็นหวั่นงั้นหรอ?

นิ้วชี้ของหานชิงเคาะลงบนผิวโต๊ะเบาๆ สายตาค่อยๆนิ่งลึกลง สวีเย็นหวั่นคนนี้ เธอคิดจะทำอะไรกันแน่?

วันถัดมา

สวี่เย็นหวั่นเอาแต่คิดกังวลอยู่ตลอด เธอเอาแต่คิดเรื่องเมื่อ วาน แล้วยังมีคำพูดที่เห้อเหลียนจึงพูดใส่หูเธอพวกนั้นอีก

เรื่องในห้องน้ำเมื่อวาน เสี่ยวเหยียนคงไม่มีทางที่จะไม่สังเกต ถึงอะไรหรอก ถึงยังไงเรื่องมันก็เกิดไปแล้ว ขอเพียงแค่สมองไม่ ได้มีปัญหาก็สามารถนึกโยงได้ว่าประตูถูกคนล็อกเอาไว้ แล้วเธอ ก็ยังรีบเข้าไปในตอนนั้นอีก

สวี่เย็นหวั่นหลับตาลงสูดหายใจเข้าลึกๆ ความจริงตอนนั้น เธอไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงแค่พอได้ยินเห้อเหลียนจึงพูดเล่าภาพเหตุการณ์พวกนั้นออกมาแล้ว เธอก็พุ่งตัวออกไปโดยที่ ไม่คิดอะไร

ตอนนี้เรื่องมันกลายมาเป็นแบบนี้ ก็เหมือนอย่างที่เห้อเหลียน จึงบอก ถ้าการลงมือครั้งนี้ไม่สำเร็จ ครั้งหน้าเสี่ยวเหยียนจะต้อง มีการระแวดระวังเตรียมการป้องกันขึ้นมาแน่ คิดอยากจะลงมือ อีกมันก็ไม่ง่าย

แต่ เธอคิดอยากจะกำจัดเธอจริงๆน่ะหรอ?

ตอนนี้เธอกำลังท้องอยู่นะ ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ หลังจากที่เธอ เสียพ่อแม่ไปก็เจ็บปวดเสียขนาดนั้น แต่ก็ยังต้องฝืนยืนหยัดสู้ต่อ ไป ถ้าเธอเสียลูกไป หรือไม่พ่อแม่ของเธอสูญเสียเธอไป จะต้อง เสียใจมากแน่ๆเลยใช่มั้ย?

แล้วก็ยังมีหานซิงอีก เขาชอบเธอเสียอย่างนั้น ถ้าเธอถูก ทำร้ายให้บาดเจ็บแม้แต่น้อย ก็เหมือนกับที่เห้อเหลียนจึงได้พูด มาอย่างนั้น เขาจะรู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีกรวยแหลมมาทิ่มแทง หัวใจอะไรอย่างนั้น

ผลลัพธ์แบบนี้ เธอยอมเห็นมันจริงๆน่ะหรอ?

ก๊อกๆ—

ในระหว่างที่สวี่เย็นหวั่นคิดจนสติล่องลอยอยู่นั้น ก็มีเสียงคน เคาะประตูห้องทำงานเธอดังขึ้น สวีเย็นหวั่นได้สติกลับมา ยกมือ ขึ้นมาลูบหน้าตัวเอง หลังจากที่ปรับสภาพตัวเองเสร็จแล้วก็ได้ เอ่ยเสียงหวานออกไป “เข้ามาเถอะ”
คนที่เข้ามาก็คือผู้ช่วยที่เพิ่งหามาใหม่ของเธอ “คุณสวี ประธานหานเรียกพบคุณค่ะ”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว สวี่เย็นหวั่นก็ชะงักไป ทำไมหานซึ่งถึงได้ เรียกพบเธอตอนนี้กัน? หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเสี่ยวเหยียน เมื่อวาน?

เสี่ยวเหยียนบอกหาเชิง

เธอบอกกับทานชิงใช่มั้ยว่าตนคิดจะทำร้ายเธอ ถ้าเป็นอย่างนี้ ล่ะก็ หานซิงจะเกลียดเธอหรือเปล่า?

คิดมาจนถึงตรงนี้แล้ว สวี่เย็นหวั่นเริ่มตื่นตระหนกขึ้นมา เธอ รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “เขาอยู่ไหน?”

“ประธานหานรอคุณอยู่ในห้องรับแขกค่ะ”

ทันทีที่เสียงพูดหลุดออกมา สวี่เย็นหวั่นก็พุ่งตัวออกไป เธอถึง เดินกึ่งวิ่งไปตลอดทาง จนไปถึงหน้าห้องรับแขก เธอถึงจะได้ หยุดลงแล้วปรับการหายใจของตัวเอง หลังจากที่เข้าไปมือที่อยู่ แนบลำตัวก็ได้กำหมัดแน่น

ถ้าเสี่ยวเหยียนฟ้องเรื่องตนไปกับหานซึ่งจริงๆ แล้วเธอ…

แล้วเธอจะทำอะไรได้อีก? เดิมทีนี่มันก็เป็นความจริงอยู่แล้ว วันนั้นคนที่นัดเธอออกไปก็คือตัวเธอเอง นอกจากตนแล้วจะ นึกถึงใครได้อีก? ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เป็นฝีมือเธอ แต่ เห้อเหลียนจึงทำเรื่องนี้ไปก็เพราะเธอ ดังนั้นแล้วจึงต้องมีความ เกี่ยวโยงกับเธออยู่แล้ว
แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรไปโทษเธออีกล่ะ?

เพียงแต่เธอนึกไม่ถึงว่าหานซึ่งจะมาจัดการจากเธอเร็วขนาดนี้ ตอนนี้เขาจะต้องเกลียดเธอมากแน่ๆเลยใช่มั้ย?

สวี่เย็นหวั่นสูดหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆเดินเข้าไปช้าๆ

ภายในห้องรับแขก ร่างสูงโปร่งของหานซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่าง ขาเรียวยาวคู่

นั้นเหยียดตรง รูปร่างสูงใหญ่ ออร่าจากตัวที่แผ่ออกมาจนทั่ว ในความคิดของสวี่เย็นหวั่นแล้ว ตัวเขานั้นขนาดท้ายทอย รูป

ร่างเบื้องหลังต่างก็ดูดีไปหมด

เธอเอาแต่ไม่ส่งเสียงออกไป มองเขาอยู่อย่างเงียบๆ เมื่อก่อน โอกาสที่จะมองเขามีไม่เยอะ การที่สามารถมองเขาเงียบๆสักพัก เหมือนอย่างตอนนี้ได้ ภายในใจของสวี่เย็นหวั่นก็รู้สึกว่ามันก็ เพียงพอแล้ว เธอไม่มีโอกาสได้มองเยอะๆอีกแล้ว คงเพราะเขา นะใกล้จะแต่งงานแล้วนี่

ไม่รู้เหมือนกันว่าสายตาของเธอมันร้อนแรงเกินไปหรือว่าอะไร หานชิงจึงเหมือนจะรู้ตัวขึ้นมา แล้วได้หันหน้ามา

ในขณะนั้นเองสวี่เย็นหวั่นก็ได้เผยรอยยิ้มออกไปเช่นกัน

แต่สีหน้าที่แสดงออกมาบนใบหน้าของหานซิงนั้นเรียบนิ่ง สายตาที่มองเธอก็ยังเย็นยะเยือก ไม่มีความอ่อนโยนออกมาเลย แม้แต่น้อย เมื่อได้ลองเปรียบเทียบกับสายตาที่รักใคร่ที่เขาใช้ มองเสี่ยวเหยียนแล้ว สวี่เย็นหวั่นก็ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจของเธอได้ถูกที่มแทงลงมาอย่างแรง

ผู้ช่วยชงกาแฟเข้ามา สวี่เย็นหวั่นรับมา จากนั้นก็เอาไปเสิร์ฟ ให้กับทานชิงด้วยตัวเอง

“ไม่ต้อง”

แต่กาแฟของเธอยังไม่ทันได้ยื่นส่งออกไป หานซึ่งที่อยู่ตรง ด้านหน้าก็ได้เอ่ยเสียงเย็นออกมาก่อน “ฉันจะพูดแค่ไม่กี่คำก็จะ ไปแล้ว”

ได้ยินดังนั้น สวีเย็นหวั่นก็ได้แข็งค้างอยู่ตรงที่เดิมอย่างนั้น กาแฟถูกเธอถืออยู่อย่างนั้น ความอุ่นได้กลายมาเป็นความร้อนที่ ลวกมือขึ้นมา สีหน้าของเธอซีดลงเล็กน้อย มีเสียงอื้อดังขึ้นข้างหู แทบจะทรงตัวไม่อยู่เล็กน้อย

ไม่สิ เธอยังต้องฝืนฉีกยิ้มออกไป

“งั้นก็ได้ คุณอยากพูดอะไร”

พูดจบเธอก็เอากาแฟวางไปบนโต๊ะที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็ เหยียดตัวตรงอีกครั้ง

“เธอคิดจะทำอะไรกันแน่?

ได้ยินอย่างนั้น ใจของสวี่เย็นหวั่นไหววูบไปหมด เขารู้แล้ว จริงๆด้วย งั้นที่เขามีท่าทีที่เย็นชาอย่างนี้กับเธอ ก็เพราะคิดว่า เธอเป็นผู้หญิงเลวๆคนนึงใช่มั้ย?

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว สวี่เย็นหวั่นยิ้มหยันตัวเองอยู่ในใจ แต่ภายนอกนั้นกลับไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย

“หมายความว่ายังไง? คุณช่วยพูดมาให้ชัดเจนสักหน่อยจะได้ มั้ย?”

“สวี่เย็นหวั่น”

หาวชิงจ้องเธอมาด้วยความดุดัน พร้อมเรียกชื่อเต็มเธอออก มา “ฉันยอมช่วยเธอฟื้นตระกูลสขึ้นมาใหม่ ทั้งหมดเป็นเพราะ เห็นแก่หน้าคุณลุงสกับคุณป้าสทั้งนั้น ถ้าเธอไม่ใช่ลูกสาวของ คุณลุงสวี่ วันนี้ฉันไม่มีวันที่จะมายืนคุยกับเธออยู่ตรงนี้หรอก”

นึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดออกมาตรงอย่างนี้ สีหน้าของสวีเย็นหวั่น ยิ่งซีดเผือดออกมา ร่างก็โงนเงินตามมาอีก

“ฉันสามารถช่วยเธอฟื้นตระกูลสขึ้นมาใหม่ได้ หลังจากที่ฟื้น ตระกูลสให้กลับมาสำเร็จแล้วฉันกับเธอก็ไม่มีความเกี่ยวข้อง ใดๆกันอีก ฉันหวังว่า ในช่วงระหว่างนี้ เธออย่าได้ไปรบกวนว่าที่ เจ้าสาวฉันอีก”

สวี่เย็นหวั่นฟังมาถึงตรงนี้เกิดความรู้สึกเกลียดชังขึ้นมาเล็ก น้อย กัดริมฝีปากพร้อมเอ่ยถามออกไป “เธอพูดอะไรกับคุณ? เธอบอกคุณใช่มั้ยว่าฉันจะทำร้ายเธอ? คุณช่วยฟังฉันอธิบาย หน่อยได้มั้ย? เรื่องเมื่อวาน เดิมทีแล้วมันไม่ใช่

แต่คำพูดเธอยังไม่ทันได้พูดออกไปจนจบ ก็ถูกหานซึ่งจัดขึ้น มาเสียก่อน

“ไม่จําเป็นต้องอธิบาย
สวี่เย็นหวั่นมองเขาไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากที่จะเชื่อ “พวก เรารู้จักกันมาตั้งหลายปี หรือว่าคุณจะไม่เชื่อในตัวฉันเลยน หรอ? ตอนนี้คุณเชื่ออย่างนั้นไปเรียบร้อยแล้ว ฉันจะลงมือกับเธอ จะทำร้ายเธอใช่มั้ย? คุณได้เห็นฉันเป็นคนอย่างนั้นไปแล้ว?

“เธอเป็นคนยังไงมันไม่สำคัญ หานซึ่งยังคงพูดได้อย่าง เผด็จการเหมือนเคย บางทีอาจจะเป็นสไตล์การพูดของเขาอยู่ แล้วก็ได้ เย็นชาไร้ความรู้สึก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ